วันศุกร์, ธันวาคม 03, 2553
แฉเอกสารลับ สหรัฐบี้มาร์ค โต้วุ่น-โอบามา โทร.ขอตัว"บูท"
แฉเอกสารลับ สหรัฐบี้มาร์ค โต้วุ่น-โอบามา โทร.ขอตัว"บูท"
สื่อดังอังกฤษยกข้อมูลจากเว็บไซต์จอมแฉระดับโลก ′วิกิลีกส์′ ตีแผ่ข้อมูลในราย งานลับที่ ′เอริก จี. จอห์น′ ทูตสหรัฐประจำประเทศไทย แจ้งกลับไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เขียนแจกแจงพร้อมเสนอมาตรการกดดันให้รัฐบาลไทย ส่งตัว ′วิกเตอร์ บูท′ พ่อค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซียไปขึ้นศาลสหรัฐ เผยรุกหนักถึงขั้นเสนอให้ประธานาธิบดีโอบามาต่อสายโทร. บี้ ′มาร์ค′ ด้วยตัวเอง ด้าน ′บัวแก้ว′ มั่นใจเนื้อหาในเอกสารลับจะไม่ส่งผลกระทบต่อสัมพันธ์ไทย-หมีขาว
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำประเทศอังกฤษ รายงานว่า เว็บไซต์วิกิลีกส์ หรือ wikileaks.org สื่ออินเตอร์เน็ตชื่อดัง ซึ่งเน้นทำหน้าที่ขุดคุ้ยข้อมูลปิดลับของรัฐบาลทั่วโลก เผยแพร่ข้อมูล "เอมบาสซี่ เคเบิล" หรือรายงานลับที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกานับร้อยแห่งประจำประเทศต่างๆ ส่งไปถึงรัฐบาลกลางและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระหว่างปีพ.ศ.2509 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2553
ในจำนวนนี้มีเคเบิล หรือรายงานลับที่นายเอริก จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ แจ้งไปยังกระทรวงต่างประเทศสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เกี่ยวกับมาตรการกดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทย ส่งตัวนายวิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในศาลสหรัฐ ฐานต้องสงสัยขายอาวุธสง ครามให้กลุ่มกบฏฟาร์ก โคลัมเบีย เตรียมนำไปใช้สังหารชาวอเมริกัน
เดอะการ์เดียนรายงานว่า รายงานลับทูตเอริก จี. จอห์น ต่อคดีนายวิกเตอร์ บูท มีเผยแพร่ในวิกิลีกส์ 2 ชิ้น ชิ้นแรกลงวันที่ 13 ก.พ. 2552 หัวข้อ "Ambassador Engages PM Abhisit and Defense Minister on Viktor Bout Extradition Case." แจกแจงรายละเอียดภารกิจทูตเอริกในการหารือกับทั้งนายอภิสิทธิ์ นายกฯ และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม เรื่องการส่งตัวนายบูทไปให้สหรัฐดำเนินคดี ส่วนอีกชิ้นลงวันที่ 13 ส.ค. 2552 หัวข้อ "Next Steps on the Viktor Bout Extradition Case in the Wake of Lower Court Defeat." หรือการดำเนินมาตรการขั้นต่อไปของสถานทูตสหรัฐภายหลังศาลอาญาไทยปฏิเสธคำ ร้องขอส่งตัวบูทไปสหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน และในรายงานสองชิ้นนี้ ทูตจอห์นชี้เป็นนัยด้วยว่ารัฐบาลรัสเซียคอยช่วยเหลือนายบูทอยู่เบื้องหลัง
สำหรับข้อมูลโดยสรุปในรายงานลับฉบับลงวันที่ 13 ก.พ. 2552 ทูตจอห์นระบุว่า เข้าพบนายอภิสิทธิ์ นายกฯ ไทยในวันที่ 12 ก.พ. 2552 เพื่อหารือความคืบหน้าคดีส่งตัวนายบูท และว่า ความพยายามขอตัวนายบูทเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งประธานาธิบดีบุชพบนายกฯ สมัคร สุนทรเวช เมื่อเดือนส.ค. 2551 อย่างไรก็ดี แม้การพิจารณาคดีนี้จะช้ามาก แต่ก็ไปในทิศทางที่สหรัฐต้องการ ขณะที่นายอภิสิทธิ์รับปากว่าจะไปดูรายละเอียดทางคดีให้สหรัฐ แต่ไม่ต้องการให้มีภาพปรากฏ ออกไปว่าถือหางเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ด้านนายเอริก โฮลเดอร์ อธิบดีกรมอัยการสหรัฐ ยังจะต่อสายโทรศัพท์ถึงอัยการสูงสุดของไทยเพื่อทบ ทวนคดีนายบูทอีกครั้ง เท่ากับว่าการทำงานฝ่ายสหรัฐจะเป็นการออกหมัดชุด 1-2 ต่อเนื่อง
เอกอัครราชทูตสหรัฐ บันทึกในรายงานอีกว่า ในช่วงที่พบกับนายอภิสิทธิ์ได้ช่วยฟื้นความจำให้ผู้นำไทยด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลไทยเคยไม่ส่งตัวนายซามชิด กัสเซมี ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงครามให้กับทางการสหรัฐมาแล้วเพราะถูกรัฐบาลอิหร่านกด ดัน จึงหวังว่าคราวนี้ผลลัพธ์คงไม่ซ้ำรอย
ส่วนข้อมูลในรายงานลับฉบับ วันที่ 13 ส.ค. 2552 พบว่า ทูตจอห์นนำเสนอความเห็นต่อกระทรวงต่างประเทศในเชิงดุดันและรุกหนักมากยิ่ง ขึ้น ภายหลังศาลอาญาไทยพิพากษาไม่ส่งตัวนายบูทเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2552 ทำให้รัฐบาลสหรัฐผิดหวังอย่างรุนแรง สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยจึงมีข้อเสนอแนะให้อธิบดีกรมอัยการโฮลเดอร์ รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศในดี.ซี. และเจ้าหน้าที่สหรัฐประจำสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือกับเอกอัครราชทูตไทยในดี.ซี. และทูตไทยประจำยูเอ็น พร้อมกับร้องขอให้รัฐบาลอื่นๆ เช่น เบลเยียม โคลัมเบีย และบางชาติในแอฟริกา ซึ่งได้รับผลกระทบจากธุรกิจค้าอาวุธสงครามของบูทเข้ามาร่วมกดดันรัฐบาลไทย
นาย จอห์น ทูตสหรัฐในกรุงเทพฯ แจ้งผ่านรายงานลับต่อไปว่า หลังจากตนรับทราบคำพิพากษาดังกล่าวได้โทรศัพท์ไปถึงนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทยทันที และย้ำให้นาย กษิตเห็นว่าสหรัฐให้ความสำคัญกับคดีนายบูทมากตั้งแต่ระดับกระทรวงต่างประเทศ ไปจนถึงประธานาธิบดี ในส่วนของท่าทีนั้นสหรัฐควรแสดงออกให้ชัดเจนว่าผิดหวังในคำตัดสิน แต่ระดับรัฐบาลไทยถือว่าให้ความร่วมมือดี และชี้ให้เห็นว่าการไม่ส่งตัวนายบูทจะส่งผลกระทบต่อจุดยืนของรัฐบาลไทยที่ พยายามขอตัวพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
นอกจากนี้ ทูตจอห์นยังเสนอให้ประธานาธิบดี บารัก โอมาบา โทรศัพท์สายตรงถึงนายกฯ อภิสิทธิ์ เพื่อหารือกันอย่างจริงจังถึงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐต่อคำพิพากษาไม่ส่งตัว นายบูท โดยสถานทูตสหรัฐเชื่อว่าบทบาทของประธานา ธิบดีโอบามาในกรณีนี้จะมีอิทธิพลใหญ่หลวงต่อฝ่ายไทย แต่ท้ายที่สุดแล้วนายบูทเป็นอิสระ รัฐบาลสหรัฐควรร้องขอให้รัฐบาลรัสเซียดำเนินคดีกับนายบูท หรือไม่เช่นนั้นถ้าแทบไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกก็น่าจะบีบให้รัฐบาลรัสเซีย แถลงออกมาต่อสาธารณะว่าจะไม่ดำเนินคดีกับนายบูทเพื่อทำลายภาพพจน์รัสเซีย
"เราจะกระตุ้นให้รัฐบาลราชอาณาจักรไทยออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อคำตัดสิน ของศาลและประกาศเจตนารมณ์ที่จะเอาชนะในชั้นอุทธรณ์ต่อไป และให้เน้นย้ำถึงพันธกรณีด้านการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายสากล" ข้อความส่วนหนึ่งในรายงานลับทูตจอห์น ระบุ และเขียนย้ำอีกว่า สหรัฐจะจับตาดูปฏิกิริยาจากฝ่ายบริหารของไทยที่มีต่อคำตัดสินไม่ส่งตัวนาย บูท เพื่อใช้เป็นบทพิสูจน์ถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จุดจบคดีนายบูทในประเทศไทยเกิดขึ้นหลังจากศาลอุทธรณ์ไทยพิพากษาให้ส่งตัวนาย บูทเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามหมายจับศาลนิวยอร์กภายใน 90 วัน และเจ้าหน้าที่สหรัฐได้นำตัวนายบูทขึ้นเครื่องบินไปยังสหรัฐเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา
เวลา 13.15 น. วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเว็บไซต์วิกิลีกส์ เผยแพร่เอก สารลับของสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงเทพฯ ที่เคยเสนอให้ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ โทรศัพท์สายตรงหานายกฯ ไทยเพื่อให้ส่งตัวนายวิกเตอร์ บูท ไปสหรัฐ ว่า "ที่ผมเห็นในข่าวเป็นเอกสารช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นท่านทูตสหรัฐมาพบผมจริง แล้วก็มาแสดงความห่วงใยเรื่องของคดี ผมตรวจสอบและสั่งการว่าต้องไม่มีลักษณะของการที่จะไปแทรกแซงคดีทางหนึ่งทาง ใด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการเปิดเผยข้อมูลมีการระบุว่านายโอบามาโทร.มาหาด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "อันนั้นไม่จริงหรอกครับ คือไม่ได้ถึงขั้นนั้น ท่านทูตท่านมาผมก็รับทราบเรื่อง และหลังจากนั้นที่ท่านทูตไปได้ข้อมูลว่ามีการไปแทรกแซงอะไรต่างๆ ผมก็ให้ไปพบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด"
เมื่อถามต่อว่า การพูดคุยในวันนั้นทูตสหรัฐกดดันรัฐบาลไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีการกดดัน เขาบอกว่าเขาไม่ได้มีข้อสงสัยหรือจะมากดดันในแง่ของกระบวนการ แต่มีความเป็นห่วงว่ามันมีข่าวคราวว่ามีบุคคลซึ่งอาจจะมีอิทธิพลเข้าไปแทรก แซง ตนบอกไปว่ามันไม่มี และไม่ควรจะมี หากมีข้อสังสัยตรงไหนอย่างไรรัฐบาลจะตรวจสอบให้
"ยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดหลังจากนั้นมาใช้เวลานานมาก แล้วศาลชั้นต้นก็พิพากษาอย่างหนึ่งและศาลอุทธรณ์ก็มากลับ แล้วมีคดีที่สองอีก หลังจากนั้นมาไม่มีฝ่ายใดมาร้องเรียนกับผม" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินคดีอะไรกับการเปิดเผยข้อมูลแบบนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องเอกสารของสหรัฐ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา ส่วนที่มีการเปิดเผยและกระทบมาถึงไทยนั้นตนคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศ ติดตามอยู่ เพราะว่านายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำลังพูดคุยอยู่กับกระทรวงการต่างประเทศ
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี รักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีเว็บไซต์วิกิลีกส์ดังกล่าว ว่า ทางการสหรัฐแจ้งเรื่องข้อมูลที่อาจพาดพิงถึงประเทศไทยให้กระทรวงการต่าง ประเทศรับทราบก่อนหน้านี้แล้ว แต่มิได้แจ้งว่าเอกสารเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่
นายธานี ยืนยันว่า การส่งตัวนายบูทไปสหรัฐดำเนินการตามคำสั่งของศาลและปราศจากแรงกดดันทั้งจาก สหรัฐและฝ่ายการเมือง มั่นใจว่าเอกสารที่เผยแพร่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย เพราะกระทรวงการต่างประเทศรายงานความคืบหน้าคดีของนายบูท แก่ทางการรัสเซียเป็นระยะๆ อยู่แล้ว เชื่อว่าทางการรัสเซียจะคำนึงถึงเหตุผลที่แท้จริงที่ไทยปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ที่มาบทความ: ข่าวสดรายวันหน้า 1 (update: วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7309)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น