วันศุกร์, ตุลาคม 22, 2553

Thai Army Chief : We must rid Thailand of those who violate the monarchy

จาก อัลบั้ม ข่าวสดออนไลน์

ASTV Manager quotes Army chief General Prayuth Chan-ocha as stating at a merit-making ceremony to mark the 100th Memorial for King Chulalongkorn:

“ขอให้ทุกคนช่วยกันขจัดบุคคลบางกลุ่มที่จาบจ้วงสถาบัน และหยุดล่วงละเมิด และหันมาเทิดทูน เพราะหากวันนี้ไม่มีสถาบัน เราอาจอยู่ได้ แต่ไม่เหมือนในวันนี้” ผบ.ทบ.กล่าว

"I would like to ask everyone to help rid [Thailand] of some individuals who violate the institution and end the violation and instead turn to respect [the institution] because if one day there is no institution, we will be able to live but it won't be the same"

BP: Perhaps, Thailand can set up a parliamentary committee to investigate "un-Thai' activities such as violating the monarchy....


Ref: asiancorrespondent.com (update: Oct. 22 2010 - 08:00 pm)

-------------------------------------


"ประยุทธ์" ย้ำกองทัพป้องสถาบัน วอนหยุดจาบจ้วง

วัน ที่ 22 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เป็นประธานในการร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 100 รูป ในพิธีรำลึกครบรอบ 100 ปี วันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) และบวงสรวงวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์ รวมถึงการเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ


ผบ.ทบ.กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับคนไทยมาตลอดและพระองค์ท่านไม่เคยทรงทำอะไร ที่ไม่นึกถึงพสกนิกรของพระองค์ท่านเลย พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกายมาโดยตลอด สิ่งใดก็ตามจะไปล่วงล้ำละเมิดก็ขอทุกคนหยุดได้แล้ว ผู้ที่กระทำอยู่ก็จะต้องหยุด ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ก็ตาม บางทีก็เอาไปเกี่ยวพันกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผมยืนยันว่า พระองค์ท่านไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้อง พระองค์ท่านไม่เคยลงมายุ่งกับเรื่องพวกนี้เลย


ตนใช้เกียรติยศของ ตนพูดตรงนี้ว่า พระองค์ท่านไม่เคยลงมาเกี่ยวข้องในเรื่องใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีการกล่าวให้ร้ายพระองค์ท่าน ไม่มีความจำเป็นที่พระองค์ท่านจะต้องมายุ่งในเรื่องพวกนี้ พระองค์ท่านทรงระลึกอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรประชาชนของพระองค์ท่านจะมีความสุข และวันนี้พวกเราก็สมควรที่จะทำให้พระองค์ท่านมีความสุข เพราะท่านทรงลำบากมาตลอดพระชนมชีพของท่าน 80 กว่าปี ทรงงานมากว่า 60 ปี ดังนั้นตนจะต้องพูด เพราะว่าเว็บไซต์ ใบปลิว และเรื่องต่างๆ ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยกันขจัดคนต่างๆ เหล่านี้ ถ้าทุกคนย้อนกลับไปจะต้องนึกถึงว่าถ้าไม่มีพระองค์ ประเทศไทยก็คงไม่สงบเรียบร้อยแบบนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะยังอยู่ได้ แต่ก็ไม่ใช่เป็นแบบนี้


ในช่วง ระยะเวลาที่มีการแบ่งฝ่ายต่างๆ พระองค์ท่านทรงทำไม่ได้ที่จะลงยุ่งเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งเรื่องนี้เราจะต้องทำถวายให้กับพระองค์ท่าน ประเทศไทยไม่เคยมีฝ่าย ดังนั้นหากจะมีฝ่ายก็มีอยู่แค่ 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายคนทำความดี กับ ฝ่ายคนทำความไม่ดี


เมื่อ ถามว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาพระองค์ท่านทรงเสียพระราชหฤทัยที่คนไทยทะเลาะกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง หรือทะเลาะเบาะแว้งกัน พระองค์ท่านไม่เคยสบายพระราชหฤทัยอยู่แล้ว จึงอยากให้ทุกคนทำถวายท่าน ใครที่ไม่เข้าใจ ใครที่เข้าใจผิด หรือที่ไม่เจตนา ขอให้เลิก เจ้าหน้าที่เขารู้หมด แต่คงเป็นพระเมตตาของพระองค์ท่านที่ไม่อยากจะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับใคร


สิ่งแรก ที่จะนำไปสู่การปรองดองสามัคคีได้ ตนคิดว่าเลิกยุ่งเกี่ยวกับสถาบันทั้งสิ้น ทรงยกพระองค์ท่าน ยกสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไว้เหนือเส้นที่ตนเคยบอกแล้วว่า มันมีเส้นหนึ่งเส้นหนึ่งที่เราจะต้องยกทุกอย่างไว้เหนือเส้นนั้น ไม่อย่างนั้นถ้าเอาลงมาสู้กับข้างล่างแบบนี้ ก็จะทำให้สูญเสีย เสียหายทั้งประเทศชาติ ชื่อเสียง และความเป็นคนไทยมันหมดสิ้นไป


Ref:ข่าวสดออนไลน์ (update: วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:12 น.)

-------------------------------------------

จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน


เทิดในหลวง ไม่เคยลงมายุ่งการเมือง

ไม่ลงมายุ่งความขัดแย้ง ผบ.ทบ.ประยุทธ์ออกโรง เผยพระองค์เสียพระทัย ที่คนไทยทะเลาะกันเอง จี้หยุดจาบจ้วง-ลั่นเอาผิด

ปกป้องสถาบัน - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ทำบุญรำลึกครบรอบ 100 ปีวันสวรรคตรัชกาลที่ 5 ก่อนให้สัมภาษณ์เทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระบุว่า พระองค์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พร้อมเรียกร้องให้หยุดจาบจ้วงสถาบันในทุกๆ ทาง เมื่อ 22 ต.ค.

ผบ.ทบ.'ประยุทธ์ ' เผยในหลวงทรงเสียพระราชหฤทัยที่เห็นคนไทยทะเลาะกัน เอาเกียรติยศเป็นประกันพระองค์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวการเมือง ไม่เคยลงมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง เรียกร้องให้หยุดจาบจ้วงทางเว็บไซต์ ใบปลิว และใส่ร้ายป้ายสีนำพระองค์ไปโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แนะคนไทยหมดเวลาทะเลาะเบาะแว้ง กลับมา สงบ สันติ มีความสุขเหมือนอดีต ลั่นจัดการคนไม่ดีให้หมดไป

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เป็นประธานทำบุญตัก บาตรพระสงฆ์ 100 รูป ในพิธีรำลึกครบ 100 ปี วันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และบวงสรวงวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์ ต่อด้วยเปิดนิทรรศการเฉลิม พระเกียรติ โดยมี รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยาผบ.ทบ. พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ รองผบ.ทบ. พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสธ.ทบ. และนายทหารระดับสูงของกองทัพบก เข้าร่วมพิธี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เนื่องในวันสวรรคตครบ 100 ปี ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พวกเราทุกคนจึงมา ร่วมจิตร่วมใจถวายอธิษฐานให้พระบุญญาบารมีของพระองค์ท่าน ทรงปกป้องประเทศไทยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ โดยเฉพาะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างมากในเวลานี้หลายสิบจังหวัด ขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุขร่มเย็นโดยเร็ววัน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ภายในประเทศ สถาน การณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ผู้ สื่อข่าวถามว่าเป็นวันที่ประชาชนไทยทุกคนต้องกลับมารวมใจเป็นหนึ่งเดียว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากให้เป็นแบบนั้น อยากให้ใช้วันสำคัญวันนี้เป็นวันที่คนไทยหันหน้าเข้ามา ปรองดอง หันหน้าปรึกษาหารือกัน รักษากฎหมายกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ และปก ป้องสถาบันทุกสถาบัน ซึ่งจะต้องช่วยกันดูแลอย่านำสถาบันอันเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งปวงมายุ่ง เกี่ยวการเมืองทั้งสิ้น

"ในวันนี้ถึงแม้ว่าคนรุ่นหลังๆ เกิดไม่ทันในช่วงที่พระองค์ทรงงานอยู่ในช่วงที่มีความลำบาก ก็ขอให้นึกถึงว่าประเทศไทยที่มีวันนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์ สมัยก่อนยากกว่านี้เยอะ ถนนก็ไม่ดี สมัยก่อนทั้งสองพระองค์ได้ทรงงานอย่างหนักในการเข้าไปเยี่ยมประชาชนทุก พื้นที่ทั่วประเทศ และนำสิ่งต่างๆ มาพัฒนาจนกระทั่งมาเป็นวันนี้ เด็กๆ บางคนเกิดไม่ทันพระองค์ท่าน แต่ผมขอให้รู้ว่าประเทศไทยที่มีอย่างนี้ มีวันนี้ สู่สันติสุข และความเจริญในเรื่องต่างๆ พระองค์ทรงเป็นผู้พระราชทานมาทั้งสิ้น" ผบ.ทบ.กล่าว

ผบ.ทบ.กล่าวอีก ว่า ตนอยากกราบเรียนว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับคนไทยมาตลอด และพระองค์ท่านไม่เคยทำอะไรที่ไม่นึกถึงพสกนิกรของพระองค์ท่านเลย พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกายมาโดยตลอด สิ่งใดก็ตามจะไปล่วงล้ำละเมิดขอทุกคนหยุดได้แล้ว ผู้ที่กระทำอยู่จะต้องหยุด ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ก็ตาม บางทีเอาไปเกี่ยวพันกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตนยืนยันว่า พระองค์ท่านไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เคยลงมายุ่งกับเรื่องพวกนี้เลย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า อยากบอกกับประชาชนทั่วไปให้ได้รับทราบ ตนใช้เกียรติยศของตนพูดตรงนี้ว่าพระองค์ท่านไม่เคยลงมาเกี่ยว ข้องในเรื่องใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีการกล่าวให้ร้ายพระองค์ท่าน ไม่มีความจำเป็นที่พระองค์จะต้องมายุ่งในเรื่องพวกนี้ และประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ไม่มีอะไรเลย ประเทศไทยเป็นประ เทศที่มีทรัพยากรสมบูรณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว และพระองค์ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต้องหาอะไรมาเพิ่มเติม ทรงระลึกอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรประชาชนจะมีความสุข และวันนี้พวกเราก็สมควรที่จะทำให้พระองค์มีความสุข เพราะทรงลำบากมาตลอดพระชนมชีพ 80 กว่าปี ทรงงานมากว่า 60 ปี

"ผมจะ ต้องพูด เพราะว่ามีเว็บไซต์ ใบปลิว และเรื่องต่างๆ ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยกันขจัดคนต่างๆ เหล่านี้ ถ้าทุกคนย้อนกลับไปจะต้องนึกถึงว่าถ้าไม่มีพระองค์ ประเทศไทยก็คงไม่สงบเรียบร้อยแบบนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะยังอยู่ได้ แต่ไม่ใช่เป็นแบบนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ต่อข้อถามว่าถึงเวลาแล้ว ที่คนหลงผิดหลงทางควรกลับมาเทิดทูนสถาบัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องกลับมา เราจะต้องทำให้สถาบันอยู่เหนือความขัดแย้งให้ได้ พระองค์ไม่เคยลงมาทำให้เกิดความขัดแย้ง ในช่วงระยะเวลาที่มีการแบ่งฝ่ายต่างๆ พระองค์ทำไม่ได้ที่จะลงมายุ่งเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้ง เรื่องนี้เราต้องทำถวายให้กับพระองค์ท่าน ประเทศไทยไม่เคยมีฝ่าย ดังนั้นหากจะมีฝ่ายก็มีอยู่แค่ 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายคนทำความดี กับฝ่ายคนทำความไม่ดี ดังนั้นการทำความไม่ดีต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย หรือต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม ถ้าหลักฐานพยานยืนยันว่าไม่มีความผิดก็เป็นคนบริสุทธิ์ไป ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว เป็นอำนาจของตุลาการในการพิจารณาตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ขอให้มาต่อสู้กันทางกฎหมาย

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาพระองค์ ท่านทรงเสียพระราชหฤทัยที่คนไทยทะเลาะกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แน่นอนครับ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง หรือทะเลาะเบาะแว้งกัน พระองค์ท่านไม่เคยสบายพระราชหฤทัยอยู่แล้ว ฉะนั้นในช่วงนี้ท่านทรงมีพระชนมายุมาก และทรงพระประชวร ดังนั้นอยากให้ทุกคนรวบรวมจิตใจทุกคนทำถวายท่าน ไม่ว่าจะเป็นพวกใดก็ตาม ใครที่ไม่เข้าใจ ใครที่เข้าใจผิด หรือที่ไม่เจตนาขอให้เลิกเถอะครับ เจ้าหน้าที่เขารู้หมด แต่คงเป็นพระเมตตาของพระ องค์ท่านที่ไม่อยากจะดำเนินการตามกฎหมายกับใคร"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า "พระองค์ท่านไม่ได้มีโอกาสมาชี้แจง หรือแถลงการที่ผมพูดในวันนี้ จำเป็นต้องพูดเพราะเป็นหน้าที่ของกองทัพบก ที่จะต้องปกป้องสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ได้ กราบเรียนทุกคนว่าจะต้องช่วยกันดูแล เจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวทำไม่ได้ แล้วเราไปลองนั่งนึกดูสิว่า ที่ทำเว็บไซต์ เขียนใบปลิว หรือเขียนป้ายออกมา มันสมควรหรือไม่ ไม่ว่าใครก็ตาม ถึงจะมาเขียนว่าผมก็ไม่สมควร จะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ท่านต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรี ไม่ต้องไปถึงสถาบัน เอาแค่พวกเรากันเอง ไปเขียนและทำร้ายกันในทางลับหลัง ถ้าต้องการแสดงความคิดเห็นจะต้องออกมาพูด ออกมาอธิบายกัน และถามว่าใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง ไม่อย่างนั้นประชาชนสับสน ใครก็ตามที่ว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวก็จะต้องทำให้สิ่งเหล่านี้ให้มันหมดไป"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งแรกที่จะนำไปสู่การปรองดองสามัคคีได้ ตนว่าคือเลิกยุ่งเกี่ยวกับสถาบันทั้งสิ้น ยกพระองค์ท่าน ยกสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไว้เหนือเส้นที่ตนเคยบอกว่ามันมีเส้นหนึ่งที่เราจะต้องยกทุกอย่างไว้เหนือ เส้นนั้น ไม่อย่างนั้นถ้าเอาลงมาสู้กับข้างล่างแบบนี้ก็จะทำให้สูญเสีย เสียหาย ทั้งประเทศชาติ ชื่อเสียง และความเป็นคนไทยมันหมดสิ้นไป อยากให้วันเวลาเหล่านั้น สมัยที่ตนเป็นเด็กๆ พวกเราเป็นเด็กๆ กลับคืนมา มีรอยยิ้มให้กัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกัน ใครจะเป็นอะไร ใครจะมีปัญหาอะไรก็ไปว่ากันทางกฎหมาย และไม่อยากให้ย้อนกลับไปวันนั้นวันนี้อีกแล้ว เอากฎหมายมาว่ากัน และมาต่อ สู้กันทางกฎหมาย ทางกระบวนการยุติธรรม ทหาร ตำรวจทำงานหนัก ยังมีงานอื่นๆ ที่มีความจำเป็น เช่น งานโจรผู้ร้าย ยาเสพติด แรง งานต่างด้าว การกระทำผิดกฎหมายอีกมากมาย

"หากมีการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างคนไทย ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากลงไปใช้กำลังเข้าไปแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ไม่มีใครอยากทำ แต่ทำไปตามกฎหมาย และพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีอยู่ เสร็จแล้ว ก็มานั่งเสียใจว่าทำไมต้องมีการบาดเจ็บ และสูญเสีย แต่กราบเรียนด้วยใจจริงว่า ทหาร ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ทุกคน ไม่อยากให้มีใครเจ็บ หรือตายแม้แต่คนเดียว ฉะนั้นขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าบอกได้หรือไม่ว่ากลุ่มใดเคลื่อน ไหวล้ำเส้นสถาบัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า บอกทุกครั้ง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม จริงๆ แล้วไม่อยากให้เรียกเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ แต่อยากให้ใช้คำว่าคนดีกับคนไม่ดี คนไม่ดีก็คือคนที่ไม่คำนึงถึงธรรมะ ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ดังนั้นคนที่ไม่ดีมีโอกาสเป็นคนดีได้ก็ด้วยทำจิตใจของตัวเองให้บริสุทธิ์ ยอมรับกติกา และกฎต่างๆ ถ้า ประเทศไทยไม่รักษาสถาบัน ไม่รักษากฎกติกา อยู่ไม่ได้ เหมือนกับโจร ทหารกับเจ้าหน้าที่ก็อยู่ร่วมด้วยไม่ได้ มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทย ต้องป้องกันโจร ฉะนั้นขอให้ทุกคนร่วมมือกันทำ

"ขอร้องพลเรือน ตำรวจ ทหาร ช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัย และผ่านพ้นวิกฤต การณ์ไปได้ด้วยดี เทิดทูนสถาบันหลักของชาติอยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม สำหรับผู้ที่กระทำความผิดได้ติดตาม และเฝ้าระวังอยู่แล้ว โดยจะใช้ทั้งเรื่องกฎหมาย และความเข้าใจ แต่ก็มีบางคนที่ยังไม่เข้าใจ ก้าวร้าว รุนแรง คนพวกนี้ต้องถูกดำเนินคดี" ผบ.ทบ. กล่าว และว่า "ดังนั้นขอให้เข้าใจว่าประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอื่นๆ ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒนธรรม สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่ประเทศมาหลายร้อยปีแล้ว อยากให้คนไทยช่วยกันลุกขึ้นมาปกป้องเทิดทูนสถาบัน"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนท้ายด้วยว่า "ผมขอใช้เกียรติยศศักดิ์ศรีของผมกับกำลังพลทุกคนในกองทัพบก ขอรับรองว่าพระองค์ท่านไม่เคยยุ่งเกี่ยว ผมยืนยันได้ว่าตลอดเวลาที่ผมถวายงานมาไม่เคยมีเรื่องพวกนี้"


Ref: ข่าวสดรายวัน หน้า 1 (update: วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7268)
----------------------------------------------------------

Thai King Privy Council head gets thumbs down


In the latest poll of Thais asking if they agreed with the Thai King Privy Council head General Prem Tinsulanonda's statement attacking Thaksin Shinawatra’s key supporter, Chavalit Yonhchaiyuth, most Thais says they disagreed and the attack will result in deterioration of Thailand.


“I want to warn Chavalit that joining Thaksin is like being a traitor to the country,” said Prem .

If Chavalit, called Big Jiew by Thais, who is now the key man of the Pury Thai Party of Thaksin, and Prem, formerly the key man of the Thai military, can settle their differences a great deal to the root cause of Thailand’s conflict will be solved.


But can they help settle the problems in Thailand?

Matichon, the mass circulated Thai daily said: “Big Jiew sees himself as the lock and chain to tie the different competing powers in Thailand together, but it looks like the lock and chain is rusty.” Big Jiew himself said: “I have tried to talk with Prem but he does not even answer my calls, but I will keep trying to court him.”


If Prem and Big Jiew get together, it will spell a major shift in Thailand power balance to the middle, but will also favor Thaksin.


Prem is believed by many to the one who helped engineer the coup against Thaksin and now supports General Anupong Paojinda, the current Thai military Chief of Staff. Anupong has been documented for engineering the rise to power of the current government of Prime Minister Abhisit Vejajjiva.


It may sound foolish for Jiew to be trying to reach Prem, since underlying it all is Prem’s strong Royalism stance and Thaksin is still seen as less royal than Abhisit, but Big Jiew is trying hard.


“Lets move forward and leave the past behind. I carry no grudges and genuinely want peace. I will always seek to negotiate a way out of Thailand’s difficulties and this confrontation,” said Thaksin, who picked Big Jiew to head the Puey Thai Party.


Desperate as it may seem, it appears that Big Jiew is the best hope for peace and reconciliation in Thailand. That is because Big Jiew and Prem are both military men that share a long history together and the relationship has both been both highly productive and destructive.


Going back some 30 years, Prem and Big Jiew went fighting against the rising power of the Communist Party of Thailand. Big Jiew and Prem formed and put in place the policy of using a political solution instead of military, in fighting the communists.


But a riff developed. Big Jiew saw the root cause of the communists as being a Thai socialist system that is undemocratic and lacks social justice - and thus Big Jiew is a strong proponent of a radical restructure of the Thai political system to make it democratic and just.


Prem saw the communist problem as being the result of foreign instigator, namely the Chinese communist influence on the Thai communist movement. Therefore, Prem saw the political solution as short-term and that there was nothing fundamentally wrong with the Thai society.


Big Jiew caved in to Prem and put his dreams of democracy and just Thai society to rest, and helped save Prem from the brink of several coups.


That Prem's government was kept in power by the military, with a front of being democratic, through having political parties in the government. That Prem government is very much like the current government of Abhisit, which Anupong put it into power and keeps ithere.


Big Jiew's chance as the Prime Minister came later, but was short lived as the Asian Financial Crisis drove him out of office.



Similar to the problem with the communists, which Big Jiew saw as relating to fundamental problems in the Thai society while Prem saw it as about Chinese communist instigators, today, with the current Thai crisis, Big Jiew again sees it as being a cause of a fundamental problem, but again Prem sees it as being about Thaksin, the instigator.


Ref: Thai Intelligent News
(update: Oct. 19 2009 - 10:22 am)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น