วันศุกร์, ตุลาคม 08, 2553

ศาลอนุญาตฝากขัง12วัน"อร่าม แสงอรุณ"คนสนิทเสธ.แดง

by herogeneral.blogspot.com
Ref: Breakingnews.nationchannel.com (update 8 ตค. 2553 13:13 น.)

พ.ต.ท.สมชาย เชยล้อมขำ พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควบคุมตัวนายอร่าม แสงอรุณ อายุ 49 ปี ชาว จ.นครราชสีมา คนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มาฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 8-19 ต.ค.นี้
เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานบุคคลสำคัญอีก 30 ปาก ประกอบกับมีเหตุผลที่จะให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ขณะที่พนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกันตัวด้วย

เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นกลุ่มบุคคลที่นิยมความรุนแรงก้าวร้าว มีหรือใช้อาวุธปืนและมีส่วนร่วมในการก่อความวุ่นวาย ก่อความไม่สงบ แม้ว่าเหตุการณ์รุนแรง ความวุ่นวายต่างๆ จะสงบลงแล้ว แต่สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันยังไม่เป็นที่ไว้วางใจจากเหตุการณ์รุนแรงและความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากปล่อยตัวไปอาจจะหลบหนี หรืออาจก่อความวุ่นวายหรือก่อเหตุร้ายดังกล่าวอีกได้

ดังนั้นจึงขอคัดค้านการประกันตัวเพื่อความมั่นคงปลอดภัยภายในราชอาณาจักรและความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน พ.ย.52 ถึง พ.ค. 53 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหาซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธปืนสงครามที่มีความร้ายแรงของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ได้ร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายโดยเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำซึ่งมีวัตถุประสงค์ขู่เข็ญบังคับรัฐบาลให้ยุบสภาโดยทันที

โดยผู้ต้องหาเป็นกลุ่มการ์ดของพล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธของกลุ่ม นปช. มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน M 79 ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง เสธ.แดง ในการก่อวินาศกรรม ปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และร่วมกันก่อเหตุรุนแรง วุ่นวายต่างๆ เช่น บุกรุกรัฐสภา , บุกรุกสถานีดาวเทียมไทยคม , ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ที่โรงแรมเอส ซี ปาร์ค , เหตุการณ์รุนแรงบริเวณสี่แยกคอกวัว , เผาสถานที่ราชการและเอกชน และ เผาห้างสรรพสินค้าในเขต กทม. จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก

โดยผู้ต้องหามีส่วนร่วมก่อให้เกิดการชุมนุมที่ไม่สงบเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยทำให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ซึ่งไม่ใช่การใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญที่จะเดินขบวนชุมนุมหรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือ พฤติการณ์ผู้ต้องหาเป็นการร่วมรู้เห็นเป็นใจโดยมีเจตนาร่วมกันกระทำผิดฐานก่อการร้าย และเนื่องจากผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออกหมายจับในความผิดฐานก่อการร้าย

แต่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและอัยการที่ร่วมสอบสวน พิจารณาเห็นว่ามีพยานหลักฐานตามสมควรเพียงพอว่าน่าจะได้กระทำผิดอาญา ที่มีโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตราย จึงได้แจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบ ว่า ร่วมกัน หรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดฐานก่อการ้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1 - 3 ประกอบมาตรา 83 , 86 ซึ่งมีอัตราโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 3 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 - 1,000,000 บาท

และเห็นว่ามีเหตุที่จะขอให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาได้ ขณะที่สอบสวนปากคำผู้ต้องหาแล้ว ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าไม่ได้กระทำผิด ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้


ดีเอสไอมั่นใจหลักฐานมัดลูกน้อง "เสธแดง"
Ref: Breakingnews.nationchannel.com (update 8 ตค. 2553 13:56 น.)

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีจับกุมนายอร่าม แสงอรุณ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ลูกน้อง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธแดง ว่า พนักงานสอบสวนมั่นใจในพยานหลักฐาน ที่รวบรวมได้ ตั้งแต่ขั้นตอนขอศาลอนุมัติหมายจับ ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนทั้งพยานบุคคลและภาพถ่ายยืนยันว่านายอร่ามเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงเอ็ม 79 ในหลายพื้นที่

จึงไม่หนักใจที่ผู้ต้องหารายนี้ไม่ยอมเปิดปากให้การใดๆในชั้นสอบสวน และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยจะใช้สิทธิต่อสู้คดีและให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งดีเอสไอเตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องต่อไป

สำหรับการสอบสวนคดีระเบิดในสมานเมตตาอพาร์ตเมนท์ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรีนั้น พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ ในฐานะเลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย ได้ประสานให้ทางตำรวจส่งสำนวนมาให้ดีเอสไอ ซึ่งดีเอสไอจะส่งสำนวนคดีระเบิดที่สมานเมตตาอพาร์ตเมนท์ให้อัยการพิจารณาเพื่อยื่นประกอบกับสำนวนคดีก่อการร้ายที่ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปก่อนหน้านี้

เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่ากองกำลังก่อการร้าย ซึ่งเป็นแนวร่วมของคนเสื้อแดงมีอยู่จริง โดยเหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประกอบระเบิดผิดพลาดของคนร้าย ได้สอดรับกับรายงานการข่าวของดีเอสไอ ที่ระบุว่ากองกำลังใต้ดินพยายามจัดเตรียมอาวุธเพื่อก่อเหตุปั่นป่วนสถานการณ์ภายในประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น