วันพุธ, สิงหาคม 04, 2553

เส้นทางผงาด"ประยุทธ์-บูรพาพยัคฆ์" :ข่าวสดออนไลน์

จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดออนไลน์
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า "บิ๊กตู่"พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ.

ก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ ผบ.ทบ. คนที่ 37 ของกองทัพบกไทย ต่อจาก "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่จะเกษียณราชการในตำแหน่งแม่ทัพบกในอีก 2 เดือนข้างหน้า

การขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ของพล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้นับว่าไร้คู่แข่ง

เพราะพล.อ.อนุพงษ์เป็นผู้วางไลน์หรือกำหนดเส้นทางเดินของ พล.อ. ประยุทธ์ มาตั้งแต่ตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 1

หลังปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อ 19 กันยายน 2549 เส้นทางของ พล.อ.อนุพงษ์ก็สดใส จนก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ ผบ.ทบ. ขณะเดียวกันก็ดูแล พล.อ.ประยุทธ์อย่างใกล้ชิดมาตลอด

พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นนายทหารที่มีสายเลือดและเติบโตมาจากนักรบบูรพา หรือนายทหารสาย "บูรพาพยัคฆ์" อย่างแท้จริง

ตั้งแต่จบการศึกษาจาก ร.ร.เตรียม ทหารรุ่นที่ 12 และ ร.ร.นายร้อย จปร. รุ่นที่ 23 ตัดสินใจเลือกเข้ารับราชการในหน่วยทหารเสือราชินี หรือ ร.21 รอ. อันเป็นหน่วยลูกของ พล.ร.2 รอ. หรือบูรพาพยัคฆ์

จนสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดใน พล.ร.2 รอ. หรือกองกำลังบูรพา ดูแลพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออก ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดของประเทศ

รวมทั้งยังเป็นน้องรักของ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์

ทั้ง 3 มีความสัมพันธ์แน่นปึ้ก เมื่อครั้งเป็นนายทหารเด็กๆ อาศัยอยู่ในบ้านพักนายทหารหนุ่มโสด อันเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า "พี่น้อง 3 ป." ที่อาจกล่าวได้ว่า "มองตา ก็รู้ใจ"


เส้นทางของ พล.อ.ประยุทธ์ มีจังหวะก้าวเดินเสมือนตามรอยเท้าพล.อ.อนุพงษ์ เพราะทุกตำแหน่งไล่จี้ บิ๊กป๊อก แบบหายใจรดต้นคอ

เริ่มจากผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21 พัน.2 รอ.) จากนั้นเลื่อนเป็นเสนาธิการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (เสธ.ร.21 รอ.) จนเป็นรองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (รองผบ.ร.21 รอ.)

และก็ได้เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21 รอ.) ถือเป็นผู้การทหารเสือราชินี ต่อจากพล.อ.อนุพงษ์

จากนั้นไต่เต้าในตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (รองผบ.พล.ร.2 รอ.)

กระทั่งขึ้นเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) ข้ามมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนเป็น เสธ.ทบ. สมัยพล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ.

แล้วสไลด์ขึ้นเป็น รองผบ.ทบ. จ่อคิวขึ้น ผบ.ทบ.

พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นนายทหารสายบู๊ มีไหวพริบดี ใจถึง นักเลง เพราะในสถานการณ์ความไม่สงบต่างๆ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมวางแผนและดูแลความมั่นคงทั้งหมด

จนเป็นที่ไว้วางใจของพล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์

กระทั่งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้จัดการรัฐบาล ก็ยังไว้วางใจ

เลือกใช้บริการ พล.อ.ประยุทธ์ ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการปราบม็อบเสื้อแดงของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)


การจัดโผโยกย้ายนายทหารประจำปี"53 พล.อ.อนุพงษ์ไว้วางใจที่จะมอบหมายให้พล.อ.ประยุทธ์ร่วมจัดทำโผครั้งนี้ด้วย

โดยหากมองถึงสถานการณ์ความมั่นคงที่รออยู่ข้างหน้า พล.อ.อนุพงษ์มั่นใจว่าเป็นงานที่ท้าท้ายต่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างมาก เพราะหลังขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ต้องรับศึกหนักทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องภายในกองทัพ

เพราะทั้งทหารแตงโมและคนเสื้อแดง พร้อมจะปะทุหรือก่อเหตุได้ทุกเมื่อ

ดังนั้น การวางตัวคนที่จะเข้ามาร่วมงานในไลน์ "5 เสือ ทบ." พล.อ.ประยุทธ์จึงขอเลือก พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสธ.ทบ. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 มา ยืนเคียงข้าง

โดยให้พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ ผช.ผบ.ทบ. เป็นรองผบ.ทบ. แล้วโยกพล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 และพล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 เป็น ผช. ผบ.ทบ.

เปิดทางในพื้นที่ให้เพื่อนได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาค เพื่อง่ายต่อการสั่งการ

การจัดแถวให้ พล.ท.ดาว์พงษ์ มือเขียนแผนปราบม็อบเสื้อแดง ขึ้นเป็น เสธ.ทบ. เพื่อทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน แม้จะเป็นสาย "วงศ์เทวัญ" แต่ยังถือว่าพล.อ. ประยุทธ์สามารถคุมเกมได้

พร้อมกับดึงเพื่อนคุมพื้นที่อีสาน เหนือ ที่หน่วยข่าวกองทัพประเมินว่าสถานการณ์ยังไม่ไว้วางใจ รวมถึงพื้นที่ภาคใต้

โดยให้ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพน้อยที่ 2 เป็นแม่ทัพภาคที่ 2, พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 และพล.ต.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ หน.ประ สานโครงการไทย-มาเลย์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 4


ส่วนการดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลาง ยังคงเลือกบริการนายทหารสาย "บูรพาพยัคฆ์"

โดยโยก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ออกไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษ เพราะถูกข้อครหาผลงานไม่เต็ม 100 ในการปราบม็อบแดง

แล้วมอบหมายให้พล.ต.อุดมเดช สีตบุตร รองแม่ทัพภาคที่ 1 อดีตผู้การทหารเสือฯ สายเลือดบูรพาพยัคฆ์ ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.ธีรชัย นาควานิช รองแม่ทัพภาคที่ 1 สายตรงอีกคน เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1

พร้อมดึง พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากเหตุการณ์เมษาเลือด เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อรอจ่อคิวแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อจากพล.ต.อุดมเดช

ส่วนคลื่นลูกหลังนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ที่ขยับขึ้นตำแหน่งหลัก โฟกัสไปที่ พ.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองผบ.พล.ร.2 รอ. ขยับขึ้น ผบ.พล.ร.2 รอ.

อันเป็นนายทหารสายตรง พล.อ. ประยุทธ์ ที่เข้ามากุมบังเหียนของหน่วย "บูรพาพยัคฆ์" เต็มมือ

นี่เป็นเพียงการอุ่นเครื่องของนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ ที่ขยับรองรับ ว่าที่ ผบ.ทบ. คนที่ 37 ของกองทัพบกไทย

นามว่า "ประยุทธ์ จันทร์โอชา"


ขอบคุณที่มา: ข่าวสดรายวัน
วันที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7189 หน้า 3
รายงานพิเศษ เส้นทางผงาด"ประยุทธ์-บูรพาพยัคฆ์"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น