ดีเอสไอยังไม่แจ้งข้อหาก่อการร้าย จักรชลัช คนสนิท เสธ.แดง
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) จับกุมตัว นายจักรชลัช หรือพล คงสุวรรณ อายุ 37 ปี คนขับรถของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพบก ว่า นายจักรชลัชถูกควบคุมตัวตัวในหมายจับตามพรก.ฉุกเฉินฯ
ซึ่งเจ้าพนักงานมีอำนาจในการควบคุมตัวเบื้องต้นได้ 30 วัน เพื่อสอบถามข้อมูลจากผู้ต้องหาโดยไม่ต้องจัดให้มีทนายความหรือญาติเข้าร่วม รับฟังการสอบปากคำ พร้อมยอมรับว่านายจักรชลัชถูกนำตัวไปควบคุมอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง
ในระหว่างนี้ นายจักรชลัชจะยังไม่ถูกนำตัวมาส่งให้ดีเอสไอดำเนินการในคดีก่อการร้ายจนกว่า การสอบปากคำจะเสร็จสิ้นครบถ้วนหรือครบกำหนดอำนาจการควบคุมตัว 30 วัน ซึ่งตนมอบหมายให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอเดินทางไปยังค่ายทหารเพื่อร่วมสอบปาก คำและดูแลผู้ต้องหารายนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอยังไม่แจ้งข้อหาก่อการร้าย เนื่องจากตามกฎหมายการสอบสวนคดีพิเศษและกฎหมายอาญา หากผู้ต้องหาถูกจับในคดีก่อการร้ายพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวได้เพียง 48 ชั่วโมง
จากนั้นต้องนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังในเรือนจำ ซึ่งในขั้นตอนการสอบสวนในคดีอาญาจะต้องมีทนายหรือญาติผู้ต้องหาร่วมรับฟัง ตลอดการสอบสวน ดังนั้น พนักงานสอบสวน จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหาก่อการร้าย
ขอบคุณที่มาข่าว: ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:47 น.
-----------------------------------------------------
รวบสมุนเสธ.แดงอีก ทัพ3ให้เลิกพรก.2จว. :นสพ.ไทยรัฐ
มทภ.3 ชง ศอฉ.เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เชียงใหม่-เชียงราย มั่นใจตำรวจทหารคุมสถานการณ์อยู่ เชื่อบึ้มเชียงใหม่ ฝีมือวัยรุ่นป่วนเมือง
ไม่ กระทบเลิก พ.ร.ก. "เพื่อไทย" ซัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำร้ายประเทศ เผยโรงแรมภาคเหนือและใต้เจ๊งหนักไร้นักท่องเที่ยว ญาติคนตาย-เจ็บเหตุการณ์ เม.ย.เลือด-พฤษภาอำมหิต ร้องคดีเงียบหายไปกับสายลม จวกรัฐดองเรื่อง รวบอีก 1 สมุนคนสนิท เสธ.แดง เชื่อร่วมก่อวินาศกรรมช่วงชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง
ความ คืบหน้าการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ ศอฉ. ยังยึกยัก ไม่มีการตัดสินใจว่าจะปลดล็อกหรือไม่ ขณะเดียวกัน มีการจับกุมสมุนคนสนิทของ เสธ.แดงที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมเมืองกรุงระหว่าง การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้อีกคน
ระเบิดเชียงใหม่เชื่อรัฐบาลตั้งธง
เมื่อ เวลา 10.15 น. วันที่ 14 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่คาดว่าเป็นจ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย แต่หลังจากมีเหตุระเบิดตรงข้ามโรงพยาบาลสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ และก่อนหน้านี้นายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ช่วงหยุดยาวอาจมีการสร้างสถานการณ์ป่วนเมือง แล้วเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง เป็นเหมือนกับหน่วยงานในรัฐบาลตั้งธงไว้นั้น เป็นการเล่นบทตีสองหน้าหรือไม่ เพราะนายกฯ เตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 17 ส.ค. เพื่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ขณะเดียวกัน มีกระบวนการที่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล อยากให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ทั้ง 10 จังหวัด โดยเป็นพวกนอกแถวที่เป็นกลุ่มบิ๊กสีเขียว กับบิ๊กสีกากีบางคนในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ร่วมมือดำเนินการสร้างสถานการณ์ ใช้เป็นข้ออ้างให้รัฐบาลคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้มีเครื่องมือเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จัดการพรรคคู่แข่งทางการเมือง โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย เป็นฐานเสียงทางการเมืองของพรรค เป็นฐานคนเสื้อแดงอย่างหนาแน่น
ล็อกเชียงใหม่-เชียงรายธุรกิจเจ๊งแล้ว
นาย พร้อมพงศ์กล่าวว่า ตั้งแต่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มากว่า 4 เดือน ยังมีการก่อเหตุรายวัน ถือว่าทำร้ายประเทศ กำจัดสิทธิเสรีภาพประชาชน มีผลกระทบมากมาย ถ้านายอภิสิทธิ์มีวุฒิภาวะ ลองเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยากรู้ว่าจะมีเหตุรายวันเกิดขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้รับร้องเรียนว่า ถ้ารัฐบาลยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 10 จังหวัดรวมถึงเชียงใหม่ เชียงราย ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะไม่เดินทางเข้าประเทศ ขณะนี้ผู้ประกอบการโรงแรมบางที่เริ่มปลดคนงานบ้างแล้ว แม้กระทั่งจังหวัดฝั่งอันดามัน ผู้ประกอบการทัวร์ต่างได้รับความเดือดร้อน นักท่องเที่ยวทยอยยกเลิกทัวร์ เพราะหวั่นวิตกในความปลอดภัย และยังโยกย้ายนักท่องเที่ยวไปเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และกัมพูชา ทั้งหมดเป็นผลกระทบจากการยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ญาติคนตาย 10 เม.ย. 19 พ.ค. ร้อง พท.
นาย พร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่เวลาผ่านมากว่า 3 เดือน คดีต่างๆกลับไม่มีความคืบหน้านั้น ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ จะนำบรรดาญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไปยื่นเรื่องต่อพรรคเพื่อไทยขอ ให้ช่วยเร่งรัดคดีตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.-19 พ.ค. ผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บและญาติติดตามคดีแต่ไม่มีความคืบหน้า แม้ได้ร้องต่อ สตช. ป.ป.ช. และดีเอสไอ โดยเฉพาะดีเอสไอกับเร่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องแกนนำทั้ง 19 คนอย่างมีเงื่อนงำ เมื่อญาติไปทวงถามก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม เหมือนดองคดีช่วยเหลือผู้สั่งการ ทั้งที่ผู้ร้องมีทั้งพยานหลักฐานว่า เป็นผลมาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ดีเอสไอเหมารวมว่าเป็นฝีมือของผู้ชุมนุม ดังนั้น คณะญาติดังกล่าวจึงได้มาร้องที่พรรคเพื่อไทย ขอให้นำคดีคนเสื้อแดงเป็นคดีพิเศษ
ตามบี้ดีเอสไอและผู้ตรวจการแผ่นดิน
นาย พร้อมพงศ์กล่าวว่า ตามหลักกฎหมาย หากเสียชีวิตจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องไต่สวนตามป.วิอาญา มาตรา 150 เสียก่อน เมื่อยังไม่ดำเนินการสอบสวน แต่ได้มอบให้ดีเอสไอไปสอบสวน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหมือนกับเล่นละครตบตาประชาชน เพื่อโยนความผิดให้ผู้ชุมนุม ตั้งแต่เกิดเหตุคดีไม่คืบหน้า ไม่ได้เอาคนผิดมาลงโทษ สะท้อนให้เห็นการบังคับใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน เลือกดำเนินการปฏิบัติ หน่วยงานรัฐกำลังรับใช้นักการเมือง แทนที่จะรับใช้ประชาชน ถามว่าความปรองดอง ความสามัคคีที่นายกฯต้องการเห็น เหมือนการสร้างภาพตบตาเท่านั้นเอง ดังนั้น ในวันที่ 16 ส.ค. ตนพร้อมญาติผู้เสียชีวิต จะเดินทางยื่นหนังสือไปติดตามความคืบหน้าที่ดีเอสไอและสำนักงานผู้ตรวจการ แผ่นดิน
ญาติคนตายเผยเหมือนฆ่าแล้วทืบซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากนั้นญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค. กว่า 30 คน ได้ยื่นหนังสือต่อนายพร้อมพงศ์ ขอให้เร่งรัดสอบถามไปยังหน่วยงานรัฐ เกี่ยวกับคดีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุชุมนุมทางการเมือง โดยนายกลิ่น เทียนยิ้ม พี่เขยนายวสันต์ ภู่ทอง ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณโรงเรียนสตรีวิทยา เมื่อวันที่ 10 เม.ย. กล่าวว่า ญาติถูกฆ่าตายเมื่อ 10 เม.ย. คดียังไม่คืบหน้า แต่มีการออกคลิปมาใส่ร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมและเสียชีวิตอีก เหมือนฆ่าแล้วกระทืบซ้ำ จึงขอความช่วยเหลือที่พรรคเพื่อไทยขอให้พรรคเรียกร้องความเป็นธรรมต่อญาติตน และผู้ชุมนุมด้วย เชื่อว่าพวกที่เสียชีวิตจะต้องได้รับความเป็นธรรม
แม่น้องเกดซัดรัฐบาลบิดเบือน
ขณะ ที่นางพะเยาว์ อัคคะฮาด มารดา น.ส.กมนเกด แพทย์อาสาที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในวัดปทุมวนาราม กล่าวว่า ได้พยายามเรียกร้อง แต่รัฐบาลพยายามบิดเบือนว่าสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้มาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ แต่เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน ที่รัฐบาลไม่สามารถปฏิเสธได้ ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์เคยโทรศัพท์มาถึงตน โดยรับปากว่าจะดำเนินการหาคนผิดมาลงโทษให้เร็วที่สุด จึงขอทวงถามนายอภิสิทธิ์ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม จะปรึกษาผู้ใหญ่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อให้ทุกศพที่เสียชีวิตได้รับความเป็นธรรม
เชิญพีระพันธุ์แจงเรื่องเร่งรัดคดี
ส่วน นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีที่จะเชิญนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ที่ทำจดหมายถึงอัยการสูงสุด ให้เร่งรัดคดีของ นปช. ข้อหาก่อการร้ายมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการฯว่า ตนได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการฯแล้ว เพื่อเชิญนายพีระพันธุ์มาชี้แจงข้อเท็จจริง ที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 โดยเฉพาะนายพีระพันธุ์เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นคู่ขัดแย้งกับ นปช. แต่ไปเร่งรัดคดีหรือยัดเยียดข้อกล่าวหาต่างๆ ทำให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงยุติธรรม ขาดอิสระในการทำงาน ต่างกับคดีปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯ นายพีระพันธุ์ทำอะไรไปบ้าง ดังนั้น ต้องถามนายพีระพันธุ์ มีความเป็นธรรมในหัวสมองหรือไม่ ควรลาออกจากตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมได้แล้ว เสียชื่อวงศ์ตระกูลหมด เป็นถึงอดีตผู้พิพากษา แต่กลับไม่มีใจเป็นธรรม
เตรียมส่งหนังสือถึง ตปท.ล่าทักษิณ
นาย ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแกนนำ นปช.ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย 19 คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญา พร้อมมีคำสั่งให้ดีเอสไอติดตามจับผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายอีก 6 คน ที่ยังหลบหนีว่า ดีเอสไอจะร่วมกับตำรวจ ในการติดตามจับกุมตัวจำเลยคดีก่อการร้ายที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดี ยกเว้นกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ดีเอสไอไม่มีอำนาจตามจับ เนื่องจากอยู่ต่างประเทศ จะเป็นหน้าที่ของอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เริ่มกระบวนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ในขณะนี้ จากนั้นจะส่งหนังสือไปยังอัยการของประเทศนั้น เพื่อขอให้ส่งตัวอดีตนายกฯ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้ทางการไทย เนื่องจากอัยการฝ่ายคดีพิเศษของไทย ส่งฟ้องคดีต่อศาลอาญา ดังนั้นสถานะของอดีตนายกฯ จึงถือว่าเป็นจำเลยแล้ว ต้องเริ่มกระบวนการขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดน
รวบอีก 1 สมุนสนิท "เสธ.แดง"
ขณะ เดียวกัน มีรายงานข่าวจาก ศอฉ.ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง นำโดยทหาร จับกุมตัวนายจักรรัตน์ คงสุวรรณ หรือพล ผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย คนขับรถส่วนตัว และเป็นลูกน้องสนิทที่สุดของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อเช้าวันที่ 13 ส.ค. เป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับการก่อวินาศกรรมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง มีการควบคุมตัวนายจักรรัตน์ ไปสอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง และมีรายงานว่านายจักรรัตน์ให้การรับสารภาพว่า ใช้อาวุธยิงใส่ทหารและประชาชนในจุดต่างๆ รวมทั้งยังให้การซัดทอดกลุ่มบุคคลที่อยู่เหนือขึ้นไปที่คอยให้การสนับสนุน ด้านการเงินกับเสธ.แดง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวน พร้อมนำตัวไปชี้จุดตามสถานที่แต่ละแห่งที่นายจักรรัตน์ให้การว่า เป็นจุดนัดพบของกลุ่ม เสธ.แดงและผู้สนับสนุนเบื้องหลัง เพื่อหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับคนที่อยู่สูงขึ้นไป ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาคนสำคัญเข้ามาสอบสวนที่กรุงเทพฯ หลังการสอบปากคำและออกตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัยเสร็จในสัปดาห์หน้า
ทหารเชื่อระเบิดเชียงใหม่แค่ป่วน
อีก ด้านหนึ่ง พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดที่หน้าโรงเรียนเทศบาล 1 อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่า จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ก่อเหตุอาจเป็นวัยรุ่นป่วนเมืองที่ต้องการสร้างสถานการณ์ หรือไม่อยากให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะจากการประเมินในภาพรวมของหน่วยงานทางด้านความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร และผู้ว่าราชการจังหวัด เห็นตรงกันว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้ง 2 จังหวัด ที่ยังมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ คือ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย
แนะเลิก 2 จว.คงไม่มีปัญหาอะไร
พล.ท.ทน งศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของ จ.เชียงรายไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง มีเพียงการเดินขบวนชูป้ายเท่านั้น หากเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ทหารยังสามารถเข้าไปร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยกับตำรวจได้ เพียงแต่จะลดอำนาจเป็นเพียงผู้ช่วยเจ้าพนักงาน นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายอื่นรองรับได้ เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก ก็สามารถประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใหม่ได้ ทั้งนี้ ในพื้นที่เรามีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องยากระหว่างผู้ป้องกันกับผู้ก่อเหตุ เพราะคนร้ายมักก่อเหตุในจุดที่เราไม่ได้ตรวจหรือป้องกัน"กองทัพภาคที่ 3 ได้สรุปสถานการณ์ของ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ส่งข้อมูลให้กับ ศอฉ.แล้ว เนื้อหาส่วนใหญ่ ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ เชื่อว่าหากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยส่วนตัวคิดว่า น่าจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 2 จังหวัด เพราะจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นทั้งด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ เราไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยว่า หากยกเลิกแล้วจะไม่มีสถานการณ์ อะไรเกิดขึ้น" แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว
ให้ ผวจ.เชียงใหม่จับตาสถานการณ์
ขณะ ที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยกล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่า ยังไม่ทราบเป็นฝีมือใคร เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริง เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะถูกนำไปโยงว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ นายบุญจง ตอบว่า อยู่ที่การสืบสวนของตำรวจ รวมทั้งพยาน หลักฐานและพยานแวดล้อม เมื่อถามว่า เหตุระเบิดมีผลต่อการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ จ.เชียงใหม่หรือไม่ นายบุญจงตอบว่า เหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะพิจารณา ประกอบการตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินการตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้มีการสอบถามไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หรือไม่ นายบุญจงตอบว่า มีการกำชับให้ ผวจ.จับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นพื้นที่พิเศษ
เทพไทแนะเพื่อไทยพาทักษิณมอบตัว
นาย เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช.พยายามพูดใส่ร้ายอัยการสูงสุด และพยายามตั้งคำถามในการดำเนินคดีในส่วนต่างๆของการชุมนุม นปช. และอ้างถึงการตาย 80 กว่าศพ เจ็บ 200 กว่าคน โดยไม่มีความคืบหน้านั้น เรียนว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมากและจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้จำนวน มาก โดยเฉพาะแกนนำ 20 กว่าคน ที่คืบหน้าที่สุดคือการที่อัยการสูงสุด สั่งฟ้องแกนนำ นปช. 19 คน เป็นจำเลยในข้อหาก่อการร้าย แต่ที่จับไม่ได้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และส่วนแกนนำบางส่วนอีก 4-5 คน หากจับไม่ได้ ก็อยากให้แกนนำพรรคเพื่อไทยไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณให้ มอบตัวสู้คดี
เย้ยจตุพรให้สละการใช้เอกสิทธิ์
โฆษกประจำตัว หัวหน้าพรรคยังกล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่ สร้างความหวาดกลัวให้กับสังคมคือ พร้อมปลุกระดมคนเสื้อแดง ให้มาชุมนุมที่หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด และออกมาแทงกั๊กคือ ตอนนี้อาจจะยังไม่เคลื่อนการชุมนุม แต่วันข้างหน้าไม่แน่ เชื่อว่าหลังจาก 16 ส.ค.ไปแล้ว นายจตุพรก็ต้องเคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวต่อไปอีก และอยากให้ นายจตุพรเห็นแก่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ออกมาให้สัม–ภาษณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมครั้งนี้ จึงอยากวิงวอนให้นายจตุพร ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่เหลืออยู่ คนเดียว เพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองอยู่นั้น ให้ยุติการเคลื่อนไหว อย่าซ้ำเติมประเทศชาติ ทั้งที่ตัวเองได้เสพสุขอยู่คนเดียว แต่เพื่อนที่เหลือต้องไปชดใช้กรรมในเรือนจำ หากต้องการให้สังคมมีมาตรฐานเดียวกัน คืออยากให้นายจตุพรสละการใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองและไปนอนกับเพื่อนในคุก
ปล่อยแล้ว จยย.มีสารระเบิด
จาก กรณีตำรวจจับนายรุ่งเพชร เมืองศูนย์ อายุ 40 ปี อาชีพขี่รถ จยย.รับจ้าง หน้าธนาคารออมสิน สาขาราชดำเนิน ตรวจพบสารประกอบในการทำวัตถุระเบิด 3 ชนิด คือ ไนเตรต ไนโตรกรีเซอรีน และอาร์ดีเอ็กซ์ ปริมาณสูง สงสัยจะเกี่ยวพันกับคดีระเบิดป่วนเมือง นำตัวมาสอบสวนปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง เพียงแต่เคยร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงที่เวทีสะพานผ่านฟ้า ตำรวจนำเสื้อผ้าและหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจ สอบอย่างละเอียดนั้น เมื่อวันที่ 13 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ กำชับให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เก็บข้อมูลและตรวจสอบรายละเอียด ขณะนี้ได้ทำประวัตินายรุ่งเพชร แล้วปล่อยตัวไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าสารที่พบเป็นสารประกอบวัตถุระเบิดจริง ผบช.น.กล่าวว่าไม่ ยืนยันเพราะตนไม่มีความรู้เรื่องระเบิด แต่สารบางอย่างที่พบ มีส่วนประกอบของสารวัตถุระเบิดตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ส่วนการที่ตำรวจเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลคดีระเบิด ข้อมูลจากการสอบถามมีประโยชน์กับคดีอย่างมาก ทั้งนี้ จะเชิญผู้ที่มีประโยชน์ต่อรูปคดีระเบิดมาสอบต่อไป เพราะการสอบปากคำอาจจะเชื่อมโยงหลายกลุ่ม สำหรับที่เชิญมาใน 2 ชุดแรก ยังขาดผู้เข้าให้ปากคำอีกประมาณ 10 คน
16-17 ส.ค. ชงนายกฯ เลิก พ.ร.ก.ฉฉ.
ช่วง บ่ายที่หอศิลปวัฒนธรรม กทม. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายงาน ซึ่งจะต้องมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกันใน ศอฉ. โดยจะให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ในภาพรวมของแต่ละจังหวัด ขณะเดียวกันก็จะให้ตำรวจประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ให้ กอ.รมน. ซึ่งดูแลเรื่องความมั่นคงโดยตรงประเมินสถานการณ์ ในความรับผิดชอบของ กอ.รมน.ด้วย และให้หน่วยข่าวต่างๆ ได้ประเมินสถานการณ์ในเชิงการข่าว มาวิเคราะห์ ประมวลสรุปว่าในแต่ละพื้นที่ มีความหนักเบาของแต่ละสถานการณ์เป็นอย่างไร ทั้งนี้ นโยบายของนายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนว่ามีนโยบายที่จะยกเลิกพื้นที่ที่ประกาศ สถานการณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ได้เรียนนายกฯ แล้วว่า ศอฉ.ก็จะรับนโยบายของนายกฯมาปฏิบัติ แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องคิดถึงความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองโดยส่วนรวมช่วงวัน ที่ 16-17 ส.ค.นี้ น่าจะรายงานสถานการณ์ ต่อนายกฯได้
"สุเทพ" ยังกั๊กเลิก พ.ร.ก.
ผู้ สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์-โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 บอกน่าจะยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ที่เชียงใหม่และเชียงรายได้ แต่ที่ผ่านมากลับมีเหตุการณ์ ลอบวางระเบิดขึ้นจะพิจารณาอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า อย่างที่ชี้แจงแล้วว่าจะต้องรับฟังรายงานจากทุกฝ่าย แล้วนำมาประมวลรวมกัน เมื่อถามว่า 2 จังหวัดดังกล่าวสมควรยกเลิกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องเอาข้อเท็จจริง ความเป็นจริง เอาสถานการณ์จริงมาหารือกัน ไม่อยากคาดการณ์ล่วงหน้า การประเมินสถานการณ์รายงานต่อนายกฯไม่จำเป็นต้องรอถึงการประชุม ครม.ก็ได้ และนายกฯก็ขอต่อ ครม.แล้วว่าการประกาศยกเลิกพื้นที่ที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอมติจาก ครม.
ยังไม่มีเหตุน่ากลัวช่วงนายกฯไม่อยู่
เมื่อ ถามว่าในสัปดาห์นี้นายกฯจะไม่อยู่ เป็นห่วงสถานการณ์ใน กทม. หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตนที่จะดูแล แต่ยังไม่มีรายงานข่าวอะไรที่น่ากังวลใจ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พรรคเพื่อไทย ระบุว่าเหตุการณ์ระเบิดที่ จ.เชียงใหม่ เป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล โดยมีบิ๊กสีเขียว และ บิ๊กสีกากีอยู่เบื้องหลัง นายสุเทพกล่าวว่า เป็นสูตรสำเร็จของนายพร้อมพงศ์อยู่แล้ว ถ้าพูดแตกต่างไปจากนี้ถึงจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ ส่วนความคืบหน้าของ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมคืนอาวุธ เรื่องนี้ตอบไม่ได้เพราะไม่ได้ดูว่าถูกบรรจุอยู่ในลำดับที่เท่าไร และสภาฯก็เพิ่งเปิด พ.ร.บ.
ดังกล่าวจะต้องเข้าสู่กระบวนการของสภาฯ ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายรุ่งเพชร เมืองศูนย์ ชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณท้องสนาม–หลวงได้นั้น นายสุเทพกล่าวว่า รายละเอียดในคดีนี้ รอให้ตำรวจเป็นคนชี้แจง ขอไม่พูดในรายละเอียด ให้ตำรวจพูดจะดีกว่า
รัฐดัน พ.ร.บ.นิรโทษอาวุธปืนแทน พ.ร.ก.
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม.วันที่16 ส.ค. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอขอความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือยุทธภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาตมามอบให้แก่ ทางราชการ พ.ศ. ...ที่คณะ กรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11) ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว เพื่อส่งคณะ กรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยได้แก้ไขบันทึกเหตุผลให้เหมาะสมยิ่งขึ้นจากร่างเดิมที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ โดยตัดความที่เป็นเงื่อนไขในการตรา พ.ร.ก.ออก เนื่องจากมติครม.ก่อนหน้านี้ให้จัดทำเป็นร่าง พ.ร.บ. พร้อมได้แก้ไขชื่อร่างกฎหมายเป็นร่าง พ.ร.บ. ซึ่งกำหนดให้ รมว.กลาโหม และ รมว.มหาดไทยรักษาการร่วมกัน และให้มีอำนาจออกประกาศกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.นี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตน
ยกเว้นโทษไม่เอาผิดเฉพาะโทษอาญา
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า รวมทั้งแก้ไขขอบเขตการยกเว้นความรับผิด โดยตัดหลักการยกเว้นความรับผิดทางแพ่งออก และคงไว้เฉพาะหลักการยกเว้นความรับผิดทางอาญา โดยพิจารณาถึงแรงจูงใจให้ประชาชนนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือยุทธภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาตมามอบให้แก่ทางราชการ โดยรัฐจะไม่ดำเนินคดีทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์ หากนำสิ่งดังกล่าวมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ และยังได้แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการดำเนินการภายหลังจากมีผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือ ยุทธภัณฑ์มามอบให้แก่นายทะเบียนเสียใหม่ โดยบัญญัติให้การส่งมอบแก่นายทะเบียนท้องที่ การรับมอบ การตรวจสภาพ การคัดแยก การส่งมอบให้หน่วยงานของรัฐที่เป็นเจ้าของ การนำไปใช้ประโยชน์ การเก็บรักษา การเคลื่อนย้ายและการทำลายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือยุทธภัณฑ์ให้เป็นไปตามที่กำหนดในประกาศกระทรวง ทั้งนี้มิให้ใช้บังคับแก่ผู้กระทำความผิด ที่ถูกจับกุมหรือตกเป็นผู้ต้องหา ก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับและอยู่ใน ระหว่างการสอบสวน หรือระหว่างคดียังไม่ถึงที่สุด
ขอบคุณที่มาข่าว: นสพ.ไทยรัฐ
* โดย ทีมข่าวหน้า1
* 14 สิงหาคม 2553, 04:08 น.
-------------------------------------------------
จาก อัลบั้มไทยรัฐออนไลน์ |
ยังไม่แจ้งข้อหา ลูกน้องเสธ.แดง คุมตัวที่ค่ายทหาร
"ธาริต" เผยยังไม่มีการแจ้งข้อหาก่อการร้ายต่อลูกน้องเสธ.แดง "จักรชลัช " หลังถูกควบคุมตัวตามหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะนี้ส่งไปคุมตัวอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง...
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า นายจักรชลัช ถูกควบคุมตัวตามหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำให้เจ้าพนักงานมีอำนาจในการควบคุมตัวเบื้องต้นได้ 30 วัน โดยระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบถามข้อมูลจากผู้ต้องหาไม่ต้องจัดให้มี ทนายความ หรือญาติเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำ
ทั้งนี้ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวยอมรับว่า นายจักรชลัช ถูกนำตัวไปควบคุมอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง ในระหว่างนี้นายจักรชลัช จะยังไม่ถูกนำตัวมาส่งให้ดีเอสไอดำเนินการในคดีก่อการร้าย ระหว่างนี้คุมตัวเพื่อสอบถามข้อมูลจากผู้ต้องหาจนกว่าการสอบปากคำจะเสร็จ สิ้นครบถ้วน หรือครบกำหนดอำนาจการควบคุมตัว 30 วัน
อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอเดินทางไปยังค่ายทหารเพื่อร่วมสอบปากคำ และดูแลผู้ต้องหารายนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว.
ขอบคุณที่มาข่าว: ไทยรัฐออนไลน์
* โดย ทีมข่าวการเมือง
* 14 สิงหาคม 2553, 21:00 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น