วันพุธ, สิงหาคม 04, 2553

แหกตาคนไทย? เปิดหลักฐาน “สุวิทย์” เซ็นเอกสารผูกมัดยอมเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

จาก อัลบั้มASTVผู้จัดการ
ASTVผู้จัดการ - เปิดเอกสารมติการประนีประนอมระหว่างไทย-กัมพูชา “สุวิทย์” ไปลงนามยอมรับที่บราซิลรวม 5 ข้อ “ปานเทพ” ถึงบางอ้อเหตุใดเขมรประกาศชัยชนะ ชี้เท่ากับยอมรับเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร และยอมรับการบริหารแผนจัดการพื้นที่ เพราะไม่ปฏิเสธการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานนานาชาติด้วย

จากกรณีข้อพิพาทเรื่องการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหารระหว่าง ประเทศไทยกับกัมพูชา ซึ่งในวันนี้ (2 ส.ค.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 34 ที่ประเทศบราซิลได้ออกมาแถลงถึงความสำเร็จในการขอเลื่อนการพิจารณากรณี พื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร

ในทางตรงกันข้าม เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กัมพูชา ได้อ้างต่อสื่อมวลชนว่าคณะกรรมการมรดกโลกได้รับแผนบริหารจัดการปราสาทพระ วิหารของฝ่ายกัมพูชาแล้ว นอกจากนั้น ผู้แทนของไทยยังได้ร่วมกับกัมพูชาและรัฐมนตรีบราซิล ลงนามในเอกสารสนับสนุนแผนบริหารจัดการดังกล่าวด้วย ซึ่งนับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของกัมพูชา หลังจากที่ไทยคัดค้านมาตลอด

“มันเป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่เคยยอมรับมาก่อน ตอนนี้เขายอมรับแล้ว” นายซก อาน กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สดผ่านดาวเทียมจากกรุงบราซิเลีย ทั้งยืนยันอีกว่าคณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้เลื่อนการพิจารณาจะ “รับหรือไม่รับ” แผนออกไปอย่างที่ฝ่ายไทยประกาศ “นี่เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของกัมพูชา และเป็นการพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของประเทศไทย” รองนายกฯ กัมพูชากล่าว

ทั้งนี้ รายงานข่าวดังกล่าวยังระบุด้วยว่า นายสุวิทย์ ได้เซ็นรับร่างเอกสาร ที่จัดทำโดยคณะกรรมการมรดกโลกในวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ในการประชุมที่นายฆวาว ลูอิซ ซิลวา เฟอร์ไรรา (Joao Luiz Silva Ferreira) รัฐมนตรีบราซิลเป็นประธาน ขณะที่ นายซก อาน ยืนยันว่าคณะกรรมการมรดกโลกได้ “ยอมรับ” เอกสารรายงานเกี่ยวกับแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารที่กัมพูชาเสนอไปแล้ว โดยการประชุมครั้งต่อไปในบาห์เรน จะเป็นการพิจารณาแผนการอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารอย่างยั่งยืน

ล่าสุด ได้มีผู้นำเอกสาร “มติการประนีประนอม” ระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ปรากฏในข่าวมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน โดยเอกสารดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้

***************

มติการประนีประนอมเสนอโดยประธานที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 34 (34 com 7B.66)

คณะกรรมการมรดกโลก

‎1. ได้รับเอกสาร WHC-10/34.COM/7B.Add3 แล้ว

2. ‎ อ้างถึงมติคณะกรรมการมรดกโลก 31 COM8.24, 32 COM 8B.12 และ 33 COM 7B.65, ได้รับรองการประชุมครั้งที่ 31 (ไครซ์เชิร์ช, ค.ศ. 2007), การประชุมครั้งที่ 32 (ควิเบก, ค.ศ. 2008) และการประชุม ครั้งที่ 33 (เซบีย่า, 2009) ตามลำดับ

3. ‎ แจ้งให้ทราบว่าศูนย์มรดกโลกได้รับเอกสารจากรัฐภาคี (กัมพูชา) แล้ว

4. ‎ สิ่งที่จะดำเนินการต่อไปเพิ่มเติม, ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆโดยรัฐภาคีเพื่อนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการประสาน งานนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนของปราสาทพระวิหาร

5. ‎ตัดสินใจพิจารณาเอกสารที่ยื่นเสนอโดยรัฐภาคีในการประชุมครั้งที่ 35 ในปี ค.ศ. 2011

ลายเซ็น สุวิทย์ คุณกิตติ 29/07/2010 ซก อาน 29/07/2010 Juca Ferreira BSB 29/07/2010

***************

สำหรับเอกสารดังกล่าว นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและนักวิชาการอิสระผู้ติดตามเรื่องข้อ พิพาทกรณีปราสาทพระวิหารได้ตั้งข้อสังเกตว่า การลงนามในเอกสารดังกล่าวของนายสุวิทย์แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่ปฏิเสธการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกด้วยการไม่ ปฏิเสธหรือคัดค้านมติคณะกรรมการมรดกโลกจากการประชุม 3 ครั้งตามรายละเอียดข้อที่ 2

“ขณะที่ในรายละเอียดข้อ 4 ก็บ่งชี้ว่า แผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารของกัมพูชาสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะประเทศไทยไม่ปฏิเสธการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานนานาชาติ 7 ชาติ จึงมีนัยยะว่าส่งเสริมแผนบริหารจัดการด้วยเช่นกัน” นายปานเทพกล่าว และว่า การยอมรับรายละเอียดในข้ออื่นๆ ก็อาจจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ ซึ่งเมื่อตนเห็นเอกสารฉบับนี้แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฝ่ายกัมพูชาถึง ประกาศชัยชนะหลังนายซก อาน เดินทางกลับจากบราซิล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น