วันพุธ, มกราคม 26, 2554
มติชนออนไลน์: เปิดวาทกรรม"สนธิ ลิ้มทองกุล" ว่าด้วยผู้นำแบบ"อภิสิทธิ์" ไฉนเปลี๊ยนไป๋?
เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. วันที่ 25 ม.ค. 2554 ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวาน รังสรรค์ ถึงการต่อสู้ของกลุ่มพันธมิตรฯและแนวร่วมคนไทยรักชาติ กรณีปัญหาความขัดแย้งดินแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทางกลุ่มได้ตั้ง 3 ข้อเรียกร้อง ต่อรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือ 1. ยกเลิกบันทึกข้อตกลงปักปันและสำรวจเขตแดนทางบกร่วมไทย-กัมพูชาปี 2543 (เอ็มโอยู43) 2.ให้ถอนตัวจากกรรมการมรดกโลก และ3. ให้ผลักดันชาวกัมพูชาพ้นไปจากอธิปไตยของไทย
ทั้งนี้ นายสนธิได้กล่าวโจมตี การทำงานของรัฐบาลไทยในปัจจุบันถึงท่าทีปัญหาชายแดน-ไทย กัมพูชา โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ พร้อมยืนยันว่า ตั้งแต่ปี 2548 ที่ตนนำพันธมิตรฯ ออกมาสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นการสู้เพื่อศีลธรรม เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณออกไป ไม่ได้แบ่งพี่น้องประชาชนว่าจะเป็นคนภาคอะไร จนกระทั่งมีการปฏิวัติ 19 ก.ย. ผ่านเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ 51 ที่ต้องมีการต่อสู้และสูญเสียคนไปหลายคน เหตุการณ์วันที่ 17 เม.ย.52 ที่ตนโดนยิง ล้วนแต่เป็นการสู้เพื่อหลักการทั้งสิ้น ไม่ได้สู้เพื่อพรรคประชาธิปัตย์หรือใครเลย
นี่เป็นส่วนหนึ่ง ของวาทกรรม ของ แกนนำพันธมิตรฯ ที่พูดถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย ครั้งล่าสุด ในพ.ศ. 2554 นี้ ผ่านคลิปปราศรัย บนเวทีสะพารมัฆวานรังสรรค์
“คุณไม่ยอมที่จะจัดการกับปัญหาของชาติบ้านเมือง กลัวว่าต่างชาติจะมองว่าคุณมือเปื้อนเลือด แต่คุณปล่อยให้เขาเผาไปครึ่งเมือง ให้ทหารตายไปเป็น 10 คน ไม่คิดว่าคุณมือเปื้อนเลือดเหรือ ถ้าไม่เหลืออด ผมก็ไม่อยากวิพากษณ์วิจารณ์ นายกฯ อภิสิทธิ์ เพราะผมเป็นคนให้โอกาสเขา เหมือนที่เคยให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพราะว่าพันธมิตรฯ ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล หรือคนที่จะทวงบุญคุณ”
" ต่อไปนี้ พี่น้องอย่าไปทวงบุญคุณพรรคประชาธิปัตย์ ถือเสียว่าที่เขาได้เป็นรัฐบาลเพราะเราเที่ยวนี้ เหมือนหมาตัวหนึ่งที่มาเยี่ยวราดเรา อย่าไปสนใจมัน ที่เราอยู่ยงคงกระพันอยู่ทุกวันนี้ เพราะเรายืนอยู่บนหลักการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พ.ต.ท.ทักษิณรับผลกรรมไปแล้ว จะขอพูดต่อ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินว่า อีกไม่นานนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ จะได้รับกฎแห่งกรรมในเร็วๆ นี้เช่นกัน"
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ เกือบ 5 ปีก่อน หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้พูดถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งยังเป็นฝ่ายค้านไว้ ยกตัวอย่าง(บางส่วน) ไล่ลำดับดังนี้ ....
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน 7 เมษายน 2550 : สนธิเสนอเลือกตั้งปี 52
"ผมติดใจคำพูดของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่คำพูดหนึ่ง วันนี้ผมก็ดู คุณ อภิสิทธิ์บอกว่า พวกเราหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนักการเมืองมืออาชีพ ไม่ใช่นักเลือกตั้ง คำพูดนี้สำคัญมาก คือนักการเมืองถ้ามืออาชีพจริง เข้ามาบริหารจัดการบ้านเมืองอย่างมืออาชีพ คำว่ามืออาชีพถ้าผมแปลตามนัยคุณอภิสิทธิ์ คือว่าบริหารบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส ผมต่อให้ด้วย แต่ถ้านักเลือกตั้งแล้วไม่ใช่ นักเลือกตั้งคือลงทุนในการเลือกตั้งแล้วเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์กลับไป คุณแอ้ม ผมจะต่อเรื่องนี้สักนิดหนึ่ง ผมรู้ว่าถ้าทางพรรคประชาธิปัตย์ฟังสิ่งที่ผมพูดหรือว่าพรรคชาติไทยฟัง หรือว่าพรรคหลายๆ พรรคฟัง
หลายๆ คนอาจจะต่อว่าผม แต่ผมคิดว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการเป็นนักการเมืองมืออาชีพ จะต้องไม่ว่าผมเรื่องนี้ หรือว่าพรรคการเมืองใดก็ตามต้องการเป็นนักการเมืองมืออาชีพจะต้องเห็นด้วย กับผม ผมกำลังจะพูด และผมเคยพูดแล้ว และจะพูดต่อไปอีกหลายๆ ครั้ง และผมจะเชิญชวนคุณผู้ชมทางบ้านให้ลองหยุดคิดในสิ่งที่ผมจะพูดต่อไป คิดด้วยเหตุด้วยผล สิ่งที่เป็นวงจรอุบาทว์ของเรา คือเรามีรัฐบาล มีนักธุรกิจอย่างคุณทักษิณ ชินวัตร ที่เข้ามากอบโกย ใช้ช่องว่างทางรัฐธรรมนูญเข้ามา เพื่อที่จะมาคอร์รัปชั่นและขายชาติ คำถามที่เราไม่เคยตอบตัวเราเอง และบางครั้งเราตอบแล้วเราก็ลืมมันไป"
30 ส.ค. 2551 ให้สัมภาษณ์นายไมเคิล คอนเน่อร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง ประจำมหาวิทยาลัยลา โทรเบ้ ในออสเตรเลีย
"พรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี สำหรับการปฏิรูปการเมือง โดยให้พรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนข้างมาจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้ง รัฐบาล"
19 ก.ย. 53 ครอบรอบ 4 ปี รัฐประหาร ,บ้านพระอาทิตย์
“เราไม่เคยคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ก็ควรถาม ประชาชนก่อน ถ้าเขาเห็นด้วยเราก็เห็นด้วย แต่นายกฯ กลับใช้วิถีเผด็จการ หากปี 2551 เราไม่ได้ออกมาคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลพรรคพลังประชาชนนั้น บุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็จะได้กลับมาเล่นการเมืองอีก และในวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องนั่งมุมใดมุมหนึ่งของสภา ไม่ใช่ฝั่งรัฐบาล เราคัดค้านจนมีคนเสียชีวิต บาดเจ็บ แต่ศพเหล่านั้นก็ถูกพรรคประชาธิปัตย์เหยียบพวกเขาขึ้นเป็นรัฐบาล” นายสนธิ
นายอภิสิทธิ์ มีความจริงใจ ยังมีอีกหลายประเด็นที่สามารถแก้เพื่อให้ภาคประชาชนได้ร่วมตรวจสอบนักการเมือง แต่ก็หามีไม่ นาย อภิสิทธิ์ ก็เป็นเพียงแค่นักการเมือง แต่ไม่ใช่ผู้ที่จะทำให้เกิดการเมืองใหม่ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ จะยุบสภาหนีปัญหา เจบีซี เพราะรู้ดีว่าถ้าสภาผ่านกรอบการประชุมไปได้ ก็เท่ากับเป็นการนับ 1 การเสียดินแดนเกือบ 2 ล้านไร่ จึงต้องยุบสภาเพื่อไม่ต้องรับผิดชอบ โดยมีการดึงพันธมิตรฯเข้ามาเป็นเครื่องมือ เพื่ออ้างความวุ่นวายเหมือนกับที่เหยียบศพพันธมิตรฯ และเนรคุณพันธมิตรฯ เป็นนายกฯ
ที่มา: มติชนออนไลน์ (update: วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:09:44 น.)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น