จาก อัลบั้มภาพ Matichon Online |
หากจะให้เอ่ยถึงชื่อตำรวจไทยที่โด่งดังที่สุดในเวลาขณะนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า "พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร" อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 คือ บุคคลคนนั้น
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ผู้การวิสุทธิ์ มีประวัติผลงานโชกโชนอย่างมาก ในวงการตำรวจไม่มีใครไม่รู้จักเขา
ผลงานที่สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักกันดีของสังคมจากงานปราบปรามการกระทำผิดต่อสังคมและสินค้า จนได้รับรางวัลการปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญาจาก MPA ZMOTION PICTURE ASSOCIATION จากประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่ที่สร้างชื่อที่สุด ก็คงจะเป็นบทบาทผู้จัดการแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีอาญาต่างๆ ด้วยวิธีการประณาม เช่น ให้ผู้ต้องหาคาบถุงยาบ้า, เลี้ยงข้าวผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยขึ้นชื่อผู้ต้องหาพร้อมกับคำว่า "เดนมนุษย์" หรือ "อมนุษย์" หรือการทำระบบเก้าอี้ไฟฟ้าจำลองลานประหารชีวิตนักโทษจำลอง ที่มีอุปกรณ์เสมือนจริงครบครัน
ล่าสุด ผู้การวิสุทธิ์หันมาเปิดฉาก "ปะ ฉะ ดะ" กับนักการเมืองที่เข้ามาล้วงโผการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ จนตนกระเด็นออกจากตำแหน่งไป แถมยังวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล รวมถึง "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี และ "พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี" ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่างรุนแรงอีกด้วย
ศึกใหญ่ครั้งนี้ ไม่มีใครทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ถ้าเป็นเรื่องรถคันโปรดแล้ว ผู้การวิสุทธิ์ยืนยันว่า ต้องเป็น มินิออสติน สีดำเท่านั้น
"เหตุผลที่ชอบรถรุ่นนี้ เพราะเคยเห็นในหนังเรื่องนี้ ที่ผู้ร้ายใช้ไปขโมยทองและขับหนีรถตำรวจคันใหญ่ๆ ได้สำเร็จ ก็เลยประทับใจมาก และโดยส่วนตัวเป็นคนชอบรถเล็กๆ อยู่แล้ว เพราะมันคล่องตัวดี ไม่ชอบรถหรูหรา ส่วนสีดำที่ชอบก็เป็นเพราะมันแสดงให้เห็นถึงความเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักสู้ มันบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของผมได้เป็นอย่างดี"
"แม้ใครจะว่าๆ เป็นสีมรณะ แต่ผมไม่เคยเกรงกลัว พร้อมที่จะสู้กับมัน"
ผู้การวิสุทธิ์เล่าให้ฟังด้วยว่า ปัจจุบันเขามีรถใช้งานอยู่คันหนึ่งคือ "เชฟโรเลต แคปติวา" สีดำ ใช้งานได้ดี ส่วนสไตล์การขับรถ เน้นความปลอดภัยอันดับหนึ่ง จะขับเร็วเมื่อควรเร็ว จะขับช้าเมื่อควรช้า แต่ที่สำคัญ จะคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตคนอื่น บนท้องถนนมากกว่าตัวเอง โดยเฉพาะชีวิตของ "ประชาชน"
เพราะมันคือหลักการสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตของลูกผู้ชายที่ชื่อ "วิสุทธิ์ วานิชบุตร"
-----------------------------------
ีที่มา: มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 06 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น