วันเสาร์, ตุลาคม 16, 2553

2012 : Are you ready ??!!!

ในขณะที่ผู้คนทั่วโลก ต่างเฝ้าจับตามองสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 เดือน ธันวาคม ค.ศ. 2012

อะไรคือสิ่งที่มนุษย์เรากำลังจะต้องเผชิญ แล้วหลังจากนั้นโลกของเราจะหลงเหลือสภาพเป็นเช่นไร

ไม่มีใครที่จะสามารถระบุได้ชัดแจ้ง(เพราะถึงระบุ ก็ไม่มีใครเชื่อ....จริงป่ะ)

เราจะมาดูกันว่า ความเชื่อต่างๆเหล่านั้น มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

===================================

๑. ปฏิทินของชาวมายัน

ชาวมายันสามารถคำนวณเวลาของการโคจรของดาวเคราะห์วิ่งรอบดวงอาทิตย์ ที่ชาวมายันรู้แต่แรกว่าเป็นแกนกลางของระบบสุริยะ

ปฏิทินของชาวมายันระบุว่า ดาวศุกร์ใช้เวลาเดินทางรอบดวงอาทิตย์ 584 วัน ซึ่งเป็นเวลาปัจจุบันที่นักวิทยาศาสตร์ทราบกันดี

ชาวมายันได้บันทึกไว้ว่าโลกใช้เวลาเดินทางรอบดวงอาทิตย์ = ๑ ปี = 365.2420 วัน

ซึ่งตัวเลขทางดาราศาสตร์ปัจจุบัน คือ 365.2422 วัน ต่างกันเพียง 0.0002 วันเท่านั้น

ปฏิทินชาวมายันยังระบุว่า ระบบสุริยะมีวัฏจักรของการเคลื่อนที่อยู่ในระนาบเดียวกัน (Ecliptic) กับระนาบแกนของแขนกาแล็คซี

ในทุกๆ 26,000 ปี(ครึ่งหนึ่งของวัฏจักร) จะมีวันที่เรียกว่า อะควิน๊อกซ์ หรือวันที่มีเวลากลางวันเท่ากับกลางคืน ระบบสุริยะ จะเข้าสู่ระนาบเช่นนั้น ในเดือนธันวาคม 2012

น่าแปลกตรงที่ว่าการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่กระแสแม่เหล็กโลก ที่สะท้อนออกมาตามการหมุนรอบตัวเองของโลก (Schumann Resonance ที่เคยคงที่ที่ความถี่ 77.8 Hz/รอบ/วินาที ปัจจุบันอยู่ที่ 11.8 Hz/รอบ/วินาที)

โดยปฏิทินชาวมายัน หลังปี 2012 คือช่วงเวลาที่มนุษย์จะมีวิวัฒนาการเข้าสู่จิตวิญญาณบริสุทธิ์ (Clear Light) เช่นเดียวกับคัมภีร์พีระมิดของอียิปต์และคัมภีร์มรณะศาสตร์ของทิเบต ซึ่งวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ถือเป็นการเริ่มต้นของ The World of the fifth Sun

เป็นผลมาจากเครื่องหมายที่ว่า ดวงอาทิตย์เดินทางผ่านเส้น Equator of Galaxy และโลกจะปรับทิศทางเข้ากับศูนย์กลางของ Galaxy

ดวงอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นครั้งแรกในรอบ 26,000 ปี ดวงอาทิตย์จะขึ้นเชื่อมกับการทับกันของทางช้างเผือกกับระนาบ Ecliptic ปรากฎการณ์ของจักรวาลครั้งนี้ถือว่าเป็น The Sacred Tree, The Tree of Life

สรุปรวมความได้ว่า คำทำนายของชาวมายัน เสมือนการเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ของชีวิต หลังจากได้ผ่านยุคมืดที่ยากลำบากยาวนาน


๒. หมากน้ำเต้าจม หมากหินฟู

จากคัมภีร์ใบลานเรื่อง หมากน้ำเต้าจมหมากหินฟู ของวัดป่าสักน้อย ตำบลแม่ปูคา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ผู้จารชื่อ อภิชัย ยาตันคหัสถ์ ผู้สร้างชื่อ นายน้อยตัน จารไว้เมื่อ พ.ศ. 2492 เนื้อหามีใจความว่า

ครั้งที่พระพุทธเจ้าประทับที่เชตวันวนาราม ทรงปรารถถึงการดำรงอยู่นานหรือไม่นานของพระพุทธศาสนา โดยทรงปรารภเหตุที่เทวดาทั้งหลายได้กราบทูลถาม ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสเทศนาตอบ

ในมัชฌิมยามคืนหนึ่ง เหล่าเทพเข้าไปสู่ธัมมสภาคศาลาเป็นจำนวนมากเพื่อฟังธัมมกถาของพระพุทธองค์ยามค่ำคืน ทั้งนี้มีเทวดาชื่อ ปัณณเทพ เป็นหัวหน้าได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า

การที่บางคนเกิดมาได้รับความลำบากยากแค้น แต่งบางคนมีทรัพย์มั่งคั่ง บางคนรูปร้าย บางคนอายุสั้น และบางคนอายุยืนยาวนั้นเป็นเพราะเหตุใด

พระพุทธองค์ตรัสว่า การที่คนเกิดมาและอยู่ดีมีสุขนั้น เป็นเพราะในชาติก่อน ได้ทำบุญให้ทาน ถือศีลฟังธรรม ส่วนคนที่เกิดมาลำบากยากเข็ญใจนั้น เป็นเพราะในชาติก่อนมิได้ทำบญให้ทาน ไม่สงเคราะห์แก่ผู้ใด กระทำบาป เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดในนรก พ้นจากนรกก็เป็นเปรต หากยังมีกรรมหนาแน่นอยู่หรือเคยฆ่าสัตว์มาก่อน ก็ต้องเกิดเป็นสัตว์ที่ตนเคยฆ่าอีกห้าร้อยชาติ แล้วจึงเกิดเป็นคนอนาถายากไร้

คนที่มีรูปงามและมีอายุยืนนั้น ก็เนื่องมาจากอดีตชาติเคยทำบุญให้ทาน รักษาศีล ไม่เบียดเบียนสัตว์ ไม่อิจฉาริษยาขึ้นโกรธต่อผู้ใด คนที่มีแต่ความอิจฉาริษยาอยู่ในใจนั้น มักเป็นผู้ผูกโกรธและไม่ทำบุญรักษาศีล พอเกิดมาจึงมีรูปร่างไม่งดงาม หรืออวัยวะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือมีอายุสั้น

คนที่เกิดมามีสติปัญญาและความจำดี มีศิลปวิทยาเป็นประโยชน์ต่อตนและครอบครัว ทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง หรือเป็นครูผู้สอนศิลปวิทยาแก่ผู้อื่นมาก่อน เมื่อเกิดมาอีกจึงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ส่วนคนที่เกิดมาแล้วโง่ทึบหรือเป็นบ้าเป็นใบ้นั้น เป็นเพราะในอดีตชาติมิได้ศึกษาเล่าเรียน ไม่ได้ฟังคำสอน หรือมีผู้สอนแล้วไม่เชื่อฟัง ก็ทำให้เกิดมาเป็นคนโง่ทึบและเป็นบ้าเป็นใบ้

พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า พระองค์จะมีพระชนมายุเพียง 80 ชันษา ก็เข้าสู่นิพพาน เมื่อพระพุทธองค์นิพนานไปครบ 1,000 ปี ก็จะเกิดความยุ่งเหยิงเป็นครั้งคราว แต่จะมีพระอริยสงฆ์และพระราชาช่วยกันกอบกู้เป็นระยะๆ เพื่อให้พระพุทธศาสนาสืบเนื่องต่อไปได้ ครั้นพระพุทธองค์นิพพานไปแล้ว 2,500 ปี พระพุทธศาสนาจะเริ่มถดถอย คนจะขาดความเคารพในพระธรรม พระสงฆ์บางเหล่าจะแตกแยกกัน บางหมู่จะไปตั้งนิกายใหม่ บางหมู่จะนำคำสอนของพระพุทธองค์ไปทำให้ไขว้เขว บางกลุ่มจะตั้งตนเป็นผู้วิเศษ ประพฤติตนเป็นมิจฉาทิฐิอลัชชี จะมีการหากินด้วยเดียรฉานวิชา คนทั้งหลายทำไร่นาลำบาก ท้าวพญาจะข่มเหงชาวบ้านชาวเมือง ความยุติธรรมจะบกพร่อง

ท้าวพญาจะขัดแย้งกัน บ้านเมืองวุ่นวายฆ่าฟันกันไปทุกหย่อมหญ้า เกิดความแห้งแล้งและพืชผลจะตกต่ำ คนจะพากันตายด้วยเหตุต่างๆเป็นอันมาก โดยเฉพาะเมื่อพ้น 2,500 ปีไปแล้ว คนหลายๆครอบครัวจะร่วมอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน หญิงชายอายุถึงสิบปีก็จะเป็นผัวเป็นเมียกันแล้ว ยามนั้นคนทั้งหลายจะไม่อ่อนน้อมต่อกัน และจะเกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพงไปทั่วบ้าานทั่วเมือง

จะเกิดปัญหา หมากน้ำเต้าจักจม หมากหินจักฟู หมาจิ้งจอกจักไล่กัดเสือ ช้างจะพากันกินถ่านไฟแดง คนใจบุญใจกุศลจะต้องหาบ แต่คนใจบาปจะเดินตัวเปล่า พ่อค้าจะอาสาออกศึก น้ำไม่ลึกจะพากันทำที่ว่ายน้ำเล่น กบเขียดจะไล่กินงู พญาครุฑจะเป็นบริวารของกาดำ หมาจิ้งจอกจะกินอาหารจากถาดทอง และราชสีห์จะเป็นบริวารของหมาจิ้งจอก

_________________

ครั้งนั้นเทวดาถามว่า

เมื่อพระพุทธองค์นิพพานไปแล้ว พระองค์จะตั้งพระรัตนตรัวไว้อย่างไร ภายหน้าภายหลังไม่เสมอกันเป็นเพราะเหตุใด สัตว์ไม่เคยเกิดก็จะมี ที่มีแล้วก็จะเกิดมาอีก อันว่า หมากน้ำเต้าไม่เคยจมน้ำก็จักจม หมากหินซึ่งอยู่ใต้น้ำก็จักฟูลอยขึ้น จะเป็นด้วยเหตุใด

พระพุทธองค์ตอบว่า เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไป 2,500 ปีแล้ว

"หมากน้ำเต้าจม" ได้แก่ คนทั้งปวงที่เคยบวชและเรียนพระไตรปิฎกจนถ่องแท้แล้วนั้น ต่อมากลับทำบาปและไม่รักษาศีล อีกทั้งยังแนะให้ผู้อื่นหลงผิดจนตกนรกหมกไหม้เป็นอันมาก คนเหล่านั้นเมื่อสิ้นชีวิตแล้วก็จะไปจมอยู่ในอบายภูมิทั้ง 4

อันว่า "หินจะลอยไปตามกระแสน้ำ" นั้น ได้แก่ คนบ้านนอกซึ่งไม่รู้จักพระพุทธศาสนาจะพากันละเลิกมิจฉาทิฐินั้นแล้วทำบุญรักษาศีล และสร้างคุณงามความดีแก่บ้านเมือง เป็นผู้ค้นคว้าเอาวิชาความรู้มาเผยแผ่แก่กุลบุตรกุลธิดาสืบไปอีก คนเหล่านั้นจักได้ชื่อว่า "หมากหินจักฟู"

ต่อมาท้าวพญาจะแย่งชิงอำนาจกันและแตกเป็นพวกเป็นเหล่า เมื่อรบกันแล้วผู้มีกำลังน้อยก็จะจ้างพวกโจรหรือนักเลงชาวป่าชาวดอยมาเป็นกำลัง โดยบอกว่าหากตนชนะแล้ว จะตั้งให้มีอำนาจและได้ทรัพย์สินของผู้แพ้นั้น ซึ่งเมื่อชนะแล้วก็ตั้งให้มีตำแหน่งหน้าที่และได้ลูกเมียของพวกผู้แพ้ไปสมสู่อยู่กินด้วย อันนี้เรียกว่า "ราชสีห์จักได้เป็นบริวารของหมาจิ้งจอก"

ส่วนวงศาลูกเมียของพญาผู้เสียอำนาจนั้นก็เท่ากับว่า "พญาครุฑไปเป็นบริวารของกาดำ"

พวกโจรหรือนักเลงชาวป่าชาวดอย เมื่อไม่มีความรู้แต่มีอำนาจหน้าที่แล้ว ก็ใช้แต่ความหยาบช้าหาศีลธรรมมิได้ คนดีมีความรู้ก็จะพากันหนีเข้าป่า คนอธรรมจะได้ครองเมือง และบ้านเมืองก็ระส่ำระสายเกิดกลียุค อันนี้เรียกว่า "กบเขียดไล่กินงู"

คือเมื่อศาสนาของพระองค์ล่วง 2,500 ปีแล้ว คนทั้งหลายก็จะเป็นทุกข์และเดือดร้อนฉิบหายกันมากนัก

เทวดาก็ทูลถามว่า หากเกิดเหตเช่นนั้นจริง พระองค์จะให้พวกเทวดาทำอย่างไร

พระพุทธองค์ตอบว่า หากคนยังเคารพและปฏิบัติตาม ในพระรัตนตรัยอยู่ ก็จักเป็นบุญของผู้นั้น แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็เป็นกรรมของผู้นั้น

จึงขอให้เทวดาทั้งหลายทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนาฟังธรรมคำสอนของผู้รู้ สร้างกุศลและละเว้นบาป ทำจิตใจให้บริสุทธิ์แล้วตั้งจิตปรารถนาให้ได้พบพระพุทธอาริยเมตไตรย

เทวดาทูลถามต่อว่า คนที่อยากพบพระพุทธอาริยเมตไตรยนั้น พึงทำอย่างไร

พระพุทธองค์ตอบว่า ให้มั่นคงในการทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนา แล้วตั้งความปรารถนาว่าให้ได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรย ก็จะได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรยเป็นแน่แท้

เมื่อเทวดาทั้งหลาย มีปัณณเทพเป็นประธานได้รับฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าดังกล่าวแล้ว ก็มีความชื่นชมยินดีมากนัก จึงพากันกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้วอำลาคืนสู่วิมานของตน

คำทำนายนี้ได้รับการตีความกันอย่างกว้างขวางว่า อาจจะเป็นปี 2012 นี้

_________________

๓. วานเกเลีย ปานเดว่า กุชเตโรว่า

อีกคำทำนายที่ถูกกล่าวถึงกันทั่วโลก การทำนายของนางวานเกเลีย ปานเดว่า กุชเตโรว่า หญิงชราผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีพลังจิตและหยั่งรู้อนาคตได้ และคุณยายท่านนี้ได้ทำนายว่า

ค.ศ. 2008 - ผู้นำ 4 ประเทศถูกลอบสังหาร กรณีพิพานในอินโดสถาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3

ค.ศ. 2010 - เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 (พ.ย.2010-ต.ค.2014) ตอนแรกก็ใช้อาวุธธรรมดา ต่อมาก็นิวเคลียร์และอาวุธเคมี สงครามทำให้ซีกโลกเหนือไม่เหลือทั้งพืชและสัตว์ จากนั้นมุสลิมจะใช้อาวุธเคมีเข้าจัดการกับชาวยุโรปที่ยังหลงเหลือ ผู้คนจะป่วยเป็นฝีหนองและมะเร็งผิวหนังอันมาจากผลของอาวุธเคมี

ค.ศ. 2016 - ยุโรปแทบจะร้างผู้คน

ค.ศ. 2018 - จีนเป็นมหาอำนาจของโลก ประเทศกำลังพัฒนากลายจากประเทศผู้ถูกกดขี่ มาเป็นผู้กดขี่เสียเอง

ค.ศ. 2023 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อ

ค.ศ. 2028 - เกิดแหล่งพลังงานใหม่ โลกเริ่มเอาชนะปัญหาความอดอยากได้ มนุษย์เริ่มเดินทางไปยังดาวศุกร์

ค.ศ. 2033 - น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

ค.ศ. 2043 - เศรษฐกิจโลกรุ่งเรือง มุุสลิมปกครองยุโรป

ค.ศ. 2046 - มนุษย์ปลูกอวัยวะได้ทุกอย่าง การเปลี่ยนอวัยวะเป็นวิธีการรักษาโรคที่ดีที่สุด

ค.ศ. 2066 - สหรัฐโจมตีกรุงโรมของมุสลิมด้วยอาวุธใหม่ คือ อาวุธสภาพอากาศ ซี่งทำให้อากาศหนาวเย็นลง

ค.ศ. 2076 - สังคมไร้ชนชั้น

ค.ศ. 2084 - ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู

ค.ศ. 2088 - เกิดโรคใหม่ที่จะทำให้แก่ในไม่กี่วินาที

ค.ศ. 2097 - เอาชนะโรคแก่ติดจรวดได้

ค.ศ. 2100 - ดวงอาทิตย์เทียมให้แสงสว่างกับโลกส่วนที่มืด

ค.ศ. 2111 - มนุษย์กลายเป็นมนุษย์ไซบอร์ก

ค.ศ. 2125 - โลกได้รับสัญญาณจากอวกาศ

ค.ศ. 2130 - โลกไปตั้งอาณานิคมใต้น้ำ จากคำแนะนำของมนุษย์ต่างดาว

ค.ศ. 2167 - เกิดศาสนาใหม่

ค.ศ. 2183 - อาณานิคมบนดาวอังคารมีอาวุธนิวเคลียร์ และต้องการเป็นเอกราชจากโลก

ค.ศ. 2187 - โลกหยุดยั้งการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ 2 ลูก

ค.ศ. 2195 - อาณานิคมใต้น้ำเลี้ยงตัวเองได้โดยสมบูรณ์ ทั้งอาหารและพลังงาน

ค.ศ. 2196 - ชาวเอเชียผสมกับชาวยุโรปได้โดยสมบูรณ์

ค.ศ. 2221 - ในการติดตามหาชีวิตนอกโลก มนุษย์ต้องเจอกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัว

ค.ศ. 2256 - ยานอวกาศนำโรคร้ายกลับมายังโลก

ค.ศ. 2262 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดาวหางเกือบชนดาวอังคาร

ค.ศ. 2273 - การผสมปนเปของคนผิวขาว เหลืองและดำ ก่อให้เกิดเป็นคนสีผิวใหม่

ค.ศ. 2279 - พบพลังที่ไม่ได้มาจากความว่างเปล่า

ค.ศ. 2288 - มีการเดินทางไปกับการเวลา การติดต่อครั้งใหม่กับมนุษย์ต่างดาว

ค.ศ. 2291 - ดวงอาทิตย์เริ่มเย็นลง มีความพยายามที่จะจุดมันขึ้นมาใหม่

ค.ศ. 2296 - เกิดระเบิดครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ สถานีอวกาศและดาวเทียมเก่าเริ่มตก

ค.ศ. 2299 - ในฝรั่งเศสเกิดจลาจลต่อต้านมุสลิม

ค.ศ. 2302 - เปิดกฎใหม่เรื่องความลับของจักรวาล

ค.ศ. 2304 - พบความลับของดวงจันทร์

ค.ศ. 2354 - เกิดความผิดพลาดกับดวงอาทิตย์เทียม ก่อให้เกิดความแห้งแล้ง

ค.ศ. 2371 - เกิดปัญหาความอดอยากครั้งใหญ่

ค.ศ. 2480 - ดวงอาทิตย์เทียม 2 ดวงชนกัน

ค.ศ. 3005 - สงครามบนดาวอังคาร

ค.ศ. 3010 - ดาวหางชนดวงจันทร์ เศษซากที่กระจาย พากันโคจรรอบโลก

ค.ศ. 3797 - ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือบนโลก แต่มนุษย์ได้ไปวางสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตบนดวงดาวอื่น

ปัจจุบันคำทำนายนี้ ได้สร้างกระแสความหวั่นเกรงในภัยสงคราม การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอันรุนแรง จนกลายเป็นความน่าสะพรึงกลัวและตื่นตัวไปทั่วโลก

_________________

๔. แผนที่โลกใหม่ของ Gordon Michael Scallion

Gordon-Michael Scallion เน้นว่าเหตุการณ์น้ำท่วมโลกจะเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟ ระเบิดและแผ่นโลกเคลื่อนมากกว่า เกิดจากน้ำแข็งละลาย

สกาเลี่ยนอ้างว่าเขาเป็นคนหนุ่มธรรมดาๆ จบการศึกษาทางด้านอิเลคทรอนิคส์(ไม่ได้บอกว่าระดับไหน) ในปี 1979 เคยเกือบตายมาแล้วแต่กลับฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งทำให้ชีวิตของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อเขาต้องพบว่าภาพที่ปรากฎเดิมๆซ้ำๆ ในโสตสัมผัสของเขา เมื่อนำมาวาดออกมาเป็นภาพแล้ว ทำให้เขาสามารถสร้างแผนที่โลกใหม่ ภายหลังจากการที่โลกถูกทำลายล้างจากภัยธรรมชาติ

โดยนาย Grodon เชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012(พ.ศ.2541-พ.ศ.2555) โดยเหตุการณ์จะเกิดจากต้นเหตุสำคัญคือแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดอันเนื่องมาจาก แผ่นทวีปของเปลือกโลกเคลื่อน โดยการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มต้นในทวีปอเมริกาเหนือก่อน

คำทำนายในแต่ละพื้นที่มีดังนี้

ทวีปเมริกาเหนือ

แผ่นดินเกิดการโก่งตัว สร้างหมู่เกาะแคลิฟอร์เนียขึ้น 150 เกาะ ในที่สุด จากขบวนการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ซึ่งเปลือกโลกแผ่นหนึ่งมุดตัวลงไปใต้อีกแผ่นหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดแนวโก่งตัวและรอยแยกซึ่งก่อให้เกิดอุทกภัย

"ส่งผลให้ฝั่งทะเลด้านตะวันตกหดลงไปทางตะวันออกสู่รัฐเนเบรสกา ไวโอมิง และโคโลราโด ทะเลสาบ เกรทเลค(ประกอบด้วยทะเลสาบสุพิเรียม ฮุรอน มิชิแกน อิรี และออนเตริโอ) และแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์จะเชื่อมต่อเข้ากับแม่น้ำมิสซิสซิปปี

ในแคนาดา อ่าวฮัทสันจะขยายตัวออกเป็นทะเลปิดภายในแผ่นดิน บางส่วนของตะวันตกเฉียงเหนือจะถอยร่นเข้ามาในแผ่นดิน 200 ไมล์ พื้นที่ในควิเบก ออนตาริโอ มานิโตบา ซาาสแกนเซวัน แอลเบอร์ตา จะกลายเป็นศูนย์กลางผู้ที่รอดพ้นหายนะระหว่งการเปลี่ยนแปลงในตอนต้น ผู้อพยพจะมาจาก บริติสโคลัมเบีย และ อะลาสกา

ส่วนแนวชายฝั่งของเม็กซิโกจะถูกน้ำท่วมเข้ามาถึงในแผ่นดินคาบสมุทรแคลิฟอร์เนีย จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่ของยูคาทาน พีนิซูลาจะหายไปในทะเล ภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหวจะเกิดต่อเนื่องยาวนานถึง 25 ศตวรรษ"

สกาเลี่ยนระบุไว้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น จะนำมาสู่การล่มสลายของสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นการสิ้นสุดการเป็นมหาอำนาจไปในที่สุด ส่วนอเมริกากลางและคาริบเบียน จะเกิดอุทกภัยและมีจำนวนเกาะลดน้อยลง ซึ่งเกาะที่สูงกว่า 500 เมตรเท่านั้นจึงจะปลอดภัย โดยจะมีเส้นทางน้ำใหม่เกิดขึ้นจากอ่าวฮอนดูรัสไปออกที่เอลซัลวาดอร์

ทวีปอเมริกาใต้

การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จากเทคโทนิก เพลทในทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้หลายประเทศเกิดอุทกภัยจนจมหายกลายเป็น "ท้องทะเลปิด" ขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในกลางทวีปอเมริกาใต้

ผลกระทบครอบคลุมไปทั่ว เวนิซูเอลา โคลัมเบีย และบราซิล จะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ลุ่มน้ำอะเมซอนจะกลายเป็นทะเลใน(ทะเลปิดอยู่ภายในแผ่นดินเหมือนทะเลสาปสงขลา) เปรูและ โบลิเวีย จะถูกน้ำท่วม ซานวาดอร์ เซาเปาโล ริโอดอร์จาเนโร และบางส่วนของ อุรุกรัย จะจมหายไปในทะเล เหมือนกับ หมู่เกาะฟอล์คแลนด์ และเกิดทะเลปิดอีกแห่งที่ตอนกลางของประเทศอาร์เจนตินา เกิดแผ่นดินขนาดใหญ่ขึ้นทางตะวันตกของทวีปแถวชิลี

_________________


ทวีปยุโรป

ตอนเหนือของยุโรปส่วนใหญ่จะจมลงสู่ทะเลซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก(ด้วย tectonic plate) นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และเดนมาร์ค เผชิญกับอุทกภัย ทิ้งไว้เพียง เกาะเล็กๆนับร้อยเกาะ

ส่วนใหญ่ของสหราชอาณาจักร จากสกอต์แลนด์ถึงช่องแคบจมหายไปในทะเล เหลือเพียง 2-3 เกาะเล็กๆขนาดประมาณหมู่เกาะเซตแลนด์(อยู่ทางตอนเหนือของเกาะอังกฤษ)

ลอนดอนและเบอร์มิงแฮม จะเหลือกลายเป็นเกาะ เช่นเดียวกับประเทศฝรั่งเศส เหลือไว้แค่เกาะในบริเวณกรุงปารีส ทางน้ำใหม่จะแยกสวิตเซอร์แลนด์ออกจากฝรั่งเศส ไม่ต่างจากอิตาลี ต้องจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งเวนิส เนเปิล โรม และเจนัวที่ลือชื่อจะหายไปจากแผนที่ แผ่นดินใหม่จะเกิดขึ้นทอดยาวจากเกาะซิซิลีจนถึงเกาะซาร์ดิเนีย

ในขณะที่รัสเซียจะแยกออกจากยุโรป โดยเกิดเป็นทะเลขนาดใหญ่แห่งใหม่โดยรวมเอาทะเลแคสเบียน ทะเลดำ ทะเลาคารา ทะเลบอสติก เข้าด้วยกัน ทะเลใหม่ซึ่งแบ่งถูกแบ่งโดยเทือกเข้าอูราล จะยืดยาวไปจดแม่น้ำเยนิเซในไซบีเรีย ทำให้มีอุณหภูมิอบอุ่นขึ้นและเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ให้กับยุโรป ทะเลดำจะรวมกับทะเลตอนเหนือตุรกีด้านตะวันตกจะจมอยู่ใต้น้ำ ดินแดนตั้งแต่โปแลนด์จนถึงตุรกีจะได้ความไม่สงบครั้งยิ่งใหญ่ สงครามศาสนาจะอุบัติขึ้น และจบลงด้วยความบริสุทธิ์ของแผ่นดินโดยไฟและน้ำ

ตุรกีด้านตะวันตกจะจมอยู่ในน้ำเกิดแนวชายฝั่งใหม่จาก อีสตันบูลถึงไซปรัส ส่วนใหญ่ของยุโรปกลางจะถูกน้ำท่วม แผ่นดินส่วนใหญ่ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลบอลติกจะสูญหาย ส่วนใหญ่ของสมรภูมิในสงครามโลกครั้งที่สองจมลงสู่ใต้ทะเล ก่อให้เกิดเกาะเล็กๆขึ้น

ฝรั่งเศสส่วนใหญ่จมน้ำ เหลือไว้แค่เกาะในบริเวณกรุงปารีส ทางน้ำใหม่จะแยกสวิสเซอร์แลนด์ออกจากฝรั่งเศส อิตาลีจะจมน้ำ เวนิส,เนเปิล,โรม และ เจนัวจะถูกกลืนลงทะเล แต่นครรัฐวาติกันจะปลอดภัยเนื่องจากย้ายไปอยู่ที่สูงกว่า แผ่นดินที่สูงๆจะคงเหลือเป็นเกาะ แผ่นดินใหม่จะเกิดขึ้นทอดยาวจากเกาะซิซิลีจนถึงเกาะซาร์ดิเนีย

ทวีปออสเตรเลีย

แผ่นดินไปประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ จากน้ำท่วมชายฝั่งทั้งหมด ยกเว้นจะเกิดแผ่นดินบริเวณช่องแคบบาสส์เชื่อมเข้ากับเกาะทาสเมเนีย และเกิดแผ่นดินใหม่ขึ้นนอกชายฝั่งนิวซีแลนด์ ส่งผลให้นิวซีแลนด์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น บางส่วนจะเชื่อมเข้ากับแผ่นดินเก่าออสเตรเลีย ทั้งสองแผ่นดินจะเชื่อมต่อเป็นแผ่นดินเดียวกันด้วยคอคอด

ทั้งนี้เกิดจากการยกตัวขึ้นของแผ่นดินและการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งจะทำให้นิวซีแลนด์เดิมกลายเป็นดินแดนห่างไกลจากทะเล

ทวีปแอฟริกา

ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แม่น้ำไนส์จะกว้างขวางกว่าเก่ามาก ด้วยทิศทางของแม่น้ำไนส์เส้นทางใหม่จะวิ่งจากทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยมตรงปากแม่น้ำไนส์ผ่านพื้นที่ประเทศซูดาน เส้นทางสายน้ำใหม่ของแอฟริกาจะเหมือนตัว "Y" วางอยู่บนทวีป โดยมีฐานตั้งในแนวตั้งอยู่บนเมืองเคปทาวน์(ต้นกำเนิดแม่น้ำอยู่ที่เคปทาวน์)

ทะเลแดงจะขยายกว้างออกทำให้ ไคโรจมหายไปในทะเล เกาะมาดากัสการ์เกือบทั้งหมดจะจมลงในทะเล เกิดแผ่นดินใหม่ในทะเลอาหรับ บริเวณตอนใต้ของโอมาน และจะมีแผ่นดินขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณทางเหนือและตะวันตกของเคปทาวน์ ทะเลสาบวิคทอเรียจะรวมเข้ากับทะเลสาบนยาซาไหลลงสู่มหาสมุทรอินเดีย

ทวีปเอชีย

เนื่องจากมีวงแหวนไฟ(Ring of Fire) ผ่าน Asia (แนวเขตรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก(Plate boundary) โดยส่วนแนวเขตนื้เรียกว่า riff ทำให้เป็นเขตเกิดแผ่นดินไหวสูง ยังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเขตนี้

โดยจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ (คาดการณ์ว่า อาจเป็น"โคตรสีนามิ" สูงประมาณ 200 เมตร) ตั้งแต่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย บาหลี ภาคใต้ของประเทศไทย และพื้นที่ตอนล่างของอินเดีย บางส่วนจะถูกทำลายจากพลังของคลื่น

เกาะญี่ปุ่นจะจมเหลือไว้เพียงแค่ 2-3 เกาะเล็กๆเท่านั้น ไต้หวัน และเกาหลีส่วนใหญ่จะหายไปในทะเล มหาอุทกภัยครั้งนี้จะวิบัติไปถึงทะเลแบริ่ง ซึ่งเป็นช่องแคบระหว่างรัฐอะแลสกากับรัสเซีย รวมทั้งหมู่เกาะคูรินและเกาะแซคาลิน ซึ่งเป็นของรัสเซีย ที่อยู่ใกล้กับ ฮอกไกโด ญี่ปุ่น

แนวฝั่งของจีนจะเลื่อนร่นเข้าไปในแผ่นดินใหญ่หลายร้อยไมล์

สำหรับประเด็นนี้ พิจารณาได้ว่า เอเชียอยู่บน 3 แผ่นทวีปคือ 1.แผ่นฟิลิปปินส์ 2.แผ่นอินโดนีเซีย-ออสเตรเลีย 3.แผ่นยูเรเซียน(ไทย - จีน อยู่บนแผ่นนี้) บริเวณที่ไทยและจีนอยู่เป็นเขตแผ่นดินยกตัว ดังนั้นหากเกิดการเปลี่ยนแปลงรุนแรงขึ้นจริง น่าจะเป็นไปในทางที่ทำให้แผ่นดินยกตัวสูงขึ้นมากกว่า

โดยที่แผ่นแปซิฟิกที่ว่าเคลื่อนไป 9 องศานั้น ทิศทางการเคลื่อนที่ตามปกติก็จะเคลื่อนที่ในทิศทาง มุดตัวลงใต้แผ่นทวีปยูเรเซียน แผ่นเปลือกโลกในแนวประเทศญี่ปุ่นจะมุดตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกในแนวประเทศฟิลิปปินส์ และ แผ่นเปลือกโลกอินโดนีเซีย-ออสเตรเลีย จะมุดตัวใต้แผ่นยูเรเซียนบริเวณเทือกเขาหิมาลัย

ซึ่งการมุดตัวดังกล่าวจะทำให้แผ่นดินยกตัวขึ้น ดังในอดีตข้อพิสูจน์นี้ก็ได้แก่ที่ราบสูงทิเบต เทือกเขาหิมาลัย และ อีสานของไทย ซึ่งถูกยกตัวสูงขึ้นจากเมื่อ 60-20 ล้านปีก่อน
.............
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณซันนี่ จากเว็ป http://www.nonlaw.7forum.net/forum-f1/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น