Ref: ข่าวสดออนไลน์ (update วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:06 น.)
เสื้อแดงจัดกิจกรรมรำลึก17ตุลา ตร.ตั้งด่านสกัดเข้มขบวนแรลลี่ไปอยุธยา
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว สถาน ที่รวมตัวของสมาชิกเสื้อแดง ที่มาจัดกิจกรรมรำลึก 17 ตุลา "ตาสว่างกว่าเดิม" และ "37 ปี 14 ตุลา 2516" ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยนํารถยนต์มาจอดรวมตัวกันอย่างต่อ เนื่องเกือบ 200 คันเพื่อร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ท่ามกลางสภาพพื้นถนนที่เจิงนองหลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ ผ่านมา
จากนั้นเวลา 08.00 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนํากลุ่ม 24 มิ.ย.ประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 37 ปีเหตุการณ์ 14 ตุลา ที่ประชาชนเปิดฉากลุกขึ้นสู้ก่อนจบลงด้วยการที่รัฐบาลใช้กำลังเข้าปราบปราม อย่างรุนแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจํานวนมาก ซึ่งเป็นเหตุการณ์เหมือนกันกับที่คนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องขอคืนอํานาจให้ ประชาชน แต่กลับถูกรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม จนมีประชาชนล้มตาย 92 ศพ บาดเจ็บนับไม่ถ้วน คนเสื้อแดงจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทําตามข้อเสนอที่ยื่นให้พิจารณาโดยทันที ได้แก่ 1.ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองของ นปช.ทุกคนทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปฏิรูปศาลยุติธรรม 3.ปฏิรูปเศรษฐกิจ และ 4.ประกันรายได้เกษตรกรและกรรมกรให้พอเพียง นอกจากนี้ยังขอเรียกร้องให้คืนสิทธิ์สื่อมวลชนของคนเสื้อแดง ไม่ว่าดีสเตชั่น พีเพิลแชลแนล และเรด พาวเวอร์ ฯลฯ
 |
| จาก อัลบั้ม ข่าวสดออนไลน์ |
แกนนํากลุ่ม 24 มิ.ย.ประชาธิปไตย กล่าวว่า ขบวนแรลลี่ในครั้งนี้จะแยกเป็น 2 ขบวน ขบวนแรกมุ่งหน้าออกถนนวิภาวดีรังสิตไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนขบวนใหญ่จะวิ่งตามเส้นทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ มี.ค.-พ.ค.53 โดยขบวนรถทุกคันจะเปิดไฟหน้า และบีบแตรส่งสัญญานรำลึกถึงคนตายเมื่อถึงจุดต่างๆ ที่พี่น้องเสื้อแดงเสียชีวิต ส่วนการวิ่งผ่านทําเนียบรัฐบาล จะส่งสัญญานแบบเดียวกันแต่สื่อความหมายให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาตามข้อเรียก ร้องที่เสนอไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.30 น.ขบวนแรลลี่เคลื่อนตัวออกจากบิ๊กซี ลาดพร้าว นายสมยศขึ้นท้ายรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงนําขบวน ต่อด้วยขบวนมอเตอร์ไซด์ ซึ่งถือธงแดงเป็นสัญลักษณ์ และขบวนรถเก๋ง รถกระบะปิดท้าย วิ่งมุ่งหน้าถนนบางกะปิ เลี้ยงขวาเข้าถนนรามคําแหง ก่อนเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 และหยุดรอขบวนมาสมทบบริเวณดังกล่าว ประมาณ 5 นาที จึงมุ่งหน้าสู่ย่านดินแดง ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสรมภูมิ เข้าถนนราชวิถี ถึงแยกตึกชัย เลี้ยงซ้ายเข้าถนนพระรามที่ 6 ในจุดนี้จะมีรถกระบะตํารวจ สน.พญาไท ขับนําหน้า
เมื่อถึงแยกถนนเพชรบุรีตัดใหม่จึงตัดขบวนให้เลี้ยวขวา มุ่งหน้าเข้าถนนพิษณุโลก ผ่านทําเนียบรัฐบาล เลี้ยงซ้ายเข้าถนนราชดําเนินนอก มุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดําเนนกลาง และกลับรถที่แยกคอกวัว เพื่อรอขบวนจากวงเวียนใหญ่มาสมทบ โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจจราจรกั้น 3 เส้นทางด้านซ้ายเพื่อให้ขบวนจอดรถ โดยหัวแถวอยู่ที่แยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ท้ายแถวอยู่ที่แยกคอกวัว
เวลา 10.00 น. ขบวนแรลลี่เคลื่อนตัวต่อโดยมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน เมื่อขบวนผ่านหน้าราบ 11 กลุ่มคนเสื้อแดงได้จอดรถด้ายซ้าย และบีบแตรส่งสัญญานเพื่อรอขบวนมารวมตัวจนหมด ก่อนเคลื่อนตัวมุ่งหน้าออกถนนวิภาวดีฯ ไปยังพระนครศรีอยุธยาทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางจุดต่างๆที่ขบวนแรลลี่คนเสื้อแดงผ่านจะมีเจ้าหน้าที่ตํารวจพร้อมโล่ ออกมายืนตั้งแถวเพื่อป้องกันเหตุร้าย นอกจากนี้บริเวณหน้าม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ถนนวิภาวดีฯ ได้ตั้งด่านตรวจรถขบวนเสื้อแดงทุกคัน ทําให้การจราจรติดขัดอย่างหนักยาวกว่า 10 ก.ม. ส่งผลให้ขบวนแรลลี่แตก จนบางคนต้องจอดรถทิ้งไว้ข้างทางและนั่งกระบะท้ายกันไปเป็นกลุ่มใหญ่ โดยให้ไปพบกันที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยกเลิกการรวมตัวบริเวณสะพานปรีดี-ธรรมรงค์ ที่เคยนัดไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้พื้นที่รอบตัวเมืองอยุธยาก็มีกำลังตํารวจตั้งจุดตรวจเป็นระยะเช่นกัน
กรุงเก่าคึก รับแรลลี่'แดง' คาดมากัน3หมื่น แตะ'olo'เกลื่อน
Ref: ข่าวสดรายวัน หน้า 1 (update: วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7262)
 |
| จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน |
ไม่กลัว - แม่ค้าโชว์รองเท้าแตะรูปใบหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมรองเท้ารุ่นใหม่ สัญลักษณ์ olo PM เตรียมขายในการชุมนุมม็อบเสื้อแดงที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันนี้
กรุง เก่าคึกคัก-แรลลี่เสื้อแดงทั่วประเทศแห่ชุมนุมวันนี้ แดงเชียงใหม่ออกสตาร์ตแล้วมี'แดง'ลำพูนร่วมขบวนนับร้อยคันไปร่วมกิจกรรมที่ อยุธยา นปช.เชียงรายก็ทยอยออกเดินทาง 'สมยศ'ยันเสื้อแดงกรุงเทพฯ ปล่อยแรลลี่ตอนเช้า ขับตระเวนไปราชประสงค์-ซอยรางน้ำ-ปชป.-ราชดำเนิน-ทำเนียบ รำลึกถึง 91 ศพเหยื่อสลายม็อบ ก่อนไปรวมตัวกันที่อยุธยา ย้ำหากเจอด่านก็จะเจรจาดีๆ หลีกเลี่ยงการปะทะ พท.ยกปธน.ชิลีขย่มมาร์ค จี้นายกฯ เห็นคุณค่า 91 ศพบ้าง นักวิชาการย้ำพ.ร.ก.คุกคามสื่อแดง 'มาร์ค'โต้พ.ร.ก.เปล่าละเมิดสิทธิ์ ต้องคงไว้ เพราะยังมีแดงหัวรุนแรง มีนายใหญ่สนับสนุน ย้ำอีกลอบสังหารมีจริง นักรบก็ฝึกจริง
เสื้อแดงแห่ร่วมแรลลี่คึกคัก
เมื่อ วันที่ 16 ต.ค. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ประชาธิปไตย กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดกิจกรรมแรลลี่จากทั่วประเทศไปยังจ.พระนครศรี อยุธยา ในวันที่ 17 ต.ค. ว่า ในส่วนทางกลุ่มเสื้อแดงกรุงเทพฯ ที่จะเคลื่อนขบวนตามเส้นทางเดิมตามที่ได้ประกาศไว้ คือ ผู้เข้าร่วมแรลลี่จะใส่เสื้อสีแดงทั้งหมดและนัดรวมตัวกันที่ห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว ในเวลา 07.00 น. เคลื่อนขบวนในเวลา 08.00 น. และใช้เส้นทางประวัติศาสตร์ตามที่ประกาศไปแล้ว ในเหตุการณ์มี.ค.-พ.ค.53 ผ่านสามเหลี่ยมดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซอยรางน้ำ ทำเนียบรัฐบาล ถนนราชดำเนิน นอก ไปสิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-สี่แยกคอกวัว
นาย สมยศกล่าวว่า จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบก และลานพระบรมรูปทรงม้า บ้านสี่เสาเทเวศร์ พรรคประชาธิปัตย์ โดยทุกสถานที่ ที่ผ่านจะมีการเปิดไฟหน้ารถ และบีบแตร เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์และผู้เสียชีวิต 91 ศพ แต่จะเปลี่ยนแปลงเส้นทางเล็กน้อยเนื่องจากได้รับการขอร้องจากพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ว่าให้หลีกเลี่ยงการผ่านบริเวณกรมทหารราบที่ 11 บางเขน โดยให้เหตุผลว่าเป็นพื้นที่อ่อนไหว "เซนซิทีฟ"
สมยศยันหลีกเลี่ยงการปะทะ
"ดัง นั้นกลุ่มจึงเลี่ยงโดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดีและมุ่งหน้าไปจ.พระนครศรีอยุธยา โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ตอนนี้คาดว่าจำนวนของรถที่จะเข้าร่วมแรลลี่น่าจะมากกว่า 100 คันตามที่ได้ประกาศไว้ ส่วนความกังวลเดียวสำหรับแรลลี่ครั้งนี้คือเรื่องฝน อย่างไรก็ตามกิจกรรมครั้งนี้ก็จะต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใด" นายสมยศกล่าว
นายสมยศ กล่าวต่อว่า ส่วนการขัดขวางมีการฝากมาบอกจากทหารผ่านทางตำรวจถึงเรื่องการเคลื่อนขบวน ครั้งนี้ว่า ทำไมถึงไม่ตรงไปที่จ.พระนครศรีอยุธยา แต่กลับมีการเคลื่อนไปตามสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ นั้น เรื่องนี้ตนต้องชี้แจงว่า การจัดแรลลี่ครั้งนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ มี.ค.-พ.ค. 53 จึงเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์และสันติวิธีและไม่ได้มีวาระซ่อนเร้น อย่างอื่น ส่วนหากเส้นทางที่ผ่านมีการตั้งด่านสกัด ก็จะมีการพูดคุย เจรจากับเจ้าหน้าที่ และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการปะทะอย่างเด็ดขาด ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 24 มิถุนาฯประชาธิปไตยนั้น ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ จะมีการจัดแรลลี่ลักษณะเดียวกันเพื่อเคลื่อนไปยังเขาแก่นจันทน์ ถ.เพชรเกษม อ.เมือง จ.ราชบุรี
แดงเชียงใหม่เริ่มสตาร์ตแล้ว
จ.เชียงใหม่ เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ ได้ทำพิธีปล่อยคาราวานแรลลี่จากเชียงใหม่จำนวน 30 คัน และไปสมทบแดงจ.ลำพูน และตลอดเส้นทาง โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมแรลลี่ครั้งนี้จนถึงอยุธยาประมาณ 80 คัน มีนายศรีวรรณ จันทร์ผง แกนนำเสื้อแดงเชียงใหม่ เป็นผู้ปล่อยขบวนแรลลี่ที่ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ แยกดอนจั่น ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ มีตำรวจทางหลวงเชียงใหม่อำนวยความสะดวกในการปล่อยตัวครั้งนี้ มีกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่มาให้กำลังใจในการปล่อยตัว และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่ปิง และชุดนอกเครื่องแบบมาสังเกตการณ์ในการปล่อยตัวครั้งนี้ประมาณ 10 นาย
นายศรี วรรณ จันทร์ผง แกนนำนปช.แดงเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การปล่อยแรลลี่ครั้งนี้ เราเริ่มจุดสตาร์ตที่เชียงใหม่ จากนั้นก็จะมุ่งหน้าสู่อยุธยา โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงทางภาคเหนือรอเข้าร่วมขบวนตลอดระยะทาง คาดว่ารถแรลลี่ของเชียงใหม่ เมื่อไปถึงอยุธยาคงมีประมาณ 80-100 คัน โดยจะไปร่วมกิจกรรมคนเสื้อแดงที่อยุธยา
งง!ตร.กัน 11 นักรบเป็นพยาน
แกน นำเสื้อแดงเชียงใหม่คนหนึ่งกล่าวว่า เรื่องชายฉกรรจ์ 11 คนหรือที่อ้างตัวเองว่าเป็นนักรบเสื้อแดงที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและใน ที่สุดก็มากันเป็นพยานนั้น คนเสื้อแดงและคนเชียงใหม่กำลังสงสัยว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำอะไร ตำรวจก็น่าจะสืบสวนสอบสวนจนรู้ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของคนกลุ่มนี้มาจาก ไหนอย่างไร กลุ่มคนพวกนี้ที่ถูกจับก็ไม่ใช่คนทางภาคเหนือ จากเดิมเป็นผู้ต้องหา ตำรวจก็เปลี่ยนมาเป็นพยาน พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภาค 5 กลับออกมาระบุว่า 11 คนทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ฟังดูแล้วพิลึกชอบกล ก็ไม่รู้ว่ามาเป็นพยานคดีอะไร เปลี่ยนใจมาทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติเรื่องอะไร หรือคดีระเบิดที่สมานแมนชั่น หรือคดีเตรียมลอบสังหารเนวิน ทุกวันนี้ทางตำรวจไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลให้กระจ่าง พอเสียทีเถอะ หยุดสร้างกระแสสร้างเรื่องทำบ้านเมือง โดยเฉพาะเชียงใหม่เสียหาย ช่วงนี้ก็เข้าฤดูการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่และจังหวัดทางภาคเหนือแล้ว
แดงเชียงรายจัดเวทีเสวนา
จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีกำหนดเดินทางไปร่วมชุมนุมที่จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น ในส่วนของจ.เชียง ราย บรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวออกจากพื้นที่อย่างคึกคักมากนัก โดยเป็นลักษณะต่างคนต่างเดินทางเป็นการส่วนตัวไม่เป็นขบวนใหญ่ เพราะมีการกำหนดให้ไปรวมกลุ่มกันเป็นคาราวานแรลลี่ที่จ.เชียงใหม่เป็นหลัก ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงหลายกลุ่มต่างยืนยันว่าจะไม่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงนี้แต่จะหันทำกิจกรรมในพื้นที่แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพลังมวลชนเชียง รายโดยการนำของนายธนิต บุญญนสินีเกษม ซึ่งเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ได้ร่วมกับเครือข่ายนักศึกษารัก ประชาธิปไตย จัดการสัมมนาเรื่อง "พัฒนาการประชาธิป ไตยในสังคมไทย จาก 14 ตุลา 16 ถึงปรองดอง 53" เป็นเวทีคู่ขนานกับกิจกรรมคาราวานแรลลี่ดังกล่าว โดยการสัมมนาจัดขึ้นที่ห้องประชุมพยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายตั้งแต่เวลา 13.00 น. มีนักวิชาการหลายคนร่วมสัมมนา เช่น รศ.ดร. ธเนศวร์ เจริญเมือง จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายณัฐกร วิทิตานนท์ จากสำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นายอานนท์ นำภา ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
พท.ยกปธน.ชิลีขย่มมาร์ค
ที่ พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงเรียกร้องมาตรฐานจริยธรรมจากนายกรัฐมนตรี ว่า จากกรณีการช่วยเหลือคนงานในประเทศชิลี ด้วยร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวชิลี ในขณะที่ประธานาธิบดีชิลีระบุว่า จะหาคนรับผิดชอบจากกรณีที่ทำให้ชีวิตของประชาชนต้องเสี่ยงกับความสูญเสียให้ได้ และจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เมื่อกลับมาดูในบ้านเราจึงต้องการถามนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าให้ความสำคัญกับการเสียชีวิตของประชาชนกว่า 91 ชีวิต ที่สูญเสียจากการกระชับพื้นที่การชุมนุมอย่างไร
 |
| จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน |
แรลลี่แดง - กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ ปล่อยขบวนแรลลี่ ล่องลงมาสมทบกับสมาชิกอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. มุ่งหน้าเดินทางมาร่วมจัดกิจกรรมใหญ่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
"นายกฯ ได้คำนึงถึงหัวอกหัวใจของภรรยาและลูกของผู้สูญเสียบ้างหรือไม่ และได้มุ่งมั่นที่จะค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นหรือไม่ และจะสร้างหลักเกณฑ์อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุโศกนาฏ กรรมเช่นนี้อีก และจะเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมที่ใช้กำลังทหารเข้ามาจัดการกับการชุมนุมทางการ เมืองอย่างไร ในเมื่อรัฐบาลชิลีพยายามช่วยเหลือชีวิตคนให้อยู่รอด แต่รัฐบาลไทยกลับช่วยเหลือให้คนตาย ทำไมถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้" นายปลอดประสพกล่าว
ทวงถามจริยธรรมนายกฯ
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่ต้องทวงถามจริยธรรมจากนายกฯ คือ กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลข้าราชการระดับสูงของกรมการปกครองในเรื่องการทุจริตสอบเข้าโรงเรียน นายอำเภอ ซึ่งถือเป็นการทำลายระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ การแข่งขันกันเติบโตทางระบบราชการอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ทำลายระบบการศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพของข้าราชการ ทำให้ศักดิ์ศรีของข้าราชการเสียหายยับเยิน
นายปลอดประสพ กล่าวว่า จึงต้องสอบถามนายกฯ ว่า เมื่อข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ถูกย้ายไปหมดแล้ว แต่ยังเหลือฝ่ายการเมืองที่ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ นายกฯ มีความคิดที่จะปลดย้ายฝ่ายการเมืองหรือไม่ หรือนายกฯ คิดจะลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะปล่อยให้ฝ่ายการเมืองใช้อิทธิพลเข้าไปเปลี่ยนแปลง ข้อมูลหลักฐานหลายๆ อย่างที่ทำให้ป.ป.ช.ไม่สามารถเอาผิดไปถึงระดับฝ่ายการเมืองได้ จึงเรียกร้องให้นายกฯ เข้ามาดูเรื่องนี้เพื่อให้จริยธรรมคุณธรรมในระบบราชการคงอยู่ต่อไป
'พิชญ์'ฉะพ.ร.ก.มุ่งปิดสื่อแดง
ต่อมา พรรคเพื่อไทยมีการจัดสัมมนา "ยุทธศาสตร์ร่วมสร้างความสุขกันใหม่ กับเพื่อไทย กทม." โดยนายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวบรรยายตอนหนึ่งในหัวข้อ "ความเสียหายของประเทศอันเนื่องมาจากการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม" ว่า การคงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพฯ นั้น เชื่อว่าเหตุผลการคงพ.ร.ก.มีมากกว่าการเกิดเหตุระเบิดตามที่รัฐบาลอ้างว่า เป็นไปเพื่อดูแลประชาชน แต่เหตุผลจริงๆ คือความต้องการปิดทีวีและสื่อเสื้อแดงต่อไป เพราะหากยกเลิกพ.ร.ก.เมื่อไหร่สื่อเสื้อแดงกลับมาแน่นอน
นายพิชญ์ กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลชุดนี้พยายามที่จะทำให้สิทธิทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญเป็น เรื่องที่ผิดกฎหมายโดยใช้กฎหมายหยุมหยิม ขณะที่กระบวนการปรองดองนั้นรัฐบาลยังใช้กระบวนการความปรองดองข้างเดียว โดยไม่เปิดให้ตัวแทนจากคนเสื้อแดงไปเป็นคณะกรรมการ
ชี้เหตุกองทัพไม่มีเอกภาพ
"แต่ รัฐบาลนี้กลับแสวงหาพันธมิตรโดยการดึงภาคประชาสังคมเข้าไปมากกว่าการค้นหา ความจริง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการปฏิรูปที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน และชุดสมัชชาปฏิรูปของนายแพทย์ประเวศ วะสี ซึ่งมีการให้งบประมาณไม่อั้นอยากจะทำอะไรก็ทำไป" อาจารย์ประ จำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
นายพิชญ์ กล่าวตอบคำถามผู้ร่วมสัมมนาที่ถามถึงบทบาทของทหารกับการเมืองของไทยว่า ไม่ควรมองสถาบันทหารในแง่ลบ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากกองทัพไม่มีเอกภาพ ตนไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. คนปัจจุบันจะสร้างเอกภาพให้กับทหารได้ อย่างไรก็ตาม ในหมู่ของทหารเองใช่ว่าจะมีแต่กลุ่มคนที่ล้าหลังเท่านั้น ยังมีบางกลุ่มที่เป็นหัวก้าวหน้าคิดไปถึงแม้จะทำให้ประเทศเป็นแบบสังคมนิยม แต่ทหารกลุ่มนี้ยังไม่อันตรายเท่าทหารที่เอาตัวเองไปผูกกับนักธุรกิจและอ้าง ว่าทำเพื่อชาติ ซึ่งขณะนี้ทหารกลุ่มนี้มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองพัง
มาร์คอ้างพ.ร.ก.ป้องกันบึ้ม
ที่ โรงแรมฮอลิเดย์ อิน รีสอร์ต รีเจ้นท์ บีช ชะอำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา "รวมพลังสร้าง สรรค์กทม." โดยมีส.ส. ส.ก. ส.ข. พรรคประ ชาธิปัตย์ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า ในส่วนภาพรวมของบ้านเมือง รัฐบาลจำเป็นต้องคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินในกทม.และปริมณฑล ซึ่งเป็นไปได้เราก็ไม่อยากประกาศใช้พ.ร.ก. ไม่ว่ากทม.หรือ 3 จังหวัดภาคใต้ หลายคนที่บอกว่ากระทบต่อการท่องเที่ยวนั้น จากการที่ตนไปต่างประเทศและพบปะกับชาวต่างชาติมาตนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมีผล จริง เพราะชาวต่างประเทศที่จะมาท่องเที่ยวไม่ได้ดูว่าเรามีพ.ร.ก.หรือไม่ แต่เขาดูว่าเรามีม็อบหรือเปล่า ประเด็นอยู่ที่ว่าบ้านเมืองเราสงบหรือยัง เหตุการณ์เมื่อ 2-3 ปีที่หาดใหญ่แทบจะเป็นเมืองร้างเนื่องจากมีเหตุไม่สงบและมีระเบิด วันนี้หาดใหญ่กลับบูมมาก เพราะเมื่อเหตุการณ์สงบคนก็อยากมาท่องเที่ยว รัฐบาลก็ต้องการให้กทม.สงบ ดังนั้น เครื่องมือที่เราจำเป็นต้องใช้ คือ พ.ร.ก.ก็เป็นเพียงการป้องกัน สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด คือ ปัญหาการก่อวินาศ กรรม เรื่องระเบิด เราไม่ต้องการให้คนบริสุทธิ์ ต้องมาสูญเสีย
มาร์คแฉ'นายใหญ่'ตัวการ
นายกฯ กล่าวว่า นักการเมืองทุกระดับจึงต้องช่วยกันกระตุ้นให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้ง ข่าว อย่างเหตุการณ์ที่นนทบุรี ตนได้เน้นย้ำกับตำรวจแล้วว่าต้องเข้มงวดและจี้เจ้าของ อพาร์ตเมนต์ ไม่ใช่จะปล่อยให้ใครเข้ามาเช่าห้องพักหรือเข้ามาทำอะไรในลักษณะแปลกๆ แล้วไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะลำพังเจ้าหน้าที่แม้มีพ.ร.ก.ก็ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ขณะเดียวกันมีเสียงที่บอกว่าการใช้พ.ร.ก.เป็นการที่เราละเมิดสิทธิขอย้ำว่า การจำกัดสิทธิรัฐบาลทำน้อยมาก การชุมนุมทางการเมือง พ.ร.ก.ไม่ได้ห้าม เราห้ามการชุมนุมบางรูปแบบเท่านั้น เช่น การปิดถนน การขัดขวางทางเข้าออก หรือการมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความรุนแรง แม้แต่กลุ่มเสื้อแดงเองก็มีการชุมนุมมาแล้ว 2-3 ครั้งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการชุมนุมใหญ่ที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราไม่ได้ว่า ขอให้เป็นแนวทางในการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ อาจมีบ้างที่เราต้องขอร้องว่าเรื่องเวที เครื่องขยายเสียง เพราะเป็นห่วงว่าหากมีการปักหลักค้างคืนการดูแลความปลอดภัยค่อนข้างยาก
"ไอ้กลุ่มที่นิยมความรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่คนเสื้อแดงไม่ได้นิยมความรุนแรง แต่มันมีไอ้คนกลุ่มหนึ่งที่นิยมความรุนแรงถึงเวลามันมายึดการเคลื่อนไหวของ คนเสื้อแดง พอมันมีไอ้กลุ่มหัวรุนแรงไม่ยอมเลิก หรือนายใหญ่มันไม่ให้เลิก ไอ้คนที่มาโดยความเชื่อส่วนตัวก็ไม่สามารถชี้นำการเคลื่อนไหวทางการเมือง ปกติได้ ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนที่มีอาวุธ มีกำลัง และข่มขู่หรือคนที่มีสตางค์ รัฐบาลจึงพยายามแก้ไขปัญหาว่าทำอย่างไรถึงจะแยกคนสองกลุ่มนี้ออกจากกันให้ ได้"
ย้ำมีนักรบลอบสังหารจริง
"ผมยืนยันว่ายังไม่หมด หรอกครับ ไอ้ที่ฝึกอาวุธบอกว่ามี 11 คน กลุ่มนี้เฉพาะรุ่น 1 เท่านั้น และที่เข้าร่วมนั้นส่วนใหญ่ยังไม่ถูกจับ เพราะรุ่นหนึ่งมันมี 30 กว่าคน ซึ่งจับได้ 11 คน อาร์พีจียังได้คืนมาไม่หมด ที่เขาเตรียมไว้ใช้ลอบสังหาร ยังเหลืออีกหลายลูก ผมก็ต้องระวังตัวอยู่ สิ่งเหล่านี้คือข้อเท็จจริง จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าพ.ร.ก. ไม่ได้มีไว้เพื่อแกล้งใคร แต่มีไว้เพราะคุ้มครองคนส่วนใหญ่ไม่ให้เกิดความเดือดร้อน ขอเวลารัฐบาลทำงานอีกสักนิดหนึ่ง เราก็อยากจะยกเลิก พ.ร.ก." นายกฯ กล่าว
 |
| จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน |
ชำแหละ- โครงข่ายภาคประชาสังคม จ.นนทบุรี จัดเวทีชำแหละการเสนอพ.ร.บ. นิรโทษกรรม เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่โรงแรมริชมอนด์ พร้อมจัดนิทรรศการรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งใช้กำลังทหารปราบปรามม็อบเสื้อแดงอย่างโหดร้าย
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวยังคิดว่าเมื่อเราจับกุมคนได้มากขึ้น มีการเชื่อมต่อขยายผลจากการที่ได้ซิมและสิ่งต่างๆ ที่มีการเชื่อมโยงกันก็คงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถป้องกัน และขยายผล อีกทั้งสามารถปรามผู้ที่มีปัญหาได้ และถ้าทำได้ถึงจุดหนึ่งเมื่อเกิดความมั่นใจ เราก็จะยกเลิก พ.ร.ก. และถ้าเหตุการณ์สงบอีกระยะหนึ่ง ตนบอกแล้วว่าตนไม่ติดใจ ยินดีที่จะให้เลือกตั้ง ถ้าอยากจะเลือกตั้งกันก็เลือกตั้งได้
ปชป.โวยพท.หนุนแรลลี่แดง
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึง การชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันอาทิตย์ที่ 17 ต.ค.นี้ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยาว่า เห็นได้ชัดว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง เพราะมีส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทยเป็นแกนหลัก เป็นผู้ดำเนินการจัดเตรียมสถานที่ เตรียมการจุดพลุตะไล ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการเตรียมการร่วมกันระหว่างพรรคเพื่อไทย กับคนเสื้อแดง ตนขอเรียนว่าหากพรรคเพื่อไทยต้องการเข้าสู่กระบวนการปรองดองก็อย่าปากว่าตา ขยิบ ต้องมีความจริงใจที่จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองไม่มีความรุนแรง ต้องไม่สนับสนุนการจัดการชุมนุม หรือหากจะชุมนุมกันก็ให้จัดโดยไม่ให้บุคคลอื่นเดือดร้อน เช่นจัดชุมนุม หรือสัมมนา ในอาคาร โรงแรม หรือหอประชุม เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นทางการเมือง จึงจะนำไปสู่ความสมานฉันท์ และปรองดองได้
"เรายังพบว่าพรรคเพื่อไทยยังมีพฤติกรรมที่ไปสนับสนุนทุกกลุ่มที่มีพฤติกรรมต่อ ต้านรัฐบาล นี่ไม่ใช่การตรวจสอบรัฐบาลเชิงตรวจสอบทุจริต หรือการตรวจสอบในเชิงฝ่ายค้าน ที่ทำหน้าที่ในสภาฯ ขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย มีความจริงใจที่จะเข้าสู่การสมานฉันท์ และการปรองดอง" นายสาธิตกล่าว
ไม่ขวางนปช.ร้อง'บัน คีมุน'
ส่วน กรณีที่จะมีการยื่นหนังสือถึงนายบัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็นที่จะเดินทางมาประเทศไทย นายสาธิต กล่าวว่า เป็นสิทธิของบุคคลที่สามารถทำได้ แต่ขอให้ระวังว่า การยื่นเรื่องร้องเรียนเป็นเรื่องภายในประเทศ ขอให้รักษาภาพลักษณ์ของประเทศไทยไว้ ที่สำคัญตนคิดว่าข้อมูลที่ยื่นร้องเรียนจะกลายเป็นการประจานตัวเอง เพราะเท็จจริงที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลก ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าต้นเหตุของปัญหา เกิดจากตัวผู้ร้องเรียนเอง ฉะนั้น การกระทำเหล่านี้ขอให้ระวังทั้งในแง่ผลกระทบต่อตัวเอง และผลกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศโดยรวม
นายสาธิต กล่าวอีกว่า ขอให้กำลังใจต่อการทำงานของดีเอสไอที่จำเป็นจะต้องสืบสวนขยายผลทั้งเส้นทาง การเงิน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องการลอบวางระเบิด หรือก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ซึ่งจะนำไปสู่การรู้ตัวว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ แต่ดีเอสไอก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยทุกเรื่องสู่สาธารณะ เพราะข้อมูลหรือข้อเท็จจริงในการสืบสวน เป็นเอกสิทธิ์อยู่แล้วว่าไม่จำเป็นต้องออกมาพูด หรือผู้สื่อข่าวถามก็ไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะบางเรื่องก็เป็นความลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งมีความละเอียดอ่อน
ระดม2พันตร.รับมือแรลลี่แดง
จ.พระ นครศรีอยุธยา พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นภายในสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรี อยุธยาในวันที่ 17 ต.ค. ตำรวจได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งกำลังตำรวจจาก ปทุมธานี นนทบุรี อ่างทอง รวมแล้วจำนวน 2,400 นายเพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นตั้งจุดตรวจตามถนนสายหลัก ทุกอำเภอ ลักษณะใยแมงมุม ตรวจค้นรถ เน้นตรวจอาวุธ รถบรรทุกแก๊ส ถังเคมีดับเพลิง ถังบรรจุน้ำยาแอร์ และวัตถุระเบิดพร้อมสิ่งผิดกฎหมาย เตรียมป้องกันเหตุบุคคลที่ 3 กระทำสิ่งผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังเตรียมเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำไว้สำหรับออกตรวจ เตรียมถังเคมีดับเพลิงไว้จำนวน 200 ถังและรถดับเพลิงไว้สำหรับป้องกันเหตุกรณีฉุกเฉิน แม้ฝนจะตกเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนมีเสื้อกันฝนมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนที่หอประชุมของอบจ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ภายในสนามกีฬาจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า หรือ ศปก.สน.ขึ้นมาติดตามรายงานความเคลื่อนไหวของการชุมนุม ใกล้กับจุดที่ตั้งเวทีใหญ่ในส่วนของสนามฟุตบอล 2 ซึ่งอยู่ด้านหลังสุดภายในสนามกีฬากลาง ใช้เป็นสถานที่การชุมนุมและทำกิจกรรม พบว่ามีการนำเวทีขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งเครื่องขยายเสียงไว้พร้อม
นปช.มั่นใจมาชุมนุมเกิน3หมื่น
กลุ่ม คนเสื้อแดงบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเสื้อแดงที่เข้ามาจับจองตั้งแผงขายของที่ระลึก ตลอดแนวถนนที่จะเดินทางเข้าไปยังสนามฟุตบอล 2 ซึ่งอยู่ด้านหลังของสนามกีฬากลาง ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ การเข้ามาจับจองของแม่ค้าพ่อค้าของที่ระลึกส่วนหน้าได้ตั้งแผงร้านค้ารุกล้ำ มากีดขวางทางเข้าออกของเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือ ศปก.สน. ต้องเข้าไปเจรจาทำความเข้าใจกันอยู่นานแต่ไม่มีเหตุการณ์บานปลายแต่อย่างไร คาดว่าจะมีร้านขายของที่ระลึกของกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 150 ร้าน
นายสุรเชษฐ ชัยโกศล ส.ส.พระนครศรี อยุธยา พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงอยุธยา เปิดเผยว่า ได้เตรียมการตั้งเวทีสำหรับการปราศรัยไว้พร้อมแล้ว ส่วนคนเสื้อแดงที่เดินทางร่วมกับขบวนแรลลี่ตาสว่างกว่าเดิม เชียง ใหม่-อยุธยาที่จะเดินทางมาอยุธยา ตนได้ประสานกับทางวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและโรงแรม เพื่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าพักเนื่องจากมีฝนตก หากฝนไม่ตกกลุ่มคนเสื้อแดงสามารถเข้าพักรอบๆ สนามกีฬากลางได้ ส่วนอาหารได้เตรียมข้าวกล่องไว้บริการ ซึ่งเชื่อมั่นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศจะเดินทางเข้ามาร่วมฟัง ปราศรัยไม่ต่ำกว่า 30,000 คน แม้ฝนตกเชื่อคนจะยิ่งมากขึ้น สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมทางการเมืองเท่านั้น ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นแน่นอนขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยระวังมือที่ 3 ที่จะเข้ามาก่อเหตุด้วย เห็นกำลังตำรวจมากมายจึงเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
แกนนำหวั่นมือที่3ป่วนงาน
นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยุธยา 49 กล่าวว่า ได้เตรียมตั้งโรงอาหารเพื่อทำแจกจ่ายคนเสื้อแดงในวันที่ 17 ต.ค. ตั้งแต่เช้าไปจนถึงงานเลิกในช่วงดึก โดยมีการตั้งเต็นท์และจัดเตรียมอุปกรณ์การทำครัวจำนวนมาก ซึ่งตนกลัวว่าจะมีการสร้างสถานการณ์เหตุร้ายและป้ายความผิดให้กับคนเสื้อแดง อีก ดังนั้นพวกคนเสื้อแดงต้องระวังตัวทั้งจะมีคนมาทำร้ายคนเสื้อแดง หรือการสร้างสถานการณ์และโยนความผิดให้คนเสื้อแดง แต่ถึงจะอุปสรรคมากมาย หรือมีข่าวที่รัฐปล่อยออกมาจำนวนมากว่าจะเกิดเหตุร้ายเพื่อเป็นการข่มขู่ จุดประสงค์ปรามคนเสื้อแดงมาร่วมกิจกรรม แบบเขียนเสือให้วัวกลัวนั้น ก็มั่นใจว่าจะไม่ทำให้คนเสื้อแดงย่อท้อแต่อย่างใด การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมใหญ่ของนปช. และคนเสื้อแดง หลังเกิดเหตุการณ์ที่พวกเราถูกฆ่าตายที่ราชประสงค์ ซึ่งจ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ใกล้กรุงเทพฯ และเป็นจังหวัดที่ไม่อยู่ในประกาศของศอฉ.ฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบให้ ละเอียดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬากลางมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งร้านขายสินค้าจำนวนมาก พบร้านของนางกรกมล พรหมหิทธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ 11 ต.บ้านกล้วย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ตั้งร้านขายรองเท้าแตะที่มีรูปคล้ายนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมน ตรี ซึ่งก่อนหน้านี้เพื่อนแม่ค้าเคยถูกจับที่อยุธยามาก่อนและยังเป็นคดีอยู่ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา
รองเท้าแตะ'olo PM'ขายเกลื่อน
นางกรกมล กล่าวว่า มีรองเท้าเก่าที่ขายไม่หมด รวมกับที่เพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้าไม่กล้าขายมาขายให้ตนในราคาต้นทุน ตนจึงนำมาวางขายคงเหลืออยู่อีกประมาณ 1 กระสอบใหญ่ ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงจาก จ.เชียงใหม่ ได้โทรศัพท์มาสั่งไว้บ้างแล้ว และรองเท้าที่ขายดูอย่างไรหน้าก็ไม่เหมือนนายกฯ และนายสุเทพ ที่มาขายรู้สึกกลัวว่าจะถูกจับเหมือนกัน แต่ก็ต้องขายเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าได้มาจับเลยสงสารคนจนๆ ที่ต้องทำมาหากิน
นางกรกมล ยังได้โชว์รองเท้าแตะรุ่นใหม่ที่รับมาจากผ่านฟ้าขายคู่ละ 35 บาท ซึ่งพื้นรองเท้ามีภาพสัญลักษณ์ "olo PM" ซึ่งนางกมลบอกว่าไม่รู้ว่ามีความหมายอย่างไร และไม่รู้ภาษาอังกฤษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยใน การชุมนุมของคนเสื้อแดง ต่างอึดอัดใจกันจำนวนมากเพราะเบี้ยเลี้ยงยังไม่สามารถจะเบิกได้ สอบถามผู้บังคับบัญชาบอกว่าให้รอไปก่อน แม้แต่อาหารกล่องและน้ำดื่มยังไม่เพียงพอ แต่ทุกคนเป็นตำรวจต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
บ้านเลขที่111เสวนาปรองดอง
บ่าย วันเดียวกัน ที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 นางเลิ้ง ในการเสวนา เรื่องสถานการณ์ปรองดองแห่งชาติ : คืบหน้า ถดถอย หรือเป็นไปไม่ได้ โดยมีพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สส. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผบ.ตร. และนายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เป็นผู้ร่วมเสวนา โดยมีนายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมทั้งมีญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ พ.ค.2553 และแกนนำจากจังหวัดต่างๆ รวมถึงประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมฟังกันอย่างเนืองแน่น
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเสวนาว่า เรื่องปรองดองของรัฐบาล มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่รัฐบาลต้องมีความจริงใจแก้ปัญหาเสียก่อน คือจะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ต้องมีการคัดแยกผู้ที่ถูกคุมขังที่ไม่มีความผิดออกมาก่อน เป็นการเยียวยาเพื่อสร้างทางไปสู่การปรองดองได้
ชี้มาร์คไม่เคยจริงใจปรองดอง
พล.ต.อ. อชิรวิทย์ กล่าวในการเสวนาว่า ตนมั่นใจว่าการปรองดองจะไม่สามารถเป็นไปได้ เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้มีความจริงใจที่จะปรองดองจริง ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แสดงความกระตือรือร้นที่จะปรองดองแม้แต่นิดเดียว หากต้องการปรองดองก็ต้องตัดสินใจทำตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว ในฐานะของผู้ที่มีอำนาจสูงสุด แต่ความต้องการที่แท้จริงของนายอภิสิทธิ์นั้น ต้องการเพียงอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ให้นานที่สุดเท่านั้น โดยหากนายอภิสิทธิ์ต้องการการปรองดองจริง ก็ควรจะเดินสายพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่ใช่พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ โดยกลุ่มที่จะต้องเจรจาด้วยคือ 1.ทหาร 2.พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 3.นายสนธิ ลิ้มทองกุล 4.หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ 5.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีคำถามเพียงนายอภิสิทธิ์ "ต้องการทำหรือไม่" หรือ "อยากทำก็ทำไม่ได้" แล้วใส่ไปยาลใหญ่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวต่อว่า วันนี้หาก สมมติว่าตนเป็นนายกฯ จะพูดคุยทำความเข้าใจให้ทุกฝ่ายให้อภัยกัน และเยียวยาผู้บาดเจ็บ ญาติผู้เสียชีวิต แม้จะเสียเงินเป็น 1 พันล้าน 2 พันล้านบาทก็ไม่เป็นไร และถึงเวลาแล้วที่ประชา ชนคนไทยทุกฝ่ายจะต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมให้มาก เพื่อนำไปสู่คำว่าประชาธิปไตยจากปวงชน ร่วมกันปฏิบัติคือ ไม่ทำตามคำสั่งของคณะปฏิวัติ ที่เป็นต้นตอของปัญหาที่เกิดในปัจจุบัน และใครมีหน้าที่ทำอะไร ก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตัวเอง นี้จะเป็นทางออกของประเทศไทยได้ นอกจากนี้ตนอยากฝากถามไปยังปัญญาชน นักวิชาการ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยว่า ไม่มีความรู้สึกใดกับการฆาตรกรรมหมู่ในเดือนมี.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมาบ้างหรือ ทำไมถึงนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ต้องหาความจริง-ใครฆ่า91ศพ
นาย นรินทร์พงศ์ กล่าวว่า ปัญหาที่สำคัญเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาจากเสียงส่วนมากของ ประชาชน จึงขาดความชอบธรรม และการยอมรับของประชนชน ส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ มีการกระทำที่ประชาชนรับไม่ได้ ทั้งมีการใช้ 3-4 มาตรฐาน มีการทุจริตคอร์รัปชั่นแบบไม่เคยมีมาก่อน จึงได้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่อย่างในปัจจุบัน ส่วนในเรื่องของความปรองดองนั้นมองว่า จะเป็นไปไม่ได้หากผู้นำรัฐบาลไม่เอาด้วย ยกตัวอย่างประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา ของประเทศแอฟริกาใต้ ที่มีความจริงใจในการสร้างความ ปรองดองในประเทศจนเกิดความสำเร็จ นี้คือตัวอย่างที่ผู้นำประเทศไทยต้องดูเป็นแบบอย่าง ในส่วนของรูปแบบการสร้างความปรองดองนั้น 1.จะต้องแสวงหาความจริงทั้ง 91 ศพ ผู้บาดเจ็บ 2,000 คน ว่าใครเป็นผู้กระทำ 2.นำกลุ่มคนเหล่านั้นมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 3.เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจนได้รับความพอใจ 4.เดินหน้าสู่แผนการปรองดอง และ 5.คืนอำนาจการเลือกตั้งให้กับประชาชน
"ใน ส่วนของแกนนำนปช.ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เข้าไปช่วยเหลือเพื่อให้ได้ ประกันตัว แต่เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ศาลอาญาก็มีคำสั่งยกคำร้องไป แต่ถึงอย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะทำให้แกนนำที่ถูกคุมขังทั้งหมดถูกประกันตัว ได้ทั้งหมด" นายนรินทร์พงศ์ กล่าว
น้อง'เกด'จี้รัฐบาลหยุดใส่ร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นจึงเป็นญาติของผู้เสียชีวิตได้ขึ้นเวทีพูดคุยถึงความปรองดอง โดยมีนายณัทพัช อัคฮาด อายุ 21 ปี น้องชายน.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด อาสาสมัครพยาบาลที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมฯ กล่าวว่า ในเรื่องของความปรองดองนั้นตนมองว่า ทำไมไม่เคยถามพวกเราที่เป็นญาติของผู้เสียชีวิต ไม่ว่าการเดินสายพบบุคคลต่างๆ ของพล.ต.สนั่น ก็ไม่เคยมาหาเรา ความต้องการของพวกเราไม่ได้ต้องการเงินทอง แต่การเยียวยาหรือการปรองดองจะต้องทำควบคู่ไปกับการดำเนินการในกระบวนการ ยุติธรรม เรียกร้องการใช้กฎหมายที่เป็นธรรม พวกเราต้องการความคืบหน้าของคดี อยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าอยากปรองดองต้องเริ่มที่รัฐบาลเอง หยุดใส่ร้าย แยกคดีความการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ 19 พ.ค. ออกจากการปรองดอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น