วันพฤหัสบดี, กันยายน 09, 2553

ส.ส.เลือดเพื่อไทยไหลไม่หยุด เกมทอดไมตรี-เจรจา-ปรองดอง ในปรากฏการณ์ "ทักษิณ - Butterfly Effect"

by Herogeneral on 2010-09-09 - 04:19 pm
ที่มาข้อมูล: ประชาชาติธุรกิจ
(วันที่ 09 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4243 หน้า 35 )



เมื่อภูมิอากาศทั่วโลกแปรปรวน โลกตั้งรับการผันผวน-เปลี่ยนแปลง

แผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์ น้ำท่วมที่เมืองจีน เรือน้ำมันล่มที่เกาะภูเก็ต ทุกความเคลื่อนไหว-ทุกปรากฏการณ์โลก ล้วนเชื่อมถึงกัน

เช่นเดียว "เสียง" ของ "ทักษิณ" ที่อยู่ไกลถึงแอฟริกา ก็เชื่อมถึงคนเสื้อแดง- เพื่อไทย ในงานเลี้ยงที่เมืองพัทยา คล้าย ๆ ปรากฏการณ์ Butterfly Effect หรือทฤษฎี "ผีเสื้อขยับปีก" หรือ "จุดคานงัด" ของสังคมการเมืองไทย

ดังนั้น ไม่แน่ว่าหากผีเสื้อการเมืองขยับปีกที่เมืองไทย อาจทำให้เกิดลมพายุ-คำสั่งทางการเมือง มาจากแอฟริกาใต้ เมื่อการเคลื่อนไหว ไหลออกของ ส.ส.ในสังกัดพรรคเพื่อไทย เปิดหน้าแสดงตัวไปสังกัดพรรคการเมืองคู่แข่ง-คู่แค้น อย่างภูมิใจไทย ทำให้เสียงสนทนาในวงประชุมที่พรรคเพื่อไทย ขยับข้ามไปถึงหู "ทักษิณ"

สัญญาณที่เป็น "คานงัด" สะท้อนกลับมา จึงเป็นแนวทางขอเปิด "เจรจา-ปรองดอง" อีกครั้ง ท่ามกลางข่าวลือท่วมตลาดการเมืองว่า "ทักษิณป่วยหนัก" แหล่งข่าวทั้งในบรูไน-มอนเตเนโกร-ปักกิ่ง-กัมพูชา โรงพยาบาลในฮ่องกง-สิงคโปร์ และรัสเซีย ถูกหน่วยข่าวจาก เมืองไทย ส่งคนไปเจาะประเด็นเพิ่มเติม

แต่เสียงสุดท้ายของ "ทักษิณ" ดังมาจากเครื่องรับโทรศัพท์ของเขา ที่สนทนาข้ามโลก ต้องการเสียงตอบรับทางการเมือง "อยากให้บ้านเมืองมีความปรองดอง" เพราะ "ผมเป็นคนไม่มีอนาคตทางการเมือง อนาคตทางการเมืองของผม ผมขอเป็นคนของประชาชนต่อไปแค่นั้นก็พอ"

แต่ตัวตนที่แท้ของ "ทักษิณ" ที่แม้ประกาศไม่ต้องการอนาคตทางการเมือง กลับส่งสัญญาณสายตรงทะลุห้องประชุมพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณทั้งส่งภาพและเสียงถึงทุกเครือข่ายทุกชนชั้นใน เมืองไทย ทั้งทหาร-ตำรวจ-ราชนิกูล (บางสาย) ได้รับฟังเสียงสดจาก "ทักษิณ" ไม่เว้นแต่ละสัปดาห์

ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนของโลก กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-หัวคะแนน-กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย-สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 ล้วนได้รับการติดต่อ-สายตรงจากเขา คีย์เวิร์ดที่นักการเมืองในเมืองไทยได้รับสัญญาณคือ

"ทักษิณสั่งให้คนในครอบครัวชินวัตรหยุดโปรโมตตัวเอง และลดบทบาทในพรรค" หรือ "ทักษิณ ต้องการให้บิ๊กจิ๋ว มีบทบาทในการเจรจากับกลุ่มคนที่มีอำนาจ ในเมืองไทย"

แกนนำ ส.ส.เพื่อไทยบางคน "ปล่อยข้อมูล" ระดับ "รัฐบาลแห่งชาติ" และสัญญาณ-เสียงโทรศัพท์ จากทักษิณ แทบทุกครั้งที่ส่งกลับมา เมืองไทยคือ ต้องการปรองดอง-เจรจา แต่สุดท้าย ก็จบด้วยบรรทัดสุดท้ายด้วยความล้มเหลวทุกครั้ง

ต่างจากครั้งล่าสุดที่ "ทักษิณ" แสดงความจำนง และเคลื่อนไหวจริงจัง ด้วยการติดต่อผ่าน "บิ๊กจิ๋ว" และใช้สถาบันพรรคเพื่อไทย ขับเคลื่อน พร้อมออกเอกสาร-ข้อเสนอที่เป็นลายลักษณ์อักษรถึง 5 ข้อ อ้างที่มาของ "ที่ประชุมผู้ใหญ่ในพรรค"

นักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวระดับปรากฏการณ์ "ผีเสื้อขยับปีก" ของ "ทักษิณ" ทันทีว่า "ขุนกำลังเข้าตาอับ" ไม่สามารถขยับขับเคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างประเทศได้

ประกอบกับความเคลื่อนไหวของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เคยบินไป-บินกลับ ห้องพัก "ทักษิณ" เริ่มหาตัวเป็น ๆ ของ "ทักษิณ" ไม่ค่อยสะดวก

พร้อม ๆ กับ ส.ส.พื้นที่เสี่ยง ย่านอีสานเหนือ-อีสานใต้ เริ่มหวั่นไหว ไปกับกระแสและกระสุนของพรรคคู่แค้น คนเคยรักทักษิณอย่าง "เนวิน ชิดชอบ" ขยายอาณาจักรครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสาน

ขณะที่ ส.ส.อีสานแทบทั้งภาค เคลื่อนไหวกดดันให้ "พายัพ ชินวัตร" พ้นจากความเป็น "หัวอีสาน"

ชื่อเพื่อไทย-ทักษิณ ในภาคอีสาน ยังต้องเผชิญกับมรสุม "พรรคที่ 3" เข้าแทรก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ส.ส. อีสานสายพัฒนาและกำลังพัฒนา ไม่น้อยกว่าราคา 20 คน เริ่มเอ่ยชื่อ "ไพโรจน์ สุวรรณฉวี-พินิจ จารุสมบัติ-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ"

ขณะเดียวกันมีปรากฏการณ์ "เลือดไหลไม่หยุด" ลุกลามถึงพื้นที่ ส.ส.ภาคกลาง และภาคอื่น ๆ ไม่นับรวม "กลุ่ม กทม." ที่มีทีท่าขยับห่างออกจากเพื่อไทยไปพร้อม ๆ กับกลุ่มเจ้าแม่ กทม. "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" มานานแล้ว

จังหวะความเคลื่อนไหวในพรรคจึงลักลั่น-อลหม่าน ทั้งเรื่องการหา "หัวจริง" ที่มีบารมีขึ้นมาแทน "หัวลวง" อย่าง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ และการเคลียร์เกม-หย่าศึก ระหว่างนักรบฝั่งธนฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับนักรบห้องแอร์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วนที่ช่วงชิงการนำ ขึ้นเป็น "หัวจริง" ยังมีปัจจัยแทรกจากกลุ่มอำนาจแดงในพรรค ที่มี จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นผู้กำกับ

หาก "ทักษิณ" ไม่ขยับ-กระชับพื้นที่ในเพื่อไทยอย่างจริงจัง อาจทำให้หมดโอกาสในการกลับคืนสู่เวทีอำนาจ

ดังนั้น จึงต้องเร่ง-รุก เปิดทางเจรจา ทั้งบนดิน-บนอากาศ และมอบหมายให้เครือข่าย "บิ๊กจิ๋ว" เดินหน้าสานต่อการเจรจาลับ-ใต้ดิน ขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กับการปรับโครงสร้างพรรคอีกรอบ ด้วยการตั้ง คณะกรรมการประสานกิจการพรรค 30 คน ด้วยการรวบรวมไพร่พลจาก ส.ส.ปัจจุบัน, กลุ่ม 111 และกลุ่มอดีตกรรมการพลังประชาชน 37 คน ร่วม ปฏิบัติการกับกลุ่มของ "บิ๊กจิ๋ว" ในฐานะประธานพรรคเพื่อไทย

ผนึกแนบแน่นกับพลังของนักการเมืองเครือข่ายสายตรงจากบ้านจันทร์ส่องหล้า สาย "คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์" ผู้ครอบครองทรัพย์สินและบารมีอันดับ ต้น ๆ ของกระดานการเมืองไทย

ที่ผ่านมา "ทักษิณ" มีทั้งคนรัก คนเกลียด มีศัตรูคู่แค้น-คู่อาฆาต ทั้งชาว เสื้อเหลือง-เสื้อหลากสีและเสื้อสีส้ม สีสัน-สัญลักษณ์ใหม่ของ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรี

ดังนั้น แผนปรองดอง-เจรจา ของ "ทักษิณ" จะสัมฤทธิผลได้ จึงต้องเล่นไพ่ ทุกใบในมือ ต้องขยับทุกปีก เขยื้อนทั้ง องคาพยพ เพื่อขอคืนพื้นที่ทางการเมือง

ปรากฏการณ์ "ทักษิณ-Butterfly Effect" จึงกระเทือนทั้งกระดานการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น