ผมกำลังสู้กับระบอบผูกขาดประชาธิปไตย

by Herogeneral on 2010-09-23 - 00:37 pm

Ref: ในความคิดคำนึง.....จะอยู่อย่างไร หากคนเสื้อแดงไม่เอา
ที่มาข้อมูล: prachatai-newspaper
ข้อมูลโดย: ใบมีดสีแดง (update Wed, 2010-09-22 18:56)

เมื่อราวต้นปี 51 ริมถนนเข้าตำบลหนึ่ง ในจังหวัดที่ผมอยู่ มีแผ่นป้ายติดริมทาง ขนาดไม่ใหญ่มาก เป็นรูปนายกทักษิณ พร้อมกับตัวอักษรเขียนด้วยลายมือว่า "กลับบ้านเถอะ คิดถึง" จำได้ว่าป้ายนั้นติดอยู่นานเป็นเดือน ดูแล้วคิดว่าคงเป็นป้ายที่ใครคนหนึ่งที่บ้านอยู่แถวนั้นทำขึ้นมาเอง
เมื่อเดือน พ.ย.ปี 51ในการชุมนุมใหญ่ที่สนามกีฬาหัวหมาก ผมใส่เสื้อแดงไปร่วม จำได้ถึงความรู้สึกตื่นเต้น ดีใจกับผู้คนที่มากมาย บรรยากาศสนุกสนาน เสียงอึกทึกมาก

แต่พอพลบค่ำ ในช่วงเวลาที่นายกทักษิณโฟนอินเข้ามาที่งาน ทุกคนนิ่ง บรรยากาศสงบเงียบ ผมเหลือบมองคนข้างๆผม ผมเห็นสองสามีภรรยาคู่หนึ่งวัยน่าจะประมาณหกสิบเศษท่าทางเป็นคนต่างจังหวัด ทั้งสองคนนั่งน้ำตาไหลตลอดเวลาที่นายกทักษิณพูด และเมื่อผมกวาดสายตาไปรอบๆ ก็รับรู้ได้ว่า หลายๆคนที่ผมเห็นรอบตัวก็คงรู้สึกไม่ต่างกับคุณลุงคุณป้าคู่นี้

เมื่อเดือนเมษา 52 ผมจำบรรยากาศการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้ เมื่อนายกทักษิณโฟนอินมา และพูดว่า หากกระสุนนัดแรกดังขึ้น เขาจะมานำประชาชนเดินเท้าเข้ากรุงเทพ ผมจำได้ถึงเสียงร้องเสียงปรบมือ เสียงตีนตบหัวใจตบที่ดังลั่น จำได้ถึงแววตาของคนเสื้อแดง ทั้งหมดมันสะท้อนถึงกำลังใจและพลังที่พลุ่งพล่านของผู้คนตอนนั้น

เดือนกรกฏาคมปี 52 ช่วงเวลาที่พวกเราล่ารายชื่อลงนามถวายฏีกา ขออภัยโทษให้กับนายกทักษิณ ที่ร้านอาหารที่เป็นที่พบปะกันเป็นประจำของคนเสื้อแดงในกลุ่มเรา และเป็นที่รู้ๆกันว่าเราจะเอาใบฏีกามาส่ง มารวมกันที่นี่ ผมจำได้ติดตา ถึงสายวันหนึ่ง ที่มีชาวบ้านสามคนพ่อ แม่และลูก รวมสามคน นั่งซ้อนกันมาบนรถเครื่องที่ดูเก่ามากๆ มาที่ร้านอาหารนั้ ในมือผู้เป็นพ่อ ถือกระดาษใบฏีกาที่ยับยู่ยี่ มาส่งให้กับผม ผมไม่รู้จักพวกเขา ถึงตอนนี้ก็จำหน้าไม่ได้ แต่จำคำพูดของคุณลุงที่ยื่นใบฎีกาให้กับผมได้อย่างดี ที่แกบอกว่า "ช่วยกันนะ ช่วยทักษิณเขา สงสารเขา"

วันที่ 30 ธันวา 52 ในที่ชุมนุมที่หน้าสภา หลังคำปราศรัยถามดินถามฟ้าของคุณณัฐวุฒิจบ ผมได้ไปนั่งคุยกับหนุ่มสาวสามีภรรยาคู่หนึ่ง สอบถามได้ความว่าบ้านอยู่แถววงเวียนใหญ่ กรุงเทพ อาชีพค้าขาย ขายของตามตลาดนัด ทั้งสองเล่าให้ฟังถึงความรัก ประทับใจในตัวนายกทักษิณ และที่สุดคือความคาดหวังว่าชีวิตการทำมาค้าขายของเขาจะดีขึ้น หากได้นายกทักษิณกลับมาบริหารประเทศ

หลังเหตุการณ์ 10 เมษา 53 ไม่นาน ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนั้น ที่ห้องผู้ป่วยโรงพยาบาล ผมได้พบกับผู้บาดเจ็บ เป็นชายหนุ่ม อายุยี่สิบเศษ มาจากภาคเหนือ มีอาชีพขายและซ่อมโทรศัพท์มือถือ เขาถูกยิงขณะที่ยืนอยู่บริเวณสี่แยกคอกวัว ในจุดไม่ไกลจากที่คุณวสันต์ ภู่ทองโดนยิงศรีษะ เขาโดนกระสุนเข้าที่ต้นคอด้านหลัง เข้าด้านซ้ายและทะลุออกด้านขวา เป็นปาฏิหารย์ที่กระสุนไม่โดนอวัยวะสำคัญอันใด

เขาเล่าว่า เขาเชื่อว่าที่รอดมาได้เพราะเขากำลังหันศีรษะไปด้านหลังและก้มศีรษะลงพอดีกับวินาทีที่กระสุนพุ่งเข้ามา เขาเล่าอีกว่า เขาเชื่อว่าที่วสันต์ โดนยิงเพราะถือธงโบกไปมา ทำให้ดูเป็นจุดเด่น ส่วนเขาที่ตกเป็นเป้าสังหารคงเป็นเพราะคนยิงคงส่องกล้องเห็นเสื้อที่เขาใส่ ผมถามเขาว่าเป็นยังไงหรือ เขาบอกว่า เป็นเสื้อยืดแดงธรรมดา แต่เขาเขียนข้อความว่า "ทักษิณ ไม่ใช่พ่อ แต่กูตายแทนได้" ก่อนกลับ เขายังบอกกับผมด้วยว่า เขาจะเก็บเสื้อยืดแดงตัวนั้นไว้ และรอวันที่จะได้พบนายกทักษิณและจะเอาเสื้อนี้ให้นายกทักษิณดู


ในช่วงการชุมนุมที่ราชประสงค์ เมื่อถึงวันท้ายๆ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ มีการใช้ความรุนแรงต่อเนื่องในหลายๆจุดติดต่อกัน แม้กระนั้น ยังมีความคิดความเชื่อในมวลชนคนเสื้อแดงบางส่วนว่า นายกทักษิณไม่ทิ้งพวกเรา ไม่ต้องกลัว นายกทักษิณได้ประสานทางต่างชาติไว้แล้ว หากมีการปราบรุนแรงเกิดขึ้น นายกทักษิณได้วางแผนแล้ว และจะมีทหารหรือกองกำลังฝ่ายเราออกมาช่วย .... สุดท้ายเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนสิ้นสุดลงพร้อมวันเดียวกับที่มีภาพนายกทักษิณจูงมือลูกสาวเดินช็อปปิ้งที่ร้านหลุยส์วิตอง กรุงปารีส

สัปดาห์ที่แล้ว นายกทักษิณก็ได้ออกทวิตเตอร์ขอร้องให้คนที่รักเขาได้เข้าใจในความจงรักภักดีที่เขามีต่อสถาบันว่ามากขนาดไหน และประณามคนที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันโดยให้เหตุผลว่าเพราะสถาบันอยู่เหนือการเมือง และขอเชิญชวนคนที่รักเขาเข้าร่วมขบวนจงรักภักดี

19 กันยา ที่ผ่านมา พวกเราคนเสื้อแดง ร่วมกันมีกิจกรรมรำลึก 4ปีรัฐประหาร 4 ปีราชประสงค์ ในหลายๆ สถานที่ ท่ามกลางบรรยากาศของการเขียนจดหมายและปล่อยลูกโป่งถึงฟ้า พร้อมกับวาทะกรรม "ตาสว่างทั้งแผ่นดิน" ว่ากันว่าในทุกๆ ที่ที่มีกิจกรรม การด่า สาปแช่ง กลุ่มคนที่คนเสื้อแดงเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการสังหารประชาชน ดังระงมไปทุกๆ ที่ และในวันเดียวกันนี้เอง ที่นายกทักษิณได้ทวิตเตอร์บอกให้ ร่วมกันเสียสละยอมกลืนความเจ็บปวดคนละนิด เริ่มกระบวนการปรองดอง

ถึงวันนี้ ผมคิดถึงคนหลายๆ คน

ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย ผมคิดถึงคนหลายๆ คน คิดถึงคนที่ลงแรงเอารูปนายกทักษิณมาติดข้างถนนและบอกให้กลับบ้านเถอะ คุณลุงคุณป้าที่ร้องไห้ตอนได้ยินนายกทักษิณโฟนอินที่สนามราชมังคลาฯ คิดถึงคนเสื้อแดงมากมายที่อยู่ในที่ชุมนุมรอบทำเนียบและโห่ร้องด้วยความดีใจเมื่อได้ยินเสียงนายกทักษิณว่าจะเดินเท้าเข้ากรุงเทพ คิดถึงครอบครัวที่ใช้รถเครื่องเก่าๆ ขี่ซ้อนสามมาส่งใบฏีกาให้ คิดถึงหนุ่มสาวที่อาชีพขายของตามตลาดนัดและมีความหวังว่าค้าขายจะดีขึ้น

คิดถึงชายหนุ่มที่รอดจากกระสุนทะลุที่คอได้ราวปาฏิหาริย์และตั้งใจเก็บเสื้อตัวที่ใส่ขณะโดนยิงที่เขียนว่า ยอมตายแทนได้ ไว้ให้นายกทักษิณดู และสุดท้าย ผมคิดถึง อีกเกือบร้อยศพ ที่เสียชีวิตไปจากคำสั่งอันโหดเหี้ยม ทั้งช่วงสลายการชุมนุมและจากการไล่ล่าหลังจากนั้น และผู้บาดเจ็บพิการอีกจำนวนมาก

และวันนี้ ผมไม่คิดถึงคุณทักษิณเลย

หากจะคิดก็เพียงสงสัยว่า ต่อแต่นี้ไปนายกทักษิณจะอยู่อย่างไรได้ หากคนเสื้อแดงเขาไม่เอาและไม่ยืนเคียงข้างนายกทักษิณอีกต่อไป.........
MORE COMMENT จาก FM
:- ใครจะปรองดองก็ปรองดองไป เราคนนึงแหละที่ไม่ปรองดอง เราจะสุ้ให้มันรุ้แพ้รุ้ชนะ ให้อิกฝ่ายนึงล่มสลายย่อยยับไปให้ได้ เพื่อเซ่นสังเวยวิญญาณพี่น้องเราที่ตายไปทุกชีวิต ถ้าทักกี้หักหลังปชช. ไม่รุ้จักเข็ดในการถุกจ้าวมันหลอก ยังอยากจะจงรักภักดีดีต่อไป เราก็ไม่เอาทักกี้เหมือนกัน

:-มีความเป็นไปได้สูง...โดยเฉพาะข้อความในทวิตเตอร์ครั้งล่าสุดเป็นการทำร้ายจิตใจกันอย่างแรงเพราะสิ่งที่ท่านเรียกร้องนั้นมันเป็น " สุญญากาศ"
ไปแล้วไม่รู้จะไปตามเอาที่ไหนกลับคืนมา !!!

:- ก็อย่าคิดมากและสนใจเลยครับพวกเราก็ต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อหาความเป็นธรรมอย่ายึดติดกับคนๆเดียวเลยครับ

:-เลิกคิดแล้วคร้า... ขอบคุณนะคะ คุณ vvv ใช่เราต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อหาความเป็นธรรม

:-เราเป็นคนนึงที่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อทักษิณ แต่เราต่อสู้เพราะไม่ชอบ 2 มาตรฐาน เราไม่ชอบระบอบที่เป็นอยู่ เราอยากเห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เราอยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า โดยที่ไม่ต้องมีทหารเข้ามาดำเนินการหรือบงการรัฐบาล ทักษิณก็เป็นคนนึงที่เราเห็นว่าทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เจริญรุ่งเรือง นานาอารยประเทศต่างให้ความสำคัญกับไทย

แต่ ถ้านายกคนต่อไปไม่ใช่ทักษิณและหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้คนๆนั้น ทำงานให้ได้ตามนโยบาย พาประเทศมุ่งไปข้างหน้า ไม่ใช่ถอยหลังลงคลองอย่างทุกวันนี้ ทักษิณเขาก็มีชีวิตของเขา จะเดินห้างช๊อปปิ้งก็เรื่องของเขา เขาสามารถทำได้ตามสภาพ เราเองก็ยังเดินช๊อปปิ้งในเมืองไทยเหมือนกันตามสภาพของเรา แต่เราก็ยังมีใจมุ่งมั่นที่อยากจะได้ประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้น

:-หัวใจของการต่อสู้ คือ ควานหายุติธรรม ให้กับสังคมไทย (ที่ถูกปล้นไปโดยทหานและ แมลงสาปชป) ทักษิณ และเสื้อแดง ถ้ามีใจตรงกัน เราร่วมกัน เราไม่แยกว่าเขาคนนั้นจะชื่ออะไร เราไม่ทอดทิ้งกันแม้แต่คนเดียว

:-ผมกำลังสู้กับระบอบผูกขาด ที่คนไม่กี่กลู่มครองมานาน เอารัดเอาเปรียบพี่น้องสูบเลือดเราตลอดมาและฝ่ายที่ต่อต้านหรือเป็นฝ่ายชูคอร้องป่าวรักษาระบอบนี้ ผมถือเป็นศัตรูกับฝ่ายประชาธิปไตยที่ให้ความเสมอภาคกับทุกๆคนสิทธิ์ที่เท่าเทียมกันแม้จะเป็นลูกนายดำนายแดงหรือลูกไอ้บอด เราต่อสู้กับชนกลู่มนี้

:-ผมกำลังสู้กับระบอบผูกขาดประชาธิปไตย ที่กลู่มคนจำนวนหนึ่งผูกขาดการเป็นเจัาของ และฝ่ายที่ต่อต้านหรือเป็นฝ่ายชูคอร้องป่าวรักษาระบอบนี้ผมถือเป็นศัตรูกับฝ่ายประชาธิปไตย(ที่ต้องมีสิทธิ์และความเป็นคนเสมอกันในทุกๆด้าน)

;-เห็นด้วยค่ะ ... รวยกระจุกจนกระจายเราไม่เอา
ระบบผูกขาดต้องถูกยกเลิก ทุกคนต้องอยู่ภายได้กฏหมายเดียวกัน สิทธิ์ในความเป็นมนุษย์ต้องเท่าเทียมกันถึงจะเรียกได้ว่า เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ทักษิณ…โปรดเลิกเลียนแบบสันดานเสื่อมๆ ของเทวดาทราม

ที่มาข้อมูล: ไทยอีนิวส์(UPDATE วันพฤหัสบดี, กันยายน 23, 2010)
Ref: เวบบล็อกกฤดิกร โดย กฤดิกร วงศ์สว่างพานิช

ในวันที่ 19 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา ได้มีการรณรงค์ และจัดสัมมนาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันเป็นโศกนาฏกรรมระดับชาติ ในฐานะวันครบรอบ 4 ปีการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และ 4 เดือนการสังหารโหดคนเสื้อแดง 91 ศพ

แต่ในวันเดียวกันนั้นเองก็ได้มีอีกเหตุการ์เกิดขึ้นนั่นก็คือการทวีตข้อความของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร สรุปความคร่าวๆ ว่า “19 กันยานี้ หันมาปรองดองกันเถอะ”

ผมทราบดีว่ามีความพยายามอย่างมากทั้งของแกนนำบางส่วน และตัวทักษิณเองที่จะอธิบายว่าตัวของทักษิณนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงในฐานะพลังเบื้องหลัง

แต่เราย่อมทราบกันดีว่าในทางปฏิบัติแล้วมันไม่ใช่ความจริง ต่อให้เราทำเป็นเชื่อไปเลยว่าทักษิณไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวใดๆ ในทางวัตถุ และเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเสื้อแดงเพียงในแง่ของอุดมการณ์ และกำลังใจ แต่แม้จะเพียงเท่านั้น เราก็ไม่อาจจะปฏิเสธถึงฐานะทางสัญญะ และพลังทางการเมืองของทักษิณ ที่มีต่อมวลชนเสื้อแดงได้

เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าแท้จริงแล้วมีมวลชนเสื้อแดงหลายกลุ่มต่อสู้เพื่อทักษิณ เพื่อเรียกร้องให้ตัวทักษิณได้กลับมา

ผมเองแม้ไม่ได้นิยมอะไรในตัวทักษิณเป็นพิเศษ แต่ผมเองไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับการเรียกร้องเพื่อตัวทักษิณ หรือมาเข้าร่วมชุมนุมเพียงเพราะคนเพียงคนเดียว ตามที่หลายคนมักกล่าวอ้าง

ชาวบ้านจะมาชุมนุมเรียกร้องเพื่อคนเพียงคนเดียวแล้วมันผิดตรงไหน ไม่ดีอย่างไร เปล่าเลยไม่ผิด ในทางตรงกันข้าม ผมมองเสมอว่าแม้ชาวบ้านจะมาเรียกร้องเพื่อทักษิณเท่านั้น ไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลย ก็เป็นการเรียกร้องที่ชอบธรรมอยู่ดี เพราะทักษิณคือคนที่พวกเค้าเลือก

แต่กลุ่มอำนาจนิยมเก่าไม่ยินยอมกลับมาล้ม ไล่ทักษิณไป เค้าก็มาเรียกหาคนที่เค้าเลือกกลับคืน ไม่ได้ผิดอะไรตรงไหน แสดงถึงกระแสความมีอิสระในการเลือกการปกครองด้วยตนเอง (Self-Determination) เสียด้วยซ้ำ

พูดง่ายๆ ว่าผมไม่มีปัญหาเลยหากใครจะรักชอบพอทักษิณอะไร หรือเรียกร้องเพื่อทักษิณโดยเฉพาะ

เช่นเดียวกัน ในการต่อสู้เรียกร้องของมวลชนเสื้อแดงที่ผ่านมา และเกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และจิตวิญญานไปมากมาย เราไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าผู้ที่สูญเสียเหล่านั้น มีมากมายที่สู้เพื่อทักษิณทั้งโดยตรง และในฐานะองค์ประกอบหนึ่งของข้อเรียกร้อง มวลชนผู้สูญเสียที่กำลังเรียกร้องหาความเป็นธรรม (หากมันจะบังเอิญมีสิ่งนี้ในประเทศนี้) จากการพยายามสู้เพื่อทักษิณ (ทั้งทางตรง และทางอ้อม)

กลับถูกทักษิณบอกแบบภาษานิ่มๆ แต่แปลความได้ว่า “ช่างหัวความเป็นธรรมมันเถอะ แล้วไปจับมือกับคนที่ฆ่าลูก ฆ่าผัว ฆ่าเมียมึง”

ผมอยากจะบอกว่า หากมันมีมาตรฐานที่จะวัดความชอบธรรมอะไรได้ ผมอยากจะบอกว่าทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในคนสุดท้ายในโลกนี้ ที่มีความชอบธรรมที่จะพูดออกมาว่า “จงปรองดอง” ครับ

เมื่อเร็วๆ นี้ผมเพิ่งเขียนด่า พาดพิงถึงนิธิ xxxว่า ใฝ่ต่ำทางการเมืองอย่างมาก

แต่ผมอยากจะพูดว่าสิ่งที่ทักษิณทำนั้น เป็นความใฝ่ต่ำ โสมมมากกว่าที่นิธิทำ ชนิดที่ว่าประเมินไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะคนไม่ได้ไปตายเพื่อนิธิ แต่มีคนที่ต้องไปตายเพื่อทักษิณครับ! นี่คือความหน้าด้าน ดัดจริต ตอแหล ไร้ยางอายอย่างที่สุด!

ผมขอบอกว่าสิ่งที่ทักษิณกำลังทำอยู่นี้คือ การทำตัวเลียนแบบสันดานถ่อยๆ ของเทวดาใจทราม (นี่เป็นคำด่าที่แรงที่สุดที่ผมจะนึกออกแล้ว) มันเหมือนกับหลายเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ที่เทวดาก่อความรุนแรง แล้วสุดท้ายก็มาบอกว่าลืมๆ ไปเถอะ ปรองดองกันๆ รักกันๆ

ผมทราบดีว่ายังมีมวลชนอีกมากมายที่ยังคงรักทักษิณ และ/หรือ นโยบายของทักษิณอยู่ ซึ่งผมไม่เคยคิดจะบอก และจะไม่บอกให้ท่านเลิกรัก เลิกคิด หรือข้ามพ้นอะไรพวกนี้ด้วย ท่านอยากรักสิ่งเหล่านี้ และเรียกร้องเพื่อสิ่งเหล่านี้ต่อไป ย่อมมีความชอบธรรมสัมบูรณ์ที่จะทำ และเป็นเช่นนั้น

แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ท่านจะรักของท่านก็จงรักไป แต่โปรดอย่าให้ความรักนั้นกลายมาเป็นเขตแดน หรือกำแพงศักดิ์สิทธิ์ต่อการวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิ ตักเตือน เมื่อเราเห็นว่ามันคือการกระทำที่ผิดเลย ในขณะที่มวลชนเสื้อแดงกำลังพยายาม “Humanize เทวดา (ทำเทวดาให้เป็นคน)” ก็โปรดอย่าส่งเสริม หรือปล่อยให้มีการ “Divinize คน (ทำคนให้เป็นเทวดา)” เลย อย่าให้ทักษิณ divinize ตัวเค้าเอง โดยท่านนิ่งเฉย


สุดท้าย ผมขอเรียกร้องว่า หากทักษิณยังคิดจะเป็นคนอยู่ เป็นมนุษย์อยู่ จงแสดง Accountability ต่อการกระทำนี้เสีย (ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถชดเชยได้หมด) ไม่เช่นนั้น หากคุณปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่มี Accountability ใดๆ มันย่อมสื่อชัดเจน ถึงการ (พยายาม) กลายเป็น “เทวดา” ของคุณเอง

ด้วยความเคารพ

ปล. ผมยังคงเหลือความโกรธในใจมากมายทีเดียว แต่ไม่สามารถคัดกรองมาเขียนได้หมด บอกได้แต่ว่า “ทุเรศจนเขียนไม่ออกจริงๆ”