เรียกสอบ - ร.อ.ธรรมนัส พรหม เผ่า หรือผู้กองมนัส เข้าให้ปากคำกับตร.ชุดคลี่คลายคดีระเบิดบิ๊กซีราชดำริ และซอยรางน้ำ เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ที่ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่บช.น.
ตร.สอบผู้กองตุ๋ย หาข้อมูลระเบิด พบ"ผู้ต้องสงสัย" เผ่นกบดานเขมร พี่สาว-เป็นพยาน
ตร.เรียกสอบ "ผู้กองตุ๋ย" กับผู้ต้องหาคดีคาร์บอมบ์แม้ว ขอข้อมูลคดีระเบิดกรุงทั้งที่ราชดำริ-รางน้ำ ส่วนคิวต่อไปเป็น"เสธ.หิ"และ"เสธ.ตี๋"คนดังคดีคาร์บอมบ์เช่นกัน ผบช.น.ยันผู้ต้องสงสัยอยู่เขมร ดีเอสไอเรียกพี่สาวมาเป็นพยานให้ปากคำ ชี้หากได้ข้อมูลชัดพร้อมขอหมายจับทันที เผยอยู่ในกลุ่มลูกน้องเสธ.แดง ขณะที่ลูกสาวเสธ.แดงออกโรงโวย มาโยงกับพ่อทั้งๆที่เสียชีวิตไปแล้ว จะวางแผนหรือสั่งการได้อย่างไร ฮึ่มฟ้องเรียกศักดิ์ศรีคืนให้พ่อ ด้าน"บิ๊กจิ๋ว"ปฏิเสธวุ่นไม่มีความคิดป่วนเมือง หลังมีข่าวคนแก่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ส่วน"สุเทพ"ปัดไม่รู้เกี่ยวกับเสธ.แดงหรือไม่ ให้ไปถามตร.เอาเอง
-ผบช.น.ชี้มือบึ้มอยู่เขมร
ความคืบหน้าคดีระเบิดกรุง 2 จุดซ้อน เมื่อวันที่ 2 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวว่า หลังจากชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีระเบิดนำโดย พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ10) ได้พยานหลักฐาน ทั้งนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลแล้ว ซึ่งหน้าที่ออกหมายจับนั้นเป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษเจ้าของสำนวน ขณะนี้ได้ประสานมาแล้วจะขอพยานน.ส.ปฏิภัค หรือเป็ด เอกอภิวัชร์ ไปสอบปากคำ และผู้ต้องหาที่เหลือ 2-3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ไล่ล่าติดตามจับกุม เท่าที่รู้ตอนนี้มีอยู่ 2 คน ที่เข้าๆ ออกๆ อยู่ที่ชายแดนเขมร
-โยงถึงหลายคดีก่อนหน้า
ถามว่าการเปิดเผยข้อมูลจะทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวทันแล้วหลบหนีออกเขมรหรือไม่ พล.ต.ท. สัณฐาน กล่าวว่า จริงๆ แล้วการเปิดเผยก็เพื่อให้สังคมช่วยกันดูแล เพราะเวลามันไปแล้วเข้ามาถ้าเรารู้จักหน้า รู้จักตัว ช่วยกันแจ้งเบาะแสให้ตำรวจจับกุม และจับได้หมดไม่ว่าจะเข้าทางจังหวัดศรีสะเกษ ทางไหนจับได้หมด ซึ่งวันนี้คงจะไปขออนุมัติหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีความเกี่ยวโยงกับวินรถตู้ด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า คดีนี้โยงถึงคดีที่จับกุมคนร้ายปาระเบิดหน้าธนาคารกรุง เทพ สาขาสีลม จากการสืบสวนเชิงลึกทราบว่าพ่อ ของผู้ต้องหา และใครๆ ต่างก็เป็นแก๊งรถตู้หมดเลย อีกทั้งหนึ่งในนั้นก็หน้ามาตรงกับคนร้ายคนหนึ่งที่นำรถมาจอดไว้ที่อพาร์ตเมนต์ริมน้ำ หน้า ตาตรงกันหมดเลย ฉะนั้นกลุ่มนี้เชื่อมโยงกันไปหมดอย่างน้อย 3-4 คดีเราก็รู้ว่าผู้ต้องหาคือใคร
-มั่นใจเป็นคนสนิทเสธ.แดง
ถามต่อว่า แสดงว่ามีความเชื่อมโยงกับแกนนำด้วย พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า แน่นอนพวกนี้คงไม่ทำเอง ตนไม่เชื่อว่า พวกนี้ประกอบวัตถุระเบิดเป็นต้องมีคนทำให้ ถามว่ายังมั่นใจว่าเป็น กลุ่มที่มีความสนิทสนมกับ เสธ.แดง ผบช.น. ตอบว่า "ผมมั่นใจ" ถามอีกว่า มีหลักฐานอะไรยืนยันว่า เชื่อมโยงกับเสธ.แดง พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า จากคดีระเบิดที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม ก็รู้ว่าเป็นกลุ่มไหนใกล้ชิดกับใคร ตรวจสอบ ถึงโทรศัพท์เราก็รู้ เหตุระเบิดที่ซอยรางน้ำยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ เพราะดูจากวงจรระเบิดแล้วคนละแบบกัน ส่วนคนร้ายที่ใช้จักรยานยนต์ชนิดที่ตรงกับที่นำมาก่อเหตุ กำลังตรวจสอบเพราะระยะกล้องวงจรปิดมันห่างต้องให้ผู้เชี่ยว ชาญดูก่อน
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวด้วยว่า วันนี้จะมีผู้ที่จะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดซึ่งจะมีวันละ 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในวงการบางท่านอาจจะรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตา และมาคุยกัน เรียกว่า ขอให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมทำหน้าที่ มาพูดมาคุยกันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ มีทั้งคนมีสีและไม่มีสีทั้งทหารและตำรวจ
-"ธาริต"ชี้เกี่ยวก่อการร้าย
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึง ความคืบหน้าการสอบสวนคดีหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ และคดีระเบิดหน้าห้างคิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ ว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (2 ส.ค.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะ นำข้อมูลและพยานปากสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวมามอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อร่วมกับพนักงานอัยการพิจารณาหลักฐานและสำนวนคดีในการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ซึ่งการสอบสวนในชั้นตำรวจ พบว่า วงจรระเบิดเป็นรูปแบบเดียวกับระเบิดในพื้นที่สน.โคกคราม ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีก่อการร้ายอยู่แล้ว ดังนั้น คดีระเบิดห้างบิ๊กซี จึงมีความเกี่ยวโยงกับคดีก่อการร้ายและดีเอสไอจะรับโอนเป็นคดีพิเศษ
-บช.น.เรียกสอบผู้กองตุ๋ย
วันเดียวกันพล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พร้อมด้วยพล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รอง ผบช.น. เรียกประชุมพนักงานสอบสวน และเชิญผู้ที่คาดว่าจะมีข้อมูลมาให้ปากคำรวม 6 คน พล.ต.ต. สุเมธ กล่าวว่า การเรียกตัวมาวันนี้ เพื่อขอข้อ มูลที่เป็นประโยชน์กับคดีระเบิดที่ผ่านมา เบื้องต้นเดินทางมาให้ข้อมูล 2 คน เหลืออีก 4 คนจะทยอยมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากนี้ก็จะทยอยเชิญตัวมาสอบปากคำทุกคน เป็นล็อตๆ ไปจนกว่าจะหมด โดยมีจำนวนประมาณเกือบ 40 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่มา 2 คนแรก คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองมนัส หรือผู้กองตุ๋ย ผู้ดูแล บริษัท ลีเกิ้ลฯ ซึ่งได้สัมปทานจากการท่าเรือให้ดูแลตลาดคลองเตย และร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชนะ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีคาร์บอมบ์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐ มนตรี ท้องที่ สน.บางพลัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.) และพนักงานสอบสวน ร่วมสอบถามข้อมูล
-อ้างแค่คุยกันเรื่องบ้านเมือง
ต่อมาร.อ.ธรรมนัส เดินทางออกจากห้องประชุมปารุสกวัน 2 เข้าพบพล.ต.ท.สัณฐาน ผบช.น. และปิดห้องพูดคุยเป็นการส่วนตัวใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัส ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ไม่มีอะไร ผู้หลักผู้ใหญ่ อยากให้มาแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ส่วนเรื่องที่คุยก็เป็นเรื่องสถาน การณ์บ้านเมืองทั่วไป ถามว่ารู้สึกติดใจหรือไม่ที่อยู่ดีๆ ก็ถูกเชิญตัวมาให้ข้อมูล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เพราะทางผู้หลักผู้ใหญ่ให้เกียรติมาก และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากมายส่วนใหญ่คุยเรื่องทั่วไป
ถามว่าตำรวจอาจมองว่า บริษัท ลีเกิ้ลฯ อาจเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มีประเด็นนี้ คุยแค่เรื่องสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งก็ให้ข้อมูลเท่าที่รู้ ส่วนใหญ่ก็ไม่มี โดยหลังจากออกมาทำธุรกิจก็ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจมากกว่า เรื่องข่าวบ้านเมือง เรื่องต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีข้อมูล แค่เวลาบริหารธุรกิจตัวเองก็แทบไม่มีอยู่แล้ว
 |
| จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน |
-"เสธ.หิ-เสธ.ตี๋"จ่อคิว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับอีก 2 คนที่จะมีคิวเดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจในวันที่ 3 ส.ค. นี้ คือพ.อ.สุรพล สุประดิษฐ์ หรือเสธ.ตี๋ สังกัดกอ.รมน. 1 ใน 4 ผู้ต้องหาในคดีคาร์บอมบ์ และพ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ อดีตนายทหารชื่อดังมีชื่อพัวพันกับคดีระเบิดห้างเทสโก้โลตัส ในช่วงปี พ.ศ.2544 และนอกจาก 2 คนนี้แล้วตำรวจมีหนังสือยังเชิญอีก 3-4 คนมาสอบถามแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับระเบิดด้วย
-รับตัวพี่สาวผู้ต้องสงสัย
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโน โลยีและสารสนเทศ รับตัวน.ส.ปฏิภัค หรือเป็ด เอกอภิวัชร์ พี่สาวนายธนเดช หรือไก่ เอกอภิวัชร์ ซึ่งระบุว่าเป็นลูกน้องพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง มาสอบสวนขยายผลคดีระเบิด หน้าห้างบิ๊กซี ถนนราชดำริ ในฐานะพยาน โดย น.ส.ปฏิภัค เดินทางมาดีเอสไอ พร้อมกับมารดามีสีหน้าที่วิตกกังวล พนักงานสอบสวนดีเอสไอจะร่วมกับอัยการคดีพิเศษ สอบปากคำน.ส.ปฏิภัค หากคำให้การมีน้ำหนักเพียงพอ ไม่ต้องสอบหาพยานหลักฐานเพิ่ม จะนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับนายธนเดช และพวกจากศาลต่อไป
นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอ จะนำตัวน.ส. ปฏิภัค เข้าสู่โครงการคุ้มครองพยานของดีเอสไอ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
-สุเทพไม่รู้-โยงเสธ.แดง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดในกทม.ที่ตำรวจระบุผลสืบสวนพบว่าเชื่อมโยงกับพล.ต.ขัตติยะ ทำให้สังคมเกิดความสงสัยว่าปรักปรำผู้เสียชีวิตหรือไม่ว่า เรื่องนี้ต้องถามจากตำรวจ ไม่ได้ลงไปในรายละเอียด แต่สั่งการไปว่าเมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้น เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องระดมผู้ที่มีความสามารถด้านการสืบสวนสอบสวนเข้ามาทำงานและต้องจับกุมคนร้ายให้ได้ นอกจากนั้นต้องปรับปรุงเรื่องการข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของรัฐทุกหน่วยต้องเกาะติดทุกกลุ่มที่อยู่ในข่ายน่าสงสัยว่าจะเป็นผู้ทำระเบิดหรือวางระเบิดเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ให้เกิดเหตุร้ายทำให้ประชาชนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
-เผยเล็งคนแก่หลายคนพัวพัน
เมื่อถามว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) สรุปเกี่ยวกับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่สรุปสำนวนคดีได้เร็วทะลุปรุโปร่ง นายสุเทพ กล่าวว่า เขาต้องทำหน้าที่ของเขา เมื่อถามถึงกรณีมีข้อสังเกตว่าบช.น.ไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมสถานการณ์หรือไม่ เพราะขณะนี้ภาวะฉุกเฉินในกทม.หมดไปแล้ว แต่ยังมีเหตุ การณ์เกิดขึ้น จึงเป็นข้ออ้างที่ต้องคงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้ได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เป็นอีกเรื่อง แต่การตัดสินใจเป็นของฝ่ายนโยบาย
เมื่อถามถึงพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ระบุกรณีเหตุป่วนในกทม.หลายครั้งอาจมีคนแก่อยู่เบื้องหลังด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้ถามว่าแก่ขนาดไหน ต่อข้อถามว่าไม่สงสัยบ้างหรือว่าหมายถึงใคร นายสุเทพ กล่าวว่า เล็งคนแก่อยู่หลายคน แต่ไม่ทราบ ไม่กล้าพูด จนกว่าจะมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เมื่อถามว่าเกรงว่าสำนวนคดีจะถึงคนแก่หรือไม่ เพราะมีความพยายามจะพูดถึงคนแก่แต่ไม่มีใครยอมออกมาเปิดเผยตัว รองนายกฯ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เดี๋ยวคนแก่ทนไม่ได้ก็ออกมาพูดเอง
-มทภ.1 วอนประชาชนช่วย
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพฯและปริมณฑลว่า กองทัพภาคที่ 1 และกอ.รมน.ภาค 1 ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บช.น. ช่วยเหลือสนับสนุนในการส่งกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น เราคาดคิดแล้วว่าจะมี แต่ไม่สามารถระบุตำแหน่งชัดเจนได้ จึงเป็นสิ่งที่หน่วย ความมั่นคงทั้งตำรวจและทหารกังวลเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ยืนยันกำลังพลได้รับนโยบายจากพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พยายามทำให้เกิดความปลอดภัย ดังนั้นเราจะดูแลในสิ่งเหล่านี้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งในภาวะที่เกิดขึ้นอยากขอให้ประชาชนช่วยกันสังเกต การนั่งอยู่ป้ายรถเมล์หรือที่ใดในชุมชน หากมีอะไรผิดสังเกต อย่าปล่อยนิ่งหรือนิ่งเฉย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ถึงแม้จะเป็นข้อสงสัยใช่หรือไม่ใช่ก็ตามแต่แจ้งเป็น การป้องกันและเพื่อความปลอดภัย
-ส่งทีมสห.ร่วมป้องกันเหตุ
เมื่อถามว่ามาตรการป้องกันสถานที่สัญลักษณ์ ทางการเมือง พล.ท.คณิต กล่าวว่า ขณะนี้มีสายตรวจร่วมของสารวัตรทหาร 3 เหล่าทัพ ร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดในการดูแล เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือก สุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ. อยากให้การข่าวเข้มข้นมากขึ้น พล.ท. คณิต กล่าวว่า เรื่องนี้ได้รับนโยบายโดยตรงและได้รวบรวมของประชาคมข่าวนั้นเพื่อดำเนินการให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน ส่วนการข่าวของกองทัพภาคที่ 1 เป็นแค่ส่วนหนึ่งของประชาคมข่าว
-ลูกเสธ.แดงโวยโยนบาป
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือน้องเดียร์ ลูกสาวพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีความพยายามนำบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่หน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ และหน้าโรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ มาเชื่อมโยงถึงเสธ.แดงว่า ที่ผ่านมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อไปหลายครั้งแล้วว่า พล.ต.ขัตติยะ หรือพ่อแดง ไม่สามารถที่จะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร พยายามที่จะออกมาระบุให้เหตุการณ์มีความเชื่อมโยงถึง พล.ต.ขัตติยะ รวมถึงการออกหมายจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดว่า เป็นลูกน้องเสธ.แดง
-ตายแล้วไปเกี่ยวได้ยังไง
"อยากถามกลับว่า บุคคลเหล่านั้นที่นำมาเชื่อมโยงกับพ่อ เชื่อมโยงกันได้อย่างไร และเป็นลูกน้องคุณพ่อจริงๆ หรือไม่ เพราะทั้งหมดที่ถูกระบุ เดียร์ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก และพ่อก็ไม่สามารถออกมายืนยันไม่ได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นลูกน้องคุณพ่อ อีกทั้งคุณพ่อเสียไปแล้วจะเป็นคนวางแผนและสั่งการให้คนเหล่านั้นไปวางระเบิดได้อย่างไง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเวลาที่เกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร มักพยายามนำชื่อคุณพ่อแดงไปเชื่อมโยงให้ถึง ซึ่งไม่รู้ว่าเพื่อต้องเอาผลงานเอาหน้าหรือเพื่อปิดคดีให้ได้ ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายเลิกโยนความผิดให้คนตายเสียที" ลูกสาวเสธ.แดงกล่าว
-ฮึ่มฟ้องปกป้องศักดิ์ศรี
น.ส.ขัตติยา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่เชื่อมโยงถึง เสธ.แดง เราในฐานะลูกสาว ของเสธ.แดง ที่ใช้นามสกุลสวัสดิผล ก็จะตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะหากเป็นคนที่บริโภคสื่อและเข้าใจก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากคนที่เสพสื่อและไม่เข้าใจ เราก็ได้รับความเสียหาย ทำให้คนเข้าใจผิดในตัวคุณพ่อรวมถึงตัวเราเองด้วย ทั้งนี้คุณพ่อก็ได้รับความเสียหายโดยตรงและออกมาชี้ แจงไม่ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะเริ่มคิดทบทวนประ มวลเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าคุณพ่อได้รับความเสียหาย และเสียชื่อเสียงอย่างไรบ้าง รวมทั้งจะปรึกษาผู้ใหญ่ว่าจะดำเนินการอย่างไร และเมื่อถึงเวลาอาจจะต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของคุณพ่อให้กลับคืนมา
-บิ๊กจิ๋วยันไม่เกี่ยวป่วนเมือง
ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงตำรวจสืบสวนสอบสวนเหตุบึ้มป่วนในกทม. พยายามเชื่อมโยงถึงเครือข่ายของพล.ต.ขัตติยะ ล่าสุดตำรวจได้เรียกทีมรักษาความปลอดภัยของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย สอบสวนเพื่อเชื่อมโยงถึงคนแก่ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตอาจหมายถึงพล.อ.ชวลิตว่า "จะโยงถึงผมเลยหรือ ถ้าโยงถึงก็ใจร้ายเกินไป"
เมื่อถามว่าคนแก่ที่พล.ต.ท.สัณฐาน ผบช.น. ระบุเป็นคนที่คิดร้ายกับประเทศเป็นใคร พล.อ. ชวลิต กล่าวว่า คงไม่ใช่ตน เพราะตนเพิ่งแค่ 21 เองอีก 21 ปีจะถึงร้อย เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่าขณะนี้ถูกรัฐบาลไล่บี้คนรอบข้างเพื่อโยงมาถึงตัวพล.อ.ชวลิต ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อย่าไปว่าเขาเลย รัฐบาลคงไม่ได้คิดร้ายขนาดนั้น แต่อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ส่วนสถานการณ์ บ้านเมืองขณะนี้ คิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอย่าคิดมาก
-เหลิมป้องจิ๋ว-โต้กล่าวหา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อ ไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ ระบุถึงสาเหตุ สถานการณ์ไม่สงบในบ้านเมืองเพราะมีชายสูงอายุที่เกี่ยวพันกับพรรคเพื่อไทยเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ว่า ต้องถามว่ามีอายุนี่อายุขนาดไหน เมื่อถามว่าคิดว่าหมายถึงพล.อ.ชวลิต หรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ก็ตีความไปได้ แต่คนอย่างพล.อ. ชวลิต นี่หรือที่จะไปเกี่ยวข้อง ก็กล่าวหากันไป ท่านออกจะเป็นคนประนีประนอม หรืออย่างพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย หรืออยากให้ตนบอกว่าตั้งแต่เหตุการณ์ปฏิวัติ 19 ก.ย. ที่มีเผาโรงเรียน ระเบิดที่นั่น ที่นี่ เป็นฝีมือใคร ของอย่างนี้เขารู้กันหมด นาย สุเทพ นี่ตั้งแต่เป็นรองนายกฯรู้อะไรดีเกือบทุกเรื่อง มีที่ไม่รู้ก็คือเรื่องตัวเอง
Ref: ข่าวสดรายวัน
วันที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7187 หน้า 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น