วันศุกร์, กรกฎาคม 23, 2553

Reuters: Thousands gather for Thai "red" rally before vote

จาก อัลบั้มReuters

BANGKOK (Reuters) - Supporters of Thailand's main opposition party rallied in Bangkok on Friday in the first big political gathering since a deadly military crackdown on anti-government protesters two months ago.

At least 4,000 massed at a theme park ahead of a pivotal Bangkok by-election in a defiant show of support for a detained "red shirt" protest leader representing the Puea Thai Party, the movement's powerful parliamentary arm.

Supporters dressed in red braved the rain to rally in spite of a state of emergency in place across a quarter of the country since fierce fighting, arson and deadly riots in May that marked the worst political violence in Thailand's modern history.

The gathering was the latest sign of rebellion by "red shirt" supporters who have been driven underground by a draconian emergency decree that has allowed swathes of arrests without charge, bans on public gatherings and broad media censorship.

Illegal demonstrations by "red shirts" have taken place at the upscale Rachaprasong intersection they had occupied in downtown Bangkok to draw attention to the 90 people who died and 2,000 who were wounded during the clashes between soldiers and protesters in April and May.

DETAINED CANDIDATE
The government allowed the campaign rally to take place to ensure fair play ahead of Sunday's vote, although the Puea Thai candidate, Korkaew Pikulthong, remained in detention.

"For the liberty of the people, the equality of the public, democracy in Thailand and for the world to know that Thai people hate injustice, vote number four -- Korkaew," a party member said on stage, reading a hand-written letter by Korkaew.

Korkaew is one of 12 senior "red shirt" figures being held on terror charges having been denied bail. Others have fled into hiding, some pledging to turn themselves in when the state of emergency is lifted.

Both Puea Thai and the "red shirts" are believed to be led by Thaksin Shinawatra, the self-exiled, graft-convicted former billionaire premier ousted in a 2006 coup by the royalist, pro-establishment army.

He has been accused by the government of ordering the riots and bankrolling protests that shut down Bangkok's commercial heart for seven weeks in pursuit of immediate elections.

While not expected to win the by-election in Bangkok, a traditional stronghold of the incumbent Democrat Party, Korkaew's campaign highlights the resilience of the pro-Thaksin movement and the deepening social and political divisions that have plagued Southeast Asia's second-biggest economy for five years.

The "red shirts" have said they will not return to the streets any time soon, but many of their supporters say they are ready to resume protests if called upon.

They are hoping to ride a wave of public discontent and feelings of injustice and disenfranchisement to ensure Puea Thai win the next election and power is returned to another pro-Thaksin populist party.


ref: Thousands gather for Thai "red" rally before vote
By Chalathip Thirasoonthrakul
BANGKOK | Fri Jul 23, 2010 10:04am EDT
(Writing by Martin Petty; Editing by Andrew Marshall)
-----------------------------------------------------------------

จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน

โค้งท้าย - พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ช่วยนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครเลือก ตั้งซ่อม เขต 6 กทม. หาเสียงช่วงโค้งสุด ท้าย บริเวณลานจอดรถสวนสยาม มีคนร่วมฟังนับหมื่น เมื่อเย็นวันที่ 23 ก.ค.

ก่อแก้วตีตื้น โพลชี้แรงปลายจี้"พนิช"

หาเสียงโค้งท้ายคึกคัก ปชป.-พท.ซัดนัวซื้อเสียง "มาร์ค"พักหยุดยาว3วัน หอบลูก-เมียเที่ยวเกาะ

โค้งท้าย - พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ช่วยนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครเลือก ตั้งซ่อม เขต 6 กทม. หาเสียงช่วงโค้งสุด ท้าย บริเวณลานจอดรถสวนสยาม มีคนร่วมฟังนับหมื่น เมื่อเย็นวันที่ 23 ก.ค.

"ก่อ แก้ว"อดออกจากเรือนจำมาหาเสียงโค้งสุดท้าย กกต.ปัดข้อเสนอเพื่อไทยร้องช่วยประสานราชทัณฑ์ปล่อยตัวชั่วคราว ทำได้แค่เขียนจ.ม.ฝากออกมาขอให้เลือกเบอร์ 4 "พนิช"ทิ้งทวนปล่อยขบวนรถแห่ 12 คันโหมเก็บคะแนน ฟุ้งปชป.ไม่เคยซื้อเสียง กกต.-บช.น.พร้อมแล้วรับเลือกตั้งซ่อมวันอาทิตย์ "มิ่งขวัญ"เปิดเพื่อไทยแถลงโต้ข่าวจับมือ"พายัพ"น้องแม้วยึดหัวหน้าพรรค แต่พร้อม เป็นนายกฯหลังเลือกตั้งครั้งหน้าถ้าส.ส. สนับสนุน ยก"เหลิม"เป็นพี่ที่ดีไม่มีปัญหากัน ทีมกฎหมายปชป.เตรียมปรับเพิ่มพยานสู้คดียุบพรรค ทบ.ตรวจรับเรียบร้อย"เรือเหาะ"ฉาว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงประสิทธิภาพและความโปร่งใส

จาก อัลบั้มสวนสยาม3 โดยคำเกิ่ง แห่งทุ่งหมาหลง

เสริมรปภ.ดูแล"มาร์ค"เดินสาย

เมื่อ เวลา 08.30 น.วันที่ 23 ก.ค.ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดค่ายศิลปะเพื่อมนุษย์ "Art for All : ศิลปะ กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต" จากนั้นเวลา 09.30 น. นายกฯมาบันทึกเทปรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของหน่วยรปภ. และตำรวจที่ระดมกำลังมาเสริมจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดินทางมาถึงนายกฯเข้ากราบนมัสการพระธรรมโกศาจารย์ เจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะภาค 2 จากนั้นถวายผ้าไตร เทียนพรรษา และเครื่องไทยธรรม เนื่องในวันเข้าพรรษา ขณะที่พระธรรมโกศาจารย์มอบพระพุทธนาค พระพุทธรูปจำลององค์พระประธานประจำวัด พร้อมหนังสือและวีซีดีชีวิตและผลงานของพระธรรมโกศาจารย์แก่นายกฯ รวมทั้งมอบพระสมเด็จจี่ พระเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 3 สร้างเมื่อปี 2371 ซึ่งมีการขุดกรุเมื่อปี 2550

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างบันทึกรายการ นายอภิสิทธิ์ตอบคำถามพิธีกรถึงสิ่งที่อยากขอจากประชาชนในวันเข้าพรรษาว่า เราได้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มามาก มาถึงตรงนี้คิดว่าทั้งตนและประชาชนน่าจะใช้เวลาช่วง 2-3 เดือนข้างหน้ามานั่งคิดดูว่าอยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร มั่นใจว่าทุกคนอยากให้เดินไปข้างหน้า ดังนั้นเราต้องเริ่มจากตัวเองโดยไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ขัดแย้งกัน เพราะถ้าปล่อยให้ทุกอย่างแบ่งแยกก็ไม่มีใครได้ประโยชน์ ทั้งนี้ตนทำหน้าที่ของตัวเอง มีสติและพยายามทบทวนตลอดเวลาโดยมีความ ปรองดองเป็นเป้าหมายสูงสุด เมื่อบ้านเมืองกลับเข้าสู่ความปรองดองแล้ว สิ่งที่เป็นเป้าหมายคือปรารถนาให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความสงบสุข มีศักดิ์ศรีโดยไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ขัดแย้งก็จะเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจได้

เจอป้าย"มีคนตายที่ราชประสงค์"

"ผม อยากให้แต่ละคนคิดเอง แต่ไม่ใช่คิดว่าตัวเองจะได้อะไร แต่อยากให้คิดว่าบ้านเมืองจะได้อะไรมากกว่า" นายกฯกล่าว และว่า ที่ผ่านมาหลักอดทนอดกลั้นและการมีสติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตนเชื่อในเรื่องเหตุผล เวลาทำอะไรต้องมีเหตุผลรองรับและอธิบายได้

หลัง บันทึกเทปรายการ นายกฯเข้ากราบพระประธานในพระอุโบสถ ก่อนเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ระหว่างที่ขบวนรถของนายกฯเลี้ยวออกจากซุ้มประตูวัด มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อลายดอกสีขาว กางเกงยีนส์ ชูป้ายกระดาษขนาดใหญ่ เขียนข้อความว่า "มีคนตายที่แยกราชประสงค์" เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกันชายคนดังกล่าวออกไป

หยุดยาวพาครอบครัวไปเสม็ด

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯเดินทางกลับมาถึงทำเนียบ ได้บันทึกเทปปราศรัยเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2553 ใช้เวลา 15 นาที ต่อมาเวลา 12.00 น.นายกฯพร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เดินทางมายังบริษัท สารสู่อนาคต จำกัด ย่านคลองเตย ที่ทำการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เพื่อหารือแนวทางและรับฟังความคิดเห็นในการปฏิรูปสื่อกับผู้บริหาร ไทยโพสต์ ซึ่งหนังสือ พิมพ์ดังกล่าวเตรียมหูฉลามเลี้ยงอาหารกลางวันแก่คณะนายกฯ

รายงาน ข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ช่วงหยุดยาวระหว่างวันที่ 24-26 ก.ค. นายอภิสิทธิ์จะพาครอบครัวไปพักผ่อนที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เป็นการส่วนตัว โดยเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ก.ค. นายกฯจะไปที่ช่อง 11 เพื่อบันทึกรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" จากนั้นจะเดินทางไปเกาะเสม็ดพร้อมครอบครัว ซึ่งสาเหตุที่ไปเกาะเสม็ด เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ หากมีเหตุอะไรเกิดขึ้นจะได้กลับมาทันที

"สามสี"โยน"เทือก"คุมโหวตงบ

เมื่อ เวลา 12.00 น.ที่สำนักงานพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีเสียงโหวตผ่านงบประมาณในสภาอาจปริ่มน้ำว่า เสียงของรัฐบาลจะปริ่มหรือไม่ ไม่ใช่งานของตน เป็นงานของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต้องสำรวจดูว่าส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลยังมั่นคงมากน้อยแค่ไหน

ผู้สื่อ ข่าวถามว่าห่วงหรือไม่ว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณอาจไม่ผ่านสภา นายไตรรงค์กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด แต่ต้องคิดว่ามันผ่านอยู่แล้ว ตนทำงานเหนื่อยเกือบตายก็ต้องมั่นใจว่ามันผ่านอยู่แล้ว เมื่อถามว่ามีแผนสำรองหรือไม่หากเสียงโหวตมีปัญหา นายไตรรงค์กล่าวว่า ต้องถามนายสุเทพ เพราะตนไม่มีหน้าที่คุมคะแนน แต่ส.ส.พรรคร่วมควรโหวตให้งบผ่าน เพราะถ้าไม่ผ่าน ต้องใช้งบเก่า หากเป็นเช่นนั้นงบลงทุนต่างๆ ก็ทำไม่ได้ ประเทศก็จอด ไม่ก้าวหน้า ซึ่งผู้แทนฯต้องรับผิดชอบ

ด่าส.ส.บ้าหรือเปล่ายกมือตามเงิน

เมื่อ ถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าช่วงโหวตงบฯเสียงของส.ส.จะมีมูลค่า จะต้องจ่ายเงินเพื่อให้ยกโหวต นายไตรงรงค์กล่าวว่า ใครจ่ายตนไม่รู้ ทำไมต้องจ่าย เมื่อถามว่าหากเสียงส.ส. ปริ่มน้ำมาก อาจเป็นช่องว่างให้เกิดการต่อรองภายในพรรคร่วม นายไตรงรงค์กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นหน้าที่ส.ส.ต้องยกให้รัฐบาล ประชาชนเลือกมาให้ทำหน้าที่ก็ต้องทำ ทำไมต้องมาต่อรอง ถ้าอย่างนั้นจะมาเป็นส.ส.ทำไม สมองไม่มีหรืออย่างไรถึงต้องยกมือตามเงิน บ้าหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเป็นส.ส.

ต่อข้อถามว่าเสียงรมต.ไม่สามารถโหวต ได้จะมีผลต่อเสียงโหวตหรือไม่ นายไตรงรงค์กล่าวว่า ทำไมจะโหวตไม่ได้ ยืนยันว่าตนจะโหวตและถ้าใครจะฟ้องก็เชิญให้ไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญได้เลย ตนสอนกฎหมายเรื่องนี้อยู่ ใครที่ไม่เข้าใจกฎหมาย อย่ามาพูดมั่ว และขอแนะนำให้รมต.โหวตได้ทุกคน ยกเว้นเป็นการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯที่โหวตไม่ได้ เพราะเป็นผลประโยชน์โดยตรงกับตน

"ผมยกมือให้กับงบประมาณแผ่นดินผิด ตรงไหน เพราะต้องดูแลให้มีงบใช้ หากผิดก็ว่ามาเลยให้ศาลบอกมาจะได้เจ๊งกันทั้งประเทศ ยืนยันว่ามันไม่ผิด หากฟ้องศาลรัฐธรรมนูญผมมั่นใจว่ามันไม่ผิด" นายไตรรงค์ กล่าว

ทุกเสียงมีค่าให้รมต.โหวตงบ

นาย วิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมวิปรัฐบาลเพื่อขอให้เปลี่ยนแปลงมติวิปรัฐบาลที่ ห้ามมิให้รมต.ที่เป็นส.ส.ลงมติในพ.ร.บ.งบประมาณและกฎหมายสำคัญ เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยให้ความเห็นว่ารมต.สามารถลงมติได้ เนื่องจากรมต.ไม่ได้เกี่ยวข้องในผลประโยชน์นั้น หากพรรคเพื่อไทยคัดค้าน สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ และการที่วิปรัฐบาลจะแก้ไขประเด็นนี้ไม่ใช่เพราะเกรงว่าเสียงของรัฐบาลจะ เพลี่ยงพล้ำ แต่เป็นเพราะกฎหมายที่ผ่านมาเพื่อป้องกันนายกฯคนเก่าที่แอบแฝงผลประโยชน์

ปชป.ป้อง"ธาริต"โดนถล่มหนัก

ด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคแปลกใจที่แกนนำพรรคเพื่อไทยดาหน้าออกมาถล่มการทำงานของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ว่ากดดันศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเห็นว่าดีเอสไอทำงานตามกระบวนการปกติ และไม่แปลกใจที่มีการสรุปคดีไซฟ่อนเงินของทีพีไอช่วงนี้ เพราะคดีย่อยซึ่งเป็นคดียุบพรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล รัฐธรรมนูญแล้ว

นายสกลธีกล่าวต่อว่า การกระทำของแกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรค และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค จะเข้าข่ายหมิ่นเหม่ขัดรัฐธรรม นูญมาตรา 266 หรือไม่ โดยมาตรานี้ห้ามส.ส. ก้าวก่ายการทำงานของราชการ หากกระทำผิดจะมีโทษ พ้นจากการเป็นส.ส. โดยเรื่องนี้พรรคจะนำไปพิจารณาว่าจะมีช่องทางการดำเนินการอย่างไร ขณะเดียวกันนายธาริตในฐานะที่ถูกพาดพิงก็มีสิทธิฟ้องร้องเองได้

ขู่พท.โดนยุบพรรคแฮตทริก

นาย สกลธีกล่าวอีกว่า พรรคขอสนับสนุนอธิบดีดีเอสไอตั้งกรรมการสอบสวนว่าพนักงานสอบสวนชุดเก่าทำคดี อย่างมีนอกมีในและเอื้อให้ฝ่ายการเมืองโจมตีพรรคคู่แข่งหรือไม่ หากพบว่ากระทำผิดจริง โทษจะถึงกับยุบพรรค หากยุบพรรคจริง จะถือเป็นการยุบพรรคครั้งที่สามถือเป็นการทำแฮตทริก จึงอยากเตือนพรรคเพื่อไทยระวังด้วย

ขณะที่น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีพรรคเพื่อไทยสร้างกระแสขอให้นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ประกันตัวออกมาหาเสียงในช่วงสุดท้ายว่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยเพื่อขอคะแนนสงสาร เพราะรู้อยู่แล้วว่าการส่งบุคคลที่ถูกตั้งข้อหาและถูกคุมขังย่อมไม่สามารถหา เสียงได้ตามปกติ แต่หากไม่ได้รับเลือกตั้งก็จะอ้างเหตุผลว่าไม่สามารถหาเสียงได้ เพราะถูกจองจำอยู่

เตรียมพร้อมพยานสู้ยุบพรรค

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ทีมกฎหมายสู้คดียุบพรรค กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เตรียมข้อมูลอย่างคร่ำเคร่ง วันที่ 27 ก.ค.นี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมาย นัดประชุมทีมกฎหมายก่อนตรวจพยานหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวันที่ 28 ก.ค. โดยจะพิจารณาถึงรายชื่อพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุว่าพร้อมหรือไม่ จะปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ เพื่อให้ได้ข้อสรุป หากเห็นว่าต้องเพิ่มพยานจะต้อง เตรียมรายชื่อไป แต่ต้องอยู่ที่ศาลด้วยว่าจะเปิดให้เพิ่มพยานได้อีกหรือไม่ ถ้ายึดหลักตามคดีการถือครองหุ้นของส.ส.และ ส.ว.จะพบว่า ในวันนัดตรวจพยานหลักฐานศาลอนุญาตให้เพิ่มพยานได้ แต่ต้องกระทำในวันเดียวกัน

นายวิรัตน์กล่าวว่า พยานบุคคลที่พรรคยื่นต่อศาลไปแล้ว จะมีอดีตกรรมการบริหารพรรคขณะนั้น เช่น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายถาวร เสนเนียม เป็นต้น ส่วนรายชื่อพยานบุคคลนอก เช่น ตัวแทนบริษัทที่รับทำป้ายโฆษณาเพื่อมาแก้ข้อกล่าวหาว่าได้ทำป้ายโฆษณาจริง

ผู้ สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ถูกกล่าวหาว่าบริษัทที่ทำป้ายโฆษณาเป็นบริษัทผีจะชี้ แจงอย่างไร นายวิรัตน์กล่าวว่า พรรคจ้างบริษัทเมซไซอะทำโฆษณา ซึ่งในส่วนนี้อาจต้องนำพยานวัตถุไปแสดง ต้องดูก่อนว่าวันที่ 28 ก.ค.ที่ศาลนัดนั้นต้องแบกป้ายโฆษณาหาเสียงขนาด 1.30 เมตร คูณ 2.40 เมตร ไปแสดงต่อศาลเลยหรือไม่ ไม่ใช่บริษัทผี ส่วนบริษัทเมซไซอะจะไปทำสัญญาอะไรกับบริษัททีพีไอนั้น พรรคไม่ทราบ

กล่าว ถึงการนำส.ส.ประชาธิปัตย์เข้าให้ปากคำนัดแรกคดีถือครองหุ้นสื่อและสัมปทาน รัฐของ 12 ส.ส.ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า มีแนวโน้มที่ดี พยายามชี้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.ดำเนินการโดยไม่ครบตามเงื่อนไขของรัฐ ธรรมนูญ เช่น การเอาผิดการถือครองหุ้นสื่อสารตามมาตรา 48 ทั้งที่ในมาตราดังกล่าวหากมีการถือครองหุ้นก่อนเป็นส.ส.หรือ ส.ว.หรือถือครองหุ้นจำนวนไม่มาก โดยไม่มีโอกาสเข้าเป็นเจ้าของหรือบริหารงานหรือได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.อย่างเปิดเผยแล้ว รัฐธรรมนูญจะไม่เอาผิด รวมถึงการถือครองหุ้นสัมปทาน กำหนดว่าจะต้องมีลักษณะผูกขาด แต่การถือครองของส.ส.ไม่ได้ผูกขาด เมื่อ กกต.เห็นแค่ว่าเป็นหุ้นสัมปทานหรือหุ้นสื่อสารก็ชี้ว่าผิดเลย ดังนั้นการเข้าให้ปากคำวันนี้ถือว่าชี้แจงได้อย่างชัดเจน

ป.ป.ช.เดินหน้าสอบที่ดิน"เทือก"

ที่ สำนักงานป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนเรื่องกล่าวหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ถือครองที่ดินบนเขาแพง ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมิชอบ ซึ่ง ป.ป.ช.ชุดใหญ่เป็นองค์คณะไต่สวนว่า ป.ป.ช.แยกเรื่องกล่าวหาดังกล่าวออกเป็น 2 ประเด็น เรื่องแรกเกี่ยวกับการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน เนื่องจากกล่าวหาว่านายสุเทพให้ลูกชาย คือนายแทน เทือกสุบรรณ ถือทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดินดังกล่าวไว้แทน มีสำนักตรวจสอบทรัพย์สินรับผิดชอบ เริ่มเดินหน้าตรวจสอบทรัพย์สินนายสุเทพไปแล้ว เรื่องที่สองเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเขาแพงโดยมิชอบ มีสำนักปราบปรามการทุจริตรับผิดชอบ มีทีมงานที่เชี่ยวชาญการตรวจสอบปัญหาที่ดินดำเนินการ

กกต.ปัดช่วยขอ"ก่อแก้ว"ออกคุก

วัน เดียวกันที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธานกกต.กทม. กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 6 กทม.วันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค.นี้ว่า กกต.กทม.พร้อมเต็มที่ โดยจัดอบรมเจ้าหน้าที่และกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งในเรื่องการใช้สิทธิ์ ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง รวมถึงการวินิจฉัยบัตรเลือกตั้งต้องถูกต้องและเที่ยงธรรมตามมาตรฐาน คาดว่าเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 25 ก.ค.จะได้ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ จากนั้นเมื่อได้ผลคะแนนอย่างเป็นทางการแล้วจะส่งให้กกต.กลาง รับรองผลการเลือกตั้งภายใน 30 วันต่อไป

พล.ต.ต.สุเทพกล่าวอีกว่า ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นหนังสือขอกกต.กทม.เป็นตัวกลางประสานกรมราชทัณฑ์ ให้ปล่อยตัวนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ออกมาหาเสียงเลือกตั้งช่วง 2 วันสุดท้ายนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของกกต. แต่เป็นอำนาจของศาล เนื่องจากนายก่อแก้วถูกคุมขังคดีก่อการร้าย ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้พรรคเพื่อไทยจะอ้างถึงกรณีกกต.กทม.ประสานขออัดเทปเสียงของนายก่อแก้วออก มาหาเสียงได้ แต่กรณีนี้กฎหมายรองรับให้ กกต.กทม.อำนวยความสะดวกเรื่องการหาเสียงให้กับผู้สมัครทุกพรรคอย่างเท่า เทียมกัน ดังนั้นกกต.กทม.จึงทำหนังสือตอบพรรคเพื่อไทยแล้วว่าไม่สามารถประสานกรม ราชทัณฑ์ได้

"ก่อแก้ว"เขียนจม.หาเสียงทิ้งทวน

พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวถึงการดูแลเลือกตั้งซ่อมว่า ตำรวจต้องวางตัวเป็น กลาง ขณะนี้สั่งการให้ตำรวจ 1 ราย ยศด.ต.ในพื้นที่บก.น.3 เข้ามาประจำบช.น. และอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากมีการร้องเรียนเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลาง โดยมีญาติของผู้สมัครคนหนึ่งร้องเรียนมา จึงกำชับเจ้าหน้าที่วางตัวเป็นกลาง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำเช่นกัน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เข้มแข็งและหน้าที่จะสิ้นสุดลงก็ เมื่อส่งหีบบัตรเลือกตั้งเสร็จสิ้น ถือว่าทำหน้าที่เรียบร้อย คาดว่าการเลือกตั้งซ่อมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เวลา 13.30 น.นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย เขียนจดหมายด้วยลายมือฉบับสุดท้าย เป็นข้อความสั้นๆ ในโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ฝากคนใกล้ชิด นำข้อความส่ง เอสเอ็มเอสไปยังสื่อมวลชน เพื่อฝากช่วยเผยแพร่ โดยระบุว่า "เพื่อเสรีภาพของประชาชน เพื่อความเสมอภาค และเท่าเทียมของคนไทย เพื่อประชาธิปไตย ช่วยกันประกาศให้โลกรู้ว่าคนไทยเกลียดความอยุติธรรม เลือกหมายเลข 4 ก่อแก้ว"

พท.โวยบิ๊กกทม.ไม่เป็นกลาง

ที่พรรค เพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ผอ.เลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 6 เขต พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวหลังจากพรรคเพื่อไทยส่งหนังสือไปยังกกต.ขอให้ประสานหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องปล่อยตัวนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครของพรรคว่า พรรคพยายามยื่นประกันตัวนายก่อแก้วมาตลอด จนระยะหลังเปลี่ยนจากยื่นประกันตัวด้วยจำนวนทรัพย์ไปเป็นตัวบุคคล 5 คน หรือเป็นส.ส.ก็ได้เพื่อให้นายก่อแก้วออกมาหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ล่าสุดกกต.มีหนังสือส่งกลับมายังพรรคแล้ว ระบุว่าไม่สามารถดำเนินการตามคำร้องขอได้ เพราะไม่มีกฎหมายใดๆ ระบุไว้ ที่ผ่านมากกต.ประสานไปยังกรมราชทัณฑ์เพื่ออนุญาตให้นายก่อแก้วบันทึกเสียง เพื่อใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงแล้ว

นายวิชาญกล่าวอีกว่า พรรคเป็นห่วงเรื่องการซื้อเสียงซึ่งวันนี้ทราบข่าวว่ามีการจดชื่อและเลขที่ บัตรประจำตัว 13 หลักของคนงานใน 4 เขตของกทม. ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้ง เป็นที่น่าสงสัยว่ามีวัตถุประสงค์อะไร อย่างไรก็ตาม ในเขตหนึ่งมีการย้ายคนขับรถขยะให้ไปอยู่หน้าห้องฝ่ายปกครอง เนื่องใช้เวลานอกราชการไปช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียง แต่กทม.กลับไม่ดูเลยว่ามีผอ.เขตหลายคนที่ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง เร็วๆนี้จะลาออกจากราชการเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งส.ก.ด้วย เรื่องนี้ทำให้เห็น 2 มาตรฐานอย่างชัดเจน

"มิ่ง"โต้ผนึกน้องแม้วขึ้นหน.พท.

ที่ พรรคเพื่อไทย นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน แถลงข่าวการร่วมมือกับนายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะประธานภาคอีสาน และกลุ่มทุนนอกพรรคเพื่อเตรียมขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคว่า ไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น การสัมมนาร่วมกับส.ส.อีสาน ตนเป็นวิทยากรเหมือนที่เคยบรรยายกับทุกภาค ไม่มีปัญหาอะไร ยืนยันว่าไม่เคยคิดเป็นหัวหน้าพรรค เพราะนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว ที่สำคัญรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า นายกฯต้องเป็นส.ส. ไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง

กรณีมีข่าวตนไปบรรยายว่ารัฐบาลจะยุบสภาเดือนส.ค.นั้น คงยาก ยังมีหลายเรื่องที่รัฐบาลต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ อาทิ การผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยเฉพาะแม่ทัพนายกองให้แล้วเสร็จ เรื่องอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ อาทิ หากพ.ร.บ.งบประมาณไม่ผ่าน นายกฯต้อง ลาออกแล้วอาจยุบสภาก็ได้ รวมทั้งเหตุการณ์ทั้งหลายไม่ว่าการพิจารณาเรื่องคุณสมบัติส.ส. เรื่องยุบพรรค สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยได้ทั้งสิ้น

นายมิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ตนประเมิน ส.ส.ในเลือกตั้งครั้งต่อไปว่าจะได้ 270 เสียง ก็เป็นการวิเคราะห์ อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2551 ประเมินว่าพรรคพลังประชาชนได้ส.ส. 230 เสียง สุดท้ายได้ 233 เสียง สมัยพรรคไทยรักไทยเคยทำได้ถึง 377 เสียง ดังนั้นตัวเลข 270 จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ตนเน้นย้ำกับส.ส.ว่าหากต้องการได้เสียงถึง 270 ต้องลงไปหาประชาชน เร่งลงพื้นที่ได้แล้วเท่านั้น

แต่ถ้าส.ส.หนุนก็พร้อมนั่งนายกฯ

ผู้ สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ นายมิ่งขวัญกล่าวว่า หากที่ประชุมส.ส.เห็นว่าควรเป็น ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ แต่ขอความกรุณาอย่าไปออกข่าวว่าตนกระสันหรือทุรนทุราย อยากเป็นนั่นเป็นนี่ เพียงแต่บอกว่าถ้าส.ส.ไว้วางใจก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อถามคิดอย่างไรกับการถูกระบุว่าเป็นนักรบห้องแอร์ นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ก่อนมาเล่นการเมือง ตนผ่านงานหลายอย่าง งานของตนคือนักยุทธศาสตร์ ต้องเก็บข้อมูล หาข้อมูลจากคนเยอะ ถ้านั่งอยู่แค่ห้องแอร์ คงทำให้ราคาข้าวเปลือกสูงถึง 1.4 หมื่นบาทต่อเกวียนตอนเป็นรมว.พาณิชย์ไม่ได้ ตนทำงานเก็บข้อมูลตลอด แต่ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็น หรือพูดจาอะไร เพราะต้องการให้รัฐบาลทำงานเต็มที่ เมื่อถึงเวลาแสดงความคิดเห็น ตนจะออกมาเอง

เมื่อถามว่าส.ส.เรียกร้องให้แสดงบทบาทมากกว่านี้ นายมิ่งขวัญกล่าวว่า สมัยเป็นรองนายกฯ เป็นรมต. จะปรากฏอยู่ในสื่อตลอด แต่เมื่อสถานะเปลี่ยน บทบาทเปลี่ยน ต้องถอยออกมา เพื่อให้รัฐบาลทำงานเต็มที่ ส่วนบทบาทที่จะดำเนินการต่อไปอยู่ที่เวลาและความเหมาะสม สำหรับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส. ถือเป็นพี่ เป็นส.ส.ที่น่ารัก เจอหน้ากันก็ยิ้มแย้ม วันก่อนยังวิ่งไล่กอดตนอยู่ ไม่มีอะไรที่จะไปขัดแย้งกับร.ต.อ.เฉลิม

"ตู่"เบิกความ"มาร์ค"ฟ้องหมิ่น

เมื่อ เวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นโจทก์ ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ฐานหมิ่นประมาท กรณีวันที่ 13 ม.ค.2552 นายจตุพรแถลงที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหานายอภิสิทธิ์กระทำการมิบังควรตีตนเสมอ พระเจ้าแผ่นดิน โดยนั่งเก้าอี้เทียบเสมอพระเจ้าแผ่นดินในการถวายรายงานราชการ

นายจตุ พรเข้าเบิกความด้วยตนเอง สรุปว่าวันแถลงข่าวดังกล่าว จำเลยเป็นส.ส.พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งนายกฯถือเป็นบุคคลสาธารณะที่สามารถ วิพากษ์วิจารณ์ได้ สาเหตุที่แถลงข่าวนั้นเนื่องจากรับไม่ได้ที่นายกฯ กระทำการมิบังควร เพราะในอดีตนายกฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งประธานศาลฎีกา ต่างคุกเข่าและหมอบกราบในการถวายรายงานราชการทั้งสิ้น ขณะที่จำเลยรู้สึกว่าการฟ้องคดีของนายอภิสิทธิ์ครั้งนี้ ตั้งใจทำลายความน่าเชื่อถือในการต่อสู้ของจำเลยเท่านั้น นอกจากนี้นายจตุพรยังเบิกความกล่าวเปรียบเทียบการทำบุญประเทศของพ.ต.ท. ทักษิณ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามด้วยว่า เคยถูกแกนนำกลุ่มพันธมิตรวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ภายหลังนายจตุพรเบิกความเสร็จ ศาลนัดสืบพยานจำเลยปากอื่นต่อไป

วาดฝันพาเพื่อนรายงานตัวสภา

จาก นั้นนายจตุพรกล่าวว่า พรรคมั่นใจว่านายก่อแก้วชนะเลือกตั้ง จากการลงพื้นที่ทราบว่าประชาชนตื่นตัวไปใช้สิทธิ์จำนวนมาก และเป็นประวัติศาสตร์ที่ผู้ลงสมัครยังอยู่ในเรือนจำ ส่วนโพลบางแห่งระบุคะแนนนายก่อแก้วเป็นรองนั้น ไม่หนักใจ ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจะทนไม่ได้แล้วลงคะแนนเลือกนายก่อแก้วเอง หากนายก่อแก้วได้รับเลือกตั้ง พรรคจะมอบหมาย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ และส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย นำตัวออกจากเรือนจำเพื่อมารายงานตัวที่รัฐสภา วันที่ 1 ส.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสภา

"แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและคณะกรรมการบริหาร พรรครู้ดีว่านายก่อแก้วจะไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม เพราะคดีก่อการร้ายที่ได้รับเป็นคดีทางการเมือง" นายจตุพร กล่าว

ลำพูนทำบุญใหญ่วันเกิด"แม้ว"

นาย สงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันที่ 26 ก.ค.ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดพ.ต.ท.ทักษิณ มวลชนเสื้อแดงจะจัดพิธีทำบุญที่วัดพระธาตุหริภุญชัย เวลา 09.30 น. เริ่มด้วยพิธีสืบชะตาหลวงแบบล้านนา ตามด้วยพิธีเจริญพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงานและเลี้ยง เพลพระสงฆ์ สามเณร 99 รูป ซึ่งการทำบุญวันเกิดพ.ต.ท.ทักษิณ ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยจัดมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เป็นปีที่ 3 จากนั้นวันที่ 29 ก.ค.เวลา 08.30 น.ที่พระธาตุหริภุญชัย กลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ร่วมเหตุ การณ์วัดปทุมวนาราม จะจัดพิธีทำบุญ ฟังเทศน์ อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิตและเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่ในเหตุการณ์

นายสงวนกล่าวด้วยว่า งานทั้งสองวันเป็นกิจกรรมของมวลชนคนเสื้อแดง ซึ่งพ.ต.ท. ทักษิณรับทราบในเรื่องดังกล่าวแล้ว

ศาลรธน.นั่งบัลลังก์คดีหุ้นส.ส.-ส.ว.

เมื่อ เวลา 10.00 น.คณะตุลาการศาลรัฐธรรม นูญ นำโดยนายชัช ชลวร ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานนัดแรกกรณีประธานรัฐสภาเสนอเพื่อพิจารณาคุณสมบัติ ของส.ส.และส.ว.ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 กรณีถือหุ้นในกิจการสื่อ และมาตรา 265 เรื่องการถือหุ้นสัมปทานรัฐหรือไม่ คดีนี้มีผู้ถูกร้องจำนวนมาก แยกเป็นส.ว. 16 คน และส.ส. 19 คน ทำให้ห้องพิจารณาคดีที่จัดไว้แบบเดิมไม่เพียงพอ ศาลต้องจัดพื้นที่ในห้องพิจารณาใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดเดิมผู้ที่ต้องมาให้การในฐานะพยานของผู้ถูกร้องวันนี้มีชื่อนาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. แต่นายอภิชาตไม่มาให้เหตุผลว่าติดราชการสำคัญ แต่ทำบันทึกคำให้การไว้ แต่ผู้ร้องยังติดใจทำให้ประธานกกต. ต้องมาเป็นพยานด้วยตนเองในการไต่สวนพยานนัดถัดไป ขณะที่พ.ต.อ.วรกร ทิมาตฤกะ ผอ.สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 4 ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการไต่สวนหุ้นส.ส.ของกกต. ศาลให้เลื่อนการไต่สวนออกไป เนื่องจากผู้ร้องทำบันทึกถ้อยคำไม่ละเอียด

จาก นั้นศาลรัฐธรรมนูญเริ่มกระบวนการไต่สวน โดยเบิกตัวพ.ต.ท.ธนบดี พ่วงจินดา ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการไต่สวนกรณีของส.ว. ของกกต. มาให้ถ้อยคำ พ.ต.ท.ธนบดียืนยันว่าทำหน้าที่เพียงบันทึกถ้อยคำและรวบเอกสารต่างๆ ตามที่คณะอนุกรรมการต้องการ และโดยตำแหน่งผู้ช่วยไม่มีสิทธิลงคะแนนออกเสียง

ทนายซักมุ่งกกต.ชี้ไม่ชอบ

ขณะ ทนายผู้ถูกร้องซักค้านมุ่งชี้ให้ศาลเห็นว่า การดำเนินการและมีคำวินิจฉัยของกกต.คดีนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาทิ อ้างว่าระเบียบกกต. ว่าการด้วยการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 2550 ที่ใช้ในการตั้งกรรมการไต่สวนอาจไม่ชอบ เพราะระเบียบดังกล่าวออกมาสำหรับพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส. ส.ว. เท่านั้น ไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดให้นำมาพิจารณาเรื่องคุณสมบัติส.ว.ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าคณะกรรมการไต่สวนไม่ได้ดำเนินการตามมติของกกต. ที่ให้แสวงหาข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน อาทิ ก่อนอนุกรรมการฯลงมติมีกฎหมายชัดเจนแล้ว เช่น พ.ร.บ.พลังงานปี 2532 ที่ให้ยกสัมปทานบริษัท สหโคเจน นอกจากนี้ยังมีพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานปี 2550 ที่ให้เปลี่ยนแปลงการถือสัมปทานมาเป็นใบอนุญาต หรือกรณีบริษัทไทยคม ที่กกต.วินิจฉัยว่าเป็นบริษัทต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 เนื่องจากประกอบธุรกิจสื่อนั้น อนุกรรมการฯทราบหรือไม่ว่าบริษัทที่จะประกอบธุรกิจสื่อตามมาตรา 48 ต้องได้รับใบอนุญาตจากกทช. แต่บริษัทไทยคมไม่เคยได้รับใบอนุญาต อีกทั้งไม่ได้เป็นคู่สัญญาหลักกับรัฐ เพราะคู่สัญญาหลักเป็นกระทรวงคมนาคมและบริษัทชินวัตร

นัดหน้าถึงคิวปธ.กกต.แจง

ทนาย ยังชี้ให้เห็นอีกว่า การดำเนินการของอนุกรรมการไต่สวนไม่ถูกต้องหลายขั้นตอน อาทิ ไม่มีการแจ้งให้ผู้ถูกร้องทราบว่า ใครร่วมเป็นอนุกรรมการบ้าง และหนังสือเชิญมาชี้แจงที่มาถึงผู้ถูกร้องก็ไม่ระบุว่า จะให้ชี้แจงในหุ้นตัวใดบ้าง แต่กลับแนบบัญชีการถือหุ้นที่ผู้ถูกร้องยื่นต่อป.ป.ช. ไปให้ทั้งหมด และยังพบว่ามีการออกหนังสือเชิญผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำ ก่อนที่กกต.จะมีมติมอบเรื่องดังกล่าวให้อนุกรรมการดำเนินการสืบสวนสอบสวน และไม่มีการให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาบางคนขอเลื่อนเข้าชี้แจง รวมถึงไม่ให้โอกาสผู้ถูกร้องรับทราบคำชี้แจงของบริษัทที่ถูกกล่าวหา นอกจากนี้ทนายของผู้ถูกร้องยังติดใจว่า เหตุใดเมื่อคณะอนุกรรมการมีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 ให้ยกคำร้องกรณีดังกล่าว แต่กกต. กลับมีมติให้เสนอต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติ แต่พ.ต.ท.ธนบดีไม่สามารถตอบในเรื่องดุลพินิจได้ ต้องรอนายอภิชาตมาให้การนัดหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการไต่สวนพยานนัดต่อไปวันที่ 6 ส.ค. โดยได้ให้นายอภิชาต และพ.ต.อ.วรกรที่ไม่ได้มาชี้แจงวันนี้เข้าชี้แจงในวันดังกล่าว และตามกำหนดเดิมวันดังกล่าวจะไต่สวนนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตส.ส.ร. ในฐานะนักวิชาการด้านกฎหมาย

กองทัพซื้ออาวุธใครอิ่ม

เมื่อ เวลา 14.00 น.พรรคเพื่อไทย จัดเสวนาหัวข้อ"ช็อปแสนล้าน ซื้ออาวุธกลาโหม ใครอิ่ม" โดยน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. กล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงอื่นๆ สภามีอำนาจตรวจสอบได้หมด ยกเว้นกระทรวงกลาโหม เนื่องจากอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง ที่ผ่านมาโครงการต่างๆ ของกระทรวงกลาโหมเกิดข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใสบ่อยครั้ง

น.อ.อนุ ดิษฐ์กล่าวว่า ล่าสุดได้รับข้อมูลความผิดปกติโครงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ 16 ลำ มูลค่า 1,200 ล้านบาท สมัยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผบ.ทบ. เพื่อนำมาใช้ฝึกหัดบิน โดยบริษัทผู้ยื่นซองประมูลและผ่านคัดเลือก คือบริษัทเอลซอนของอเมริกา ซึ่งกองทัพส่งให้รมว.กลาโหมลงนามเรียบร้อยและส่งกลับมายังกองทัพเพื่อทำ สัญญา แต่ปรากฏว่าบริษัทผู้ยื่นซองประมูลรายอื่นยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางว่าไม่ โปร่งใส ซึ่งศาลปกครองกลางประทับรับฟ้องเพราะคดีมีมูล ทำให้การเซ็นสัญญาต้องชะลอไปจนกว่าศาลจะตัดสิน

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวอีก ว่า จากข้อมูลที่ได้รับ เฮลิคอปเตอร์ที่จะจัดซื้อ 16 ลำ ไม่ใช่เฮลิคอป เตอร์ทางการทหาร แต่เป็นเฮลิคอปเตอร์ใช้ในการเกษตร เช่น พ่นยา เนื่องจากมีราคาถูกกว่าเครื่องทหาร ซึ่งอันตรายสำหรับผู้ใช้งาน ตนจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

จับตากมธ.โยกงบเอื้อประโยชน์

วัน เดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า กรณีคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.) ท้องถิ่นและจังหวัด ในกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ปรับลดงบในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น(สถ.) กระทรวงมหาดไทย 10,098,384,300 บาท จากที่ตั้งไว้ 141,395,889,400 บาท โดยมีกระแสข่าวว่าเพื่อนำเงินส่วนนี้ไปเป็นงบสนับสนุนส.ส. ที่จะต้องดำเนินการผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) โดยต้องเสนอโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจในโครงการก่อ สร้างถนนไร้ฝุ่นและลานกีฬา ซึ่งส.ส.แต่ละคนจะต้องกรอกแบบฟอร์มระบุชื่อพรรคเพื่อเสนอโครงการ

ซึ่งการปรับลดดังกล่าวมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากอปท.หลายแห่ง อย่างกรณีจ.นครราชสีมามีหนังสือด่วนที่สุดจากจังหวัดถึงนายอำเภอและอปท.ใน จังหวัด ลงวันที่ 1 ก.ค.ให้อปท.ทุกแห่งเสนอโครงการเงินอุดหนุนสำหรับดำเนินการโครงการก่อสร้าง ถนนไร้ฝุ่นและลานกีฬา และรายการเงินอุดหนุนสำหรับดำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของอปท.กลับ มายังจังหวัดอย่างเร่งด่วนภายในวันที่ 2 ก.ค.53 เพื่อให้ทันการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการเสนอโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรงบดังกล่าว เป็นโครงการที่อยู่ภายใต้พรรคร่วมรัฐบาลที่ดูแลอปท.

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า การปรับลดงบส่วนนี้ได้ปรับลดงบในส่วนที่เป็นนโยบายหาเสียงหลักของพรรคแกนนำ อย่างประชาธิปัตย์ อาทิ โครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ หรือเบี้ยคนชราคนละ 500 บาทต่อเดือน ซึ่งปี 2553 ตั้งไว้ 19,512 ล้านบาท อยู่ในหมวดของเงินอุดหนุนทั่วไปและเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ตามนโยบายของรัฐบาล และปี 2554 ตั้งไว้ที่ 31,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 11,556 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่ามียอดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่กลับปรับลดส่วนไปลงไป 597.57 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังปรับลดเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนการเสริมสร้างสวัสดิการทาง สังคมแก่ผู้พิการหรือทุพพลภาพ ที่เดิมปี 2553 ตั้งไว้ 3,283 ล้านบาท มาปี 2554 ตั้งไว้ 4,739 ล้านบาท โดยอ้างตัวเลขว่ามีจำนวนผู้พิการเพิ่มขึ้น แต่ปรับลดไป 1,456 ล้านบาท รวมปรับลด 2 รายการกว่า 2,000 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปรับลดให้เท่ากับงบปี 2553 ทั้งที่มีการตั้งงบไว้สูงขึ้นโดยอ้างตัวเลขผู้สูงอายุและผู้พิการที่สูงขึ้น

ผู้ สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กมธ.บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า เงินที่ปรับลดใน 2 รายการรวมกว่า 2,000 ล้านบาทนี้ สุดท้ายจะโยกงบไปลงในโครงการใดหรือไม่ เพราะอาจส่งผลกระทบกับเงินที่ต้องจ่ายให้ผู้สูงอายุและคนพิการคนละ 500 บาทต่อเดือน เพื่อเอาไปเป็นเงินอุดหนุนส.ส. เฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นพิเศษ

"พนิช"ฟุ้งปชป.ไม่เคยซื้อเสียง

วัน เดียวกันเวลา 19.10 น.ที่มัสยิดกมาลุลอิสลาม เขตคลองสามวา กทม. นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ป้ายหาเสียงถูกทำลายกว่า 60% เป็นเรื่องไม่ควรทำ ต้องพิสูจน์ว่ามีเหตุผลอะไรต้องทำเช่นนั้น ส่วนพรรคเพื่อไทยระบุว่ามีการซื้อเสียงหัวละ 1 พันบาทนั้น ไม่ทราบ เรารณรงค์หาเสียงด้วยความโปร่งใสตามกฎหมายเลือกตั้ง ไม่เคยทำอะไรนอกกติกาหรือเล่นใต้ดิน

นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคที่มาช่วยหาเสียงพูดชัดเจนว่าพรรคอยู่มาได้กว่า 60 ปี ไม่เคยมีใครซื้อสิทธิ์ขายเสียง ช่วงนี้โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ตนจะพบประชาชนให้มากที่สุด วันที่ 24 ก.ค.พรรคจะปล่อยรถแห่ 12 คัน โดยมีรมต.และส.ส.ร่วมขบวนด้วย แม้คนในเขตเลือกตั้งรู้จักตนกันหมดแล้ว ผลโพลตนก็มีคะแนนนำแต่ยังกังวลเหมือนกัน ต้องรอให้ถึงวันที่ 25 ก.ค.ก่อน แพ้หรือชนะอยู่ที่ประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามถึงพรรคเพื่อไทยเอาเทปนาย ก่อแก้วจากเรือนจำมาเปิดหาเสียงทำให้คนสงสารหรือไม่ นายพนิชกล่าวว่า ตนไม่สงสาร วิธีนี้ไม่ใช่การเรียกคะแนนสงสาร แต่เป็นการทำให้คนเลือก

"หยัด"ขนรมต.-แกนนำลงพื้นที่

เวลา 17.00 น.ที่ลานเอนกประสงค์ โรง เรียนอนุบาลสายสุดา เขตบึงกุ่ม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาฯ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนายสัมพันธ์ ทองสมัคร ตั้งเวทีปราศรัยช่วยนายพนิช ท่ามกลางประชาชนประมาณ 300 คน

ขณะเดียวกันที่เวทีลานจอดรถสุเหร่าแดง ถ.เสรีไทย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานที่ปรึกษาพรรค นำทีมขึ้นปราศรัยมีประชาชนรับฟังประมาณ 300 คน เนื้อหาโจมตีพรรคเพื่อไทยที่ผู้สมัครไม่สามารถออกมาเดินหาเสียงได้ ทั้งที่มีคนในพรรคมากแต่กลับไม่ส่งลงสมัครเอง

นายบัญญัติกล่าวว่า ไม่ว่าประชาชนจะเลือกใครก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่อยากให้ออกมาใช้สิทธิ์ให้มาก การเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนทำประชามติใน 2 นโยบายคือ ปรองดองและปฏิรูปประเทศ ถ้าทั้ง 2 นโยบายนี้ยังไม่สามารถทำสำเร็จได้ ประเทศก็เน่า

จาก อัลบั้มสวนสยาม3 โดยคำเกิ่ง แห่งทุ่งหมาหลง
เสื้อแดงแห่ฟังเวทีใหญ่พท.

เวลา 18.00 น.ที่ลานจอดรถสวนสยาม เขตบึงกุ่ม พรรคเพื่อไทยตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายช่วยนายก่อแก้ว นำโดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรค พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ และส.ส.นนทบุรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำนปช. พร้อมด้วยส.ส.ภาคเหนือ อีสาน และกทม.จำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยเกือบพันคน

จาก อัลบั้มสวนสยาม3 โดยคำเกิ่ง แห่งทุ่งหมาหลง

ส่วนใหญ่สวมเสื้อสีแดง ต่างปรบมือโห่ร้องเมื่อแกนนำพรรคและส.ส.สลับกันขึ้นปราศรัย โดย เฉพาะประเด็นรัฐบาลสั่งปราบปรามการชุมนุม ทั้งนี้โดยรอบเวทีปราศรัยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และตำรวจสันติบาลกระจายกำลังอยู่โดยรอบ

ร.ต.อ.เฉลิมปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า ขอให้ประชาชนร่วมแสดงพลังเลือกนายก่อแก้วเข้าทำหน้าที่ และหยุดเผด็จการ หยุดรัฐบาลโกง หากการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคได้รับเลือกเป็นรัฐบาล ยืนยันว่าจะทำใน 4 เรื่อง คือเอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับคืนมา นำพ.ต.ท.ทักษิณกลับมา จะนิรโทษกรรมผู้ที่มีคดีช่วงปฏิวัติเมื่อปี 2549 สิ่งหล่านี้คือความปรองดองอย่างแท้จริง สุดท้ายพักหนี้คนที่มีหนี้สิน 5 แสนบาทเป็นเวลา 5 ปี

จาก อัลบั้มสวนสยาม3 โดยคำเกิ่ง แห่งทุ่งหมาหลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างร.ต.อ.เฉลิมปราศรัย ได้รับเสียงปรบมือ และเขย่ามือตบและหัวใจตบเป็นระยะ ทั้งนี้เนื้อหาการปราศรัยส่วนใหญ่ เน้นโจมตีรัฐบาล และหยิบยกเรื่องนโยบายการทำงานสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งการสลายการชุมนุมมาเป็นเนื้อหาหลัก อย่างไรก็ตามบรรยากาศการปราศรัยเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆเกิดขึ้น

เมียก่อแก้วขึ้นเวทีอ้อนส่งท้าย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าช่วงค่ำมีผู้มาฟังการปราศรัยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3 หมื่นคน กระทั่งเวลา 20.00 น.นางกุลรัตน์ พิกุลทอง ภรรยานายก่อแก้ว ขึ้นเวทีขอให้ชาวกทม.เขต 6 เลือกนายก่อแก้วเข้าสภาเพื่อต่อสู้กับความ อยุติธรรม และทำหน้าที่แทนประชาชน

จาก อัลบั้มสวนสยาม3 โดยคำเกิ่ง แห่งทุ่งหมาหลง

เวลา 20.30 น.น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีนำเทปเสียงนายก่อแก้วความยาว 3 นาทีมาเปิด เนื้อหาต้องการออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ทำงานให้ประชาชน กองเชียร์เสื้อแดงที่มาฟังการปราศรัยต่างส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้อง จากนั้นน.ส.สุณีย์นำภรรยาแกนนำคนเสื้อแดง 4 คน ประกอบด้วย นางธิดา โตจิราการ ภรรยาน.พ.เหวง นางศิริสกุล ใสยเกื้อ ภรรยานายณัฐวุฒิ นางอุทุมพร พัฒนภูมิไท ภรรยานายวิภูแถลง และนางกุลรัตน์ พิกุลทอง ขึ้นเวทีหาเสียง โดยนางธิดากล่าวว่า ขอให้ช่วยเลือกนายก่อแก้วมาต่อสู้แทนแกนนำที่อยู่ในเรือนจำ และต่อสู้เพื่อประชาธิป ไตย จากนั้นแกนนำและส.ส.สลับการขึ้นปราศรัย

โพลชี้"ก่อแก้ว"ตีตื้น"พนิช"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจของหน่วยราชการแห่งหนึ่งที่เกาะติดพื้นที่เลือกตั้งซ่อมกทม. เขต 6 พบว่าก่อนหน้านี้นายพนิชมีคะแนนนำนายก่อแก้วอยู่ประมาณ 60-40 แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายจนถึงก่อนวันหย่อนบัตรปรากฏว่าคะแนนของนายก่อแก้วเริ่ม ตีตื้นขึ้นมาจนอยู่ในระดับใกล้เคียงแล้ว


ที่มา: ข่าวสดรายวัน
วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7177
หน้า 1
----------------------------------------------------------------

จาก อัลบั้มประชาชาติธุรกิจออนไลน์

โค้งสุดท้าย "แพ้-ชนะ" รัฐบาล-เสื้อแดง

ผลการเลือกตั้งซ่อมระหว่างประชาธิปัตย์และเพื่อไทยจะเป็นคำตอบใหญ่ที่มีนัยสำคัญต่อการเลือกตั้งใหญ่

เมื่อ ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิตัดสินอนาคตการเมืองไทยผ่านการเลือกตั้ง ซ่อมล่วงหน้า เขต 6 กรุงเทพมหานครไปแล้วกว่า 16,000 คน

ที่เหลืออีกไม่น้อยกว่า 3.8 แสนคน ยังมีเวลาตัดสินใจอีกครึ่งสัปดาห์เพื่อหย่อนบัตรเลือกตั้งในวันที่ 25 กรกฎาคม 2553

ผลโพลของทั้ง 2 พรรค จาก 16,000 คะแนน ต่างฝ่ายต่างเคลมว่าตัวเองได้คะแนนตุนไว้แล้วมากกว่าฝ่ายตรงข้าม

แต่ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองแพ้หรือชนะ จนกว่าวันเลือกตั้งจริงจะมาถึง

ดังนั้น ในช่วงโค้งสุดท้ายต่างฝ่าย ต่างต้องเร่งหาเสียงทุกรูปแบบ

ฟัง ใครพูดก็อาจไม่มั่นใจเท่าตัวผู้สมัคร ฝ่ายหนึ่งอยู่ในคุก ฝ่ายหนึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งทั้ง 2 ฝ่าย ปักหมุด เทใจเปิดเผยกลยุทธ์โค้งสุดท้ายผ่าน "ประชาชาติธุรกิจ"

ก่อแก้ว-เพื่อไทย

"เสียดาย...ไม่ได้หาเสียง"

ก่อแก้ว พิกุลทอง" ตัวแทนเชิงสัญลักษณ์จากพรรค เพื่อไทย ใช้สิทธิในการพูดผ่านลูกกรงเหล็กว่า "เสียดายที่ไม่ได้หาเสียงด้วยตัวเอง"

แต่ แกนนำพรรคเพื่อไทย เตรียมใช้กลยุทธ์เปิดแผล-คลายปมเรื่องปัญหาเศรษฐกิจแบบเต็มที่หมดหน้าตัก เพื่อชี้ให้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นว่า เพื่อไทยมีตัวเลขใหม่ อีกชุดที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตัวเลขจีดีพีและการส่งออกแตกต่าง-ตกต่ำกว่าที่ฝ่ายประชาธิปัตย์พูดไว้

กระนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ "ก่อแก้ว" มั่นใจในชัยชนะ "เชื่อว่าถ้าหากการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 6 ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งในภาวะปกติ ไม่ใช่ในระหว่างประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พรรคเพื่อไทยก็น่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงเมื่อรัฐบาลใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ ยังคง พ.ร.ก. ฉุกเฉินเอาไว้ก็ไม่เป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน"



สำหรับ การใช้ชีวิตในเรือนจำ ระหว่าง ที่ข้างนอกมีการหาเสียงเลือกตั้ง ก่อแก้ว เล่าว่า "รู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสพบกับประชาชนที่รักประชาธิปไตย ไม่สามารถอธิบายข้อเท็จจริงเรื่องราวต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง"

ทดแทนเวลา หาเสียง "ก่อแก้ว" ใช้เวลาส่วนใหญ่ในคุกด้วยการอ่านหนังสือ ออกกำลังกายและสวดมนต์ไม่ให้เครียด รักษาสุขภาพตัวเอง และติดตามข่าวภายนอก จากพี่น้องที่มาเยี่ยมเยียนใน เรือนจำและอ่านหนังสือพิมพ์

"ถ้าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ผมได้ คะแนนสูงสุดชนะพรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมจะเป็น ส.ส.ทำหน้าที่ในสภา ในส่วนของฝ่ายค้านซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลโดยเฉพาะการทุจริต คอร์รัปชั่น ใช้อำนาจโดยมิชอบ"

"การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายถึงการแข่ง ขันระหว่างฝ่ายที่รักประชาธิปไตย ความยุติธรรม กับฝ่ายที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน"

จาก อัลบั้มประชาชาติธุรกิจออนไลน์

พนิช-ประชาธิปัตย์

"หัวหน้าบอก...ต้องถึงลูกถึงคน"

พนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ

ตั้งแต่ ลาออกจากตำแหน่ง เขาลงพื้นที่ทุกวันเช้าจนถึงค่ำ ทำให้เห็นภาพว่าประชาชนตื่นตัวมาก โดยเฉพาะสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศให้ความสำคัญตั้งแต่วันคัดเลือกตัวผู้ สมัคร

"พนิช" เล่าว่า กว่าเขาจะได้เป็น"ผู้สมัคร" ต้องฝ่าฟันมาถึง 4 ขั้นตอน ทั้งการคัดเลือกจากประธานสาขาพรรค ขั้นตอนของคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ส.ก. และ ส.ข. เข้าสู่ คณะกรรมการที่มีรองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ จากนั้นส่งชื่อไปยังกรรมการบริหารพรรค 19 คน

ต้องให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-อภิรักษ์ โกษะโยธิน และ กรณ์ จาติกวณิช เห็นชอบ-สนับสนุน จึงมีชื่อ "พนิช" ลงสนามแข่งขัน

พร้อม พลังหนุนขั้นเทพจาก "ชวน หลีกภัย" ประธานที่ปรึกษาพรรคที่ลงทุน ลงแรง เข้าถึงพื้นที่เลือกตั้งทั้ง 4 เขต คันนายาว คลองสามวา หนองจอก และบึงกุ่ม มีพื้นที่ 400 กว่าตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ทั้งหมดของ กทม. ที่มี 1,500 ตารางกิโลเมตร มีผู้มีสิทธิ เลือกตั้งประมาณเกือบ 4 แสนคน

เข้าโค้งสุดท้าย "พนิช" บอกว่า ต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด

"หัวหน้าพรรคได้มอบนโยบายให้ พบปะ สัมผัส รับฟังปัญหา ชี้แจงกับประชาชนให้มากที่สุด ท่านบอกให้พูดคุยอย่างถึงลูก ถึงคน เจอประชาชนให้เขาสอบถามได้สัมผัสได้ แต่รับปากไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย เลือกตั้ง สำหรับสถานที่หาเสียงจะมีลักษณะที่ทำประจำ คือ เป็นจุดที่ประชาชนสัญจรไปมาเยอะ ๆ ตามสี่แยก เดินไปทักทาย ยื่นบัตรแนะนำตัว" กลยุทธ์จากรุ่นสู่รุ่น

แต่ก็ใช่ว่าเส้นทางจะราบรื่น เพราะเขตเลือกตั้งนี้มี "สีแดง" อยู่หลายส่วนการยื่นบัตรแนะนำตัวจึงมีบางทีที่ "พนิช" แจกเก้อ

ข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของคู่แข่ง "พนิช" วิเคราะห์ว่า

"อีก ฝ่ายหนึ่งเขาเลือกคนที่มาหาเสียงเองไม่ได้ เมื่อประชาธิปัตย์เลือกคนที่มาหาเสียงเองได้ ก็มีคนอื่นมาช่วยหาเสียง ทั้ง ส.ส. รัฐมนตรี ก็มาช่วยกัน ส่วนเพื่อไทย เขาก็มาหาเสียงช่วยกัน แต่ยังไงก็คงไม่เหมือนผู้สมัครมาหาเสียงเอง"

"ถ้าจะมองในแง่ผม เสียเปรียบอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ เพราะอีกฝ่ายหนึ่งอยู่บนเวที นปช.มาตลอด มีคนรู้จักเห็นหน้าเห็นตามาก่อน ส่วนผมแทบไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง"

"พนิช" มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีนัยถึง 3 ระดับ คือ เป็นการแข่งขันระหว่าง ผู้สมัครในเขต 6 ส่วนที่มากกว่านั้นยังเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคการเมือง และนอกจากนั้นยังถูกมองว่าเป็นการ แข่งขันกันระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านของผู้ชุมนุมเสื้อแดง หรืออาจจะมองว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยกับไม่ประชาธิปไตย แต่เราคิดว่าเราก็เป็นประชาธิปไตยอีกแบบหนึ่ง

พนิชบอกว่า หากชนะการเลือกตั้งได้เข้าเป็น ส.ส.ก็พร้อมทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนในสภาตั้งแต่วันแรกที่ เปิดสภา คือ 1 ส.ค. ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน แต่หากคนที่ชนะเลือกตั้งอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวตนก็ไม่ทราบว่าเขาจะสามารถ เดินทางมา สภาเพื่อปฏิบัติหน้าที่นั้นได้หรือไม่

ในโค้งสุดท้าย "พนิช" บอกจุดชี้ขาดสำหรับการแพ้-ชนะนั้นยังเป็นเรื่อง "นโยบาย" ของพรรค

"เพราะ นโยบายที่ดีของพรรคประกอบกับการลงพื้นที่ของตนที่ทำอย่างเต็มที่ ได้สัมผัสกับประชาชนลงพื้นที่จริงร่วมกับ ส.ส. รัฐมนตรี เราไม่มีการจัดตั้ง ไม่มีเรื่องใต้ดิน ขณะที่เราถูกหาว่าใช้อำนาจรัฐ แต่เราเองก็ถูกกระทำโดยมีการดึงป้ายหาเสียงออกไป ขณะที่เราทำอะไรภายในกรอบกฎหมาย แต่มีคนอื่นที่ทำนอกกรอบกฎหมาย

และส่วนตัวไม่คิดว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำให้ใครได้เปรียบ เสียเปรียบ เพราะทุกพรรคก็อยู่ภายใต้สถานการณ์เดียวกัน"

วัน ที่ 25 กรกฎาคม 2553 เป็นวันประวัติศาสตร์การเลือกตั้งอีกวันที่จะบันทึกไว้ว่า ผู้สมัคร ส.ส.ที่อยู่ในคุก-กับผู้สมัครที่อยู่ในพื้นที่ ใครคือผู้ชนะ


ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4229
หน้า 35

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น