บก.ลายจุดผูกผ้าแดงอีก"ราชประสงค์"
เน้นย้ำที่นี่ มีคนตาย ไม่หวั่นรัฐ ส่งตร.คุม!
ผูกผ้าแดง- นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด ซึ่งเพิ่งออกจากเรือนจำ นำผ้าเเดงมาผูกที่ป้ายสี่เเยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เพื่อไว้อาลัยให้ประชาชน 90 ศพที่ถูกสังหารในเหตุการณ์สลายม็อบแดง
จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน |
"บ.ก.ลาย จุด"สมบัติ บุญงามอนงค์ เอ็นจีโอประชาธิปไตย ไม่หวั่นโดนศอฉ.ล็อกตัวซ้ำรอย บุกนำผ้าแดงผูกป้ายแยกราชประสงค์รำลึกถึงเหยื่อเหตุการณ์รัฐส่งทหารติดอาวุธ สงครามสลายเสื้อแดง คนแห่ร่วมคึกคักชูป้าย "ที่นี่มีคนตาย" เผยตั้งใจแสดงออกทางการเมืองตามแนวทางสันติวิธีต่อไปทุกวันอาทิตย์ ด้าน "มาร์ค" แจงไม่เคยมีคำสั่งขังลืม แต่อ้างว่า พ.ร.ก.ยังจำเป็นต้องคงไว้เพื่อบูรณาการการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมผลักดันกฎหมายยกเว้นโทษผู้คืนอาวุธ ขณะที่พรรคเพื่อไทยจี้รัฐบาลแสดงความบริสุทธิ์ใจเปิดค่ายทหาร "เมืองกาญจน์" ซึ่งต้องสงสัยใช้เป็นสถานที่คุมขังคนเสื้อแดง
"มา ร์ค"แจงไม่มีการ"ขังลืม"
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ถึงการประกาศยกเลิกพ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงว่า เมื่อ 7 ก.ค.ที่ผ่านมาครบกำหนด 90 วันการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ต่ออายุการประกาศใช้ทุกพื้นที่ แต่ ครม.พิจารณาแล้วเห็นว่าในพื้นที่ที่สถานการณ์กลับไปสู่ภาวะปกติแล้วควรเร่ง คืนความเป็นปกติให้ จึงยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ใน 5 จังหวัด ยืนยันว่าเราจะไม่ใช้กฎหมายนี้นานเกินไป เพราะมีเสียงเรียกร้องจากหลายกลุ่มขอให้ยกเลิก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เห็นว่าถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพบางส่วน แต่เราพยายามจำกัดสิทธิ์ให้น้อยที่สุด และข้อกำหนดก็ยืดหยุ่นพอสมควร ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ที่จำเป็นต้องคงอำนาจพิเศษนี้ไว้เพื่อให้รัฐบาลบูรณาการการทำงานของเจ้า หน้าที่ สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน และหากพื้นที่ใดมีการเคลื่อนไหวที่มีความเสี่ยงจะได้ป้องกันทัน
นาย อภิสิทธิ์ระบุว่า ตนติดตามข่าวสารว่ามีการละเมิดสิทธิ์ของประชาชนจากการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอชี้แจงว่าบางครั้งมีความสับสนว่าพ.ร.ก.จะขังใครก็ได้ หรือถึง ขนาดขังลืม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ การควบคุมตัวใครต้องมีหมายศาล และมีช่วงเวลา 7 วัน เมื่อครบกำหนดต้องขอให้ศาลวินิจฉัยหากต้องการขยายเวลา อย่างไรก็ตาม ได้กำชับเจ้าหน้าที่หากมีการร้องเรียนเรื่องละเมิดสิทธิ์ขอให้ตรวจสอบเพื่อ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และการดำเนินการกับใครขอให้เปิดเผยทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยข่าวว่ามีคนไปถูกจับกุมทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง
ดัน ออกกม.เว้นโทษคืนอาวุธ
"ได้ไปทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนต่าง ประเทศเพื่อให้ทราบว่าบางอย่างไม่ใช่การกระทำตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เป็นไปตามกฎหมายปกติ อย่างเรื่องการดำเนินคดีกับแกนนำก็เป็นไปตามกฎหมายปกติ และเรื่องการยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นเราประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา หากเหตุการณ์ปกติก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 90 วันตามระยะ เวลา เพราะแม้ไม่ครบ 90 วันก็ยกเลิกการใช้ได้" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ครม.ยังพิจารณาถึงปัญหาอาวุธสงครามที่ตลอดเวลาก่อนการชุมนุมและหลังการ ชุมนุมมีการใช้อาวุธสงครามก่อเหตุรุนแรง จึงเห็นว่าควรออกกฎหมายเฉพาะกิจ เปิดโอกาสให้ผู้ที่ครอบครองอาวุธสงครามผิดกฎหมายเอามาคืนแก่รัฐภายใน 60 วันนับจากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว ตอนนี้คณะกรรมการกฤษฎีกากำลังพิจารณาร่างกฎหมายนี้อยู่ เพื่อผลักดันเข้าสู่สภาได้ในการเปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค. 2553 ตนขอความร่วมมือจากส.ส. และส.ว. ให้ออกกฎหมายนี้โดยเร็ว แต่กรณีนี้ไม่รวมถึงผู้ใช้อาวุธสงครามไปก่อความไม่สงบ ซึ่งต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พท.บี้รบ.เปิดค่ายทหารขังแดง
เวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ระบุในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ อ้างว่าไม่มีการขัง 11 แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ที่ จ.กาญจนบุรี ว่า ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์สั่งให้ทหารเปิดค่ายที่คาดว่าจะใช้ขังคนเสื้อแดง เพื่อความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีการกักขังคนเสื้อแดงอยู่จริง เพราะการออกมาปฏิเสธคงไม่เพียงพอ ขอยืนยันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง เพราะมีชาวบ้านที่ถูกขังมาร้องเรียนต่อพล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ซึ่งวันที่ 13 ก.ค. เวลา 15.00 น. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เรียกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงไปชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ขังเสื้อแดงที่กาญจนบุรี ตนขอท้าถ้านายสุเทพบริสุทธิ์ใจต้องแสดงสปิริตนักการเมืองไปชี้แจงด้วย ถ้าไม่ไปสัปดาห์หน้าตนจะยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157
ย้ำเตือน- กลุ่มนักเคลื่อนไหว ทางการเมืองร่วมชุม นุมที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. โดยสวมเสื้อแดงนอนบนถนน พร้อมข้อ ความ "ที่นี่มีคนตาย" ย้ำเตือนเหตุการณ์ความรุนแรง
นาย พร้อมพงศ์กล่าวว่า เมื่อเย็นวันที่ 9 ก.ค. ตำรวจนำคำสั่งเรียกบุคคลเลขที่ 331/ 2553 ของศอฉ. มีคำสั่งให้ตนไปรายงานตัวในวันที่ 13 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก โดยมีนายสุเทพ ในฐานะผอ.ศอฉ. เป็นผู้ลงนาม การที่ ศอฉ.เรียกตนไปชี้แจงถือเป็นการปิดปาก ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปูดเรื่องแผนตากสิน 2 และการซ่องสุมกำลัง 3 แห่ง เพราะจากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าไม่มีการซ่องสุมกองกำลังตามที่นายเทพไทอ้าง แต่นายเทพไทไม่ได้ถูกดำเนินการใดๆ ทั้งจากนายกฯ นายสุเทพ และศอฉ. ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมหากให้ตนไปชี้แจงก็ต้องเรียกนายเทพไทไปด้วย
"ผม ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ไม่มีการเรียกตัวนายเทพไท แสดงว่ามีสัญญาณไฟเขียวจากนายกฯ ที่ให้ปูดข่าวแฉรายวัน ตรงนี้เป็นการเล่นคนละบท เพื่อหวังต่อพ.ร.ก. ฉุกเฉินใช่หรือไม่" โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
"เทพไท"อ้างปูดฝึกอาวุธแค่ข้อมูลดิบ
นาย เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์จากประเทศเกาหลี ถึงกรณีได้รับข้อมูลจากประชาชนเกี่ยวกับการซ่องสุมของชายชุดดำ และมีการฝึกอาวุธของคนกลุ่มหนึ่งและนำข้อมูลดังกล่าวส่งให้ ศอฉ.ตรวจสอบ ว่า เรื่องนี้มีขบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการสร้างกระแสว่าตนเป็นผู้ปูดข้อมูลเท็จออกมา ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลดิบที่ต้องยื่นให้กับ ศอฉ.ตรวจสอบอีกครั้ง โดยตนไม่ได้ยืนยันว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะไม่มีอำนาจตรวจสอบ ฉะนั้นการที่นายพร้อมพงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่าทำไมไม่เรียกตนไปชี้แจงเหมือนกรณีนายพร้อมพงศ์ปูดเรื่องคนเสื้อ แดงถูกขังคุกที่ค่ายทหาร จ.กาญจนบุรี แล้วถูก ศอฉ.เรียกไปชี้แจงนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้มีความแตกต่างกัน ต้องดูเจตนาว่าเป็นอย่างไร
นาย เทพไทกล่าวว่า เรื่องที่ตนออกมาพูดเพราะต้องการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับร้องเรียน เข้ามา ส่วนเรื่องนายพร้อมพงศ์เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายรัฐบาลและศอฉ. มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ การที่ ศอฉ.มีหมายเรียกนายพร้อมพงศ์ไปชี้แจงข้อเท็จจริงเห็นว่ามีความถูกต้องแล้ว สำหรับตนไม่จำเป็นต้องเรียกเพราะได้ทำจดหมายอย่างเป็นทางการให้ ศอฉ.ตรวจสอบไปก่อนหน้านี้แล้ว
นายเทพไทให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. เคยประกาศว่าสัปดาห์หน้าจะยื่นเรื่องให้ กกต.เอาผิดกับนายเทพไทในเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบว่านายจตุพรใช้กฎหมายข้อไหนดำเนินการ เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าต้องการยื่นให้ตรวจสอบก็เป็นเรื่องดีจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงเป็น อย่างไร อย่างน้อยจะได้พิสูจน์ให้กลุ่มคนบางกลุ่มได้รับรู้ความเป็นมาโดยไม่ต้องนำ เรื่องนี้มาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวกดดัน หรือดิสเครดิตตนต่อไป
จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน |
คณิต นำ"คอป."เปิดประชุม
แฉฆ่า6ศพ- นายวสันต์ สายรัศมี กู้ภัยเล่าถึงเหตุการณ์ฆ่า 6 ศพในวัดปทุมฯ ระหว่างร่วมเสวนาเครือข่ายพิทักษ์พระพุทธศาสนาที่วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี นอกจากนี้ยังนำบอร์ดเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ราชประสงค์มาจัดแสดงด้วย มีคนเสื้อแดงเข้าร่วมงานนับพันคน เมื่อวันที่ 11 ก.ค.
เวลา 10.00 น. ที่ห้องริมสวน ชั้น 12 โรงแรมเมอร์เคียวฟอร์จูน ถ.รัชดาภิเษก นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) นัดประชุมคณะกรรมการ คอป. เพื่อร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดอำนาจหน้าที่และขั้นตอนการปฏิบัติงานของ คอป. รวมทั้งสรรหากรรมการ คอป. คนใหม่แทนนายไพโรจน์ พลเพชร ที่ขอถอนตัว
นายคณิต แถลงภายหลังการประชุมร่วม 3 ชั่วโมง ว่า การประชุมวันนี้ไม่เป็นทางการ เนื่องจากยังออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีไม่เสร็จ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า คอป.จะปฏิบัติงานได้อย่างเป็นทางการ ภารกิจแรกที่จะเริ่มทันที คือ การตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 จากพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งบุคคล เอกสาร และวัตถุพยานจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายรัฐบาล กลุ่มผู้ชุมนุม องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั้งในและต่างประเทศ และสื่อมวลชนทั้งในและต่างประ เทศ เพื่อหาความจริงในมุมมองของ คอป.ว่า เหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นมาได้อย่างไร คาดภายใน 4-6 เดือนจะมีรายงานฉบับแรกเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นต่อสาธารณชนได้ นายคณิต กล่าวว่า ส่วนการสรรหากรรมการ คอป. คนใหม่มาแทนนายไพโรจน์ ขณะนี้กำลังทาบทามอยู่ อีกไม่นานคงทราบกัน อย่างไรก็ตาม แม้นายไพโรจน์จะไม่สะดวกใจที่มีชื่ออยู่ใน คอป. แต่ก็ยังให้ช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของ คอป.ต่อไป
ดึง"ต่างชาติ"ร่วมสอบสวน
นายสมชาย หอมละออ กรรมการ คอป. ซึ่งจะเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบงานตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงเหตุการณ์ความ ไม่สงบเม.ย.-พ.ค.2553 กล่าวว่า คอป.จะเป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย และแสวงหาเพิ่มเติมข้อเท็จจริงบางส่วนที่ขาดหายหรือไม่ตรงกัน ในการทำงานจะตั้งทีมงานประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ผู้มีประสบการณ์และชำนาญในด้านที่เกี่ยวข้องจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมวิเคราะห์พยานหลักฐานและแสวงหาความจริงเพิ่มเติม รวมทั้งเปิดเวทีสาธารณะเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง สองฝ่ายและสื่อมวลชนมาร่วมให้ข้อมูล โดยรายงานฉบับแรกของ คอป. จะไม่มีการระบุว่าใครถูกใครผิดแบบการสอบสวนของตำรวจ แต่จะบอกว่าความจริงคืออะไร และมีส่วนเกี่ยวโยงให้เกิดความรุนแรงได้อย่างไร
นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานมูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการ คอป. กล่าวว่า เมื่อ คอป. มีสำนักงานของตนเองอย่างเป็นทางการแล้ว จะเผยแพร่ข่าวสารการดำเนินการของ คอป. ให้สาธารณชนทราบเป็นระยะๆ ที่สำคัญอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 ส่งข้อมูลหรือบอกเล่าข้อเท็จจริงที่พบเห็นในเหตุการณ์ให้กับ คอป. เพื่อนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง การให้ข้อมูลครั้งนี้จะไม่เปิดเผยรายชื่อผู้ให้ข้อมูล เพื่อความปลอดภัย และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเรียกตัวไปเป็นพยานในชั้นศาล
"บก.ลายจุด"ผูกผ้าแดงราชประสงค์
เวลา 17.00 น. วันเดียวกัน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ "บก.ลายจุด" ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกระจกเงาและเอ็นจีโอประชาธิปไตย เดินทางมายังสี่แเยกราชประสงค์ กทม. เพื่อนำผ้าเเดงมาผูกตรงเสาของป้ายสี่เเยกราชประสงค์เพื่อรำลึกถึงผู้เสีย ชีวิตจากเหตุรัฐบาลใช้กำลังทหารสลายผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 พ.ค. มีกลุ่มประชาชนมาร่วมสนับสนุนกว่า 50 คน ต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องเเละชูป้ายข้อความ "ที่นี่มีคนตาย"
จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน |
สำหรับ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับนายสมบัติครั้งนี้ส่วนใหญ่ทราบข่าวผ่านเว็บไซต์ เฟซบุ๊กของนายสมบัติ ซึ่งโพสต์ข้อความเอาไว้ว่าวันนี้จะนำผ้าเเดงมาผูกที่เสาสี่เเยกราชประสงค์ อีกครั้งภายหลังจากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปขังยังค่ายตชด. คลอง 5 จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. และศาลเพิ่งอนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 9 ก.ค. จึงมาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก จากนั้นนายสมบัตินำผ้าเเดงผืนใหญ่ที่เตรียมมาผูกล้อมไปที่เสาทั้ง 2 ต้นของป้ายสี่เเยกราชประสงค์ พร้อมยืนโชว์ให้ช่างภาพสื่อมวลชนเก็บภาพ เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากกับกลุ่มที่มาให้กำลังใจ รวมถึงประชาชนที่สัญจรไปมาพากันเข้ามามุงดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
นาย สมบัติกล่าวว่า วันนี้มาเพื่อเเสดงออกตามแนวทางสันติ ถือว่าเป็นสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญเเละสิทธิมนุษยชน ดังนั้น รูปเเบบการเเสดงออกเช่นนี้เป็นเรื่องที่คิดว่าสังคมจะต้องเปิดให้มีช่องทาง ในการเเสดงออก เเละยังมีข้อเท็จจริงว่าด้วยเรื่องของผู้เสียชีวิตเเละผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แต่ไม่ถูกนำขึ้นมาสู่กระบวนการยุติธรรม เเละเชื่อว่ายังมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บเเละ เสียชีวิตยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการรับผิดชอบ อยากเรียกร้องให้ฝ่ายรัฐบาลเเสดงสปิริตต่อการกระทำของตัวเอง
ตร. 30 นายเฝ้าสังเกตการณ์
ต่อข้อถามว่าหลังออกมาจากค่าย ตชด.เเล้วเป็นอย่างไรบ้าง นายสมบัติกล่าวว่า ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่าย ตชด.ภาค 1 ปทุมธานี เป็นเวลา 14 วันในอาคารหลังหนึ่งมีรั้วลวดหนามมาควบคุมพื้นที่ไว้ ซึ่งเป็นการจำกัดพื้นที่เท่านั้น เเต่ว่าไม่ได้เป็นผู้ต้องหาเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย โดยเป็นวิธีการหนึ่งที่รัฐใช้กฎหมายเข้าควบคุมคนที่มีความเห็นต่างทางการ เมือง อยากเรียนว่าตนไม่ใช่พวกฮาร์ดคอร์เเละอยู่บนดิน ทุกครั้งจะทำอะไรเเจ้งให้ทราบตลอด รัฐบาลไม่ควรจะดำเนินการใช้กฎหมายที่ไม่ชอบธรรมกับประชาชนที่มีเเนวทางสันติ วิธีเพราะว่ารัฐบาลได้พบก่อนหน้านี้เเล้วว่าสามารถเเยกเเยะได้ระหว่างกลุ่ม ที่เรียกว่าผู้ก่อการร้าย
"ผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้ บริสุทธิ์ เเละถ้าจะจับผมก็ไม่กลัว เราจะรับอาสาสมัครมาทำกิจกรรมเเบบนี้ขึ้นให้ทางรัฐบาลควบคุมตัวไปเรื่อยๆ จนสถานที่กักกันเต็ม จากนี้อยากจะเริ่มโครงการวันอาทิตย์สีเเดง ทุกวันอาทิตย์จะมีกิจกรรมเเบบนี้ จะเล็กหรือใหญ่ไม่รู้ ผมมาคนเดียวเเต่ว่าพอเพื่อนรู้ก็มากันเอง เราอยากเสนอว่าทุกวันอาทิตย์ควรมีกิจกรรมที่เป็นการเเสดงออกทางการ เมืองอย่างสันติ เเละผมก็ยังไม่รู้ว่าคราวหน้าจะทำอะไร ขอกลับไปคิดดูก่อน ที่นำผ้าเเดงมาผูกที่ป้ายนี้เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าเคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ที่นี่ เเละจะขอให้ประชาชนมาถ่ายรูปเก็บไว้กับป้ายเเห่งนี้เพื่อช่วยกันเป็นสักขี พยานย้ำเตือนว่าเราจะต้องกลับมาเเละให้ความจริงปรากฏขึ้นในสังคมไทยสักที อยากให้คนเสื้อเเดงนำผ้าเเดงมาผูกหรือจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเอาไป โชว์ในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือเว็บไซต์ส่วนตัว" นายสมบัติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายสมบัติผูกผ้าเเดงเสร็จ พร้อมให้สัมภาษณ์นักข่าวเรียบร้อยก็ขอตัวกลับ โดยมีตำรวจ สน.ลุมพินี ร่วมสังเกตการณ์ 30 กว่านาย เเละไม่มีเหตุรุนเเรงใดๆ เกิดขึ้น ไม่มีการควบคุมตัวนายสมบัติเหมือนเมื่อ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมาตามหมายเรียกจากทางศอฉ. ฐานฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินกรณีจัดชุมนุมบริเวณใต้ทางด่วน ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 71 เมื่อวันที่ 19 พ.ค. หลังเกิดเหตุสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง
ที่มา: ข่าวสดรายวัน
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7165
หน้า 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น