วันพุธ, มกราคม 18, 2555

นายกฯมั่นใจปรับครม.ครั้งนี้ ไม่ผิดฝาผิดตัวแน่นอน


นายกฯแจง การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ถือเป็นการปรับหลังจากมีการทำงานในระยะหนึ่งแล้วและปรับเพื่อความลงตัว ยืนยันไม่เป็นการต่างตอบแทนตามที่หลายฝ่ายออกมาวิจารย์อย่างแน่นอน

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ครั้งนี้ถือเป็นการปรับหลังจากมีการทำงานในระยะหนึ่งแล้วและปรับเพื่อความลงตัวก็เท่านั้น ทั้งนี้เห็นว่าขณะนี้ประเทศกำลังอยู่ในขั้นตอนของการฟื้นฟู พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการต่างตอบแทนตามที่หลายฝ่ายออกมาวิจารย์อย่างแน่นอน แต่ได้พิจารณาจากความรู้ความสามารถ และก็ต้องการบุคลากรมาช่วยงานเพื่อให้ตรงกับการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนการแต่งตั้งให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้นเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้และการศึกษาที่ดี ซึ่งจะเข้าใจปัญหาของเกษตรกรได้ดี ส่วนกรณีของนางนลิณี ทวีสิน ที่มีการแจ้งว่าติดบัญชีดำของต่างประเทศนั้น ได้มีการพิจารณารตรวจสอบคุณสมบัติเบื่องต้นแล้วและก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญของไทยและเห็นว่าไม่เป็นเป็นปัญหาต่อหน้าตาของคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันมั่นใจว่าการปรับคณะรัฐมนตรียี่งลักษณ์ 2 ครั้งนี้ ไม่ผิดฝาผิดตัวอย่างแน่นอน อาจมีหลายคนที่ไม่คุ้นหน้า แต่หากดูคุณสมบัติและความสามารถแล้วส่วนใหญ่ก็ตรงกับงานที่จะต้องไปดูแล

ส่วนการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้นเห็นว่าไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมหาภาคเพราะการเปลี่ยนครั้งนี้แทบจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลยและก่อนหน้านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็ดูแลดูด้านเศรษฐกิจเป็นหลักอยู่แล้ว เพียงแต่หลังจากนี้ไป นายกิตติรัตน์ จะเข้ามารับผิดชอบโดยตรงด้านเศรษฐกิจโดยตรง ขณะเดียวกันเห็นว่าปีนี้เป็นปีสำคัญดังนั้นจึงต้องการให้ นายกิตติรัตน์ มาช่วยดูเศรษฐกิจโดยตรงอีกทั้งจะทำงานควบคู่กันกับ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อฟูและสร้างอนาคตประเทศหรือ กยอ.อย่างใกล้ชิด

ส่วนการแต่งตั้งนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจากที่ดูแลทางด้านเศรษฐกิจมาก่อนนั้น นายกรัฐมนตรีอยากให้มองว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่กระทรวงเศรษฐกิจ แต่ต้องการพัฒนาบุคลากรบุคคลกรมากกว่า หากพัฒนาไปได้ดีวงการศึกษาก็ไปได้ และนายสุชาติก็เป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยรามคำแหงอยู่แล้ว ที่เป็นนักการศึกษา จึงน่าจะจะมีความรู้ความเข้าใจในวงการศึกษา

ส่วนของพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้นจะไม่เป็นปัญหาระหว่างกองทัพ เพราะเป็นสายทหารเหมือนกัน จึงน่าจะมีความเข้าใจเรื่องของกองทัพแต่จะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกัน การให้พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีนั้นเพื่อให้ดูแลด้านความมั่นคง และกระทรวงกลาโหม ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ส่วนการที่ให้พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ ออกจากรองนายกรัฐมนตรีนั้นจะไม่น่อยใจ แต่รู้สึกเสียดาย เพราะเป็นคนที่ช่วยงานรัฐบาลมาเยอะมาก แต่ด้วยจำนวนตำแหน่งที่มีจำกัด

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีขอให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ทำงานก่อน และขอให้ประชาชนสบายใจว่าทุกอย่างได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้เดินหน้าทำงาน โดยจะเน้นที่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ

ขอบคุณที่มา: Produced by VoiceTV

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น