พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
"ปู" กับ เขา และเราสองคน นิติยุทธ์ ของกองทัพกับรัฐบาล เกมโผทหาร และ "You know me a little go" !!
วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 19:00:08 น.
กลิ่นไม่ค่อยดีแห่งความสัมพันธ์ของกองทัพกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ของ นายกฯ ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายเป็นเงาอำนาจอยู่เบื้องหลัง เริ่มโชยปะทะจมูกแรงขึ้นๆ ทุกวันๆ
โผโยกย้ายทหารครั้งนี้ เป็นดัชนีชี้วัดถึงบรรยากาศมาคุ ที่ตลบอบอวลเสียยิ่ง
ไม่มีใครคาดคิดว่า จู่ๆ นายกฯ หญิง ซึ่งขอคุมงานกลาโหมเองโดยตรง ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ทางทหารมากนัก ก็เอาโผทหารไปใส่ลิ้นชักดองไว้กว่าสัปดาห์
แล้วจู่ๆ ก็มาบอกว่า ไม่ต้องการให้เปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม อัตราจอมพลนี้โดยไม่จำเป็น ทั้งๆ ที่โผโยกย้ายทหารเสร็จสิ้นถึงมือหมดแล้ว
แม้ บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม จะพยายามชี้แจงความจำเป็นที่ต้องขอเปิดอัตรานี้เพื่อแก้ปัญหาการโยกย้ายที่ไม่ลงตัวแล้ว แต่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ อ้างนโยบายที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และ บิ๊กแอ๊ด พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็น รมว.กลาโหม เพื่อเอาไว้แก้ปัญหาการโยกย้ายนายพลระดับสูง
รวมทั้งแย้งว่า เป็นการขออนุมัติคณะรัฐมนตรีย้อนหลัง ทั้งๆ ที่ได้มีการประชุมตกลงใจกันในคณะกรรมการ 6 เสือกลาโหม ไปแล้ว แม้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ จะระบุว่า เป็นเรื่องปกติที่กองทัพเคยปฏิบัติกันมา
แต่ดูเหมือน พล.อ.ยุทธศักดิ์ จะไม่อาจเอ่ยปากอะไรได้มากกว่านั้น เมื่อเจอประโยคเด็ดจากนายกฯ หญิง ที่นั่งหลังตรงเชิดคอที่งามระหงส์ ตัดบทว่า "ช่วยไปทำให้เรียบร้อยนะคะ"
รวมถึงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่อ้างเรื่องอาวุโส และผลประโยชน์ที่เกิดและจะเกิดแก่พรรค
แค่นี้ก็ทำให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ที่ปกติถูกตั้งฉายา "บิ๊กแหย" เพราะยอมทำตาม ผบ.เหล่าทัพมาตลอด ก็พยักหน้ารับอย่างเดียว ยอมสยบแน่นิ่งต่อสตรีหมายเลข 1 ที่อยู่เบื้องหน้า แม้ความรู้สึกในใจดวงเหี่ยวๆ ของทหารแก่ผู้นี้จะแสนเจ็บปวดรวดร้าวเพียงใดก็ตาม
แต่นี่ก็คือสิ่งที่เขาทำใจ ก่อนที่จะตกลงใจรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม แล้วมิใช่หรือ
จากที่เคยยืนกรานถึงขั้นจะให้กฤษฎีกาตีความว่า การตั้ง ปลัดกลาโหม เป็นอำนาจของ รมว.กลาโหม ที่สุด พล.อ.ยุทธศักดิ์ เสียงอ่อย บอก "ไม่ใช่" โดยหน้าที่แล้วปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ท่านดูแลเรื่องกระทรวงเขาจะเป็นผู้เสนอชื่อปลัดกลาโหมคนใหม่"
ชื่อของ บิ๊กเปี๊ยก พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ประธานที่ปรึกษา บก.กองทัพไทย จึงขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่ง ในตำแหน่งปลัดกลาโหม แทนชื่อของ บิ๊กอู๊ด พล.อ.วิทวัส รัชตะนันทน์ รองปลัดกลาโหม น้องรักของ พล.อ.ยุทธศักดิ์
"แต่การจะเปลี่ยนแปลงรายชื่อโยกย้ายนายพลแม้แต่คนเดียว จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ตาม พ.ร.บ.กลาโหมปี 2551 อีกครั้ง" บิ๊กอ๊อด สำทับ
แต่เมื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ขอให้ บิ๊กหมู พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ปลัดกลาโหม ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการ เชิญ ผบ.เหล่าทัพร่วมประชุม เมื่อ 19 กันยายน แต่ก็ไม่ว่างกัน บิ๊กตุ้ย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. กำลังเดินสายอำลามิตรประเทศ และเหล่าทัพ บิ๊กเฟื่อง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ก็ไปต่างประเทศ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็ตรวจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัดต่อเนื่อง
จนทำให้ถูกจับตามองว่า จะมีการประชุม คณะกรรมการ 6 เสือกลาโหม นี้อีกครั้งหรือไม่ หลังจากที่มีการประชุมครั้งแรกเมื่อ 1 กันยายน ไปแล้ว
เพราะแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยคำรามแล้วว่า "ประชุมแล้วถือว่าจบ เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว ใครเปลี่ยนถือว่าผิดกฎหมาย จบๆ"
เนื่องจากงานนี้ จุดยืนของ ผบ.เหล่าทัพ อาจไม่เป็นหนึ่งเดียวในการเลือกปลัดกลาโหม เมื่อ พล.อ.ทรงกิตติ และ พล.อ.กิตติพงษ์ หนุน พล.อ.เสถียร แต่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.ร.อ.กำธร และ พล.อ.อ.อิทธพร อาจมีใจให้ พล.อ.วิทวัส
"ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร. ก็ให้กำลังใจผม ผบ.ทอ. ด้วย ก็เพื่อน ตท.11 กับผม ใครว่า ผบ.เหล่าทัพ ไม่สนับสนุนผม" พล.อ.วิทวัส กล่าว
"ผมไม่เคยให้ร้ายเพื่อน เสถียร เขาเพื่อนผม เป็นประธานรุ่นด้วย ผมว่าเขาไม่ได้อยากเป็นหรอก เพราะเขาโตมาทางโน้น แต่ผมโตที่นี่มากว่า 20 ปี แต่มีคนอื่นที่หนุนอยากให้เสถียรเขาเป็น" พล.อ.วิทวัส เสริม พร้อมยันความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ ด้วยเพราะชะตาชีวิตของเพื่อนรักทั้งสองคนนี้ อยู่ในมือนายกฯ ปู และ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ แล้ว
ถึงขั้นที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เปรยๆ ว่า "อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด" เลยทีเดียว
ทว่า ครั้งนี้ ไม่ใช่การประชุมเพื่อเลือกปลัดกลาโหมคนใหม่ ตามบัญชานายกฯ เท่านั้น แต่เพราะมีตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบจากการที่นายกฯ ไม่ให้เปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหมใหม่อีกด้วย ซึ่งกระทบกับ ทบ. เต็มๆ
ในเมื่อ บิ๊กอ๊อด พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ น้องเลิฟของพี่ๆ บูรพาพยัคฆ์ ต้องกลับเข้านั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหมตัวเดิม เพราะในเมื่อโผโยกย้ายยังไม่ได้มีผล ก็เท่ากับ พล.อ.คณิต ยังคงนั่งอยู่ ตำแหน่งนี้ยังไม่ปิด จนกว่า พล.อ.คณิต จะเกษียณในปี 2556 หรือย้ายไปลงตำแหน่งอื่น
จึงส่งผลให้เก้าอี้ รอง ผบ.สส. ว่าง จากเดิมที่เคยเป็นชื่อของ พล.อ.คณิต แถมทั้งเป็นเก้าอี้ในโควต้าของกองทัพบก ที่ ทบ. จะต้องส่งพลเอก คนใดคนหนึ่งมานั่งอัตราจอมพล 3 เหล่าทัพ เก้าอี้ รอง ผบ.สส. ตัวนี้ หรือว่าจะสละสิทธิ์ เช่นที่เคยสละสิทธิ์ให้ พล.อ.คณิต
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ สละสิทธิ์ ก็อาจทำให้การแก้ปัญหาง่ายลง ด้วยการให้ บิ๊กต่าย พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ ผบ.สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (ผบ.สปท.) เพื่อน ตท.10 ของทักษิณ ขึ้นมาเป็น รอง ผบ.สส. เลย
แต่ที่ ทบ. หวั่นคือ เกรงว่า เก้าอี้ รอง ผบ.สส. จะเป็นช่องว่างให้การเมืองเข้าแทรก เช่น การจะขยับห้าเสือ ทบ. ใหม่อีกครั้ง เพราะต้องส่งคนไปเป็น รอง ผบ.สส. ที่อาจจะเป็น บิ๊กเล็ก พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม ผช.ผบ.ทบ ที่เดิมมีชื่อเป็นประธานที่ปรึกษา ทบ.
แล้วก็ต้องดัน พลเอก ขึ้นมาครองอัตราจอมพล ประธานที่ปรึกษา ทบ. นี้แทน ที่อาจทำให้ต้องขยับ บิ๊กยอด พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผบ.นปอ. เพื่อน ตท.12 ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. แทน
แต่ฝ่ายการเมือง ก็จะหนุน บิ๊กอ๋อย พล.ท.จิระเดช โมกขะสมิต รอง เสธ.ทบ. แกนนำ ตท.13 ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. แทน
แต่ที่ฮือฮาที่สุดคือ เป็นหลุมพรางของฝ่ายการเมือง ที่จะย้าย บิ๊กหนุ่ย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสธ.ทบ. เพื่อนรักของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ข้ามมาเป็น รอง ผบ.สส. จากเดิมที่ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. เพื่อที่จะแยกมันสมองออกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยรู้กันดีว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ นั้นเป็น เสธ. คู่ใจที่คิดเรื่องต่างๆ ทุกเรื่อง
อีกทั้งเป็นการขานรับความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ต่อต้านนายทหารที่เกี่ยวข้องกับการปราบม็อบเสื้อแดง โดยเฉพาะ พล.อ.ดาว์พงษ์ ซึ่งเป็นผู้วางแผนกระชับพื้นที่ ด้วยฝ่ายการเมืองหมายจะดัน บิ๊กเล็ก พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ซึ่งใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. เพื่อหายใจรดต้นคอ พล.อ.ประยุทธ์ ให้หนาวๆ ร้อนๆ รอพร้อมขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แทนทันที หาก พล.อ.ประยุทธ์ ถูกเด้งในโยกย้ายปลายปีหน้า หรือโดนคดี 91 ศพเสื้อแดง
ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ ต้องการจะใช้เก้าอี้ประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม เป็นที่รองรับบิ๊กทหารบางคนในอนาคตด้วยก็เป็นได้
หลุมพรางของฝ่ายการเมือง ในการเขย่าโผอีกครั้ง ยังมีเป้าหมายที่จะให้ บิ๊กโอ๋ พล.ท.พฤณท์ สุวรรณทัต แกนนำ ตท.10 หรือ พล.ท.จิระเดช มานั่งเป็น เสธ.ทบ. แทน บิ๊กบี้ พล.ท.ศิริชัย ดิษฐกุล รอง เสธ.ทบ. เพราะต้องการให้คุม กอ.รมน. ด้วย เนื่องจาก เสธ.ทบ. เป็นเลขาธิการ กอ.รมน. อีกด้วย
เพราะความพยายามของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่มีทักษิณ อยู่เบื้องหลัง ที่จะเข้ามายึด กอ.รมน. ยังคงมีอยู่ ทั้งการเสนอให้ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทำการแทน ผอ.รมน. แต่ก็ถูก กอ.รมน. ตีกลับ เพราะขัดต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคง ปี 2551 ที่คณะกรรมการอำนวยการ 23 คนนั้น มีแต่ข้าราชการประจำ ตัวแทนรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง และ ผบ.เหลาทัพ เท่านั้น ไม่มีฝ่ายการเมือง
จนนายกรัฐมนตรีต้องขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ว่าได้เป็นแค่ที่ปรึกษา กอ.รมน. ซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่ใดๆ ในการสั่งการ จน พล.อ.พัลลภ แนะนำให้นายกฯ ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 8 ที่นายกฯ ในฐานะ ผอ.รมน. จะเสนอให้หัวหน้าส่วนราชการใด ทำการแทน ผอ.รมน. ได้ แต่ต้องตั้ง พล.อ.พัลลภ เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เสียก่อน
ด้วยเพราะ พล.อ.พัลลภ นั้นเคยเป็น รอง ผอ.รมน. ทำงาน กอ.รมน. มาหลายปี รู้ตื้นลึกหนาบาง และกลไกต่างๆ เป็นอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องการให้มาดูแล กอ.รมน. จากที่ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ ตท.12 ยึด กอ.รมน. มาตลอด และใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของกองทัพในการสกัดกั้นพรรคเพื่อไทยมาตลอด
"ไม่ต้องตีกันผม ไม่ต้องกลัวผม ผมทหารแก่ๆ คนหนึ่ง ผมใจดี ไม่คิดร้ายกับใคร เป็นทหารที่รู้จักและเข้าใจน้องๆ ดี ผมไม่ได้มาแก้แค้นล้างบางใคร ผมจะมาช่วยดูแลความมั่นคง" พล.อ.พัลลภ เปรย
หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาตีกัน "ท่านจะตั้งใคร ใครจะมาใครจะไป ก็เชิญ แต่ กอ.รมน. ในยุคนี้ ใครจะมาสั่งให้ทำโน่นทำนี่ ไปทำงานการเมือง ไม่ได้แล้ว หมดสมัย"
การต่อสู้ด้วยข้อกฎหมาย และการแย่งชิงอำนาจของกองทัพ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จึงส่อเค้าความขัดแย้งรุนแรง ในทุกหัวระแหง
ต้องยอมรับว่า คำบัญชาของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในการให้แก้ไขโผทหาร และกลเกมครั้งนี้ ทำให้กองทัพเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นไม่น้อย เพราะ ผบ.เหล่าทัพ ต่างได้กลิ่นไม่ดี ด้วยไม่มีใครเชื่อว่า ปฏิบัติการเขย่าโผทหารของนายกฯ หญิงคนนี้ ย่อมไม่ได้มาจากมันสมองของเธอเอง แต่มีทีมกุนซือที่วางแผนบางอย่างรออยู่
โดยเฉพาะการไม่เปิดอัตราประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ให้ แถมยังเป็นการแจ้งล่าช้า ทั้งๆ ที่นายกฯ ปู ได้รับบัญชีรายชื่อโยกย้ายทหาร ไปดองไว้กว่าสัปดาห์ จนเวลาล่วงเลยเข้ากลางเดือน และปลายกันยายน ในการจะแก้ไข
ท่ามกลางข่าวสะพัดว่า เกมของกุนซือทหารพรรคเพื่อไทย ต้องการลากยาวโผทหาร ให้ไปคลอดหลัง 1 ตุลาคม เพื่อหมายให้ ผบ.เหล่าทัพชุดเดิม เกษียณราชการ แล้วอาศัยช่องว่างกฎหมาย ในการจัดการโผทหารใหม่
เพราะใน ผบ.เหล่าทัพ จะเหลือ พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. และ พล.อ.อ.อิทธพร ผบ.ทอ. เท่านั้น ส่วนทั้ง พล.อ.กิตติพงษ์ ปลัดกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ ผบ.สส. และ บิ๊กติ๊ด พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. เกษียณไปตั้งแต่ 30 กันยายน
ใน พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ปี 2551 ไม่ได้ระบุว่า สามารถให้รักษาการ ผบ.เหล่าทัพ เป็นตัวแทนในนามคณะกรรมการ 6 เสือกลาโหม ได้หรือไม่ อาจทำให้เกิดช่องโหว่ทางกฎหมาย แล้วอาจนำไปสู่การใช้อำนาจของ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการ หรือในที่สุดให้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน
หาก พ.ต.ท.ทักษิณ และผองเพื่อนกุนซือฝ่ายทหาร เลือกที่จะเล่นเกมยื้อโผทหารแบบนี้ ก็ย่อมเสี่ยงต่อความขัดการแย้งกับกองทัพที่รุนแรง เพราะแค่นี้กองทัพก็หวั่นไหว ด้วยเกรงว่าจะมีการโยกย้ายแบบฟ้าผ่า ล้วงลูกล้วงโผ
ที่สำคัญคือ อาจนำไปสู่การแก้ปัญหา ด้วยการให้ตั้งส่วนหัว คือ ผบ.เหล่าทัพ เท่านั้นก่อน แล้วค่อยมาตั้งในระดับรองๆ ลงไป เหมือนเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นปลัดกลาโหม ที่แอบทำโผส่วนหัว ย้าย ผบ.เหล่าทัพ ย้าย บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จาก ผบ.ทบ. ไปแขวนเป็น ผบ.สส. ไปก่อนมาแล้ว
ทั้งหมดนี้คือ ความหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การดองโผ ยื้อโผทหาร ที่อาจจะจบลงด้วยดี หาก ผบ.เหล่าทัพ กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ และนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ตกลงกันได้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะยอมอ่อนข้อหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเขากางปีกป้องโผ ทบ. ด้วย พ.ร.บ.กลาโหม อย่างขึงขัง
ในขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็ถูกจับตามองอย่างหนักว่า จะเลือกใคร ระหว่าง ผบ.เหล่าทัพ กองทัพ หรือพรรคเพื่อไทย นายกฯ ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ ในเมื่อเขาถูกเลือกมาเพื่อให้มา "แก้ไข" กองทัพ แต่กลับมายอมให้กองทัพทุกเรื่อง ยอมให้กองทัพขู่ และกำลังถูกกองทัพกลืนกลายเป็นพวก ด้วยเพราะความที่เลือดทหารย่อมข้นกว่าน้ำ ข้นกว่าการเป็นนักการเมือง
จนเกิดเรื่องกดดันให้เปลี่ยน รมว.กลาโหม ในโอกาสอันใกล้ โดยมีชื่อของ พล.อ.ทรงกิตติ ผบ.สส. ที่กำลังจะเกษียณ และ บิ๊กเกาะ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ อดีต ผบ.ทบ. พี่เลิฟของ พล.ท.พฤณท์ และเครือญาติของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ รออยู่แล้ว
แต่สำหรับบิ๊กอ๊อด แล้ว เขารู้ดีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ นี่เป็นการทำตามนโยบาย ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไขแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ช้า ตอนนี้ยอมไปก่อน ให้ขู่ ยอมให้มาพูดปรามาส ขู่เรื่องปกป้องสถาบัน เรื่องความจงรักภักดีมาตลอด ปล่อยให้คิดว่า แหย ให้คิดว่ายอมไปก่อน
"You know me a little go" แล้วที่สุดพวกน้องๆ ในกองทัพ จะได้รู้ว่า "น้องยังรู้จัก พี่อ๊อด คนนี้น้อยไป"...
................
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่23-29 ก.ย.2554
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1316862133&grpid=&catid=01&subcatid=0100
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น