คลิปจริงยาว1ชั่วโมง‘จตุพร’พร้อมส่งให้ประธานศาลรธน.
“จตุพร” ระบุมีคลิปที่ไม่ได้ตัดต่อความยาว 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับการโกงสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ศาล ภาพเห็นชัดเด็กเส้น 2 ใน 15 คนรับข้อสอบจากใคร แถมยังมีบันทึกคำสารภาพเอาไว้หลังจากสอบเข้าไปแล้วอีกด้วย ยืนยันจะไม่นำมาเปิดเผยเอง พร้อมส่งให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญหากต้องการ ย้ำไม่ได้เป็นคนทำและไม่รู้ใครส่งมาให้
ด้านตุลาการส่ง “จรัญ” ชี้แจง เชื่อทำกันเป็นขบวนการเพื่อกดดันให้ผลคดีเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ เผยมีการติดต่อทางลับข่มขู่ก่อนคลิปแพร่บนยูทูบแต่ไม่ได้รับการตอบรับจึง ปล่อยคลิปออกมา โต้ไม่เคยฝากลูกหลานเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลและไม่มีใครเคยมาสอบแข่งขัน มติตุลาการไม่โต้ผ่านสื่อจะใช้กฎหมายจัดการ มั่นใจทั้ง 9 คนไม่มีใครเป็นโสเภณี
“มาร์ค” แย้มผลสอบ ปชป. พบความเชื่อมโยงการเดินทางของคนทำคลิปกับคนอยู่เบื้องหลัง ตำรวจได้หลักฐานครบเตรียมหมายจับ ประสานไอซีทีบล็อกทั้ง 8 คลิปห้ามดู อ้างเพื่อไม่ให้บ้านเมืองวุ่นวาย
วันที่ 1 พ.ย. 2553 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รับมอบหมายจากคณะตุลาการแถลงชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่คลิปเกี่ยวข้องกับศาลรัฐ ธรรมนูญ โดยระบุว่า คณะตุลาการมีมติให้เลขาธิการสำนักงานเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้กระทำและเผย แพร่คลิปชุดใหม่ เพื่อเป็นการท้าพิสูจน์ความจริง
คลิปแรกไม่เข้าเป้าจึงมีชุดสอง
“คลิปชุดใหม่ที่เผยแพร่ออกมาสร้างความเสื่อมเสียให้ศาลรัฐธรรมนูญมากกว่า คลิปชุดเดิม ถือเป็นระเบิดอีกลูกที่ต้องการทำลายศาล หลังจากระเบิดลูกแรกไม่เป็นผลเท่าไร การดำเนินการของคนกลุ่มนี้เป็นการทำเพื่อบีบบังคับให้ศาลดำเนินการตามความ ประสงค์ เป็นการให้ข้อมูลสาธารณะเพื่อข่มขู่
จากการวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นการจัดทำของคนคนเดียวกับที่ล่อนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาติดกับในคลิปก่อนหน้านี้ ผู้กระทำการใช้คำถามนำซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคลิปชุดล่าสุดนี้มีการบิดเบือนข้อ เท็จจริงอย่างไร เป็นการจงใจวางแผนให้คนที่เป็นคู่สนทนาติดกับเพื่อเก็บข้อมูลไว้บีบบังคับ ตุลาการที่อยู่ในภาพเหตุการณ์เพื่อให้จำยอมทางคดี และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือตุลาการชุด นี้” นายจรัญกล่าว
อ้างมีเจรจาทางลับข่มขู่ก่อนแล้ว
นายจรัญกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเจรจาทางลับว่าหากการพิจารณาคดีไม่เป็นไปตามที่กลุ่มนี้ต้อง การก็จะเปิดเผยข้อมูลที่ทำเอาไว้เป็นระยะ การข่มขู่ไม่สำเร็จจึงมีการเปิดเผยออกมาเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือโดยใช้ ข้อมูลอันเป็นเท็จ เช่น กรณีที่บอกว่าโกงข้อสอบ เอาข้อสอบไปให้ลูกดูจนสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลได้เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งไม่จริง ขอให้ไปดูพยานหลักฐานได้ว่าไม่เคยมีลูกหรือหลานเข้าสอบในครั้งนั้นแต่อย่าง ใด เป็นการใช้ข้อมูลเท็จอย่างชัดเจน
“จรัญ” ยังไม่เคยฝากลูกเข้าทำงาน
“ถือเป็นโชคดีที่เกิดเหตุการณ์นี้เพราะได้มีโอกาสชี้แจง ผมมีลูก 4 คน คนโตเป็นทันตแพทย์ คนที่ 2 ทำงานบริษัทกฎหมาย คนที่ 3 เป็นวิสัญญีแพทย์ และคนสุดท้องก็เป็นแพทย์ ลูกผมทั้งหมดไม่เคยมีใครสอบเป็นข้าราชการระดับ 3 ที่ไหนเลย” นายจรัญกล่าวและว่า ในที่ประชุมตุลาการ 2 คนที่ปรากฏภาพในคลิปยืนยันว่ามีข้อมูล พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง แต่ไม่ต้องการชี้แจงผ่านสื่อเพราะไม่อยากให้โต้เถียงกันไปมา โดยจะขอไปพิสูจน์กันในกระบวนการของกฎหมาย
ยืนยันไม่มีตุลาการคนใดลาออก
นายจรัญกล่าวว่า เป้าหมายของคนที่ดำเนินการเรื่องนี้คือต้องการบีบให้ตุลาการลาออกจากการ พิจารณาคดีสำคัญหรือให้ออกจากเป็นตุลาการไปเลย จึงพยายามเจาะทำลายทีละคน ซึ่งในที่ประชุมไม่มีตุลาการท่านใดบอกว่าจะลาออก และส่วนตัวเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลาออก หากออกตอนนี้จะทำให้เกิดกระบวนการใส่ร้ายไปเรื่อยๆเพื่อโค่นล้มศาลรัฐ ธรรมนูญ จึงอยากขอโอกาสให้ตุลาการที่ถูกกล่าวหาได้พิสูจน์ตัวเอง เมื่อความจริงปรากฏหากมีใครต้องได้รับโทษหรือต้องมีใครลาออกก็ว่ากันไป
ไม่ผิดประมวลจริยธรรมศาล
นายจรัญยืนยันว่า สิ่งที่ปรากฏไม่เป็นการผิดประมวลจริยธรรมตุลาการ เรื่องความเชื่อเราไปบังคับใครไม่ได้ แต่ต้องไม่รับสินบน ไม่รับใบสั่ง หรือสยบสมยอมต่ออำนาจมืด หากใครไปทำเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่แค่ผิดประมวลจริยธรรม แต่เป็นการทรยศต่อกฎหมาย และไม่เพียงเป็นตุลาการไม่ได้ต้องได้รับการลงโทษด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบคลิปใหม่หรือไม่ นายจรัญกล่าวว่า คณะกรรมการของศาลถูกทำลายความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว จึงต้องพึ่งกระบวนการทางกฎหมายเป็นหลัก
ได้ใจทำกับองค์กรอื่นสำเร็จมาแล้ว
“ขบวนการทั้งหมดนี้ปิดล้อมศาลเกือบไม่มีทางออกเหมือนที่เคยสำเร็จมาแล้ว กับองค์กรอิสระอื่น แต่โชคดีที่ตุลาการไม่สยบยอม และทำให้เรามั่นใจได้ว่าตุลาการทั้ง 9 คนไม่มีใครขายตัวเป็นโสเภณี” นายจรัญกล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน แถลงว่า บันทึการสนทนาที่เคยเห็นยาวกว่านี้นานประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อไปอาจมีใครนำมาเผยแพร่อีก
“จตุพร” มีภาพ 2 เด็กเส้นรับข้อสอบ
“ข้อมูลที่ผมได้รับมาไม่รู้ว่ามาจากใคร เพราะตอนไปปราศรัยมีคนเอาซีดีอะไรก็ไม่รู้มาให้เยอะแยะ เมื่อเอามาตรวจสอบดูจึงเห็นเรื่องนี้ เรื่องโกงข้อสอบยังมีภาพบันทึก 2 คน ใน 15 คนที่เป็นเด็กเส้นได้รับข้อสอบก่อนเข้าห้องสอบ เมื่อสอบได้เป็นเจ้าหน้าที่แล้วยังมีการบันทึกภาพและเสียงรับสารภาพว่ารับ ข้อสอบจากใคร ด้วยวิธีอะไร ผมคงไม่เอามาเปิดเผยแต่อยากมอบให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ จะได้ไปปัดกวาดบ้านตัวเองให้สะอาด” นายจตุพรกล่าว
วอนผู้เข้าสอบแจ้งความดำเนินคดี
ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การกระทำของตุลาการและอดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญเป็นความผิดอาญาและ ผิดจริยธรรม จึงอยากให้ผู้ที่สมัครสอบทั้ง 12,000 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดี หรืออาจไปฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศาลปกครองก็สุดแท้แต่ เนื่องจากเป็นการสอบที่ไม่ชอบ
ไม่เคยมีใครบอก “จรัญ” ฝากลูกชาย
“ที่นายจรัญออกมาบอกว่าไม่เคยฝากลูกชายเพราะจบแพทย์ ผมก็ไม่เห็นข้อความในคลิปว่ามีตอนไหนบอกว่านายจรัญฝากลูกชาย แค่บอกว่ามีคนฝากเด็กไว้ 3 คนเท่านั้น และหากนายจรัญจะฟ้องร้องก็ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกับตุลาการและเลขานุการ ประธานศาล เพราะเป็นคนที่พูดถึงตัวนายจรัญเอง” นายจตุพรกล่าวพร้อมเรียกร้องให้นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานรัฐธรรมนูญ หรือใครก็ตามที่มีข้อมูลอยู่ในมือนำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน และเราต้องชื่นชมว่าคนเหล่านี้เป็นพลเมืองดี เปรียบเหมือนโจรขึ้นบ้านแล้วมีคนถ่ายคลิปไว้ได้ก็นำมาใช้เป็นหลักฐาน หากโจรไปแจ้งดำเนินคดีกับคนถ่ายคลิปแล้วต้องคิดคุกอย่างนี้จะอยู่กันได้ อย่างไร
เปิดชื่อตุลาการตั้งลูกเป็นเลขานุการ
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ตั้งลูกเป็นเลขานุการส่วนตัว กินเงินเดือน 40,000 บาทคือ นายบุญส่ง กุลบุปผา เมื่อได้รับการแต่งตั้งแล้วไม่ค่อยอยู่ประเทศไทยเพราะไปเรียนต่างประเทศ การออกมาอ้างว่าต้องเอาคนไว้วางใจได้มาทำงานก็อยากถามว่าเมื่อตัวไม่อยู่ แล้วจะทำงานได้อย่างไร หากออกมาปฏิเสธจะเอาตั๋วเครื่องบินของลูกนายบุญส่งมาแสดงให้ดู
ให้ทำใจเป็นกลางอย่ารีบเชื่อ
ศาสตราจารย์พิเศษวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องทำใจเป็นกลางเพราะยังไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงของเรื่องเป็น อย่างไร จัดฉากกันหรือไม่ คงต้องผลการสอบสวนออกมาก่อน
“สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือเป็นความบกพร่องของการบริหารจัดการในศาลรัฐ ธรรมนูญที่ปล่อยให้มีเรื่องอย่างนี้ออกมา โดยปรกติคนที่เป็นเลขาส่วนตัวจะไม่ให้เข้าไปยุ่งในที่ประชุมเด็ดขาด” ศาสตราจารย์พิเศษวิชากล่าวและว่า มีคนมาร้องต่อ ป.ป.ช. ให้สอบสวนเรื่องโกงข้อสอบแล้ว ซึ่งเราต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่จำเป็นก็ไม่อยากออกความเห็น
ตำรวจเสนอไอซีทีบล็อก 8 คลิป
ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. ประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเกี่ยวกับคดีการเผยแพร่คลิปล็อบบี้ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์
พล.ต.ต.ปัญญากล่าวหลังประชุมว่า ได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ทำหนังสือถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้บล็อกคลิปทั้ง 8 คลิป (ของเก่า 3 คลิป ของใหม่ 5 คลิป) เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย โดยนำคลิปที่เผยแพร่ใหม่มารวมเป็นคดีเดียวกันเพราะเป็นเรื่องเดียวกัน
หลักฐานพร้อมขอหมายจับ
“ขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะขออนุมัติหมายจับผู้ดำเนินการพร้อม แล้ว แต่ติดตรงที่สถานะผู้ที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ว่าเป็นตัวการ ผู้สนับสนุนว่าเป็นเจ้าพนักงาน ตามที่เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมาแจ้งความเอาไว้หรือไม่ จึงได้ส่งเรื่องไปให้ฝ่ายกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา หากเป็นเจ้าพนักงานต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ” พล.ต.ต.ปัญญากล่าวและว่า สำหรับผู้โพสต์คลิปได้ประสานกับทางยูทูบแล้ว ยังไม่มีคำตอบกลับมาจึงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
“ในส่วนของผู้ดำเนินการนั้นมีหลักฐานพอที่จะออกหมายจับ แต่ทราบว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว” พล.ต.ต.ปัญญากล่าว
“มาร์ค” ให้ชี้แจงตามข้อเท็จจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเรามี พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่
“เรื่องของคดีความก็ต้องว่ากันไป เรื่องที่ประชาชนติดใจสงสัยผู้เกี่ยวข้องก็ต้องชี้แจงตามข้อเท็จจริง แน่นอนว่าเป็นความพยายามลดความน่าเชื่อถือของศาล แต่ทั้งหมดอยู่ที่การอธิบาย” นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า หากมีคำตัดสินคดีความอะไรเกี่ยวกับการเมืองก็ต้องอธิบายที่มาที่ไปของคำ ตัดสิน หากสังเกตระยะหลังศาลจะอ่านคำตัดสินละเอียดมาก
ผลสอบ ปชป. เห็นความเชื่อมโยง
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ภายใน 1-2 วันนี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของพรรคเกี่ยวกับคลิปที่มี ส.ส. ของพรรคเข้าไปเกี่ยวข้องจะส่งรายงานมาให้ ทราบว่าในรายงานจะมีรายละเอียดชัดเจนว่าคนที่ดำเนินการนั้นเดินไปไหนมาบ้าง ระหว่างดำเนินการ ใช้เวลากี่วัน และอยู่ในประเทศกี่วัน
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ความเห็นว่า ไม่อยากให้ด่วนสรุปอะไร รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่าว่าอะไรจริง อะไรเท็จ
“ภาพลักษณ์ของศาลรัฐธรรมนูญในสายตาประชาชนขณะนี้มีหลายมิติ พวกที่ชื่นชมก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร พวกที่ไม่เห็นด้วยก็ออกมาต่อต้าน แต่หากจะถึงขนาดให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญคงไม่ถูกต้อง ควรหาวิธีควบคุมการทำงานมากกว่า เรื่องนี้หากเป็นจริงก็เป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร” นายชุมพลกล่าวและว่า คลิปฉาวต่างๆที่ถูกนำออกมาเผยแพร่จะมีผลทางการเมืองหลังเลือกตั้งครั้งหน้า แน่นอน เพราะคงจะมีพรรคการเมืองเอาไปชูเป็นประเด็นหาเสียงว่าจะเข้ามาแก้ไข ส่วนจะทำได้หรือไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่มา: เรื่องจากปก จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 12 ฉบับที่ 2919 ประจำวัน อังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น