วันอาทิตย์, ตุลาคม 17, 2553

ฮือฮา! "เสธ.แดง2"โผล่งานกิจกรรมแดงที่กรุงเก่า "17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม" สัมผัสมือแนวร่วม

by herogeneral.blogspot.com
Ref: มติชนออนไลน์ (update : วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 08:30:41 น.)

จาก อัลบั้มมติชน ออนไลน์

ฮือฮา! "เสธ.แดง2"โผล่งานกิจกรรมแดงที่กรุงเก่า สัมผัสมือแนวร่วม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการจัดกิจกรรมของกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือคนเสื้อแดง ภายใต้ชื่องาน "17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม" ที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงกำลังร่วมกิจกรรมอยู่นั้น ได้มีเรื่องฮืฮอาเกิดขึ้น เมื่อพบชายคนหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดทหารลายพราง หน้าตาละม้ายคล้ายคลึง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งถูกลอบทำร้ายเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ เดินมาสัมผัสมือประชน ซึ่งคนเสื้อแดงต่างชอบใจ และเรียกว่า "เสธ.แดง2 " กันเป็นแถว

เสื้อแดงรวมตัวที่สนามกีฬาอยุธยารอจุดตะไล 3 พันนัด หลังผูกผ้าที่สะพานปรีดีฯเดินขบวนล้อเลียนการเมือง
Ref: มติชนออนไลน์ (update:วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:30:03 น.)

แดงรวมตัวที่สนามกีฬาอยุธยารอจุดตะไล3 พันนัด

เวลา 15.30 น. วันที่ 17 ตุลาคม 53 นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ประสานงานคนเสื้อแดง จ.พระนครศรีอยุธยา นำคนเสื้อแดงจำนวนมากแห่ป้ายความยาวกว่า 100 เมตรที่พิมพ์ภาพคนเสื้อแดงตายที่ราชประสงค์ ไปที่สะพานปรีดีธำรง ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา โดยผูกผ้าแดงเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์โดยมีข้อความ "คนดีที่ถูกอำมาตย์ทำลายจนต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นนายกรัฐมนตรีรายที่ 2 ที่ถูกชะตากรรมเดียวกันกับนายปรีดี พนมยงค์" จากนั้นมีการเคลื่อนขบวนไปตามถนนโรจนะ เพื่อมุ่งหน้าสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีคนเสื้อแดงจากภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก จำนวนมากเต็มสนามกีฬาขอร่วมกิจกรรมหน้าที่เวทีของ นปช.โดยหมายกำหนดการของการชุมนุมจะมีการปราศรัย กิจกรรมหน้าเวที และงานจะไปสิ้นสุดเวลา 22.00 น. โดยจะมีการจุดไฟตะไลทะลุฟ้าท้าอธรรม จำนวน 3 พันนัด

ทั้งนี้กิจกรรมปล่อยขบวนคนเสื้อแดงจากสะพานปรีดีธำรงไปสนามกีฬาจังหวัด มีแกนนำของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) เข้าร่วมในกิจกรรมด้วยเช่นกัน และได้รับความสนใจจากคนเสื้อแดงเป็นอย่างมาก ตลอดทางมีการแสดงล้อเหตุการณ์รุนแรง ทหารฆ่าประชาชน โดยจำลองรถถังของทหาร ชายแต่งชุดทหาร เข้าทำร้ายฆ่าฆ่าประชาชน และทหารคุมตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อแกนนำ นปช. ซึ่งได้รับความใจจากประชาชนคนทั่วไปมากเช่นกัน และนอกจากเสียงเพลงปลุกใจเพลงของ นปช.แล้ว ยังมีขบวนกลองยาว ที่มีนางรำแต่งกายเป็นนักรบถือดาบ 2 ข้าง รำหน้าขบวนจนเป็นที่สนุกสนานเช่นกัน

"แดง"สตาร์ทแรลลี่หน้าบิ๊กซี ลาดพร้าว ตระเวนรอบสถานที่สำคัญทั่วกรุง

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงพื้นที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ลาดพร้าว เพื่อตรวจความเรียบร้อยของกิจกรรมปล่อยขบวนแรลลี่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมาก รวมทั้งกลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย


ทั้งนี้ เส้นทางแรลลี่เริ่มจากบิ๊กซี ลาดพร้าว ไปยังบางกะปิออกรามคำแหงไปยังสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อถึงจุดนี้จะมีการเปิดไฟหน้ารถและส่งเสียงแตร เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ทั้งนี้ขบวนแรลลี่จะผ่านจุดสำคัญในกรุงเทพฯ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กองบัญชาการกองทัพบก และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์

"พงศพัศ"เผยม็อบแดงรวมตัวอยุธยายังปกติ

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 (สบ.10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ภายใต้การจัดกิจกรรม "17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม" ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ทุกอย่างยังเป็นปกติ โดยขบวนแรลลี่ที่มาจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีรถยนต์ 35 คัน จำนวนผู้ติดตามประมาณ 150 คน ได้เดินทางมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเรียบร้อยแล้ว และแยกย้ายกันพักตามวัดต่างๆ ที่จัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน และน่าจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเช้า

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ในเวลา 08.00 น. ขบวนแรลลี่จากกรุงเทพมหานคร จะเคลื่อนขบวนออกจากหน้าห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ไปยังจุดต่างๆ ก่อนที่จะเดินทางไปรวมตัวกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คาดว่าขบวนแรลลี่จากทม.และจังหวัดใกล้เคียง จะเดินทางไปรวมตัวกันที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้พร้อมกันในเวลา 12.00 น.

ตร.รับมือ-อำนวยความสะดวกเต็มที่

ที่ปรึกษา สบ.10 ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวต่อว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เตรียมกำลังไว้คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่ โดยเน้นตรวจตราอาวุธ เพราะเป็นห่วงมือที่ 3 ที่อาจฉวยโอกาสเข้ามาก่อกวน หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ชุมนุม ส่วนการจัดกิจกรรมจุดพลุ ตะไล อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้มงวดเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ผลกระทบกับนักท่องเที่ยว ดังนั้นจึงจะมีการจัดเส้นทางให้กับขบวนแรลลี่ และประสานผู้จัดกิจกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว

แรลลี่นปช.เชียงใหม่-อยุธยาโวยเจอสารพัดอุปสรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ซึ่งนัดรวมตัวกันที่จ.พระนครศรีอยุธยาว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ขบวนแรลรี่เชียงใหม่ – อยุธยาฯ เดินทางถึงพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรหาราช หรือทุ่งภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีกำลังตำรวจประมาณ 300 นาย กระจายกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยตลอดเส้นทาง ส่วนที่ด้านหน้าทางเข้าทุ่งมะขามหย่อง มีตำรวจปราบจลาจล ตรวจสอบพร้อมจดบันทึก รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ของขบวนกลุ่ม นปช. ทุกคัน นอกจากนี้ยังมีการบันทึกภาพทั้งภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งไว้ทั้งหมด

ทั้งนี้ กลุ่ม นปช. ประมาณ 400 คน ได้ทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในทุ่งภูเขาทอง ท่ามกลางฝนตกตลอดการทำพิธี โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น หลังจากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงได้แยกย้ายกันไปรับประทานอาหารที่กลุ่ม นปช. จ.พระนครศรีอยุธยา จัดเตรียมมาไว้ให้ ซึ่งตลอดการทำพิธีบวงสรวง กองตำรวจสื่อสารได้ถ่ายทอดการทำกิจกรรมของกลุ่ม นปช. ด้วยกล้องวงจรปิด ผ่านไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประเมินสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม

กลุ่ม นปช. ที่เข้าร่วมขบวนแรลรี่ เปิดเผยว่า ตลอดเส้นทางการเดินทางจาก จ.เชียงใหม่ ถึง จ.พระนครศรีอยุธยา มีการตั้งด่านจำนวนมาก เพื่อตรวจค้นกลุ่ม นปช. ให้เดินทางถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ช้าลง และยังมีการวางตะปูเรือใบกับรถของขบวนแรลรี่ด้วย


ผู้ว่าฯกรุงเก่าวอนชุมนุม"17ตุลา ตาสว่างฯ" อยู่ในกรอบ

ขณะที่ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกประชุม หน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่พบเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง หรือความผิดปกติแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามฝากให้กลุ่ม นปช. ที่จะจัดกิจกรรม "17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม" ชุมนุมอยู่ในกรอบทางกฎหมาย และจะไม่ปิดกั้นการแสดงออกทางความคิดแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจยังคงมีการตั้งด่านตรวจสอบรถยนต์ที่ผ่าน เข้า – ออก ในเขต จ.พระนครศรีอยุธยาอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความสงบและตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ในวันนี้


แรลลี่แดงฝ่าฝน-2หมื่นรวมพลอยุธยา ในกรุงจัด ทัวร์ถนน ไปสมทบ นปช.ตจว.
ข่าวสดรายวัน (update: วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7263 หน้า1)

จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน
คึกคัก - นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด ขึ้นเวทีปราศรัยในสนามกีฬาจังหวัดพระนครอยุธยา ต่อหน้าคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานแรลลี่ "17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม" ทั้งในและนอกสนามร่วม 2 หมื่นคน เมื่อ 17 ต.ค.

เสื้อแดง 2 หมื่นพรึ่บ อยุธยา จัดแรลลี่จากทั่วประเทศฝ่าสายฝนมาชุมนุมเต็มสนามกีฬาจังหวัด กทม.ตั้งขบวนแต่เช้าเคลื่อนไปตามถนนสัญลักษณ์ทั่วเมืองหลวง ผ่านบีบแตรหน้าราบ 11 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนไปสมทบขบวนใหญ่จากเหนือ อีสานที่กรุงเก่า 'สมบัติ-ลายจุด'ขึ้นเวทีเรียกเสียงปรบมือ เขย่าหัวใจตบดังกระหึ่ม ซัดประเทศนี้ตอแหล รัฐ บาลฆ่าประชาชนแล้วใส่ร้ายเป็นผู้ก่อการร้ายยังลอยนวลอยู่ได้ เชิญชวนคนเสื้อแดงสู้ต่อไป แต่จะใช้วิธีท้าทายทางสัญลักษณ์ไม่ออกไปให้ฆ่าอีก

เสื้อแดงไม่กลัวฝนร่วมแรลลี่

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่หน้าห้างบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว สถานที่รวมตัวของสมาชิกเสื้อแดง จัดกิจกรรมรำลึก "17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม" และ "37 ปี 14 ตุลา 2516" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น.กลุ่มคนเสื้อแดงทยอยนํารถยนต์มาจอดรวมตัวอย่างต่อเนื่องเกือบ 200 คันเพื่อร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ท่ามกลางสภาพพื้นถนนเจิ่งนองไปด้วยน้ำหลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

เวลา 08.00 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนํากลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดงานครั้งนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 37 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลา ที่ประชาชนเปิดฉากลุกขึ้นสู้ก่อนจบลงด้วยรัฐบาลใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจํานวนมาก ซึ่งเป็นเหตุการณ์เหมือนกันกับคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องขอคืนอํานาจให้ประชาชน แต่กลับถูกรัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม จนมีประชาชนล้มตาย 92 ศพ และบาดเจ็บนับไม่ถ้วน คนเสื้อแดงจึงขอเรียกร้องรัฐบาลทําตามข้อเสนอที่ยื่นให้พิจารณาโดยทันที ได้แก่ 1.ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองของ นปช.ทุกคนทันที โดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปฏิรูปศาลยุติธรรม 3.ปฏิรูปเศรษฐกิจ และ 4.ประกันรายได้เกษตรกร และกรรมกรให้พอเพียง นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้คืนสิทธิสื่อมวลชนของคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นดีสเตชั่น พีเพิลแชนแนล และเรด พาวเวอร์ ฯลฯ

แบ่งขบวนทัวร์ถ.กรุง-ไปอยุธยา

นายสมยศกล่าวอีกว่า อยากเรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.คนใหม่ ว่ากองทัพต้องไม่แทรกแซงการเมือง จึงจะลดความแตกแยกทางการเมืองได้ และทําความจริงในเหตุการณ์ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค.2553 ให้กระจ่าง และนําตัวฆาตกรที่สั่งปราบปรามประชาชนจนมีคนตายและบาดเจ็บมาลงโทษโดยเร็ว กองทัพไม่ควรแสดงบทบาทรับใช้อำมาตย์อย่างที่เป็นอยู่ นอกจากนี้คนเสื้อแดงจะเกาะติดคดียุบพรรคประชาธิปัตย์อย่างจริงจัง และปลายเดือนพ.ย.นี้จะนัดชุมนุมใหญ่ที่ จ.สมุทรสาครอีกครั้ง ส่วนจะเป็นสถานที่ใดจะพิจารณาและประสานงานกันอีกครั้ง

แกนนํากลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวต่อว่า ส่วนขบวนแรลลี่ครั้งนี้จะแยกเป็น 2 ขบวน โดยขบวนแรกมุ่งหน้าออกถนนวิภาวดีรังสิตไปยังจ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนขบวนใหญ่จะไปตามเส้นทางประวัติศาสตร์ มี.ค.-พ.ค.2553 โดยขบวนรถทุกคันจะเปิดไฟหน้า และบีบแตรส่งสัญญาณรำลึกถึงคนตายเมื่อถึงจุดต่างๆ ที่พี่น้องเสื้อแดงเสียชีวิต ส่วนการวิ่งผ่านทําเนียบรัฐบาลจะส่งสัญญาณแบบเดียวกัน แต่สื่อความหมายให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง

ผ่านบีบแตรทำเนียบ-ราบ 11

จากนั้นเวลา 08.30 น. ขบวนแรลลี่เคลื่อนออกจากบิ๊กซี ลาดพร้าว โดยนายสมยศขึ้นท้ายรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงนําขบวน ต่อด้วยขบวนมอเตอร์ไซค์ ถือธงแดงเป็นสัญลักษณ์ และขบวนรถเก๋ง รถกระบะปิดท้าย วิ่งมุ่งหน้าถนนบางกะปิ เลี้ยวขวาเข้าถนนรามคําแหง ก่อนเลี้ยวขวาเข้า ถนนพระราม 9 และหยุดรอขบวนมาสมทบบริเวณดังกล่าว ประมาณ 5 นาที จึงมุ่งหน้าสู่ถนนดินแดง ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าถนนราชวิถี ถึงแยกตึกชัย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระรามที่ 6 จุดนี้จะมีรถตํารวจสน.พญาไท ขับนําหน้า เมื่อถึงแยกถนนเพชร บุรีตัดใหม่จัดขบวนเลี้ยวขวา มุ่งหน้าเข้าถนนพิษณุโลก ผ่านทําเนียบรัฐบาล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดําเนินนอก มุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย ถนนราชดําเนินกลาง และกลับรถที่แยกคอกวัว เพื่อรอขบวนจากวงเวียนใหญ่มาสมทบ โดยตํารวจจราจรกั้น 3 เส้นทางด้านซ้ายเพื่อให้ขบวนใช้จอดรถ โดยหัวแถวอยู่แยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ท้ายแถวอยู่ที่แยกคอกวัว

กระทั่งเวลา 10.00 น. ขบวนแรลลี่เคลื่อนต่อมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน เมื่อขบวนผ่านหน้า ร.11 รอ. บางเขน กลุ่มคนเสื้อแดงจอดรถบีบแตรส่งสัญญาณเพื่อรอขบวนมารวมตัวจนหมด ก่อนเคลื่อนตัวมุ่งหน้าออกถนนวิภาวดีฯ ไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยาทันที

ตร.ตั้งด่านมธ.รังสิตทำรถติดหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางจุดต่างๆ ที่ ขบวนแรลลี่คนเสื้อแดงผ่านจะมีเจ้าหน้าที่ตํารวจพร้อมโล่ ยืนตั้งแถวป้องกันเหตุร้าย นอกจากนี้บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ถนนวิภาวดีฯ มีการตั้งด่านตรวจรถขบวนเสื้อแดงทุกคัน ทําให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ยาวกว่า 10 ก.ม.ส่งผลให้ขบวนแรลลี่แตก บางคนต้องจอดรถทิ้งไว้ข้างทางและนั่งท้ายรถกระบะกันไปเป็นกลุ่มใหญ่ โดยนัดไปพบกันสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยกเลิกการรวมตัวบริเวณสะพานปรีดี-ธำรง ที่เคยนัดไว้ก่อนหน้านี้ นอก จากนี้พื้นที่รอบตัวเมืองอยุธยาก็มีกำลังตํารวจตั้งจุดตรวจเป็นระยะเช่นกัน

เก็บหลักฐานทุกคน-รถทุกคัน

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกบช.น. ให้สัมภาษณ์ว่า ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาล (ศปก.น.) รายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. ว่า ขบวนแรลลี่ของนปช. ซึ่งรวมตัวที่ห้างบิ๊กซีลาดพร้าวตั้งแต่ช่วงเช้าจะเคลื่อนขบวนไปจ.พระนครศรี อยุธยา ขบวนประกอบด้วยรถยนต์ 150 คัน รถจักรยานยนต์ 50 คัน และมีผู้ชุมนุมจากกรุงเทพฯ ไปร่วมประมาณ 800 คน ซึ่งสถาน การณ์ทั่วไปเป็นปกติ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ลงพื้นที่ห้างบิ๊กซีลาดพร้าวตั้งแต่เช้า เพื่อควบคุมบังคับบัญชากำลังเจ้าหน้าที่ โดยใช้กำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนบก.น.4 บริเวณจุดรวมพล เน้นไม่ให้กีดขวางเส้นทางจราจรและฝ่าฝืนกฎหมาย เบื้องต้นทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่บันทึกภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวรถยนต์ทุกคัน รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด เพื่อใช้ตรวจสอบต่อไปว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มี นอกเหนือจากขบวนใหญ่ดังกล่าว ยังพบการรวมตัว 2 จุด ในกทม. คือ บริเวณวงเวียนใหญ่ ประมาณ 10 คันรถ และอีกจ.นนทบุรี มาตามเส้นทางถนนแจ้งวัฒนะ ประมาณ 50 คันรถ พักรวมกลุ่มบริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ทั้ง 2 กลุ่มไม่มีแกนนำชัดเจน คาดว่าจะไปรวมกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา


จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดรายวัน
แน่นสนาม - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทย แกนนำเสื้อแดง นั่งบนเวทีเตรียมปราศรัยในสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในงานแรลลี่ "17 ตุลา ตาสว่างกว่าเดิม" ที่มีผู้มาร่วมงานราว 2 หมื่นคน เมื่อ 17 ต.ค.


ทั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ 10 ดูแลด้านความมั่นคง ประชุมผ่านระบบถ่ายทอดทางไกลมายังศปก.น. ซึ่งรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช.เข้ามาตลอดว่า กลุ่ม นปช.จากภาคต่างๆ เริ่มทยอยไปที่จ.พระนครศรีอยุธยาอย่างคึกคัก ซึ่งผบก.ภ.จ. อยุธยาจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2,000 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย สถานการณ์ทั่วไปปกติ

อย่างไรก็ตาม บช.น.ยังวางกำลังเจ้าหน้าที่ตรึงพื้นที่อยู่ โดยใช้กำลัง 3 กองร้อย จากบก.น.1-4 และ 6 และหน่วยเคลื่อนที่เร็วจากบก.ต่างๆ ตำรวจจราจร 150 นาย รวมทั้งฝ่ายสืบสวนคอยเก็บหลักฐานต่างๆ ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มขบวนแรลลี่เพื่อส่งข้อมูลมายังศปก.น. จนกระทั่งกลุ่มนปช.เดินทางไปถึง จ.อยุธยา

กก.เยียวยาเก็บข้อมูล 5 ชุมชน

วันเดียวกันเวลา 09.00 น.ที่สำนักงานกลางนักเรียนคริสเตียนแห่งประเทศไทย ปทุมวัน คณะอนุกรรมการเยียวยา และฟื้นฟูปัญหาความรุนแรง ของคณะกรรมการอิสระเพื่อความปรองดอง(คอป.) จัดเวทีรับฟังปัญหาจากตัวแทน 5 ชุมชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมของกลุ่มนปช. คนเสื้อแดง ได้แก่ 1.ชุมชนซอยพระเจน 2.ชุมชนบ่อนไก่ 3.ชุมชนสามัคคีรวมใจ ยานนาวา 4.ชุมชนริมคลองบางซื่อ ดินแดง และ 5.ชุมชนดินแดง โดยมีหน่วยงานศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาสิทธิผู้หญิงที่ได้รับงบประมาณจากเวิลด์แบงก์ มาเก็บข้อมูลเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย โดยน.พ.รณชัย คงสกนธ์ ประธานคณะอนุกรรมการเยียวยาและฟื้นฟูปัญหาความรุนแรง คอป. และอนุกรรมการ ร่วมรับฟังปัญหา มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมกว่า 100 คน

น.พ.รณชัย กล่าวว่า คณะอนุกรรมการเป็นส่วนหนึ่งในการเยียวยาปรองดอง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปสังคม ของคอป. ชุดที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้ตั้งใจมาพบตัวแทนชุมชน เพื่อรับฟังปัญหาของชาวชุมชน หลังผ่านเหตุการณ์การชุมนุมมาแล้ว 3 เดือน แต่ยังมีความเดือดร้อนอยู่ และอยากให้หน่วยงานใดบ้างมาช่วยเหลือ ก่อนรวบรวมข้อมูลที่ได้ทั้งหมดนำเสนอต่อหน่วยงานของรัฐต่อไป ขอยืนยันว่าเป็นคณะอิสระ และเป็นคนกลางที่จะช่วยสื่อปัญหาของพี่น้องไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ชาวบ้านถูกทอดทิ้งเหมือนไม่ใช่คน

นางสุรีพร จันทรประสาท กรรมการชุมชนซอยพระเจน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาถือเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่เจอกับตัวเองและไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ทุกวันนี้ยังไม่ได้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างแท้จริง โดยช่วงแรกกว่าจะได้รับการช่วยเหลือต้องไปออกรายการทีวี ทั้งที่หวาดกลัว แต่ไปก็เพื่อปากท้องเพราะช่วงแรกไม่ได้รับการช่วยเหลือ จนชาวบ้านกำลังจะอดตาย หลังออกทีวีได้ระยะหนึ่งก็มีประกาศจากรัฐบาลให้ไปลงทะเบียนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ทุกวันนี้เรื่องเงียบหายไม่มีเสียงตอบรับอะไรกลับมา จนมาวันหนึ่งได้พบกับศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาสิทธิผู้หญิง เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างแท้จริง เพราะทรัพย์สินบางส่วนหายไป บางคนมีอาชีพค้าขายบริเวณอนุสาวรีย์ ร.6 สวนลุมพินี ช่วงที่มีการกระชับพื้นที่พวกรถเข็นและเครื่องมือทำมาหากินหายไปหมด จนทุกวันนี้มีหนี้สินนอกระบบเข้ามา เสียดายรัฐบาลเปิดเวทีแต่ละครั้งใช้งบไปมาก คิดว่าน่าจะเอาเงินส่วนนี้มาช่วยเหลือชาวชุมชนที่ได้รับผลกระทบดีกว่า ส่วนแผนในอนาคตของพวกเรา คือ ดูแลตัวเองและดูแลชุมชนร่วมกัน สิ่งที่อยากได้ ณ วันนี้ คือ เสียงตามสายในชุมชน เพื่อใช้เครื่องมือสื่อสารภายในชุมชนให้รับรู้ และเครื่องมือดับเพลิง ซึ่งที่ผ่านมาเคยร้องขอไปแต่กทม. ปฏิเสธ ขณะที่ส.ก. ส.ข. ที่มีความใกล้ชิดกับชุมชนมากที่สุดก็ไม่เคยสนใจชุมชน หรือให้ความช่วยเหลือใดๆ เลย ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเพราะทุกวันนี้เหมือนว่าชาวชุมชนไม่มีตัวตน และเหมือนว่าไม่มีชุมชนพระเจนอยู่ในกทม.นี้แล้ว

ภาพทหารยิงประชาชนยังติดตา

"ภาพที่เห็นทหารยิงประชาชนเสียชีวิตด้วยตาของตัวเอง ยังไม่สามารถลบภาพเหล่านี้ออกจากใจของประชาชนได้ ไม่ว่าจะอยู่ในชุมชนใด จึงอยากให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือ ที่ผ่านมาในอดีตเมื่อนึกถึงทหารจะรู้สึกอบอุ่น แต่ปัจจุบันรู้สึกกลัว และตกใจ ไม่รู้จะลบภาพเหล่านั้นออกไปได้อย่างไร ส่วนงบประมาณที่รัฐบาลให้ส.ส.เอาไปลงพื้นที่ แต่ข้อเท็จจริงส.ส.เอาไปให้หัวคะแนนตัวเอง และแจกเฉพาะคนของตัวเอง ไม่ได้เยียวยาแบบเสมอภาค แต่จะเยียวยาเหมือนการเลือกสีเลือกฝ่าย แล้วอย่างนี้จะปรองดองได้อย่างไร" นางสุรีพร กล่าว

ด้านนางทองเริ่ม จันทรมี ตัวแทนชุมชนบ่อนไก่ อาชีพค้าขายอยู่หน้าปั๊มปตท. ถ.พระ ราม 4 กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการที่ชุมชนถูกปิดล้อม ไม่สามารถออกไปค้าขายได้ เมื่อเหตุการณ์สงบรัฐบาลประชา สัมพันธ์ให้ไปลงทะเบียนขอรับการเยียวยาได้ที่สำนักงานเขต ตนไปลงทะเบียนแต่เขตอ้างว่าจุดที่ทำการค้าขายไม่อยู่ในข่ายความเดือดร้อน จึงไม่ได้รับการติดต่อหรือได้รับความช่วยเหลือใดๆ ต่อมาโทร.ไปขอความช่วยเหลือที่สายด่วนรัฐบาล 1111 สุดท้ายเรื่องก็เงียบไปเช่นกัน จึงตัดสินใจจะไปขอกู้เงินตามโครงการที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องมีใบเสร็จที่ลงทะเบียนจากทางเขต ตนไปขอซื้อใบเสร็จจากทางเขตเป็นเงิน 700 บาท พอจะไปกู้เงิน 1 แสนบาท ธนาคารกลับบอกว่าแม่ค้าแผงลอยไม่สามารถปล่อยกู้ได้ เพราะไม่ได้เสียภาษี สุดท้ายต้องไปกู้นอกระบบ ที่คิดดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 20 ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเรื่องหนี้นอกระบบ ทั้งนี้หากข้อมูลที่ให้ไปเป็นลบกับรัฐบาล อยากถามว่าจะได้รับหมายเรียกจากศอฉ.หรือไม่

สะท้อนชัดรัฐบาลละเลยเยียวยา

จากนั้นน.พ.รณชัย ให้สัมภาษณ์ว่า จากการรับฟังปัญหาพบว่าที่ผ่านมาการเยียวยายังมีปัญหา เพราะสุดท้ายแล้วประชาชนยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม และยังมีความรู้สึกโกรธแค้นอยู่ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาหนี้สิน ดังนั้นจะเสนอคอป.ให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ และเร็วๆ นี้คอป.จะรับฟังความรู้สึกของประชาชนอีกครั้งภายในสิ้นเดือนนี้ที่จ.ขอนแก่น ส่วนในพื้นที่กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จะจัดเวทีย่อย 50 เขต 50 ชุมชน ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการว่าจะให้ชุมชนใดเป็นชุมชนแรก โดยจะเชิญตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ คือ กทม. เข้ามาร่วมรับฟังด้วย เพื่อให้เกิดแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมทั้งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เข้าไปแล้วชุมชนต่อต้านว่าเราเป็นหน่วยงานของรัฐเหมือนกัน เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาที่เตรียมการและพร้อมจะเข้าไปจัดเวทีรับฟังความรู้สึกของชุมชนแต่กลับถูกชุมชนปฏิเสธไม่ยอมให้เข้าไป จึงอยากชี้แจงประชาชนทุกฝ่ายและชาวชุมชนที่ได้รับผลกระทบเข้าใจว่า คอป.หรือคณะอนุกรรมการเยียวยา เป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ตั้งใจที่จะประสานหรือเชื่อมความรู้สึกที่ยังมีความโกรธแค้น ให้เกิดความปรองดองขึ้นมา

นางประเทือง ช่วยเกลี้ยง ผู้ประสานงานศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาสิทธิผู้หญิง กล่าวว่า การจัดเวทีครั้งนี้ เนื่องจากในส่วนของเราได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลชุมชนที่ได้รับผลกระทบ พบเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือ เช่น ชุมชนบ่อนไก่ บ้านบางหลังมีสภาพหลังคารั่ว ทุกวันนี้ไม่ได้รับการช่วยเหลือในการซ่อมแซมจากหน่วยงานใดเลย รวมทั้งในเรื่องของการกระชับพื้นที่ในชุมชนต่างๆ ทำให้ชุมชนได้รับผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ อีกทั้งมีความรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาล โดยรู้สึกว่ารัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ ทหารยิงประชา ชนซึ่งหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ ภาพเหล่านี้ชาวบ้านยังติดตาพวกเขาอยู่

ตร.เชียงรายจับแตะหน้า'มาร์ค'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ตำรวจสภ.เมืองเชียงรายเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจำหน่ายรองเท้าแตะสีแดงรูปภาพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความยุบสภาและทุจริตคอร์รัปชั่น เนื่องจากช่วงคืนที่ผ่านมาตำรวจตรวจยึดของกลางรองเท้าแตะดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก ภายหลังรับแจ้งมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งนำรองเท้าแตะวางขายบริเวณสี่แยกศาล ถนนธนาลัย ภายในงานถนนคนเดินกาดเชียงรายรำลึก ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายจัดขึ้นทุกคืนวันเสาร์ เจ้าหน้าที่พบนายไก่(นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5/7 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจ.เชียงราย ซึ่งเคยถูกตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ออกหมายเรียกไปให้ปากคำคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีร่วมกับพวกถือป้ายล้อเลียน พ.ร.ก. ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ยึดของกลางรองเท้าแตะไปยังห้องสืบสวนสภ.เมือง พร้อมกับเชิญตัวนายไก่ไปด้วย ซึ่งมีแกนนำคนเสื้อแดง เช่น นายธนิต บุญญนสินีเกษม นายรุ้ง คลองแสนเมือง จากกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย และเพื่อนนักเรียนนักศึกษาที่เคยถูกเรียกสอบปากคำกับนายไก่เดินทางไปให้กำลังใจด้วย โดยนำกระดาษระบุข้อความ "วัตถุอันตรายต่อความมั่นคง รองเท้า 30 คู่" ไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อไปถึงโรงพัก พ.ต.ท.สมพร เชยบาล สารวัตรสืบสวน แจ้งให้กลุ่มนักเรียนและนักศึกษารวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงทราบว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าว เพราะเห็นว่าการนำรองเท้าที่มีรูปบุคคลแสดงให้เห็นถึงเจตนาด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เหมาะสมกับสังคมไทยที่รู้จักที่สูงที่ต่ำ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ระบุว่าผู้ใดกระทำการอันทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่อย่างใดก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด จะเป็นลักษณะตักเตือนและปล่อยตัวไป อย่างไรก็ตามได้ยึดของกลางรองเท้าแตะ 30 คู่ไว้

ผู้การยันตร.ได้เบี้ยเลี้ยงแน่

ทางด้านความเคลื่อนไหวที่จ.พระนครศรี อยุธยา ซึ่งกลุ่มนปช.คนเสื้อแดงจากทั่วประเทศ จัดขบวนแรลลี่ไปรวมตัวทำกิจกรรมนั้น นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันนี้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนปช. ทางการข่าวยังไม่พบเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง หรือความผิดปกติแต่อย่างใด คงมีเพียงทางการข่าวที่ระบุว่า จะมีกลุ่มนปช. จากหลายจังหวัดทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ทยอยมาร่วมงานตั้งแต่ช่วงเช้า อย่างไรก็ตามอยากฝากให้กลุ่มนปช. ชุมนุมอยู่ในกรอบกฎหมาย โดยจะไม่ปิดกั้นการแสดงออกทางความคิดแต่อย่างใด

ขณะที่พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.ภ. จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากกรณีตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยกลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่ได้เบี้ยเลี้ยงนั้น ตนรายงานหน่วยเหนือทราบแล้วได้รับการยืนยันว่าจะรีบดำเนินการเบิกเงินงบประมาณมาจ่ายให้อย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องอาหารยังมีเพียงพอสำหรับเจ้าหน้าที่ทุกนายโดยจัดตั้งโรงครัวที่วัดพนัญเชิง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องการจุดพลุตะไล เพราะเกรงว่าจะมีคนเมาแล้วจุดตะไลด้วยความคึกคะนองไปถูกประชาชนหรือบ้านเรือนประชา ชนที่อยู่ใกล้กับเวทีปราศรัย ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมถังดับเพลิงไว้พร้อม หากเกิดเหตุจะสามารถเข้าควบคุมได้ทันที และห้ามจำหน่ายสุราภายในสนามกีฬาจังหวัด

แดงอยุธยาแฉจัดตั้งมวลชนป่วน

ด้านนางกัลยาณี จูปรางค์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อเหลือง กล่าวถึงกระแสข่าวฝ่ายรัฐบาลจัดมวลชนมาชนกับกลุ่มนปช. ว่า เป็นความจริงโดยมวลชนกลุ่มดังกล่าวจะออกมาเคลื่อนปลุกกระแสให้คนไทยรักสถาบัน ส่วนกลุ่มคนเสื้อเหลืองในจ.พระนครศรีอยุธยามีคนในรัฐบาลและผู้ใหญ่ในจังหวัดขอร้องให้หยุดการทำกิจกรรมไปก่อน เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้ากัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ากลุ่มแรลลี่แดงเชียงใหม่-อยุธยาเดินทางออกจากที่พักตามวัดต่างๆ และโรงแรมในจ.พระนครศรี อยุธยา จำนวน 200 คนด้วยขบวนรถยนต์ ประมาณ 60 คัน ไปรวมตัวกันที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง เพื่อสักการะองค์ปฐมกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา จากนั้นขับรถวนรอบเกาะเมืองเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมการชุมนุม พร้อมกับแวะสักการะศาลหลักเมือง เจดีย์พระสุริโยทัย อนุสรณ์สถานปรีดีพนมยงค์ วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ก่อนเดินทางไปสมทบกลุ่มคนเสื้อแดงอยุธยา ที่สนามกีฬากลางจังหวัด

จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดออนไลน์
พรึ่บเต็มสนามหัวใจตบกระหึ่ม

กระทั่งเวลา 16.20 น.กลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเข้าสนามกีฬากลางจนเต็มพื้นที่ ทำให้คนเสื้อแดงส่วนที่เหลือต้องกระจายจับจองพื้นที่นอกสนามรอทำกิจกรรมและฟังคำปราศรัยจากแกนนำ ขณะที่บนเวที แป๊ะ บางสนาน ศิลปินคนเสื้อแดง ขึ้นร้องเพลงสร้างบรรยากาศ ผู้ชุมนุมต่างโบกธงและใช้ตีนตบ หัวใจตบเขย่ากระแทกประกอบจังหวะและร้องตามดังกึกก้องสนาม

'ลายจุด'ซัดประเทศนี้ตอแหล

เวลา 16.40 น.นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ขณะนี้ความกลัวและความกล้ากำลังเป็นโรคระบาดในสังคมไทย เพราะรัฐบาลพยายามส่งความกลัวมาให้ประชาชน รัฐบาลเผด็จการและนิยมใช้วิธีหยิบอำนาจทางกฎหมาย ตลอดจนอาวุธสงคราม เข้าเข่นฆ่าทำร้ายทำลายจนประชาชนหวาดกลัว แม้แต่การขายรองเท้าแตะของที่นี่ ยังกลายเป็นการทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นแต่เป็นระดับโลกเลยก็ว่าได้

แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงกล่าวอีกว่า ขณะที่เรื่องผิดกฎหมายร้ายแรงอย่างการนำอาวุธสงครามไปยิงประชาชน ปรากฏว่าดีเอสไหรือศอฉ.ยังไม่รู้ว่าใครยิง ถามว่าถ้าอย่างนี้คนพวกนี้เรียกว่าอะไร ประเทศนี้มันตอแหลแรง เรื่องนี้สะท้อนถึงการปกครองที่ไม่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ส่วนตัวไม่คาดหวังให้รัฐบาลมีจิตใจสำนึก เพราะเคยขอร้องนายอภิสิทธิ์พูดคำว่าขอโทษกับประชาชน แค่นี้ยังพูดไม่ได้ อ้างว่ากลัวเสียรูปคดี ตนคิดว่าประเด็นก็คือ ต้องการวาทกรรมการก่อการร้ายขึ้นมา คนที่ตายทั้งหมดคือคนที่ก่อการร้าย โดยรัฐมีความชอบธรรม แต่ถ้าขอโทษแสดงว่ารัฐบาลเป็นผู้ก่อการร้ายเสียเอง และต้องรับผิดชอบต่อคนตาย ต่อสังคม และสิ่งที่กระทำลงไป พวกเราจึงต้องเผชิญหน้ากับรัฐบาล ที่ใช้ภาษาไทยดีเด่น อย่างเช่น การขอคืนพื้นที่ก็เป็นคำว่า การกระชับพื้นที่ เป็นต้น

ท้าทายแต่ไม่เดินไปให้ฆ่าอีก

"ผมมีข้อเสนอมาให้คนเสื้อแดงได้ลองทบทวนพิจารณา คือ เมื่อปี 2535 ประชาชนออกมา 3 แสนคนยังโดนยิง พอปี 2553 ประชาชนออกมาอีก 1 ล้านคนก็โดนยิง ฉะนั้นปี 2554 ถ้าออกมาคงโดนยิงอีกแน่นอน เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าคนพวกนี้ห่วงเก้าอี้ ผมจึงคิดว่าเราควรรอไปอีก 1 ปีรัฐบาลก็จะหมดวาระ อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป แต่เราต้องไม่เดินเข้าสู่แนวทางรัฐบาลใช้กำลังได้อีก แต่เราจะท้าทายต่อไป" บ.ก.ลายจุด กล่าวและว่า โดยทุกวันอาทิตย์เราจะเพิ่มสีแดงให้มากยิ่งขึ้น ทุกจังหวัดทุกสัปดาห์ โดยใช้วิธี 1 คนชวน 1 คน ถ้ารัฐบาลมีเวลาทำงาน 70 สัปดาห์ ขณะที่คนเสื้อแดงมี 50,000 คน ภายใน 1 สัปดาห์ จะมีคนเสื้อแดงเพิ่มขึ้นอีก 50,000 คน ถ้าทำไปเรื่อยๆ จนได้ 10 ล้านคน ตนเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน นอกจากนี้เมื่อถึงการเลือกตั้งขอให้ทุกคนใส่เสื้อสีแดงเข้าคูหาการเลือกตั้ง และถ้ามีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกขอให้ทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีดำออกมาต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ และเป็นการไว้ทุกข์

เวลา 17.00 น. เป๋ คลองเตย ขึ้นเวที ปราศรัยว่า ที่รีบขึ้นเวทีเป็นเพราะเข็ดขยาดกับเวทีราชประสงค์ เข็ดขยาดกับสไนเปอร์ หลายเดือนที่ไปเรียกร้องประชาธิปไตยคนเสื้อแดงกลับได้เพียงโลงศพ โดยรัฐบาลใช้แต่วาทกรรมในการกระทำว่าขอคืนพื้นที่ ส่วนการต่อสู้คนเสื้อแดงในตอนนี้ไม่มีแกนนำ เพราะทุกคนทำหน้าที่ไม่ต่างกับแกนนำ จึงอยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพและรวมตัวกันสู้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณสนามกีฬากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา มีตำรวจประมาณ 2,000 นาย สนธิกำลังระหว่างบช.ภาค 1 กับตำรวจตระเวนชายแดน ชุดกู้ระเบิด นำเครื่องสแกนอาวุธมาตรวจสอบคนเสื้อแดงทุกคนที่จะเข้ามาในเขตบริเวณจัดงาน โดยกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายดูแลความสงบเรียบร้อยเต็มทั่วบริเวณ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภาค 1 มาควบคุมบัญชาการด้วยตัวเอง

ตกค่ำแดง 2 หมื่นพรึ่บเต็มสนาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 1 ทุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมกันเต็มพื้นที่การจัดกิจกรรมประมาณ 2 หมื่นคน โดยอยู่ภายในสนามกีฬาเต็มพื้นที่สนามฟุตบอลและบนอัฒจันทร์ที่นั่ง ประมาณหมื่นกว่าคน ขณะที่คนเสื้อแดงที่เข้าไปในสนามไม่ได้ต่างกระจายกันอยู่ด้านนอกสนามอีกประมาณ 5 พันคน

ต่อมานายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาถึง และขึ้นไปนั่งบนเวทีรอเวลาปราศรัยเรียกเสียงปรบมือดังสนั่นสนามกีฬา ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทย สลับกันขึ้นปราศรัย เนื้อหาส่วนใหญ่โจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กรณีออกมาประกาศห้ามคนเสื้อแดงล้ำเส้น ขณะที่กองทัพกลับโอบอุ้มรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ทั้งที่มีการโกงกินกันมโหฬาร จึงเรียก ร้องสถาบันทหารออกมาพิทักษ์ปกป้องระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งเปรียบเทียบพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีชะตากรรมเหมือนกับนายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกฯและรัฐบุรุษอาวุโส ที่ทําดีให้กับประเทศชาติแต่กลับต้องลี้ภัยไปต่างแดนเพราะถูกทหารยึดอํานาจ

จากนั้นกลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) อ่านบทกลอนและปราศรัยต่อต้านเผด็จการที่ครอบงําสังคม พร้อมทั้งยกคนเสื้อแดงทั้งหมดเป็นราษฎรไม่ใช่ไพร่ จากนั้นเป็นกลุ่มศิลปินคนเสื้อแดงสลับขึ้นร้องเพลง


จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดออนไลน์

เสื้อแดงจุดตะไล ปิดฉากชุมนุมแน่นสนามอยุธยา

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นไฮไลต์ของความเคลื่อนไหวช่วงสุดสัปดาห์ยุติลงด้วยดี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น กิจกรรมในช่วง 22.00 น. เป็นจุดไฟตะไลทะลุฟ้าท้าอธรรม จำนวน 3,000 นัด โดยมีการแจกพลุให้กับผู้ชุมนุมที่แน่นสนามกีฬา นายจตุพร พรหมพันธ์ ประกาศนำบนเวทีให้ผู้ชุมนุมร่วมกันจุดตะไลและพลุ ท่ามกลางเสียโห่ร้องไชโย จากนั้นนัดแนะว่า จะมีการชุมนุมร่วมกันใหม่อีกที่จังหวัดเลยในเดือนพฤศจิกายน

การชุมนุมครั้งล่าสุดนี้ ในส่วนของกรุงเทพฯ เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 07.00 น.บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว สถาน ที่รวมตัวของสมาชิกเสื้อแดง ที่มาจัดกิจกรรมรำลึก 17 ตุลา "ตาสว่างกว่าเดิม" และ "37 ปี 14 ตุลา 2516" ว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยนํารถยนต์มาจอดรวมตัวกันอย่างต่อเนื่องเกือบ 200 คันเพื่อร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ท่ามกลางสภาพพื้นถนนที่เจิงนองหลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

เวลา 08.00 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนํากลุ่ม 24 มิ.ย.ประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 37 ปีเหตุการณ์ 14 ตุลา ที่ประชาชนเปิดฉากลุกขึ้นสู้ก่อนจบลงด้วยการที่รัฐบาลใช้กำลังเข้าปราบปรามอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจํานวนมาก ซึ่งเป็นเหตุการณ์เหมือนกันกับที่คนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องขอคืนอํานาจให้ประชาชน แต่กลับถูกรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้ความรุนแรงเข้าปราบปราม จนมีประชาชนล้มตาย 92 ศพ บาดเจ็บนับไม่ถ้วน คนเสื้อแดงจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทําตามข้อเสนอที่ยื่นให้พิจารณาโดยทันที ได้แก่ 1.ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองของ นปช.ทุกคนทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปฏิรูปศาลยุติธรรม 3.ปฏิรูปเศรษฐกิจ และ 4.ประกันรายได้เกษตรกรและกรรมกรให้พอเพียง นอกจากนี้ยังขอเรียกร้องให้คืนสิทธิ์สื่อมวลชนของคนเสื้อแดง ไม่ว่าดีสเตชั่น พีเพิลแชลแนล และเรด พาวเวอร์ ฯลฯ

นายสมยศ ระบุว่า เรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่ากองทัพต้องไม่แทรกแซงการเมือง จะสามารถลดความแตกแยกทางการเมืองได้ ทําความจริงในเหตุการณ์ 10 เม.ย.และ 19 พ.ค.53 ให้กระจ่าง และนําตัวฆาตกรที่สั่งปราบปรามประชาชนรุนแรงมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว กองทัพไม่ควรแสดงบทบาทรับใช้อำมาตย์ คนเสื้อแดงจะเกาะติดคดียุบพรรคประชาธิปัตย์อย่างจริงจัง ช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้จะนัดชุมนุมใหญ่ที่จ.สมุทรสาครอีกครั้ง เป็นสถานที่ใดอยู่ระหว่างการพิจารณา

สำหรับขบวนแรลลี่ในครั้งนี้แยกเป็น 2 ขบวน ขบวนแรกมุ่งหน้าออกถนนวิภาวดีรังสิตไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนขบวนใหญ่จะวิ่งตามเส้นทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ มี.ค.-พ.ค.53 โดยขบวนรถทุกคันเปิดไฟหน้า และบีบแตรส่งสัญญานรำลึกถึงคนตายเมื่อถึงจุดต่างๆ ที่พี่น้องเสื้อแดงเสียชีวิต ส่วนการวิ่งผ่านทําเนียบรัฐบาล จะส่งสัญญานแบบเดียวกันแต่สื่อความหมายให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องที่เสนอไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางจุดต่างๆที่ขบวนแรลลี่คนเสื้อแดงผ่านจะมีเจ้าหน้าที่ตํารวจพร้อมโล่ ออกมายืนตั้งแถวเพื่อป้องกันเหตุร้าย นอกจากนี้บริเวณหน้าม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ถนนวิภาวดีฯ ได้ตั้งด่านตรวจรถขบวนเสื้อแดงทุกคัน ทําให้การจราจรติดขัดอย่างหนักยาวกว่า 10 ก.ม. ส่งผลให้ขบวนแรลลี่แตก จนบางคนต้องจอดรถทิ้งไว้ข้างทางและนั่งกระบะท้ายกันไปเป็นกลุ่มใหญ่
Ref: ข่าวสดออนไลน์ (update: วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:06 น.)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น