วันพุธ, กันยายน 08, 2553

เปิดโปง ใครยิงคนในวัดปุทม part1.3gp

by Herogeneral 2010-09-09 : 10.12 am



เปิดโปง ใครยิงคนในวัดปุทม part1.3gp
Ref: idilot | September 01, 2010
ใครยิงคนในวัดปทุม?? เปิดโปงจากปาก ทหารนายหนึ่ง



1จากปากของผู้ชุมนุม
Ref: RedHeart2553 | May 21, 2010
จาก มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail...
พูดแล้วจะเอาออกจริงหรือ ? คำตอบที่ชาวบ้านถามกลับกับคนที่หิ้วกล้องพร้อมปากกาและกระดาษมาขอสัมภาษณ์ แต่สุดท้าย นางชวนพร ชัยมงคล อายุ 55 ปี จ.เชียงใหม่ ก็ยอมเล่าถึงนาทีหนีตายเข้าไปอาศัยในวัดปทุมวนาราม ท่ามกลางวงล้อมของหมอกควันและเพลิงและกระสุนปืนที่ดังอย่างต่อเนื่องพร้อม กับผู้ชุมนุมหลายพันคนและอีก 6 ศพถูกยิงเสียชีวิตห่อด้วยเสื่อเรียงอยู่ในวัด ว่า จะ ออกมาก็ออกไม่ได้เพราะว่าหลายคนที่ออกมาเพราะห่วงข้าวของเครื่องใช้ก็ถูกยิง มันไม่เหมือนประเทศไทย ที่มีการเอื้อเฟื้อกัน

ทุกคนเสียใจมากไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เราเรียกร้องแค่ให้ยุบสภาเท่านั้นเองทำไมต้องมายิงเราด้วย (พร้อมกับสะอื้น) ทุกวันนี้ไม่มีความยุติธรรมสำหรับคนจนเลย คนจนไม่มีค่า ไม่มีราคา คนจนอย่างเราไม่ได้ขออะไรมากมาย ขอให้มันถูกต้อง อะไรที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้มันจะสงบ จึงขอให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตลอด จะเป็นใครก็ได้ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างยุติธรรม

"ทุกคนกลับบ้านด้วยความเจ็บใจเพราะ ว่าญาติพี่น้องร่วมรบถูกยิง ถูกลากศพไปต่อหน้าต่อตา ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมาเจอแบบนี้ อยากให้บ้าน เมืองได้ความยุติธรรมคืนมา มีความถูกต้อง มีกฎหมายเท่าเทียมกัน ไม่ใช่แบ่งพรรคแบ่งพวก คนรวย คนจน มีค่าเท่าเทียมกัน ต้องให้สิทธิการเป็นมนุษย์เหมือนกัน เป็นมนุษย์ขี้เหม็นเหมือนกัน แต่ถ้าขี้หอมก็ยกให้อีกระดับหนึ่ง ฉะนั้นต้องคิดว่าคุณคือมนุษย์เหมือนกัน

เราไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าทุกคนรู้ที่แกนนำต้องเลิกเพื่อรักษาชีวิต ผู้ชุมนุมไว้ วันนี้เราได้เพื่อนที่ไม่เข้าใจเราได้เข้าใจเรามากขึ้น แต่ที่ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจเพราะฟังข่าวด้านเดียว เห็นแต่เสื้อแดงไปทำทหาร แต่ทหารทำร้ายคนเสื้อแดงไม่มีออกทีวีเลย ไม่ว่าอะไรหรอกคนที่เป็นนายกฯขอแค่คืนความยุติธรรมให้กับสังคมเท่านั้น หากยังแบ่งแยกกันอยู่อย่างนี้มันจะแตกแยกกัน" นางชวนพรกล่าว



2จากปากของผู้ชุมนุม
Ref: RedHeart2553 | May 21, 2010
จากมติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail...
นายอนุชา ยะอนันต์ อายุ 45 ปี นปช.ลำพูน ชายร่างใหญ่หนวดเฟิ้มเล่านาทีชีวิตเป็นตายเท่ากันขณะที่เข้าไปหลบซ่อนในวัด ปทุมวนาราม ว่า "อยู่ในวัดไล่ยิงคนเหมือนหมา ออกไปนอกวัดก็ไม่ได้ มีทหารอยู่บนรางรถไฟเห็นๆกันอยู่ จะไม่เห็นได้ไงไล่ยิงกันรอบวัดเลย ลึกๆในใจใครทำอะไรก็รับไปให้รู้กันเองไม่เป็นไร"

นปช.ลำพูนกล่าวอีกว่า มองดูรัฐบาลตอนนี้ไม่เหมือนกับรัฐบาลทั่วโลก ขนาดเขาทำผิดนิดเดียวก็เริ่มรู้ตัวต้องออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ประเทศเราไม่ใช่ประชาธิปไตย รัฐบาลถูกต่อต้านไปไหนไม่ได้ต้องมีทหารคอยคุ้มครองไปกันแต่ละครั้งขนตำรวจ

ทหารไปล้อม 3-4 พันคน เข้าใจว่าความเกลียดชังคนเสื้อแดง ที่เกิดในใจหลายคน คิดว่าเกิดจากข้อมูลที่เขารับฟังข้างเดียว เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นศัตรู

แต่ถ้าวันหนึ่งเขาได้รับรู้ว่าความจริง คืออะไร เขาจะเสียใจมากยิ่งกว่าพวกเราเสียใจอีก รัฐบาล ควรแสดงความจริงใจว่าส่วนใดที่เป็นจริงหรือไม่เป็นจริงต้องเอามาพูดกัน

"ความจริงของเรื่องนี้ คือ รัฐบาลเอา ทหารออกมาแล้วปิดกั้นไม่ให้พวกที่เข้าไปชุมนุมได้ชุมนุมกันอย่างสันติวิธี พวกเราไม่มีอาวุธมีแต่ไม้เหลาแหลมแต่ทหารอาวุธครบมือ วันหนึ่งถ้าเป็นญาติของเขาบ้างจะรู้สึกอย่างไร รัฐบาล ไม่น่าทำขนาดนี้

ผมอายชาวโลก ชาวโลกรับรู้ข่าวหมด แต่ช่องทีวีของไทยยังปิดหูปิดตา มีข่าวทางอินเตอร์เน็ตที่รายงานข่าวเราบ้าง ประเทศไทยยังมัวแต่ปิดกั้นอยู่อย่างนี้เราไปไม่รอดแน่"นายอนุชา กล่าวทิ้งท้ายก่อนเดินไปขึ้นรถกลับลำพูน

ขณะที่นายนางชฎาทาน ธันวาภักดี ชาวจ.นนทบุรี อายุ 55 ปี อาชีพค้าขาย กำลังหอบหิ้วสัมภาระที่ขนกลับมาจากราชประสงค์เพื่อเดินทางกลับบ้าน กล่าวว่า เมื่อก่อนเคยสนับสนุนการปฏิวัติว่ามันดีแต่พอเห็นการยึดทำเนียบจึง ได้รู้ว่ามันไม่ดีแล้ว

เมื่อก่อนเราเหมือนกบในกะลาเมื่อมีคนมาเตะกะลาให้เราต้องออกมาเราต้องวิ่ง ออกมาจนได้เห็นความไม่ยุติธรรม ฉะนั้นเรายอมตายเพื่อความถูกต้องดังนั้นเราต้องช่วยกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น