ที่มา :
(1) มติชนออนไลน์ วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:36:04 น.
(2) ข่าวสดรายวัน วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7208
จาก อัลบั้ม นสพ.ข่าวสดออนไลน์ |
เมื่อวันที่ 23 ส.ค.นายคัทสึยะ โอคาดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น วางช่อดอกไม้และยืนไว้อาลัยแก่นายฮิโรยูริ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ที่เสียชีวิตระหว่างการทำงานในเหตุการณ์ขอพื้นที่คืนของเจ้าหน้าที่จากผู้ ชุมนุมทางการเมืองในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ณ บริเวณทางเท้าหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา
จาก อัลบั้มมติชน ออนไลน์ |
จาก อัลบั้มมติชน ออนไลน์ |
จาก อัลบั้มมติชน ออนไลน์ |
จาก อัลบั้มมติชน ออนไลน์ |
รมต.ยุ่นบินมาไทย ยืนอาลัย จุดฆ่านักข่าว10เมย.
ก่อนเข้าจี้คดีกับมาร์ค ด่าขรมดีเอสไอแถลง บอกไม่รู้ใครยิง91ศพ!
แถลง ผลชันสูตร 91 ศพเหลว 4 เดือนไม่มีอะไรคืบหน้า "ธาริต" เก็บตัว ปล่อยให้รองอธิบดีดีเอสไอแถลงเอง ระบุยังไม่มีข้อสรุปใครเป็นคนสังหาร รู้แค่ถูกยิงที่ไหนและปืนชนิดใดเท่านั้น 2 นักข่าวยุ่น-อิตาลีก็รู้แค่ว่ายิงจากหน้าไปหลัง วอนให้ความเป็นธรรมด้วย เพราะ 91 ศพไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด ยกเหตุวินาศกรรม 911 มาเทียบ สหรัฐสอบสวนกันเป็นปี นักข่าวต่างชาติรุมจี้คดี 2 นักข่าว แต่ดีเอสไอก็ตอบไม่กระจ่างเลย รมต.ญี่ปุ่นรุดยืนไว้อาลัยจุดที่นักข่าวถูกยิงตายที่คอกวัว ก่อนเข้าจี้คดีกับ "มาร์ค-กษิต" แม่น้องเกด-เหยื่อปืนโวยกรมคุ้มครองฯ ดองเรื่องช่วยเหลือ จวกดีเอสไอทำงานอืดอาด แค่ 6 ศพวัดปทุมฯ ยังสอบสวนไม่ถึงไหน เผยรัฐยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อไหร่จะเอาหลักฐานมัดสไนเปอร์ไล่ยิงประชาชนมาเปิดโปง
-ดีเอสไอแถลง-ไร้เงาธาริต
เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และพ.ต.อ.พเยาว์ ทองเสน หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย ร่วมแถลงข่าวกรณีผลการตรวจพิสูจน์ศพจำนวน 91 ศพที่ถูกยิงในเหตุการณ์ชุมนุมของม็อบเสื้อแดงที่ผ่านมา โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวญี่ปุ่น และสำนักข่าวต่างประเทศอีกหลายแห่ง ร่วมเดินทางมาสังเกตการณ์และทำข่าวกันจำนวนมาก แต่ไม่มีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมแถลงข่าวด้วย
โดยพ.อ.เฟื่องวิชชุ์ แถลงถึงสถิติผู้ต้องขังคดี ที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบที่ผ่านมาว่า มีผู้ต้องขังแยกออกเป็น 4 ประเภท คือผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างสอบสวน จำนวน 169 คน ผู้ต้องขังคดีเด็ดขาด จำนวน 12 คน กักขังแทนค่าปรับ จำนวน 2 คน และผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างอุทธรณ์ ฎีกา จำนวน 22 คน รวม 209 คน
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุความไม่สงบ ว่า ขณะนี้มีคดีที่รับเป็นคดีพิเศษทั้งสิ้น 266 คดี เป็นคดีกับการก่อการร้าย จำนวน 145 คดี คดีขู่บังคับรัฐบาล จำนวน 21 คดี คดีทำร้ายเจ้าหน้า ที่รัฐ และประชาชน จำนวน 80 คดี และกระทำ ผิดต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ จำนวน 20 คดี
-ยังไม่มีข้อสรุปใครยิง 91 ศพ
พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.-21 พ.ค. ดีเอสไอได้รับสำนวนจากตำรวจนครบาล และนิติเวชมาแล้ว 42 สำนวน ทั้งนี้ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่าการชันสูตรไม่เป็นไปตามขั้นตอนนั้น ถือเป็นความเห็นที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากกรณีที่ต้องชันสูตรพลิกศพให้ศาลไต่สวนจะต้องเป็นการเสียชีวิตขณะ ที่อยู่ในการควบคุมของเจ้าพนักงาน หรือเสียชีวิตโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ แต่ผู้เสียชีวิตกรณีดังกล่าวเป็นการ เสียชีวิตโดยถูกผู้อื่นทำให้เสียชีวิต เป็นการเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ ตามที่กฎหมาย ป. วิอาญา มาตรา 148 ระบุจะต้องชันสูตรพลิกศพ และ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วจึงส่งข้อมูลมาเพื่อประกอบการพิจารณาคดีพิเศษ ที่อยู่ในการพิจารณา ของดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีข้อสรุปภาพรวมของผู้เสียชีวิตทั้งหมดว่าเป็นการกระทำของ กลุ่มใด ทราบเพียงสาเหตุการตายและอาวุธที่ใช้เท่านั้น
-โต้ทหารยิงนักข่าวยุ่น-อิตาลี
รอง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ส่วนการเสียชีวิตของนายฮิโรยูมิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น กับนายฟาบิโอ โนเลนกี้ ช่างภาพชาวอิตาลีนั้น ดีเอสไอให้ความสำคัญกับทั้ง 2 กรณีเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกทั้งทางการประเทศญี่ปุ่นติดตามความคืบหน้าตลอด ซึ่งในวันนี้รมต.ต่างประเทศญี่ปุ่นจะเดินทางพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพบนาย กษิต ภิรมย์ รมต.ต่างประเทศด้วย เช่นเดียวกับประเทศอิตาลีที่ญาติและกระทรวงต่างประเทศอิตาลีได้สอบถามความ คืบหน้ามาตลอด แต่เบื้องต้นสรุปได้เพียงเป็นการเสียชีวิตจากกระสุนปืนที่ยิงจากหน้าไปหลัง และชนิดของอาวุธ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เช่น ใครเป็นผู้กระทำยังไม่ได้ข้อสรุป โดยเฉพาะการสอบประจักษ์พยานที่อยู่ข้างผู้เสียชีวิต เนื่องจากทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตสูญหายไปหลายรายการทั้งโทรศัพท์มือถือ ไอพ็อด กล้องดิจิตอล นอกจากนี้ ยังปฏิเสธกรณีที่เคยมีรายงานว่าทหารเป็นผู้ยิงช่างภาพชาวญี่ปุ่น โดยยืนยันว่าในชั้นสอบสวนได้มีการเรียกพยานมา สอบถามแล้วไม่พบว่ามีพยานปากใดให้การตามที่เป็นข่าว
-91 ศพไม่ใช่ฝีมือจนท.ทั้งหมด
"การ เสียชีวิตของทั้ง 91 รายยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมดหรือไม่ เนื่องจากตามที่ปรากฏเป็นข่าวคือมีชายชุดดำเข้าไปเกี่ยวข้อง แม้แต่พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ก็เสียชีวิตในเหตุการณ์เช่นกัน ซึ่งดีเอสไอจำเป็นต้องใช้กฎหมายเป็นที่ตั้ง จากนั้นจึงนำหลักฐานที่ได้มาเชื่อมโยงกันทั้งหมดก่อนสรุปสำนวนคดี ทั้งนี้ ยืนยันการดำเนินการของดีเอสไอไม่ได้ล่าช้า เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์วินาศกรรม 911 และลอนดอนบอมบ์ ทางการสหรัฐอเมริกาใช้ระยะเวลานานเป็นเดือนเป็นปีกว่าจะสรุปรายละเอียดของ เหตุการณ์ว่าเป็นมาอย่างไร" รองอธิบดีดีเอสไอกล่าว
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เพราะข้อมูลการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น แต่ยืนยันจะทำความจริงให้ปรากฏ บางรายก็มีข้อมูลพอสมควร แต่ยังไม่เห็นภาพรวมทั้ง 91 ศพ จึงขอเวลาสอบ สวนต่อเพื่อให้ทราบว่าใครเป็นผู้ทำให้ตาย ตัวจิ๊กซอว์ยังไม่ครบถ้วน คดีนี้ไม่ใช่อาชญากรรมธรรมดาที่พบศพในบ้าน มีร่องรอยงัดแงะ พยาน หลักฐานอยู่ในวิสัยที่จะคลี่คลายได้ไม่ยากนักต่างจากคดีนี้ จึงไม่อยากด่วนสรุป สื่อมวลชนควรให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะทั้ง 91 ศพไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด
-นักข่าวเทศเซ็ง-ไม่มีข้อสรุป
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพ.อ.เฟื่องวิชชุ์ และพ.ต.อ.ณรัชต์แถลงข่าวแล้ว ได้เปิดโอกาส ให้สื่อมวลชนซักถาม โดยผู้สื่อข่าวต่างชาติจากหลายสำนักต่างสอบถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับผลการ สืบสวนสอบสวนกรณีการตายของช่างภาพญี่ปุ่น และอิตาลีที่ผ่านมาว่าได้สอบสวนไปถึงขั้นไหนแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ที่ชัดเจนจากพ.อ.เฟื่องวิชชุ์ และพ.ต.อ.ณรัชต์ โดยกล่าวเพียงว่าอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ทำให้ผู้สื่อข่าวต่างชาติต่างพากันผิดหวัง เพราะก่อนหน้านี้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอเป็นคนระบุว่าจะมีการแถลงผลการชันสูตรศพ 2 นักข่าวต่างชาติ จากนั้นกลุ่มผู้สื่อข่าวต่างประเทศจึงแยกย้ายเดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้ได้มีนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของน.ส.กมนเกด หรือน้องเกด อดีตอาสาพยาบาลร่วมด้วยช่วยกันที่ถูกยิงตายในวัดปทุมวนาราม ในวันที่ 19 พ.ค. พร้อมด้วยผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง เดินทางมาถึงกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอเข้าร่วมฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่ทันเพราะการแถลงข่าวได้เสร็จสิ้นไปก่อนหน้าที่จะมาถึงเพียง 5 นาที
-เหยื่อแฉกรมคุ้มครองดองเรื่อง
ต่อ มาเวลา 11.00 น. นางพะเยาว์ อัคฮาด พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ สิงห์แม หรือลุงรุ่ง ที่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสในวัดปทุมฯ รวม 5 นัด รอดตายหวุดหวิด และนายสมใจ เข็มทอง พี่ชายนายมงคล เข็มทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งที่เสียชีวิตขณะกำลังเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ ถูกยิงในวัดปทุมฯ และผู้เสียหายรายอื่นๆ ประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาพบนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิตว่าไปถึงไหนแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ เป็นผู้รับเรื่องแทน
นางพะเยาว์ กล่าวภายหลังว่า วันนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับผู้บาดเจ็บที่ถูกยิงในวัดปทุมฯ และญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้ากรณีการให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่บาดเจ็บและเสีย ชีวิตว่าคืบหน้าถึงไหนแล้ว เนื่องจากผู้บาดเจ็บ และญาติผู้ตายทุกรายได้ส่งเอกสารหลักฐานทุกอย่างให้ทางกรมครบหมดแล้วแต่กลับ ถูกดองเรื่องไว้นานเกือบ 3 เดือน และวันที่ 28 ส.ค. นี้ก็จะมีการทำบุญครบ 100 วันให้กับลูกสาวตน จึงเดินทางมาทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวด้วย
-แม่เกดฉะอีกคดี 6 ศพไม่คืบ
นาง พะเยาว์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ และพ.ต.อ.ณรัชต์ แถลงข่าวเมื่อเช้านี้ ทราบว่าไม่มีความคืบหน้าของคดีทั้ง 91 ศพเลย ซึ่งตนก็อยากจะฝากไปถามว่าหลักฐานการเสียชีวิตทั้ง 91 ศพนั้นมันหายากนักหรือ หากยากทำไมไม่มาทำคดี 6 ศพในวัดปทุมฯ ให้กระจ่างก่อน แล้วคดีอื่นๆ ก็จะตามมาเอง เพราะคดี 6 ศพในวัดปทุมฯ นั้นมีหลักฐานมากมาย หาไม่ยาก มีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ที่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นคนยิง และหลักฐานเหล่านี้หากมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อไหร่จะออกมาอีกจำนวนมาก สุดท้ายตนอยากฝากไปยังรัฐบาลให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเสีย เพราะไม่มีประโยชน์ มีแต่เสียหากรัฐบาลบริสุทธิ์ใจจริงควรยกเลิกโดยเร็ว
ด้านนายสมใจ เข็มทอง พี่ชายนายมงคล เข็มทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ถูกยิงตาย กล่าวว่า นับตั้งแต่น้องชายตายนานเกือบ 3 เดือนคดียังไม่มีความคืบหน้า วันนี้จึงเดินทางมาตามเรื่องที่เคยยื่นไว้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรณีที่น้องชายตนเสียชีวิตนี้ฝากถามไปยังรัฐบาลว่า คนที่มีจิตใจเป็นอาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนนั้นผิดด้วยหรือ
-ยันมีหลักฐานมัดสไนเปอร์
"รัฐบาล ควรแยกแยะให้ออก และผู้ที่อยู่ ในวัดปทุมฯ ในวันนั้นล้วนมีแต่ผู้สูงอายุแต่ก็ ถูกเหมารวมว่าเป็นผู้ก่อการร้าย และคนที่ยิงเข้าไปในวัดปทุมฯ นั้นรัฐก็อ้างว่าเป็นชายชุดดำยิง ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นคนยิง แต่หลักฐานดังกล่าวขณะนี้ยังไม่มีใครกล้านำออกมาเพราะจะถูกจับ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่รัฐประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เศรษฐกิจแย่ลง มาก ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะผมมีอาชีพขับแท็กซี่จะรู้สถานการณ์ดี สุดท้ายหากว่ารัฐยังคงดื้อดึงไม่ประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน คิดว่าภายภาคหน้าก็คงจะมีการชุมนุมใหญ่อีก ควรถอยหลังมาคนละก้าวดีกว่าเพื่อลดความกดดันลง" นายสมใจ กล่าว
นาย ณรงค์ศักดิ์ สิงห์แม หรือลุงรุ่ง กล่าวว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์วัดปทุมฯ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. โดยถูกเจ้าหน้าที่ยิงขาและลำตัว รวม 5 นัด และถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือผ่านมา 3 เดือนแล้ว และเอกสารต่างๆ ก็ส่งให้กรมหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีที่รัฐบาลสั่งให้กระทรวงยุติธรรมและดีเอสไอ ดำเนินการสืบสวนสอบ สวนหาหลักฐานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตทั้ง 91 ศพ เพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากหน่วยงานรัฐที่ดำเนินการเรื่องนี้เป็นระบบเดียวกันหมด ช่วยเหลือกัน ซึ่งหากระบบยังเป็นอย่างนี้จะไม่มีความยุติธรรมเกิดขึ้นได้เลย และอยากฝากไปยังรัฐบาลขอให้ใช้สติ เห็นใจประชาชนให้มากไม่ใช่เขาร้ายมาแล้วก็ต้องร้ายตอบ จงชนะความร้ายด้วยความดี
-รมต.ยุ่นไว้อาลัยจุดนักข่าวตาย
ก่อน หน้านี้ เวลา 08.55 น. นายคัตสึยะ โอกาดะ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น เดินทางไปวางดอกไม้พร้อมยืนไว้อาลัยให้นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ นักข่าวญี่ปุ่น สังกัดสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่ถูกสังหารในเหตุการณ์ทหารกระชับพื้นที่ผู้ชุมนุมเสื้อแดง วันที่ 10 เม.ย.2553 บริเวณสี่แยกคอกวัว รัฐมนตรีโอกาดะไม่ได้กล่าวอะไร เพียงรับฟังเจ้าหน้าที่ทูตสรุปความคืบหน้าการสอบสวนคดีดังกล่าวด้วยสีหน้า เคร่งเครียด และใช้เวลาราว 8 นาทีจึงเดินทางไปพบนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ
จากนั้นนายกษิต ให้สัมภาษณ์หลังร่วมหารือกับนายคัตสึยะ โอกาดะ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น ว่า นายคัตสึยะแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับความคืบหน้าคดีของนายฮิโระ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น ตนจึงชี้แจงว่าทางการไทยไม่ได้นิ่งเฉยแต่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ดีเอสไอกำลังดำเนินงานอย่างละเอียดอยู่จึงต้องใช้เวลา หน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศคือการติดตามความคืบหน้าและรายงานผลให้ทางการ ญี่ปุ่นและครอบครัวผู้เสียชีวิตทราบอย่างรวดเร็วที่สุด
-ปณิธานแถลงยันญี่ปุ่นพอใจคดี
ต่อ มาเวลา 17.30 น. นายคัตสึยะ โอกาดะ เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นเวลา 18.30 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการหารือว่า บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี เราแจ้งความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูริ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีความคืบหน้าในหลายประเด็น เช่น เรื่องพยาน และการตรวจสอบดีเอ็นเอ ซึ่งญี่ปุ่นค่อนข้างมีความพอใจ กรณีนี้ญี่ปุ่นได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและดีเอสไอ เพื่อขอทราบความคืบหน้าการดำเนินคดีนี้เป็นระยะๆ ซึ่งทางไทยจะเดินหน้าหาพยานบุคคลเพิ่มเติม ขณะนี้เรามีพยานบุคคลในช่วงที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งต้องสอบสวนต่อไป โดยนายกฯ ของไทยระบุว่าเข้าใจความกังวลของทางญี่ปุ่น แต่เรื่องคดีความในไทยยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการ โดยเราจะไม่ก้าวก่าย และหลังการชี้แจงของฝ่ายไทย ฝ่ายญี่ปุ่นรับฟังด้วยดี ส่วนเรื่องรายละเอียด ต้องพูดคุยกับดีเอสไอเป็นระยะ
เมื่อถามว่าได้พูดคุยถึงการที่นักลง ทุนชาวญี่ปุ่นจะมาลงทุนเพิ่มเติมไทยด้วยหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เขาแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นในช่วงที่มีการ ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งนายกฯ ยืนยันว่าจะเร่งให้การชดเชยธุรกิจของชาวญี่ปุ่นที่ได้รับความ เสียหาย รวมถึงจะดูแลความปลอดภัยของนักข่าวและนักธุรกิจของทุกชาติ
-สว.เรียกตร.แจงปืนสไนเปอร์
เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา มีนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ประธาน คณะกรรมการฯ เป็นประธานที่ประชุม พิจารณาการเบิกจ่ายอาวุธ ประเภทของอาวุธ เพื่อใช้ในการควบคุมฝูงชน โดยเฉพาะเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง โดยเชิญตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กรรมาธิการหลายคน อาทิ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี ต่างสอบถามว่า กรณีมีการใช้อาวุธร้ายแรง ประเภท สไนเปอร์ มีหน่วยงานใดใช้บ้าง หากเป็นบุคคลธรรมดาสามารถหาซื้อเพื่อมาก่อการได้หรือไม่ ทางหน่วยงานราชการได้รับรายงานว่า มีการแจ้งหายเกี่ยวกับอาวุธชนิดนี้หรือไม่ ขณะที่นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า อาวุธเอ็ม 16 ที่ติดกล้อง ถือเป็นอาวุธชนิดเดียวกับสไนเปอร์หรือไม่ และการดำเนินการจำเป็นต้องมีคนชี้เป้าหรือไม่ นางกีระณา สุมาวงศ์ กรรมาธิการฯ ถามว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ มีสิทธิ์สั่งซื้อมาใช้หรือไม่
-สไนเปอร์ยิงม็อบไม่ใช่ของตร.
พ.ต.อ.รณ กร ศุภสมุทร รอง ผบก.สพ.สตช. ชี้แจงว่า ในส่วนของส่งกำลังบำรุง กองสรรพาวุธ สตช. ได้รับมอบหมายให้เตรียมพร้อม ในห้วงมีสถานการณ์ ยืนยันว่า สตช. รวมถึง เจ้าหน้าที่ ในการควบคุมฝูงชน มิได้ใช้อาวุธร้ายแรง นอกจากใช้ โล่ กระบอง และแก๊สน้ำตา ชนิดขว้าง รวมถึงมีการใช้ปืนลูกซองที่ใช้ชนิดกระสุนยาง ส่วนเรื่องอาวุธหนัก เช่น เอ็ม 16 ไม่มีการเบิกจ่ายไปใช้ ขณะที่การตรวจอาวุธ หลังการสลายการชุมนุม เราตรวจอยู่หลายสถานที่ แต่เข้าภายหลังจากที่ทหารเข้าไปแล้ว ส่วนกรณีสไนเปอร์ สตช.มีใช้อยู่ 2 กระบอก โดยจัดซื้ออยู่ 2 ครั้งให้ตชด.ค่ายนเรศวร 261 และหน่วยอรินทราช ราคาประมาณ 2 แสนบาท เพื่อใช้ในภารกิจต่อต้านผู้ก่อการร้าย และช่วยเหลือตัวประกัน โดยเป็นปืนยี่ห้อ เอชเค อยู่ที่ตชด. ส่วนยี่ห้อลินตัน อยู่ที่หน่วยอรินทราช ระยะการยิง ถ้าอยู่ในระยะประมาณ 100 เมตร จะมีความแม่นยำมาก และผู้ยิงจะต้องมีความชำนาญและฝึกฝนมาอย่างดี โดยเฉพาะการคำนวณทิศทางกระแสลม ทั้งนี้ จากการเก็บหัวกระสุนชนิดสไนเปอร์ในที่เกิดเหตุเป็นแบบยี่ห้อลาปัว ซึ่งในสตช.ไม่มีการใช้หัวกระสุนชนิดนี้
-เป็นอาวุธพิเศษใช้ในราชการ
พ.ต.อ.รณ กร กล่าวต่อว่า ส่วนข้อสงสัย ที่บุคคลสามารถซื้อหามาได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่า เอกชนไม่สามารถหาซื้อได้ อาวุธนี้จะถือเป็นอาวุธพิเศษ ที่สั่งซื้อได้เฉพาะหน่วยงานรัฐ เช่น ตำรวจ และกองทัพ โดยซื้อผ่านกองสรรพาวุธ เข้าบัญชียุทธภัณฑ์ ส่วนอาวุธเอ็ม 16 แบบติดกล้องเล็งต้องใช้ผู้ชำนาญในการใช้เช่นกัน ซึ่งจะมีความแม่นยำสูง ซึ่งกระสุนเอ็ม 16 จะแตกต่างจากกระสุนสไนเปอร์ ทำให้บาดแผลที่เกิดไม่เหมือนกัน นิติวิทยาศาสตร์ สามารถตรวจพิสูจน์ได้ ส่วนข้อซักถามว่า หน่วยอื่นจะมีได้หรือไม่ ตรงนี้สามารถมีได้ ซึ่งในกองทัพก็มีเช่นกัน ส่วนจะเป็นสไนเปอร์ชนิดใดตนใม่ทราบ ขณะที่ดีเอสไอสามารถซื้อและจัดหาได้ แต่ไม่ทราบว่า เป็นชนิดใดเช่นกัน
พ.ต.อ.รณ กร กล่าวต่อว่า กรณีการใช้สไนเปอร์ ทางสตช.เป็นห่วงเป็นอย่างมาก เพราะ ในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ปราศรัยต่างๆ น่าจะมีการนำอาวุธร้ายแรงชนิดนี้ ขึ้นมาสังหารฝ่ายตรงข้าม อนาคตต่อไปน่ากลัวมาก ซึ่งเรื่องนี้ทางสตช.ต้องประชุมเพื่อหาแนวทางป้องกันต่อไป เพราะถือเป็นเรื่องอันตรายเป็นอย่างมาก
วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวผลการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตชาวต่างประเทศ 2 ราย จาก 91 ราย ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ว่า สิ่งที่ยืนยันคือผู้เสียชีวิตทุกราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย ส่วนเรื่องของเวลาและวิธีการตนไม่ขอพูดในรายละเอียด แต่ทราบว่าดีเอสไอได้รับสำนวนการชันสูตรพลิก ศพแล้ว ส่วนจะเปิดเผยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ ดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องได้รับรู้ข้อมูลดังกล่าวนี้ เมื่อถามว่ายืนยันว่าการเสียชีวิตของประชาชนในข้างต้นนั้น เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีสิ่งอื่นบ่งชี้ว่าเป็นอย่างอื่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น