ที่มา.ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:16 น.
 |
| จาก อัลบั้ม ข่าวสดออนไลน์ |
ตู่อัดดีเอสไอปล่อยข่าว-ถามคดียิงเสธ.แดงคืบถึงไหน
วันที่ 16 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช. แดงทั้งแผ่นดิน) กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอจับกุม นายจักรชลัช หรือพล คงสุวรรณ์ คนขับรถของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ว่า ขณะนี้มีความพยายามปล่อยข่าวจากดีเอสไอว่านายจักรชลัช ให้การรับสารภาพ และระบุว่าเสธ.แดงไปรับเงินจากนาง ก. คนสนิทของนายใหญ่ เพื่อมาดำเนินการก่อความไม่สงบในหลายพื้นที่ในช่วงการชุมนุมของนปช.ที่ผ่านมา
ตนเห็นว่าขณะนี้ดีเอสไอใช้วิธีสามานย์ เป็นองค์กรกุข่าว แบล็คเมล์ ใส่ร้ายประชาชน เหมือนกับที่เคยทำในช่วงการจับกุมนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ที่ใช้การปล่อยข่าวว่ารับสารภาพ และเกี่ยวพันกับคดีใหญ่ 8 คดี และรับสารภาพแล้ว ต่อมาก็บอกว่ายังไม่มีการรับสารภาพ ก็เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า เขต 6 กทม. พอไม่สำเร็จ ก็อ้างว่าจะเอาลูกเมีย แม่ ของนายหรั่งกันเป็นพยาน ทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรทั้งนั้น นี่จึงเป็นวิธีสามานย์ที่ดีเอสไอใช้มาตลอด
“เรื่องปล่อยข่าวว่ารับเงิน จากนาง ก. ก็เป็นวิธีสามานย์อย่างหนึ่ง ซึ่งตนได้สอบถามทนายความของนายจักรชลัช แล้วได้รับการยืนยันว่าไม่เคยให้การรับสารภาพ หรือเรื่องไปรับเงินรับทองจากใคร เท่าที่ผ่านมาเอกสารหลักฐานการรับเงินใดที่ชัดเจนที่สุด คือกรณีที่นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยาของนายธาริต ที่รับเงินจากนายธีรชัย ธำรงพงศกร หรือเฮียเม้ง เท่านั้น และขอให้ระวังตัวให้ดีเพราะขณะนี้มีการสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของนางวรรษ มลย้อนหลังไปแล้วว่ามีการรับเงินกรณีนี้อีกหรือไม่ และอยากบอกนายธาริตว่าตำรวจมีหน่วยปฏิบัติการ 191 แต่นายธาริตนั้นเป็นพวก 161 นายธาริตไปอะไรไว้ที่ถนนศรีอยุธยาอย่างคิดว่าผมไม่รู้” นายจตุพร กล่าว
นาย จตุพร กล่าวอีกว่า ตนอยากถามดีเอสไอว่า เมื่อตามจับคนขับรถของเสธ.แดงได้แล้ว และโยนความผิดในทุกคดีให้คนเสื้อแดง แล้ว อยากทราบว่าคดีลอบยิงเสธ.แดงไปถึงไหนแล้ว มีการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดหรือไม่ แล้ววิถีกระสุนนัดแรกมาจากโรงแรมดุสิตธานี แล้วนัดที่ 2 มาจากโรงพยาบาลจุฬาฯหรือไม่ มีการชันสูตรพลิกศพอย่างไร และความคืบหน้าไปถึงไหน หรือดีเอสไอจะทำแต่คดีที่มุ่งจะใส่ร้ายคนเสื้อแดงเท่านั้น
นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับในวันที่ 17 ส.ค. ทางทนายความของนปช. จะยื่นขอประกันตัวแกนนำนปช.ที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั้งหมด โดยไม่ทิ้งใครไว้ ส่วนจะได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของศาล
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประกาศยกเลิกการใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินใน พื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย และอุบลราชธานี ว่า เมื่อมีการประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พวกตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปปราศรัยและเยียวยาจิตใจของคนเสื้อแดงในจังหวัด ต่างๆ เพราะอย่างที่อุบลราชธานี มีคนถูกจับกุมคุมขังจำนวนมาก เราจะต้องเดินสายไปเยียวยาความรู้สึก
ส่วนจะเป็นการเดินทางในรูปแบบของพรรคเพื่อไทย หรือคาราวานของคนเสื้อแดง ก็จะต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้งหลังจากการจัดคอนเสิร์ตคนเสื้อแดงที่จังหวัด ชลบุรี ในวันที่ 4 ก.ย.นี้
19นปช.ขึ้นศาลวันนี้-รับข้อหาก่อการร้าย
ธาริตอ้าง คนขับรถ เสธ.แดง ซัดทักษิณ
ที่มา: ข่าวสดรายวัน หน้า 1
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7200
19 แกนนำนปช.มีคิวขึ้นศาลวันนี้ ในฐานะผู้ต้อง หาก่อการร้าย ตามที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องล่าสุด นำโดย 3 เกลอ"วีระ-ณัฐวุฒิ-จตุพร" ทนายขอฟังคำบรรยายฟ้องก่อนดำเนินการ "จตุพร"โวยอีกอัยการสมคบดีเอสไอเล่นงานคนเสื้อแดง ทั้งๆ ที่ทั้งสองหน่วยต่างก็เป็นศอฉ. แฉแม่"จุลสิงห์"เป็นน้องสาว"ปีย์ มาลากุลฯ" โยงขบวนการปฏิวัติ 19 ก.ย. เพื่อไทยจวกจับคนขับรถเสธ.แดงจัดฉากใส่ร้าย "ธาริต"ยันกันตัวเป็นพยานตามกระบวน การ เผยเด็กเสธ.แดงยอมพาไปชี้จุดลูกพี่รับเงินจาก"ทักษิณ"
"ตู่"โวยอีกอสส.ฟ้อง 19 นปช.
เมื่อ เวลา 11.00 น.วันที่ 15 ส.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง 19 แกนนำและแนวร่วมนปช.ข้อหาก่อการร้าย ก่อนครบกำหนดฝากขังตามอำนาจพิเศษของพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ว่า อัยการสูงสุดยังมีช่องทางอีกมากที่สอบสวนข้อเท็จจริงโดยไม่จำเป็นต้องเร่ง คดี เพราะถ้านับจากวันที่แกนนำ นปช.ถูกฝากขังและจะครบกำหนดฝากขัง 84 วันในวันที่ 7 ก.ย.นี้ ยังมีเวลาอีกเกือบเดือนที่จะสรุปสำนวนคดี แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอัยการสูงสุดจึงรีบสรุปส่งฟ้องวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกลุ่มนปช. เนื่องจากการสรุปคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนไม่มีการสอบสวนปากคำจำเลย แม้แต่ปากเดียว มีแต่สอบปากคำโจทก์จำนวนมาก
นายจตุพรกล่าวอีกว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศอฉ. ที่ร่วมกันปราบปรามประชาชน เป็นผู้ดำเนินคดีในส่วนของดีเอสไอ โดยเสนอความเห็นสั่งฟ้องพร้อมพยานหลักฐานเอกสาร 30 แฟ้มให้อัยการสูงสุด คือ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการศอฉ. ดำเนินการ จึงต้องถามว่าทำไมจึงให้คนเหล่านี้เป็นผู้ดำเนินคดี เพราะถ้าเป็นเช่นนี้คดีจะพลิกจากขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว ที่สำคัญการเอาความตาย 91 ศพมาสรุปว่าคนเสื้อแดงฆ่ากันเองนั้นยังมีความเป็นคนอยู่หรือไม่
แฉแม่จุลสิงห์เป็นน้องสาว"ปีย์"
"ที่ ผ่านมาการสอบสวนไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่พนักงานสอบสวนจะต้องชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตทีละศพ ว่าผู้ตายเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร และการตายที่เกิดจากกระสุนปืนต้องระบุว่าเป็นกระสุนชนิดใด วิถีกระสุนเป็นอย่างไร จึงจำเป็นต้องชันสูตรพลิกศพทั้ง 91 ศพ และแจ้งไปยังศาลถึงสาเหตุการตาย และศาลจะไต่สวนต่อว่าใครเป็นคนทำ แต่มีการละเลยเรื่องนี้ ไม่ปฏิบัติตามวิธีพิจารณาความคดีอาญา" นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวต่อว่า ต้องถามว่าทั้งนายจุลสิงห์และนายธาริตทับซ้อนกับการปราบปรามประชาชน มีสิทธิ์หรือไม่ที่จะสอบสวนคดีนี้ นายจุลสิงห์มีความเกี่ยวโยงกับคณะผู้ยึดอำนาจ 19 ก.ย.49 เนื่องจากมารดานายจุลสิงห์เป็นน้องสาวของนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับคณะที่ยึดอำนาจ ซึ่งนายจุลสิงห์ต้องดำเนินการสอบ สวนกรณีปราบปรามประชาชน มีทั้งผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการ ผู้สูญเสียดวงตา แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งที่มีผู้เสียชีวิต 90 กว่าศพ บาดเจ็บกว่า 2 พันคน
ฝ่ายสั่งฆ่าประชาชนลอยนวล
นายจตุ พรกล่าวว่า ส่วนกรณีนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ ออกมาระบุว่าตนไม่ได้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำนั้น ต้องชี้แจงว่าระหว่างเปิดสมัยประชุมสภา ตนได้มอบตัว และขอประกันตัว เมื่อหมดสมัยประชุมดีเอสไอคัดค้านการประกันตัวของตน ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้หนีไปไหน เมื่อได้รับประกันตัวก็มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ถึงแม้จะถูกกล่าวหาข้อหาก่อการร้าย มีโทษถึงประหารชีวิต แต่ยังอยู่ตรงนี้ แต่ฝ่ายที่สั่งฆ่าประชาชนกลับลอยนวล พาลูกพาเมียไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงวันหยุดยาว ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านี้ไม่ถูกดำเนินคดี ส่วนดีเอสไอเองก็ทำเป็นไขสือ ปล่อยคนสั่งฆ่าประชาชนลอยหน้าลอยตาไปวันๆ
"ผมไม่เข้าใจว่านาย อภิสิทธิ์ทำบุญด้วยอะไร กฎหมายจึงไม่สามารถเอาผิดนายอภิสิทธิ์ได้ และที่นายอภิสิทธิ์ออกมา กล่าวหาว่าผมเป็นปัญหาของประเทศ ผมขอถามนายอภิสิทธิ์ว่าคุณหรือผมกันแน่ที่เป็นปัญหาของประเทศ ที่ผ่านมา ศอฉ.ใช้งบประมาณสลายการชุมนุม ที่นำมาเปิดเผยกว่า 3,000 ล้านบาท และที่ไม่เปิดเผยอีก 2,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท ศอฉ.ใช้งบประมาณขนาดนี้แล้วมา บอกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย" นายจตุพรกล่าว
16 ส.ค.นปช.ที่ถูกจับต้องไปศาล
นาย จตุพรกล่าวว่า วันนี้ทีมทนายความของคนเสื้อแดงจะประชุมหารือกัน โดยให้ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บร้องทุกข์และติดตามความคืบหน้าการทำคดี ของดีเอสไอ เพราะเรื่องนี้จะปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือคงไม่มิด เพราะการสอบสวนคดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มีข้อหาก่อการ ร้าย สอบสวนพยานจำเลยนับพันปาก และดำเนินคดีมาร่วมปี ยังไม่สามารถสรุปสำนวน ได้ แต่คดีคนเสื้อแดงกลับดำเนินการอย่างรวดเร็ว จึงขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมคดีของกลุ่มคนเสื้อแดงจึงต้องเร่งให้เสร็จก่อนวัน ที่ 11 ส.ค. ที่มีการพิจารณาของศาลฎีกา ใน การยื่นอุทธรณ์ยึดทรัพย์ของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเพราะต้องการเกี่ยวโยงกันหรือไม่
นายจตุพรกล่าวอีกว่า วันที่ 16 ส.ค.นี้ ผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ตามที่ต่างๆ จะต้องไปรายงานตัวที่ศาลอาญา เวลา 09.00 น. รวมทั้งตน นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช. รวมถึงแกนนำทุกคนจะต้องเดินทางไปศาลทั้งหมด
4 ก.ย.คอนเสิร์ตใหญ่บางละมุง
ผู้ สื่อข่าวถามว่า จะนำมวลชนไปสำนัก งานอัยการสูงสุดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า มันเลยเวลามาแล้ว เชื่อว่าสักวันหนึ่งกฎแห่งกรรมจะเล่นงานก่อนที่จะถูกกฎหมายเล่นงาน
นาย จตุพรกล่าวด้วยว่า วันที่ 4 ก.ย.นี้ที่เขาตะโล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เครือข่ายคนเสื้อแดงภาคตะวันออก จะร่วมจัดเวทีคอนเสิร์ตระดมทุน โดยมีตน พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ รวมทั้งแกนนำคนอื่นๆ ที่ไม่ถูกข้อกล่าวหา ไปร่วมงานด้วย
"เด็จพี่"ชี้จัดฉากจับเด็กเสธ.แดง
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีกรณีหน่วยงานด้านความ มั่นคงจับกุมตัวนายจักรชลัช หรือพล คงสุวรรณ์ โดยอ้างว่าเป็นคนสนิทพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง และมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเสธ. แดง รวมทั้งข้อมูลทางการเงินของเสธ.แดง ว่า เรื่องนี้มีเงื่อนงำและจัดฉาก เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกระบวน การก่อการร้ายตามที่ดีเอสไอสร้างขึ้น เพราะผู้ถูกจับกุมยังไม่ได้รับสารภาพแต่เจ้าหน้าที่กลับออกมาให้ข่าวล่วง หน้า คล้ายกับกรณีจับกุมนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ส.ต.รชต วงค์ยอด ที่อธิบดีดีเอสไอให้ข่าวว่าทั้งสองยอมรับสารภาพ จนญาติบุคคลทั้งสองต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ดีเอสไอจึงยอมรับในภายหลังว่ายังไม่มีการรับสารภาพ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าการจับกุมนายจักรชลัชไม่ชอบมาพากล เนื่องจากเมื่อจับตัวแล้วหน่วยงานความมั่นคงส่งให้ดีเอสไอกันตัวไว้ และยังไม่ตั้งข้อหานั้น เพราะต้องการจะใช้เป็นข้อต่อรองให้ผู้ต้องหาซัดทอดถึงเสธ.แดง และบุคคลอื่นหรือไม่ การกระทำของดีเอสไอถือเป็นการได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นการกดดันพยาน จึงขอเรียกร้องดีเอสไอและหน่วยงานความมั่นคงอย่าใช้วิธีต่อรองกับพยานเพื่อ หวังผลทางการเมืองเท่านั้น แต่ควรสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ไล่จับเพื่อหวังผลให้ซัดทอดไปถึงแกนนำนปช. ตามที่ดีเอสไอตั้งธงไว้ล่วงหน้า วันที่ 16 ส.ค. เวลา 10.00 น. ตนจะพาญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากการสลายชุมนุมไปติดตามความคืบหน้า การร้องขอความเป็นธรรมที่ดีเอสไอ และผู้ตรวจการแผ่นดิน
จี้"มาร์ค"เลิกฉุกเฉินทั้งหมด
นาย พร้อมพงศ์แถลงถึงกรณีศอฉ.เตรียมเสนอครม.ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยเฉพาะจ.เชียงใหม่และเชียงราย ว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าอีก 10 จังหวัดที่เหลือรวมทั้งกทม. เมื่อไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ควรแสดงจิตวิญญาณประชาธิปไตย ยกเลิกทั้งหมดที่เหลือโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิ เสรีภาพได้ตามปกติ ภายหลังจากถูกลิดรอนมากว่า 4 เดือน นอกจากนี้จะส่งผลต่อด้านการลงทุนและการท่องเที่ยวและเสริมสร้างบรรยากาศการ ปรองดองตามที่นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการปฏิรูป เรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อนหน้านี้ ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ควรแสดงความเป็นนักบริหารมืออาชีพ และอย่าใช้พร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสกัดคู่แข่งทางการเมือง และสร้างบรรยากาศประชา ธิปไตย
"ธาริต"แจงกัน"จักรชลัช"เป็นพยาน
วันเดียวกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีจับกุมนายจักรชลัช หรือพล คงสุวรรณ์ คนขับรถเสธ.แดง ตามหมายจับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วพนักงานสอบ สวนกันตัวเป็นพยานคดีก่อการร้าย ว่า การจะกันตัวผู้ต้องหารายใดเป็นพยานนั้นดีเอสไอต้องหารือและเห็นชอบร่วมกับ พนักงานอัยการ เงื่อนไขที่จะนำไปสู่การได้รับความคุ้มครองในฐานะพยานผู้ต้องหาต้องให้การ ที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก เบื้องต้นดีเอสไอส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปดูแลและร่วมรับฟังคำให้การตั้งแต่ วันแรกที่นายจักรชลัชถูกควบคุมตัว รายละเอียดการให้ปากคำของนายจักรชลัชจะไม่มีผลกระทบกับการสอบ สวนคดีก่อการร้าย เจ้าหน้าที่ทหารอัดเทปเสียงและบันทึกภาพรายละเอียดการสอบปากคำไว้อย่างครบ ถ้วน
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างควบคุมตัวนายจักรชลัชพนักงานสอบสวนดีเอสไอประสานเป็นการภายในให้ตรวจ สอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่นายจักรชลัชพาดพิง โดยเน้นไปที่รายชื่อบุคคลทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมนปช. และบุคคลที่ไม่เคยปรากฏรายชื่อเป็นผู้ต้องสงสัยคดีใดๆ มาก่อน ซึ่งการสอบเค้นเส้นทางการเงินนั้นฝ่ายทหารไม่ได้ต้องการข้อมูลการกระทำผิด ที่ผ่านมาในอดีต แต่มุ่งความสนใจไปยังแผนการในอนาคต เพื่อนำไปใช้ประเมินสถานการณ์ว่ากลุ่มฮาร์ดคอร์ที่เปลี่ยนไปเคลื่อนไหวใต้ ดินมีแนวคิดหรือวางแผนอะไรต่อไปในอนาคต โดยข้อมูลที่นายจักรชลัชให้การส่วนหนึ่งเป็นรายชื่อของทหารที่ไม่พบว่ามี บทบาท ไม่เคยถูกจับตาความเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้ หลังจากได้ข้อมูลจากนายจักรชลัชทำให้ผู้ใหญ่ในกองทัพให้ความสำคัญและติดตาม การสอบปากคำอย่างใกล้ชิด
ยอมพาไปชี้จุด"เสธ.แดง"รับเงิน
รายงาน ข่าวแจ้งอีกว่า นายจักรชลัชให้ความร่วมมือกับการสอบปากคำอย่างมาก โดยนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่เคยขับรถพบเสธ.แดงไปรับเงินมาเคลื่อนไหวด้วย
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีกลุ่มแดงสยามเปิดบ้านแถลงข่าวและทำกิจกรรม ว่า เป็นกระบวนการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้นตามทฤษฎีแบ่งแยกและบริหาร จะเห็นว่ากลุ่มคนที่อยู่ใน นปช. วันนี้แยกตัวออกมาเคลื่อนไหวอิสระตามแนว ทางของตัวเอง แต่เป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ พ.ต.ท. ทักษิณ โดยทุกกลุ่มมีธงชัดเจนว่าต้องล้มล้างรัฐบาลชุดนี้ และให้มีรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของพล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะการจะมีรัฐบาลแห่งชาติต้องล้มล้างรัฐธรรมนูญ และหากเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญก็ต้องผิดข้อหาก่อกบฏ ตนคิดว่าข้อหาการก่อการร้ายก็หนักพออยู่แล้ว คงไม่มีใครอยากมีข้อหากบฏขึ้นมาอีก
เชียร์"ธาริต"แข็งและตรง
นาย เทพไทกล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามรุกคืบติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดข้อหาก่อการร้าย ซึ่งพรรคเพื่อไทยดาหน้าออกมาปกป้อง ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปที่ดีเอสไอ โจมตี ใส่ร้าย เพื่อดิสเครดิตนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ซึ่งตนเชื่อว่าหากดีเอสไอไม่มีคนที่เข้มแข็ง ทำหน้าที่ตรงไปตรงมาตามกฎหมายอย่างนายธาริตคงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ตนอยากให้สังคมไทยให้กำลังใจ สนับสนุนข้าราชการของรัฐ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาเพื่อไม่ให้เกิดการเสียขวัญ เพียงเพราะคนที่ดิสเครดิตต้องการกดดันเจ้าหน้าที่รัฐไปดำเนินการต่อผู้กระทำ ผิดกฎหมายเท่านั้น
นายเทพไทกล่าวด้วยว่า การที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าการจับกุมคนขับรถเสธ.แดงเป็นการจับแพะนั้น เรื่องนี้เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ และทุกครั้งที่มีการจับกุมตัวผู้ปฏิบัติการของคนเสื้อแดงก็มักจะอ้างว่าเป็น แพะ หรือแดงเทียม แต่กรณีนี้เมื่อสอบสวนเบื้องต้นซัดทอดไปยังผู้ถือเงิน และตัวการ สามารถขยายผลได้ลึก ทำให้คนในพรรคเพื่อไทยร้อนตัว เหมือนวัวสันหลังหวะจึงพยายามออกมาตีโพยตีพาย และดิสเครดิตรัฐบาล อยากให้คนพรรคเพื่อไทยใจเย็นๆ อย่าออกมาปกป้องผู้ต้องหา รอกระบวนการยุติธรรมดำเนินไปตามข้อเท็จจริง ดีกว่าออกมาการันตีรับรองความบริสุทธิ์ของกลุ่มคนในกระบวนการตัวเอง
จับแดงเชียงใหม่ฆ่าพันธมิตร
เมื่อ เวลา 00.30 น. พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ หอมจรรยา สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ นำกำลังจับกุมนายแดง ปวนมูล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 1 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่ บ้านหรือที่ชุมชน ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 28 ม.ค.2553 จับกุมได้ที่ป่าละเมาะ หมู่ 8 ต.หนองแก๋ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 26 พ.ย.2551 ที่ถนนหน้าหมู่บ้านระมิงค์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายแดงเข้าร่วมกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือเสื้อแดงเชียงใหม่ เกิดการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่ โดยนายแดงใช้ปืนยิงกลุ่มพันธมิตรได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับติดตามตัวเรื่อยมา กระทั่งทราบว่านายแดงหลบซ่อนตัวในป่าละเมาะดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกุมนำตัวส่งพ.ต.ท.อธิพงศ์ ทองแดง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดี
สำหรับนายแดงเคยถูกจับกุมคดีร่วมกันฆ่า นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา อายุ 60 ปี บิดานายโต้ง หรือเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชาเชียงใหม่ พันธมิตรเชียงใหม่ ในวันปะทะกันที่บ้านระมิงค์ โดยถูกจับพร้อมพวกอีก 4 คน ต่อมาหลบหนีในชั้นประกันตัว ส่วนพรรคพวกที่ถูกจับได้ศาลตัดสินจำคุกคนละ 20 ปี
รวบแดงขอนแก่นลักเสื้อเกราะ
วันเดียวกันเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ดิเรก ยศนันท์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.ภาค 4 นำกำลังเข้าจับกุมนายชัยพร หรือชัย คำทองทิพย์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 10 ต.ยางคำ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 28 ก.ค.2553 ข้อหามีเครื่องยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะ) ภายหลังก่อเหตุจากการชุมนุมร่วมกับกลุ่ม นปช. ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และลักทรัพย์เสื้อเกราะเจ้าหน้าที่ทหารหลบหนี
พ.ต.อ. ดิเรกกล่าวว่า หลังจากรับหมายจับนายชัยพรจากศาลอาญา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามสืบสวน จนทราบว่าหลบหนีมาพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 208/682 หมู่ที่ 8 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านญาติ เจ้าหน้าที่ติดตามมาพบชายลักษณะคล้ายกับผู้ต้องหาตามหมายจับนั่งอยู่ภายใน บ้าน จึงแสดงหมายจับแล้วเชิญตัวมาสอบสวนที่บก.สส.บช.ภาค 4 ก่อนแจ้งข้อหาตามหมายจับให้ทราบ
ด้านนายชัยพรรับสารภาพว่า เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับทหารตนลักเสื้อเกราะของทหารมาจริง หลังจากเหตุการณ์สงบได้กลับมาพักอาศัยอยู่บ้านญาติใน จ.ขอนแก่น กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายศาลมาจับกุม
ภายหลังสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ส่งตัวนายชัยพรให้พนักงานสอบสวนของบช.น. เจ้าของคดีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทนายรับมือ 19 นปช.ขึ้นศาล
วัน เดียวกัน นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช.กล่าวว่า วันที่ 16 ส.ค.ตนพร้อมด้วยทีมทนายความประมาณ 10 คน จะเดินทางไปศาลอาญา พร้อมกับกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นแกนนำและแนวร่วม นปช. ทั้งหมด 19 คน ในจํานวนนี้มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายการุณ โหสกุล ส.ส. เพื่อไทยด้วย ซึ่งวันเดียวกันนี้ทีมทนายประชุมหารือเพื่อแบ่งหน้าที่กันทําในวันพรุ่งนี้ รายละเอียดการต่อสู้คดีให้กับแกนนําและ นปช.รายอื่นๆ ที่ถูกจับนั้นจะขอดูคําบรรยาย ฟ้องในแต่ละรายก่อน ซึ่งคําบรรยายฟ้องดังกล่าวพรุ่งนี้ศาลจะเป็นผู้แจกให้คนละชุด จากนั้นจะหารือกันอีกครั้งเพื่อวางแนวทางการต่อสู้คดีต่อไป
นายคารม กล่าวต่อว่า สําหรับการยื่นขอประกันตัวแกนนําที่เหลือ รวมทั้งคนเสื้อแดงคนอื่นๆที่อยู่ในเรือนจํานั้น ตอนนี้ต้องรอฟังผลของน.พ.เหวง โตจิราการ ก่อนว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ หากศาล อนุญาตรายต่อไปที่จะยื่นขอประกันคือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายนิสิต สินธุไพร
สำหรับแกนนําและแนวร่วมทั้ง 19 คนที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาก่อการร้าย ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ อายุ 62 ปี ประธานนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 44 ปี ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 35 ปี น.พ.เหวง โตจิราการ อายุ 59 ปี นายก่อแก้ว พิกุลทอง อายุ 45 ปี นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา อายุ 58 ปี นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อายุ 52 ปี นายนิสิต สินธุไพร อายุ 54 ปี นายการุณ โหสกุล อายุ 42 ปี ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 58 ปี
นายภูมิกิติ หรือพิเชษฐ์ สุจินดาทอง อายุ 52 ปี นายสุขเสก พลตื้อ อายุ 34 ปี นายจรัญ หรือยักษ์ ลอยพูล อายุ 39 ปี การ์ดนปช. นายอำนาจ อินทโชติ อายุ 54 ปี นายชยุต ไหลเจริญ หัวหน้าการ์ดนปช. นายสมบัติ มากทอง หรือผู้กองแดง อายุ 48 ปี นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ อายุ 25 ปี คนสนิทพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง นายรชต หรือกบ วงค์ยอด อายุ 29 ปี และนายยงยุทธ ท้วมมี อายุ 54 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น