วันอังคาร, สิงหาคม 24, 2553

รอรับตัว - เครื่องบินเจ็ตของทางการสหรัฐ มาจอดรออยู่ที่สนามบินบน.6 ดอนเมือง เตรียมรับตัวพ่อค้าความตายชาวรัสเซีย "วิกเตอร์ บูท" ไปดำเนินคดีที่อเมริกาในวันที่ 25 ส.ค.

by Herogeneral on 2010-08-25 - 10.51 AM
ที่มา:
(1) ข่าวสดรายวัน ปีที่ 20 ฉบับที่ 7209 หน้า 1
(2) ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553



รอรับตัว - เครื่องบินเจ็ตของทางการสหรัฐ มาจอดรออยู่ที่สนามบินบน.6 ดอนเมือง เตรียมรับตัวพ่อค้าความตายชาวรัสเซีย "วิกเตอร์ บูท" ไปดำเนินคดีที่อเมริกาในวันที่ 25 ส.ค.นี้ จากพฤติกรรมค้าอาวุธข้ามชาติ


ตู่แฉ"ศิริโชค"ย่องพบ วิกเตอร์ บูท ต่อรองให้ปรักปรำแม้ว วอลเปเปอร์งัดข้อมูลโต้ โยงทักษิณ-พ่อค้าอาวุธ สภาถลกงบฯบานปลาย

สภาเปิดศึกงบประมาณฯ วันที่ 4 ฝ่ายค้านรุมยำงบมหาดไทย 2.3 แสนล้าน นานเกือบ 5 ช.ม.ก่อนผ่านฉลุย "จตุพร"ลุกถล่มกระทรวงยุติธรรม แฉกรมราชทัณฑ์ปล่อย"ศิริโชค" คนสนิทนายกฯ เข้าพบ"วิกเตอร์ บูท"ในคุก เจรจาต่อรองพ่อค้าอาวุธระดับโลก ให้การปรักปรำ"ทักษิณ-เสื้อแดง" เกี่ยวพันเครื่องบินขนอาวุธมาลงดอนเมืองเมื่อปลายปี"52 "วอลเปเปอร์"อ้างข้อมูลข่าวศรีลังกา ระบุ"ทักษิณ"สนิทกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมและกลุ่มพ่อค้าอาวุธ แถมวันที่เครื่องบินขนอาวุธมาจอดดอนเมือง "ทักษิณ"ก็อยู่ที่ศรีลังกา "มาร์ค" ฉะจตุพร กล่าวหาเท็จ ยันรัฐบาลไม่เคยต่อรองหรือแทรกแซงคดีใดๆ ทั้งสิ้น เก้าอี้ผู้ว่าการสตง. วุ่นอีก "จารุวรรณ"เปิดศึกตอบโต้ 7 รองผู้ว่าการ สรุปไม่ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ไม่ลาออก เลขาฯกฤษฎีกาชี้ช่องยื่นศาลปกครองตัดสินชี้ขาด "มาร์ค" เพิ่งตื่น สั่ง"เทพเทือก"จับตาโยกย้าย ขรก.มหาดไทย

ปชป.ยันไม่เบี้ยวแก้รธน.

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นประธานการประชุม ครม. ซึ่งวันนี้ได้มีการย้ายสถานที่ประ ชุมจากสำนักเลขาธิการ ครม. ทำเนียบรัฐบาล มาใช้ที่ชั้น 3 ห้องงบประมาณ ตึกงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 วาระ 2 และ 3 ต่อจากสัป ดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บรรยากาศที่รัฐสภาชุลมุนและวุ่นวายเล็กน้อย เพราะนอก จากส.ส.และรัฐมนตรีที่ทยอยมาประชุมแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ทั้งของรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล เดินทางมาปฏิ บัติหน้าที่จำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่รัฐสภาบางส่วนบ่นว่ารัฐบาลไม่ควรมาประชุมครม.ที่รัฐสภาในระหว่างประชุมสภา เพราะสถานที่คับแคบและไม่เอื้ออำนวย

ที่รัฐสภา นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต. ประจำสำนักนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลและคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญให้ใช้ระบบเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียวแทนเขตใหญ่เรียงเบอร์ ว่า เรื่องเขตเลือกตั้งไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรให้การซื้อสิทธิ์ขายเสียงมีน้อยที่สุดหรือหมดไป ส่วนกระแสวิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเบี้ยวการแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายองอาจกล่าวว่า เราคงเบี้ยวไม่ได้ เพราะความจริงแล้วความเสียเปรียบได้เปรียบของพรรคในเรื่องเขตเลือกตั้งนั้นไม่แตกต่างกันเลย พรรคเคยผ่านมาแล้วทั้งเขตเล็กและเขตใหญ่ ดังนั้นเราไม่ได้วิตกกังวล

ซัด"แดง"ข่มขู่คดียุบพรรค

เวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา คณะทำงานฝ่ายกฎหมายต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงภาพรวมการสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญว่า จากการซักค้านพยานนัดแรก เมื่อวันที่ 30 ก.ค. เห็นชัดว่ามีการสมคบกันระหว่างอดีตข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กับนักการเมืองพรรคหนึ่ง โดยพบว่ามีการให้เงินส.ต.ท.ทชภล พรหมจันทร์ เกือบ 1 ล้านบาท และยังพบว่าส.ต.ท.ทชภล สนิทสนมกับพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ ไปมาหาสู่ นั่งหน้าห้องทำงานที่ดีเอสไอเป็นประจำ ส.ต.ท.ทชภล ยังเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่ขึ้นปราศรัยที่กกต. เพื่อบีบให้กกต.ยุบพรรคประชาธิปัตย์

นายวิรัตน์กล่าวว่า คณะทำงานของกกต.ที่มีนายอิสระ หลิมศิริวงศ์ เป็นประธาน มีมติถึง 3 ครั้งว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความผิด ซึ่งตามขั้นตอนต้องเสนอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองลงความเห็น หากไม่เห็นด้วยกับคณะทำงานต้องส่งให้กกต.ชุดใหญ่วินิจฉัย เพื่อส่งศาลรัฐธรรม นูญต่อไป แต่นายทะเบียนพรรคการเมืองลงนามเห็นชอบตามคณะทำงานแล้ว เรื่องน่าจะจบ แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุกลุ่มเสื้อแดงยกขบวนไปบีบ และข่มขู่ว่าถ้าไม่ยุบประชาธิปัตย์จะยุบชีวิตกกต. ทั้ง 5 คน ในที่สุดจึงตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบใหม่ แต่คณะทำงานกลับไม่สอบพยานเพิ่มเติม โดยพิจารณาจากสำนวนเดิมแล้วตัดสินยุบพรรคประชาธิปัตย์

โวยแผนใส่ร้ายศาลรธน.

นายวิรัตน์กล่าวอีกว่า สำหรับการสืบพยาน 5 ปากนัดที่สอง เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เห็นชัดว่านายอนุชิต ปราสาททอง ผอ.สำนักบริหารการสนับ สนุนโดยรัฐ พยานฝ่ายกกต. ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์สามารถใช้เงินในบัญชีเลือกตั้งของพรรคที่มีเงินอยู่แล้วในบัญชีเดิม 10-20 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นค่าทำป้ายหาเสียงไปก่อนได้ ซึ่งพรรคจะนำประเด็นดังกล่าวสู้คดี ส่วนที่วิจารณ์การต่อสู้คดีของพรรคไม่ยอมลงเนื้อหาคดี แต่มุ่งโจมตีพยานนั้น พรรคได้แก้ข้อกล่าวหาเป็นเอก สารส่งศาลเป็นปึก อยู่ที่ศาลจะพิจารณา ดังนั้นการเน้นทำลายตัวพยาน เพราะมีโอกาสซักค้านพยานเพียงเล็กน้อย

"จากคำให้สัมภาษณ์ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ระบุไม่มีใครทำลายศาลรัฐธรรมนูญได้นั้น แต่ผมเห็นว่าที่ผ่านมามีกระบวนการใส่ร้ายศาลรัฐธรรมนูญให้เสียหาย จนตุลาการต้องฟ้องร้อง และต้องถอนตัวออกจากองค์คณะแล้วถึง 2 คน ถือว่านายจตุพรทำสำเร็จ แล้วยังให้สัมภาษณ์อีกว่ายังรออีก 1 จึงอาจรอให้มีใครใส่ร้ายตุลาการเพิ่มอีก เพื่อให้มีการฟ้องและถอนตัวในที่สุด ถือเป็นกระบวน การทำลายกระบวนการยุติธรรม ยอมเอาเบี้ยแลกขุน แต่เชื่อว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะรู้ทันหรืออาจรออะไรอยู่ก็ได้" นายวิรัตน์กล่าว

ฉะสร้างภาพโดนคุกคาม

ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ต.ท.ทชภล พรหมจันทร์ ผู้ร้องและพยานในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถูกคุกคามหมายเอาชีวิตและยื่นหนังสือขอชีวิตจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯว่า เป็นการสร้างภาพ แสดงละครเรียกร้องความเห็นใจและพยายามโยนความผิดให้รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าพรรคไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว นักเลงและเล่นเกมนอกกฎหมาย

นายเทพไทกล่าวว่า ส.ต.ท.ทชภล กำลังหลงตัวเองว่าเป็นคนสำคัญที่มีคนหมายปองเอาชีวิต และพยายามยกตัวเองเปรียบเทียบกรณีพล.ต.อ. สมเพียร เอกสมญา หรือจ่าเพียร ที่มาร้องขอชีวิตจากนายกฯ ซึ่งจ่าเพียรเป็นบุคคลที่เสียสละให้ชาติบ้านเมืองจนได้รับฉายาว่า วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด แต่ส.ต.ท.ทชภล มีพฤติกรรมเป็นได้แค่ลิ่วล้อของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำตัวเป็นม้ารับใช้ให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ ไม่ว่าบุคคลใดเมื่อรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยและมีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อได้ เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ให้การคุ้มครองตามกฎหมาย แต่จะไม่คุ้มครองบุคคลที่สร้างเรื่อง สร้างภาพโดยไม่มีมูลความจริงหรือหวังผลทางการเมือง

กกต.รับรอง"พนิช"เป็นส.ส.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง เผยว่า ในการประชุมกกต. ช่วงบ่ายวันนนี้ ที่ประชุมกกต. มีวาระพิจารณาเรื่องการรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.เขต 6 กทม. ของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ได้รับการเลือกตั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ เบื้องต้น กกต.มีมติให้ประกาศรับรองผลนายพนิช เป็นส.ส.ไปก่อน เพราะครบระยะเวลา 30 วันตามที่กฎหมายกำหนด แต่ยังมีเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งอีก 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าเลือกก่อแก้ว ก่อกวน ก่อการร้าย และ 2.กรณีที่จ่าพงษ์ สาระคาม นักจัดรายการวิทยุ ออกมาพูดผ่านคลื่นวิทยุกระจายเสียงเอฟเอ็ม 103 ในทำนองว่าขออย่าให้ประชาชนเลือกคนคนนี้ เนื่องจากเป็นคนไม่ดีทำลายบ้านเมือง โดยทั้ง 2 กรณีถือเป็นการใส่ร้ายให้เข้าใจผิดในคะแนนเสียง อย่างไรก็ตาม เมื่อกกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ทันทีที่นายพนิชมารับใบรับรองและไปรายงานตัว สามารถเข้าร่วมประชุมและโหวตลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณในครั้งนี้ได้

หญิงเป็ดเปิดศึกรองผู้ว่าสตง.

เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.)รักษาราชการแทนผู้ว่าการ สตง. พร้อมรองผู้ว่าการ สตง. อีก 6 คน เปิดแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีตำแหน่งผู้ว่าการสตง. แต่ปรากฏว่านายพิศิษฐ์ เริ่มแถลงได้ไม่ถึง 1 นาที คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการสตง. ได้เปิดประตูห้องเข้ามา และเดินไปนั่งร่วมแถลงข่าวกับนายพิศิษฐ์ด้วย

นายพิศิษฐ์กล่าวว่า สตง.ส่งหนังสือไปยังหน่วยงานราชการ ประกาศให้ทราบว่าคุณหญิงจารุวรรณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการสตง. แล้วตามหนังสือที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรี และหนังสือที่สอบถามไปถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในประเด็นที่คุณหญิงจารุวรรณ อายุครบ 65 ปี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.53 คณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือตอบกลับมาแล้วว่าพ้นจากการดำรงตำแหน่ง จึงเป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำที่ต้องรักษาการตำแหน่งต่อไป และสตง.หยุดจ่ายเงินเดือนให้คุณหญิงไปตั้งแต่เดือนมิ.ย. อยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายเงินบำเหน็จที่นับจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2545 จนถึงวันที่ 5 ก.ค.53

พิศิษฐ์งัดจดหมายโชว์สื่อ

"ผมถือว่าคุณหญิงพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่อายุครบ 65 ปี หลังมีคำวินิจฉัยจากกฤษฎีกา แต่คุณหญิงกลับใช้ตำแหน่งประธานคณะกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) ซึ่งตามพ.ร.บ.ประ กอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2542 มาตรา 5 ระบุว่าประธานมีอำนาจรักษาการผู้ว่าการสตง.ได้ ผู้บริหารพิจารณาเห็นว่ารับฟังไม่ได้ จึงแถลงข้อเท็จจริงให้ส่วนราชการรับทราบ โดยส่งหนังสือเวียนไปยังหน่วยงานราชการเมื่อวันที่ 23 ส.ค. เพื่อประโยชน์ของ สตง.ในการปฏิ บัติงานจะได้เข้าใจตรงกันกับหน่วยรับตรวจได้ถูกต้อง ไม่เกิดผลกระทบต่อหน่วยงานราชการ" นายพิศิษฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแถลงข่าว นายพิศิษฐ์แสดงจดหมายที่บอกว่าเพิ่งได้รับทางไปรษณีย์มาแสดงต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมอ่านว่า ตนและผู้บริหารทั้ง 6 คนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณหญิงจารุวรรณ ได้รับหนังสือพร้อมกัน เป็นจดหมายจากคุณหญิงจารุวรรณ ถึงผู้บริหารทั้ง 7 คน ให้หยุดกระทำการที่ฝ่าฝืนคำสั่งของประ ธานคตง. กรณีไปลงนามอ้างความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าคุณหญิงจารุวรรณขาดคุณ สมบัติในการดำรงตำแหน่งตามกฎหมาย ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรง อาจเป็นความผิดทางอาญา เนื่องจากกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบทางราชการ

บอกไม่ยึดติด-แต่ไม่ออก

ขณะที่นายพิศิษฐ์กล่าว คุณหญิงจารุวรรณแย้งขึ้นว่าไม่สามารถรับฟังข้ออ้างของนายพิศิษฐ์ได้ เพราะลงนามหนังสือคำสั่ง สตง.เมื่อวันที่ 18 ส.ค.53 ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งรองผู้ว่าการสตง. ให้รักษาราชการแทนผู้ว่าการสตง.ไปแล้ว จึงถือว่านายพิศิษฐ์พ้นจากการเป็นรักษาการ รวมถึงไม่สามารถรับฟังคำวินิจฉัยจากกฤษฎีกาได้เพียงคณะหนึ่ง ไม่ใช่คำวินิจฉัยของกฤษฎีกาชุดใหญ่ กฤษฎีกาเองก็บอกว่าเป็นเพียงหน่วยงานให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ไม่ครอบคลุมองค์กรอิสระ จะไม่เชื่อก็ได้

"ดิฉันไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง จะออกไปเลยก็ได้ ตอนแรกพร้อมจะออกอยู่แล้ว เพียงแต่มีผู้รู้กฎหมายว่าหากทำเช่นนั้นจะละเลยหน้าที่ เพราะมีคำสั่งคปค. ที่มอบหมายให้ผู้ว่าการสตง. รักษาการไปก่อนจนกว่าจะสรรหาผู้ว่าการคนใหม่ หาก ให้มีข้อยุติควรเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสิน มีคำสั่งเด็ดขาด เช่น ศาลปกครองกลางหรือศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมนายพิศิษฐ์ไม่ดำเนินการ" คุณหญิงจารุวรรณกล่าว

นายพิศิษฐ์กล่าวตอบว่า เหตุที่ไม่ส่งเรื่องต่อไปยังศาลปกครองกลางหรือศาลรัฐธรรมนูญเพราะไม่ได้สงสัย อีกทั้งยึดมั่นตามคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา เพราะเป็นคณะที่มีบุคคลน่าเชื่อถือ เช่น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน และยังมีอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคนอยู่ในองค์คณะวินิจฉัยด้วย ที่ผ่านมาเมื่อสตง.มีข้อสงสัยทางข้อกฎหมายก็สอบถามกฤษฎีกามาตลอด ทำไมคำสั่งเรื่องนี้จึงยกเว้นไม่เชื่อฟัง

กฤษฎีกาชี้ช่องยื่นศาลปค.

ที่รัฐสภา คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงกรณีคุณหญิงจารุวรรรณ เมณฑกา เซ็นคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการสตง. เป็นรักษาการผู้ว่าการสตง.ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาเคยให้ความเห็นไปแล้ว ว่าคุณหญิงจารุวรรณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการสตง.ไปแล้ว จึงไม่มีอำนาจยกเลิกคำสั่งอะไรได้ ใครทำอะไรต้องรับผิดชอบเอาเอง

คุณพรทิพย์กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าปัญหาเรื่องคุณสมบัติของคุณหญิงจารุวรรณ ไม่เข้าเงื่อนไขยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หากให้ตีความควรส่งศาลปกครองเพราะเป็นปัญหาการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยให้ผู้มีส่วนได้เสียเป็นผู้ยื่นเรื่อง ยืนยันว่าการให้ความเห็นของกฤษฎีกาไม่ใช่การแทรกแซงองค์กรอิสระ เมื่อสตง.ถามมา เราก็ตอบไป โดยถามย้ำว่าต้องการคำตอบเรื่องนี้จริงหรือไม่ เมื่อสตง.ยืน ยันว่าต้องการ เราจึงให้ความเห็น แต่จะนำไปปฏิบัติหรือไม่ แล้วแต่สตง.

รบ.ยอมเปิดถ่ายสดถลกงบฯ

ที่รัฐสภา ก่อนการประชุมสภาผู้แทนฯ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2554 วาระ 2 และ 3 เวลา 08.45 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนฯ เรียกนายสามารถ แก้วมีชัย และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล และนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ร่วมหารือ ภายหลังการประชุมนายชัย กล่าวยืนยันว่าการพิจารณางบฯเสร็จทันตามกำหนดเวลา 105 วันแน่นอน

ภายหลังการประชุม น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม วิปรัฐบาลแถลงว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า 1.ประธานสภาขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมอย่างเคร่งครัด ไม่ต้องเกรงใจว่าเป็นฝ่ายใด 2.การอภิปรายวันนี้จะสลับกันระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล แบ่งเป็นฝ่ายค้าน 9 ชั่วโมง แยกเป็นกระทรวงมหาดไทย 3 ชั่วโมง กระทรวงยุติธรรม ศึกษาธิการและสาธารณสุข กระทรวงละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนที่เหลืออภิปรายกระทรวงอื่นๆ ขณะที่กรรมาธิการและ ส.ส.รัฐบาลจะใช้เวลาอภิปรายและชี้แจงรวม 6 ชั่วโมง หากมีการประท้วงกันไปมาจะหักเวลาจากทั้งสองฝ่าย

น.พ.วรงค์กล่าวว่า วิปรัฐบาลไม่ขัดข้องที่จะถ่ายทอดสดการประชุม คาดว่าจะเริ่มในเวลา 10.30 น. หลังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 มีภารกิจถ่ายทอดพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

ขีดเส้นจบไม่เกินเที่ยงคืน

นายธนิตพล ไชยนันทน์ เลขานุการวิปรัฐ บาลกล่าวว่า การอภิปราย 3 วันที่ผ่านมาใช้เวลาไป 36 ชั่วโมง 45 นาที จึงเหลือเวลาอภิปรายตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งประธานวิปฝ่ายค้านก็ยืนยันตามข้อตกลงดังกล่าว หากผิดข้อตกลง วิปรัฐบาลจะไม่เจรจาหรือประสานกับวิปฝ่ายค้านอีก เพราะที่ผ่านมาฝ่ายค้านใช้เวลาอภิปรายเกินไปมาก คาดว่าการอภิปรายจะเสร็จสิ้นเวลา 24.00 น.

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ ประธาน คณะกรรมาธิการฯงบประมาณฯ กล่าวว่า อยากให้การพิจารณาเสร็จในวันนี้ เพราะวันที่ 25 ส.ค. ตนต้องไปประชุมอาเซียนอีโคโนมี คอมมูนิตี้ (เออีซี) ที่กรุงฮานอย เวียดนาม หากพิจารณางบฯ ไม่เสร็จจะมีปัญหาเพราะต้องหาคนมาทำหน้าที่แทนตน

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัว หน้า พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านตั้งเป้าโจมตีงบมหาดไทย ว่า ไม่หนักใจ ไม่ว่าเรื่องการเกลี่ยงบส.ส.ไม่ลงตัวหรือเรื่องอื่นๆ ในส่วนงบท้องถิ่นที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่ามีการกระจุกตัว ยืนยันว่าชี้แจงได้ ส่วนที่ว่าการจัดสรรงบไปกระจุกอยู่แต่ในพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยนั้น นายชวรัตน์ปฏิเสธว่า ไม่เป็นเช่นนั้น กระทรวงจัดสรรให้เท่ากันหมด กระทรวงมหาดไทยต้องวางตัวเป็นกลาง กระทรวงมหาดไทยไม่ใช่ของพรรคภูมิใจไทย

"ตู่"ปูดรัฐบาลต่อรอง"บูท"

ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัด ส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายวิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย ซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐ ว่า เรื่องดังกล่าวมีคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เขียนรายงานว่ามีคนในรัฐบาลที่ใกล้ชิดนายกฯ เข้าพบนายวิกเตอร์ บูท เพื่อเจรจาว่าอาวุธสงครามที่ถูกจับได้ที่สนามบินดอนเมือง เป็นอาวุธของกลุ่มคนเสื้อแดงและให้โยงถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ความช่วยเหลือทุกกรณี แต่นายวิกเตอร์ บูท ไม่เล่นด้วย และเท่าที่ตนตรวจสอบข่าวก็ทราบว่าคนรู้ทั้งเรือนจำว่ามีการเข้าไปเจรจาต่อรองจริง แต่ล้มเหลว จึงขอเรียกร้องรัฐบาลว่ากล้าให้นายวิกเตอร์ บูท แถลงข่าวยืนยันหรือไม่ว่าไม่มีคนใกล้ชิดเข้าไปเจรจาต่อรองอย่างที่เป็นข่าว นอกจากนี้ต้องถามว่าระหว่างที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาคดี มีคนในรัฐบาลไปเจรจากับทางรัสเซีย ที่เวียดนาม เพื่อเจรจาเงื่อนไขว่าหากรัสเซียส่งตัวพ.ต.ท. ทักษิณ รัฐบาลไทยก็พร้อมส่งตัวนายวิกเตอร์ บูท ให้ทางการรัสเซีย แต่รัสเซียปฏิเสธเงื่อนไขดังกล่าวจริงหรือไม่

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ว่า ไม่ทราบนายจตุพรพูดเรื่องอะไร เมื่อถามว่านายจตุพร ระบุคนใกล้ชิดนายกฯ ที่ไปพบนายวิกเตอร์ บูท พูดภาษารัสเซียได้และขอให้นายวิกเตอร์ บูท สารภาพ นายกฯกล่าวว่า "เหรอ ไม่มีหรอกครับ ผมไม่มีไปแทรกแซงคดีไหนสักคดีหนึ่ง ผมยังไม่เคยรู้จักใครที่พูดภาษารัสเซียได้ แล้วคุณจตุพรพูดรัสเซียได้หรือเปล่า"

รุมถล่มงบ"มท."2.3แสนล.

เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนฯ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2554 มีนายชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยที่ประชุมได้เริ่มพิจารณา มาตรา 17 กระทรวงมหาดไทย งบประมาณ 230,781,268,600 บาท นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โจมตีการเบิกจ่ายงบดูงานต่างประเทศสูงเกินจริง การตั้งงบปกป้องสถาบันต่อต้านรัฐไทยใหม่ เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ การเพิ่มงบกลุ่มจังหวัดที่กระจุกตัวภาคใต้และอีสาน ขณะที่งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทหลายร้อยโครงการ ไม่มีรายละเอียด

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่ากรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจัดงบกระจุกตัวในจังหวัดใหญ่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยเอางบลงในจ.นครราช สีมา กว่าพันล้าน และพบกระจุกตัวในอีก 5-6 จังหวัด อาทิ ลพบุรี อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี ศรีสะเกษ

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน พรรครวมชาติพัฒนา กรรมาธิการ ตำหนิการจัดอบรมอาสาสมัครปกป้องสถาบัน(อสป.) อำเภอไหนที่กลัวถูกย้ายจึงวิ่งหางบฯ มาดำเนินการเพื่อให้รมว.มหาดไทย เห็นผลงาน และพบว่างบโครงการที่เกิน 10 ล้านไปกองอยู่ที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เลย ลพบุรี พะเยา และสุรินทร์ ส่วนโครงการที่ต่ำกว่า 10 ล้าน รวม 2.6 พันล้าน กลับให้สิทธิ์นายกฯ พิจารณา

อภิปราย5ช.ม.-ผ่านฉลุย

นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจัดสรรที่ดินป่าดงพะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช. เกษตรและสหกรณ์ จากพรรคภูมิใจไทย อาจเข้าไปถือครองที่สาธารณประโยชน์โดยมิชอบถึง 700 ไร่

ขณะที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ชี้แจงว่า นายศุภชัย ได้ที่ดินดังกล่าวมาเป็นเวลานาน กรมที่ดินไม่ยึดที่ดินดังกล่าวกลับคืนมาเพราะมีการซื้อสิทธิครอบครองที่รกร้างว่างเปล่าที่สามารถออกโฉนดได้ (อ่านรายละเอียด น.3)

หลังที่ประชุมใช้เวลาอภิปรายงบฯกระทรวงมหาดไทยนานเกือบ 5 ชั่วโมง มีมติให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 242 ต่อ 159 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 23

เวลา 14.20 น. ที่ประชุมเริ่มพิจารณามาตรา 18 กระทรวงยุติธรรม วงเงินงบประมาณ 16,823,738,200 บาท โดยส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายขอปรับลดงบประมาณทั้งในส่วนของดีเอสไอ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เนื่อง จากทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย

งัดเรื่อง"บูท"แฉกลางสภา

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าเห็นควรปรับลดงบประมาณกระทรวงยุติธรรมลง เนื่องจากเป็นองค์กรที่ไร้ประสิทธิภาพ อย่างกรมราชทัณฑ์ปล่อยปละละเลยให้คนใกล้ชิดนายกฯ เข้าไปพบนายวิก เตอร์ บูท เพื่อขอให้ปรักปรำพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเกี่ยวพันกับเครื่องบินขนอาวุธสัญชาติคาซัคสถาน ที่บินมาจากเกาหลีเหนือ แต่นายวิกเตอร์ บูท ไม่ยินยอม ต้องถามว่ากรมราชทัณฑ์ปล่อยให้มีคนเข้าไปหาผู้ต้องหาทั้งที่พ้นเวลาเยี่ยมได้อย่างไร นอกจากนี้ยังไปเจรจากับรัฐมนตรีรัสเซีย ที่ประเทศเวียดนาม ว่าจะส่งตัวนายวิกเตอร์ บูท กลับรัสเซียเพื่อแลกตัวกับพ.ต.ท.ทักษิณด้วย

นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่กระทำผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.คุ้มครองพยาน นำรายชื่อพยานในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ที่อยู่ในโครงการคุ้มครองพยานส่งไปให้พรรคประชาธิปัตย์ ทำให้พยานไม่มั่นใจในความปลอดภัย

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานต่อสู้คดียุบ พรรคลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิง ระบุว่าสิ่งที่นายจตุพรพูดเป็นความเท็จ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ข้อมูลพยานจากดีเอสไอ แต่พยานยอมรับเองต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นคนเสื้อแดง เคยบุก กกต. และอยู่ในโครงการคุ้มครองพยานของดีเอสไอ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยต่อรองเพื่อประโยชน์ทาง การเมืองหรือเรื่องอื่น ข้อกล่าวหาต่างๆจึงเป็น การใช้จินตนาการ กล่าวหาด้วยความเท็จ จึงขอให้อย่าสร้างความเสียหายให้กับกระบวนการยุติธรรมโดยรวม

จาก อัลบั้ม ข่าวสดออนไลน์

โยง"แม้ว"สนิทกลุ่มค้าอาวุธ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายจตุพรขอใช้สิทธิ์พาดพิงโดยระบุว่า ที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวหาว่าตนกล่าวหาด้วยความเท็จ ตนขอระบุให้ชัดเจนเลยว่าคนที่เข้าไปหานายวิกเตอร์ บูท ในเรือนจำนั้นคือนายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นคนสนิทของนายกฯ เมื่อนายจตุพรกล่าวจบ นายศิริโชคจึงขอใช้สิทธิ์พาดพิงทันที

นายศิริโชคกล่าวว่า นายจตุพรพูดความจริงบ้างเท็จบ้าง จับแพะชนแกะ อย่างเรื่องเครื่องบินขนอาวุธ ก็ไม่ได้เป็นสัญชาติคาซัคสถาน แต่เป็นสัญชาติจอร์เจีย และตนทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหน้าที่ของส.ส. เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวของศรีลังกา ลงข่าวของฝ่ายค้านศรีลังการะบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีความสนิทสนมกับกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมและกลุ่มพ่อค้าอาวุธ และช่วงเวลาวันที่ 12 ธ.ค.2552 ที่มีเครื่องบินขนอาวุธมาจอดที่ประเทศไทยนั้น มีข้อมูลยืนยันได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ศรีลังกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาที่นายศิริโชคใช้สิทธิ์พาดพิง ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ลุกประท้วงเป็นระยะ โดยระบุว่านายศิริโชคไม่ได้ชี้แจงถึงข้อความที่พาดพิงว่าไปพบนายวิกเตอร์ บูท จริงหรือไม่ แต่กลับใช้สิทธิ์พาดพิงถึงคนนอกสภาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธ จึงขอให้ชี้แจงให้ชัดเจนว่าเข้าพบนายวิกเตอร์ บูท หรือไม่ได้เข้า ทำให้บรรยากาศการประชุมเริ่มดุเดือด พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมขณะนี้ ได้สั่งให้ยุติการชี้แจงแล้วให้ผู้อื่นอภิปรายต่อไป

รมว.ยธ.ท้าเพื่อไทยยื่นฟ้อง

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่าการที่ส.ส.ต้องการปรับลดงบโดยอ้างว่ากระทรวงไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานนั้น ปัจจุบันกระทรวงแยกตัวออกมาจากศาลเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา มีภารกิจดูแลความเสมอภาค การบังคับใช้กฎหมาย ความไม่ยุติธรรม ยืนยันว่าไม่ได้สั่งหน่วยงานในสังกัดรับใช้ทางการเมือง เพราะเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ หากผู้อภิปรายคิดเช่นนั้นก็ดำเนินการตามกฎหมายได้ เช่นเดียวกับกรณีวิกเตอร์ บูท การเมืองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับระบบพิจารณาของศาล

ส่วนเรื่องการใช้ดีเอสไอไปเปิดเผยจนมีผลกระทบต่อพยานในคดีเงิน 258 ล้านบาทนั้น หากเป็นความจริง คนทำผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี หากผู้อภิปรายมีหลักฐานต้องฟ้องร้องดำเนินคดีได้เลย อย่าแค่นำมาเป็นประเด็นการเมือง ถ้าจะเล่นแค่การเมืองก็ขอให้หยุดเพราะทำร้ายประเทศ

นายพีระพันธุ์ยังกล่าวยืนยันว่า ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องคดียุบพรรค ไม่เคยหารือกับทีมต่อสู้คดีของพรรค แต่ยอมรับว่าตนรู้จักนายประจวบ สังข์ขาว ผู้บริหารบริษัทเมซไซอะฯ มานานเพราะทำป้ายหาเสียงให้ตน นายประจวบโทร.มาหาตนตอนสมัครเลือกตั้งใหม่ๆ เพื่อทวงว่าค่าป้ายใหม่ยังไม่ได้เก็บเงิน ตนบอกให้ไปคุยกับนายสรร เสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์เขตเดียวกับตน แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องคดียุบพรรค

จากนั้นเป็นการลงมติ ในมาตรา 18 ปรากฏว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามร่างกรรมาธิการด้วยคะแนน 241 ต่อ 164 งด 3 ไม่ลงคะแนนเสียง 20 เสียง

"พนิช"เข้าสภาโหวตงบฯทันที

เวลา 17.50 น. ที่รัฐสภา นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร ภายหลังกกต.มีมติรับรองให้เป็นส.ส. กทม. จากนั้น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมระหว่างสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้ให้นายพนิช ปฏิญาณ ตนเข้ารับตำแหน่งส.ส. ทำให้นายพนิชสามารถโหวตรับรองร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้ทันที ทั้งนี้ ล่าสุดมียอดส.ส.ในสภา 475 คน

ช่วงเย็นที่ประชุมสภาพิจารณามาตรา 19 งบกระทรวงแรงงาน 28,488,568,600 บาท ส.ส. ฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยที่สงวนคำแปรญัตติไว้ อภิปรายท้วงติงการจัดสรรงบไม่ได้ให้ความสำคัญต่อผู้ใช้แรงงาน ละเลยแก้ไขปัญหาแรง งานต่างด้าวและความโปร่งใสในงบประกันสังคมกว่า 5 แสนล้านบาท ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามร่างกรรมาธิการด้วยคะแนน 240 ต่อ 165 งดออกเสียง 4 และไม่ลงคะแนน 18 เสียง

จากนั้นเป็นการพิจารณามาตรา 20 งบกระ ทรวงวัฒนธรรม 5,119,584,100 บาท ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามร่างกรรมาธิ การด้วยคะแนน 243 ต่อ 169 งดออกเสียง 2 และไม่ลงคะแนน 20

จากนั้นพิจารณามาตรา 21 งบกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8,746,704,500บาท ที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามร่างกรรมาธิการด้วยคะแนน 244 ต่อ 159 งดออกเสียง 2 และไม่ลงคะแนน 19

"สุนัย"อัดศธ.ใช้งบหาเสียง

สำหรับการพิจารณามาตราที่เหลือ เบื้องต้นวิปทั้งสองฝ่ายตกลงว่าจะอภิปรายต่อเนื่องตลอดทั้งคืนไปจนจบ 35 มาตรา ก่อนจะลงมติในวาระ 3 ทั้งนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาออกวาระการประชุมเพื่อพิจารณางบไว้ 2 วันคือวันที่ 24-25 ส.ค. ส่วนวันที่ 26 ส.ค. มีคำสั่งงดประชุมแล้ว

ในการพิจารณา มาตรา 22 กระทรวงศึกษา ธิการ จำนวน 391,131,879,600 บาท นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นโยบายของรมว.ศึกษาธิการเป็นการใช้เงินเพื่อการหาเสียงมากกว่าการจัดงบเพื่อคุณภาพทางการศึกษา กระทรวงนี้มีข่าวทุจริตมาก เช่น สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนัก งานการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)

นอกจากนี้ยังมีการขึ้นป้ายรัฐมนตรีจำนวนมาก หรือนำงบไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ทั้งนี้ งบถ้าทำจริงๆ จะเหลือใช้อีกเยอะ แต่งบไทยเข้มแข็ง 4.2 พันล้าน สพฐ.ไปซื้อคอมพิวเตอร์ พยายามบอกว่าไม่ได้ประมูลส่วนกลาง แต่ปรากฏว่า 180 กว่าเขตมีเพียง 3 บริษัทชนะประมูลถึง 179 เขต ซึ่งไม่ได้น่าเป็นไปได้ เพราะกทม.และรอบๆ เมืองมีเพียง 3 บริษัทนี้ได้ ทั้งที่น่าจะมีเจ้าอื่นได้ด้วย

จาก อัลบั้ม ข่าวสดออนไลน์

มะกันส่งเครื่องเจ็ตรับตัว"บูท"

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ส่งตัวนายวิกเตอร์ บูท ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามระดับโลกชาวรัสเซีย เป็นผู้ร้ายข้ามแดนส่งตัวไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกานั้น พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท. ผบก.ป. กล่าวว่า กองปราบฯ ได้รับประสานจากทางกองทัพอากาศว่า ช่วงเช้าวันที่ 25 ส.ค. เจ้าหน้าที่สหรัฐจะนำเครื่องบินเจ็ตมาลงจอดที่สนามบินดอนเมืองเพื่อรอรับตัวนายวิกเตอร์ บูท ซึ่งทางกองปราบฯ จะใช้กำลังคอมมานโดประมาณ 50 นายติดอาวุธครบมือไปรับตัวนายวิกเตอร์ บูท

จากภายในเรือนจำบางขวาง จากนั้นจะติดตามคุ้มกันไปตลอดจนถึงสนามบินดอนเมือง โดยจะใช้รถวิทยุสายตรวจของกองปราบฯ นำและปิดท้ายขบวน ระหว่างทางได้ประสานกับตำรวจนครบาลแล้วเพื่อให้ดูแลเรื่องการจราจรไปจนตลอดเส้นทาง

ส่วนที่สนามบินนั้นตนสั่งการให้กำลังคอมมานโดอีกจำนวนหนึ่ง ไปประสานกับเจ้าหน้าที่ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เพื่อจัดเตรียมความพร้อม โดยจะให้ตรวจสอบบุคคลที่จะผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด รวมไปจนถึงจัดเจ้าหน้าที่ไปคอยดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่ใช้จอดเครื่องบินของสหรัฐอีกด้วย

นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงมาตรการควบคุมดูแลนายวิกเตอร์ บูท ว่า ได้สั่งการให้นำตัวมาควบคุมในเรือนจำกลางบางขวาง และกำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดการควบคุมตัวอย่างดีที่สุด แต่ไม่ได้แยกตัวมาขังเดี่ยว แค่นำมาดูแลไม่ให้มีใครเข้ามาลอบทำร้าย ทั้งนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดเรื่องอาหารการกินด้วย และจะต้องกันนักโทษอื่นไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยว ด้วยการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด ป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

อย่างไรก็ตามถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากตำรวจหรือทางการสหรัฐ ว่าจะมีกำหนดมารับตัวเมื่อใด ซึ่งปกติขั้นตอนดังกล่าวจะมีชั้นความลับ ที่ผ่านมาสหรัฐจะนำเครื่องบินมารอรับผู้ต้องขังเพื่อนำตัวกลับไปทันที โดยไม่ใช้บริการสายการบินพาณิชย์ปกติ

วันเดียวกัน วอยซ์ ออฟ รัสเซีย สื่อมวลชนของรัสเซีย รายงานเรื่องดังกล่าวโดยพาดหัวว่า "บูทจะอยู่ในเมืองไทยต่อไป" มีใจความว่า แม้ศาลอุทธรณ์จะตัดสินให้ส่งตัวบูทในฐานะผู้ร้ายข้ามแเดน แต่ไทยต้องเปิดการดำเนินคดีอาญาคดีใหม่กับบูท ซึ่งจะมีผลให้ต้องระงับการส่งตัว ส่วน
ความพยายามของสหรัฐที่จะถอนข้อกล่าวหาก็ช้าเกินไปแล้ว แต่หากสหรัฐทำสำเร็จ จะเกิดข้อกังขาต่อระบบกฎหมายระหว่างประเทศ


ไทยหวังรัสเซียเข้าใจ สหรัฐส่งเครื่องบินรอรับตัว "บูท"

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งตัวนายวิกเตอร์ บูท นักค้าอาวุธรายใหญ่ชาวรัสเซียให้ทางการสหรัฐดำเนินคดี ว่ายังรอจดหมายผลการตัดสินจากอัยการ กระทรวงต่างประเทศส่งหนังสือไปยังอัยการของสหรัฐเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันแล้ว แต่ยังรอดูท่าทีผลการเจรจาต่อไป

พร้อมกล่าวว่า ไทยโชคร้ายที่เข้ามาพัวพันในความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ ทางออกที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลไทยต้องยึดถือหลักกฎหมายและยืนยันว่าอำนาจตุลาการและอำนาจบริหารไม่เกี่ยวข้องกัน ขณะที่เอกอัครราชทูตประจำกรุงมอสโก ชี้แจงกับกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแล้ว แม้ทางการรัสเซียยังแสดงความไม่สบายใจแต่เชื่อว่าหากเราปฏิบัติตามหลักกฏหมายอย่างเคร่งครัด รัสเซียย่อมเข้าใจและไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินของสหรัฐที่คาดว่าจะรับตัวนายบูท เดินทางมาถึงสนามบินดอนเมือง ในเวลา 15.30 น. โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยคอมมานโดคุ้มกันจำนวนมาก ซึ่งสหรัฐมีกำหนดรับตัวนายบูท เจ้าของเรื่องราว ลอร์ด ออฟ วอร์ ในวันพุธนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น