วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 21:25:57 น. มติชนออนไลน์
"จตุพร" กร้าว!! ไม่ปรองดองกับโจรฆ่า ปชช. เหตุสถานการณ์รุนแรงไปไกลมากแล้ว เล็งยื่นขอประกัน11แกน นปช.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ว่า เข้าใจว่าการเดินทางไปพบนายวีระ ของนายคณิตนั้นคงเป็นขั้นตอนกระบวนการหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นเท่านั้น อยากบอกนายคณิตว่าหากมีการตรวจสอบกันอย่างตรงไปตรงมาเหมือนที่ นพ.บรรลุ ศิริพานิช สอบสวนโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขนั้นนายคณิต จะพบกับความจริงที่นายคณิตและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถยอมรับได้
“การเข้าพบนายวีระ นั้นคงไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะเรายังเชื่อใจว่านายวีระ ว่าจะไม่เป็นพวกใคร นอกจากพวกเรา แม้ในการต่อสู้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่การต่อสู้ก็ยังต้องต่อสู้ร่วมกัน ในช่วงการชุมนุมนายวีระก็ไม่ได้หายไปไหน ที่หายหน้าไปก็เป็นการไปทำงานอย่างอื่น และ นปช. นั้นไม่มีใบลาออก ทุกคนก็ยังคงเป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน
ซึ่งเราหวังว่าในวันที่ 18 มิถุนายน จะมีพวกเราบางส่วนได้รับการปล่อยตัว จากการควบคุมตัวมานานกว่า 1 เดือน หลังจากนั้นทุกคนคงจะมีการตั้งหลักเนื่องจากห่างหายจากครอบครัวไปกว่า 1 เดือน เมื่อมีความพร้อมเราก็จะมาพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบ และแลกเปลี่ยนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะพูดคุยเรื่องแนวทางการต่อสู้ต่อไป” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องที่นายคณิตเสนอให้นำคนเสื้อแดงเข้าร่วมกระบวนการนั้นคงต้องพูดคุยกัน ก่อน เพราะที่ผ่านมา ไม่คิดที่จะปรองดองกับโจรฆ่าประชาชน และขณะนี้สถานการณ์ก็รุนแรงมากขึ้น มีทั้งปรองดองและปองร้าย คือคดีฆ่าประชาชนนั้นไม่มีความคืบหน้า แต่การฆ่าแกนนำนั้นเกิดขึ้นทุกวัน เป็นบรรยากาศที่ข่มเหงประชาชน ดังนั้นประชาชนจำเป็นที่จะต้องปรองดองกับโจรฆ่าประชาชนหรือ
นายจตุพร กล่าวว่า แกนนำนปช. 8 คนที่ถูกกักตัวไว้ที่ค่ายเนรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำโดยนายวีระ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำอีก 3 คนที่ถูกกักตัวไว้ที่ตชด.คลอง 5 รวมเป็น 11 คนจะถูกส่งตัวไปที่ศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลฝากขังในคดีก่อการร้ายวันที่ 15 มิถุนายน โดยขณะนี้ทีมทนายความเตรียมเงินเพื่อยื่นขอประกันตัวรายละ 1 ล้านบาทไว้เรียบร้อยแล้ว หวังว่าทุกคนจะรับการประกันตัวเช่นเดียวกับตนและนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย
“ผมหวังว่าศาลจะใช้ดุลพินิจเช่นเดียวกับที่เคยอนุญาตให้ผมและนายการุ ณ ได้ประกันตัวเพื่อที่จะมีอิสรภาพในการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่เช่นนั้นหากศาลไม่อนุญาตจะทำให้ทั้ง 11 คนต้องถูกขังในเรือนจำทันที ผมมองว่าไม่มีเหตุผลที่จะขังผู้ต้องหาต่อไปเพราะบุคคลทั้งหมดได้ให้ปากคำและ ข้อเท็จจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”นายจตุพรกล่าว
"ที่ตายก็แล้วกันไป มาปรองดองกันเถอะ"
แนวคิดนี้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์...กำลังทำอยู่เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมคน เสื้อแดงจนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 90 ศพ บาดเจ็บอีกหลายพันคน ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ อภิสิทธิ์ นายสุเทพ...รองนายกฯ และแม้แต่ ศอฉ.เองก็ไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น
ระบุ เพียงว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเป็นไอ้โม่งชุดดำที่ยิงประชาชน ยิงเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ยิงผู้สื่อข่าวทั้งไทยและเทศ และยิงเจ้าหน้าที่ทหาร โดยเฉพาะนายกฯ อภิสิทธิ์ละเลยที่จะทำความจริงตรงนี้ให้กระจ่าง ละเลยที่จะดำเนินคดีกับผู้สั่งการสังหารประชาชน แต่บอกว่านโยบายเร่งด่วนคือการปรองดอง-สมานฉันท์
บอกว่านโยบายเร่ง ด่วนคือการเยียวยาธุรกิจที่เสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ที่เดินยิ้มแป้นรับช่อดอกไม้จากบรรดาแม่ยกเฟซบุ๊กที่ทำเนียบรัฐบาล หรือการจัดมหกรรมถนนคนเดินให้ประชาชนออกมาเลือกซื้อสินค้าต่อเนื่อง
ใน แง่หนึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบก็จริง แต่ถ้าโหมโปรโมตการประชาสัมพันธ์เกินจริงก็อันตราย เหมือนรัฐบาลพยายามบอกว่าบ้านเมืองกลับมาปกติสุข มองข้ามการสูญเสียชีวิตของประชาชนไปเสียเถอะ??
คณะกรรมการสอบสวนเหตุ การณ์สลายม็อบที่นายกฯ แต่งตั้งนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน เริ่มต้นก็ระบุว่ากรรมการชุดนี้ไม่ได้มาสอบสวนว่าใครผิดใครถูก แต่เน้นเรื่องการสมานฉันท์ของคนในชาติ
แล้ว 90 ศพที่เสียชีวิตไป ใครจะรับผิดชอบ!?
ถ้าเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นในหมู่ญาติพี่น้อง จะด้วยความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์หรือสาเหตุอะไรก็ตาม ตำรวจซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมาย กลับบอกว่าการติดตามจับกุมฆาตกรเอาไว้ทีหลัง สิ่งเร่งด่วนคือต้องให้ญาติพี่น้องที่เป็นคู่กรณีควรมาจับมือปรองดองก่อน
ยัง งั้นหรือ?
ในความเป็นจริงแล้วเป็นไปได้ไหม ที่รัฐบาลทำอยู่ตอนนี้เหมือนซุกขยะไว้ใต้พรม สร้างกระแส สร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลเอง พยายามจะบอกว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการสลายการชุมนุม ทั้งหมดนี้ไม่ได้บอกว่าการปรองดองไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เห็นด้วยอย่างยิ่งที่คนในชาติต้องหันมาสร้างความสมานฉันท์ แต่ต้องทำควบคู่ไปกับการทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นจริง
เพราะหากยัง เอาตัวคนสั่งการทำให้มีคนตายมากขนาดนี้มาลงโทษไม่ได้ เรื่องสมานฉันท์ปรองดองก็ไม่มีวันสำเร็จ เก็บกวาดขยะที่ใต้พรมเสียก่อน บ้านถึงจะกลับมาน่าอยู่ได้
ที่มา :- คอลัมน์เหล็กใน หน้า 6 ข่าวสดออนไลน์ ประจำวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7137
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น