"ด.ช.ขัตติยะ สวัสดิผล"ระลึกชาติเกิดได้
น.ส.กิตติยา สวัสดิผล ลูกสาวพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ เสธ.แดง ได้เขียนเล่าเรื่องราวประวัติเสธ.แดงนับตั้งแต่ก่อนเกิดกระทั่งหลังคลอดมี เรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นมากมายระหว่างที่เสธ.แดงยังเป็นเด็กชายขัตติยะ ในหนังสือที่อนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ หน้า 56-57
โดยคัดลอกมาจากงานเขียนของ คุณปู่ร้อยเอกสนิท สวัสดิผล เขียนขึ้นเป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ คุณทวดสุดสวาท สวัสดิผล ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2510 นำมาคัดลอกอีกครั้งโดย พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล
ในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพคุณย่าสอิ้ง สวัสดิผล เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2535 และ น.ส.กิติยานำมาคัดลอกอีกครั้งเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเก่า แปลก น่ารู้ หาอ่านได้ยาก เพื่อจะได้ประดับความรู้ต่ออนุชนรุ่นหลังต่อไป
พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล เป็นชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2494 เป็นบุตรชายคนสุดท้องของ ร.อ.สนิท สวัสดิผล และนางสอิ้ง สวัสดิผล จากจำนวนพี่น้อง 4 คนซึ่งเป็นหญิง 3 คนและชาย 1 คน
จาก อัลบั้มภาพ Matichon Online |
ร.อ.สนิท สวัสดิผล บันทึกไว้ว่า "ผมมีบุตรชายคนเล็กที่เกิดตามพี่ๆมาอีก 1 คน พี่สาวอายุ 17 ปี จึงเกิดตามมาโดยการทำนายของพระหมอดูวัดแก้วฟ้า อำเภอเสาไห้ จ.สระบุรี ได้ทำนายไว้ว่า เมื่อผมรับราชการอยู่ที่จ.สระบุรี ว่าภรรยากของผมจะมีบุตรอีก 2 คน ตาย 1 คน อยู่อีก 1 คน แต่เลี้ยงยาก ต้องเลี้ยงให้ดี เลี้ยงดีเป็นเลิศ ถ้าเลี้ยงไม่ดีก็ตรงกันข้าม
จาก อัลบั้มภาพ Matichon Online |
ต่อมาผมย้ายมารับราชการที่จังหวัดราชบุรี นึกถึงคาถาที่ท่านพระครูศรีศรัทธาสุนทร เจ้าคณะตำบลวัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ผม และให้คำสอนไว้ว่าก่อนจะหลับตานอนกับภรรยา ให้สวดมนต์ไหว้พระแล้วเสกท้องภรรยาเสีย 2 จบ ด้วยคาถา "มาตาปิตุ อุปัตฐนัง ปุทารัตะสังฆะโห"
เมื่อหวนนึกถึงพระหมอดูวัดแก้วฟ้าทำนาย ก็พอมาถึงนึกพระอุปัชฌาย์สอนไว้ เมื่อเข้านอนก็สวดมนต์เสกท้องภรรยามิให้ขาด มิช้าภรรยาก็ตั้งครรภ์ ดีใจจะได้ลูกชายตามคำทำนาย ทั้ง 2 คน คงไม่ตายคน อยู่เป็นคนแน่ ท้องยิ่งใหญ่ก็ยิ่งเสก มาเช้าจะได้คลอดง่ายไม่ตายในท้อง
พอครบเก้าเดือนคลอดเป็นชาย แล้วทำไมมันจะมีอันเป็นไปก็ไม่รู้ หน้าผากโตมากจนทำให้หนังตาขอบบนมาติดขอบตาชั้นล่างทั้ง 2 ข้าง หูหายไป 1 ข้าง ข้างหลังมีรูเหมือนถูกกระสุนปืน 3 รู เห็นพังผืด ร่างกายส่วนอื่นๆงดงามมากจำเป็นต้องปล่อยไปตามยถากรรม
ผมเสกก่อนตั้งครรภ์ทำไมไม่ได้คนดีมาเกิด แม่บอกว่าขณะตั้งครรภ์ได้ไปขุดหลุม ตัดหูมุ้ง ทำอะไรๆที่โบราณเขาห้าม ผมไม่เชื่อโบราณ จะเป็นกรรมติดมาตามคำทำนายของพระวัดแก้วฟ้าก็ได้ คาถาจึงช่วยไม่ได้คือ
1.กรรมของบุตรเกิดมา เช่น หมุนเวียนชาติเกิดมา หนีเขามาเกิด หมือมาทวงหนี้จากพ่อแม่
2.พ่อแม่เป็นหนี้เขาอยู่ โดยเกิดมาให้แม่ลำบากต้องสิ้นค่าใช้จ่ายหรือทำให้พ่อแม่โศกเศร้าเสียใจ อาลัย อาวรณ์ หรือหาทางคร่าชีวิตแม่ก็ได้
จาก อัลบั้มภาพ Matichon Online |
ต่อมาไม่นานเดือนก็เริ่มตั้งครรภ์อีก นึกถึงคำทำนายของพระวัดแก้วฟ้า ว่าคนนี้ต้องเป็นชายและต้องอยู่ คาถาของพระครูศรีศรัทธาสุนทร คงไม่ทิ้ง เมื่อท้องครบกำหกนดเป็นชาย ไม่หายใจ
คุณหมอมีสงกรานต์ก็ตกตะลึง คุณหมอสนทอง เอาผ้าห่มซุกไว้ข้างฝา ทำธุระจนแม่ขึ้นกระดานไปเรียบร้อยแล้ว ก็หันไปแก้ห่อลูกยังไม่หายใจตามเคย จึงจับ 2 เท้า หิ้วหัวลง และตบตูดเสียงร้องแว้ พากันดีใจ "ขัตติยะ" รูปร่างสมบูรณ์ มีขวัญ 3 ขวัญ รกพันคอลงมาพันระหว่างขายุ่งเหยิง
เมื่อครบกำหนด 1 เดือน กำหนดโกนผมไฟ พอพระอุบาสิกามาถึงบ้านไม่หายใจเสียแล้ว หมอยรรยงค์ โพธารามิก เฝ้าดูอาการ หมอยรรยงค์จะฉีดยาให้ ผมบอกไม่ให้ฉีดเพราะตายก็จะโทษหมอ คุณหมอเอาสำลีรอที่จมูกไม่มีลม
นึดถึงคำทำนายของพระหมอดูวัดแก้วฟ้าไว้ว่าชีวิตยังคงอยู่ นึกถึงคาถาหลวงปู่ (พระครูศรีศัทธาสุนทร) ว่าคนดีมาเกิด ก็เริ่มให้อุบาสิกาสวดสลับกับพระ ชาวบ้านพากันมาเยี่ยมมากมาย เพราะเย็นจะเลี้ยงโต๊ะในพิธีโกนผมไฟนี้ด้วย พระและชีสวดกันจนมีลมหายใจขึ้นมา กลิ่นธูปบนบานส่งกิล้นตลบไปหมด แล้วแต่ญาติคนไหนนึกอะไรได้ เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วใครเอาเงินมาลงขันไม่รับ กลัวจะเป็นการแลกเปลี่ยนชีวิตลูก "กินฟรี"
เพราะดีใจลูกไม่ตาย ซื้อชีวิตกันไว้ด้วยการ"อวยพร" เอาพระเครื่องรางเก่าแก่สมัยเชียงแสนมรมากองค์ "กรุเชียงแสน" ที่เก็บไว้ 3 ศึกผ่านมาแล้ว เอาออกมาแจกจ่ายขอชีวิตลูกให้อยู่ตลอดไป วันนี้เลยเลี้ยงฉลองกันเข้ายามสาม เมาล้มลุกคลุกคลานเลิกราไปกันเอง มีคณะเจ็ดเสมียนโดยการนำของนายเตี้ยไล้ กลับล่าที่สุด โต๊ะะหมดเป็ดตุ๋น 7 ตัส พระฉันเช้าอด ผมไฟคงไม่ได้โกน ขลิบพอเป็นพิธี
พออายุย่างเข้า 1 ขวบ ป่วยหนักอีกจนอุจจาระขาวไปรักษาที่นครปฐม 1 เดือน ค่อยทุเลา แต่กระเสาะกระแสะอยูตลอดเวลา ญษติๆบอกว่าขื่อขัตติยะ สูงไป วาสนาเด็กจะไม่ถึง ผมนึกขึ้นได้ว่า คุณแม่ผมฝันเมื่อผมเกิด ในหลวงร.5 พระราชทานมาให้ผมเกิด ผมจึงจุดธูปเทียนบูชาบอกในหลวง ร.5 ลูกไม่เคยเจ็บป่วยต่อมาอีกเลย
พอย่างเข้า 2 ขวบเศษ กำลังพูดเก่ง เขาได้ใช้คำแทนชื่อของเขาว่า "น้องแดง" จึงได้เรียกติดปากกันทุกวันนี้ เขาได้เล่าชาติก่อนเกิดว่ารูปร่างของเขาก็เหมือนตัวน้องแดงนี่แหละ อยู่กับพระอินทร์บนสวรรค์ พระอินทร์ท่านตัวเขียว มีมหาปราสาทสวยงามมากประดับเพชรนิลจินดา ไม่มีปราสาทที่ไหนในเมืองมนุษย์จะเหมือน
มีนางฟ้าห้อมล้อมขับร้องปี่พาทย์ขับกล่อม ไม่เห็นกินข้าวและถ่ายอุจจาระ มีแต่นอน คุยกันเฮฮา ไปเที่ยวตามสวน หยอกล้อ ไม่ทะเลาะกัน ไม่มีร้องไห้เสียใจ ทุกคนรู้ใจกัน ถามว่ามีคนท้องโตไหม ตอบว่าไม่มี มีตู้พระเก่าแก่ (พระเครื่องและพระบูชา)
ที่ปราสาทนั้น มียักษ์ตัวใหญ่ถือกระบองเฝ้า คุณพ่ออยากได้พระไหมไปกับน้องแดงซี ขอมาไว้สักองค์ พระเก่าๆ ทั้งนั้น จุดธูปเทียนบูชาขออะไรก็ได้ น้องแดงจะได้ขอให้ พระอินทร์ท่านชอบน้องแดง น้องแดงอยู่ใกล้ๆ ท่าน ยักษ์ตัวใหญ่ที่เฝ้าตู้พระในปราสาทนั้น ถ้ามีใครมารังแกบ้านเมือง หรือมีโรคร้าย ก้าวๆ เดียวถึงเชียงใหม่ ตี ฆ่า ไล่ ฟัน ไปให้พ้น
ได้ถามว่า น้องแดงรู้หรือเมืองเชียงใหม่ ตอบว่ารู้ ถามว่าอยู่ที่ไหน ตอบว่าก็อยู่ที่เชียงใหม่นะซี ที่น้องแดงเกิดมาที่นี่ พระอินทร์ท่านให้น้องแดงมาเกิดกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะถึงเวลาที่มาเกิดแล้ว ท่านจึงย่อตัวลง "ชีผ้าขาว" แล้วก็บินออกไปจากปราสาทนั้นไปด้วยกันมีจำนวนมาก บินไปยังพิธี
ทำพิธีเหมือนหลวงพ่อเต่า มีพระสวดมากองค์ มีสายสิญจน์ล้อมรอบ แล้วพระที่เป็นประธานเอามือมาโอบอ้อมตัวชีผ้าขาวให้รวมกันเข้าไปอยู่ในผอบ ทอง
พระสวดอยู่นานแล้วก็ปล่อยให้บินไปเกิด ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป ทุกทิศทางเป็นผู้หญิงก็มี สวยๆ ดูเหมือนกันทั้งนั้น ทุกคนที่ไปเกิดมีที่เกิดแล้วทั้งนั้นจะไปเกิดดีเกิดชั่วแล้วแต่กรรม ใครจะไปที่ไหนรู้ใจกัน ทุกคนไม่ต้องถามกันเดี๋ยวนี้ลืมไม่รู้จักและยังจำไม่ได้ คุณพ่อปิดประตูหมด เวลาเกิดน้องแดงก็คลาดเคลื่อน ด้วยอำนาจพระพุทธมนต์ จึงบินกลับ มีหลายคนเหมือนกันที่กลับ พระท่านต้องทำพิธีใหม่
ตอนนี้ทำนาพระสวดเหนื่อย แล้วท่านก็ปล่อยพากันแยกย้ายไปเกิด พอน้องแดงมาถึงบ้านประตูบ้านก็เปิดรับพอดี น้องแดงก็ผลุบเข้าไปนอนในท้องคุณแม่เหมือนหลับไป เมื่อออกจากท้องคุณแม่จะพูดบอกคุณพ่อก็พูดไม่ได้ เมื่อพูดได้และนึกได้ก็บอกคุณพ่อ ได้สอบถามชาติก่อนเกิดที่มาเกิดในชาตินี้น้องแดงเกิดเป็นอะไร ได้รับคำตอบว่าไม่รู้ รู้แต่ว่าอยู่บนสวรรค์ ก่อนมาเกิดในชาตินี้เท่านั้น
และได้พูดต่อไปว่าคนได้ไปเกิดตามดวงดาวต่างๆ และกลางคืนให้ชี้ดวงดาวให้ดู บอกว่าดาวดวงนั้น เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้มีคนไปเกิดในครั้งเดียวกัน ซักไซ้มากก็ไม่พูด ดวงดาวก็เปรอะท้องฟ้าไปหมด ขอท่านผู้อ่านได้พิจารณาเอาเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น