วันศุกร์, มิถุนายน 17, 2554

จับพิรุธ!เงินสนับสนุนการเมืองปี54 ปชป.60ล้าน เพื่อไทย แค่ 8 แสน บางพรรคแค่ห้องแถว


ล่าสุด ประเทศไทยมีพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ จำนวน 57 พรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองที่ชาวบ้านรู้จักจริง มีไม่เกิน 10 พรรค


บางพรรคได้รับการจัดสรรมาโฆษณานโยบายพรรคการเมืองผ่านสื่อทีวี ชาวบ้านถึงกับถามกันว่า มีพรรคการเมืองชื่อแบบนี้ ด้วยหรือนี่ ?


เทศกาลเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 40 พรรค และ ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 34 พรรค เท่านั้น นั่นแสดงว่า มีเกือบ 20 พรรคที่ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง

แต่ไม่ว่า จะส่งหรือไม่ส่ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองก็ยื่นขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนพรรคการเมืองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง

"มติชนออนไลน์" นำท่านผู้อ่านไปดูว่า พรรคการเมืองขอเงินไปเท่าไร และเอาเงินไปทำอะไร


เพราะอย่าลืมว่า เงิน กกต.ก็คือเงินภาษีของเรานั่นเอง

จากการตรวจสอบข้อมูล กกต. ในส่วน เงินสนับสนุนพรรคการเมือง ปีงบประมาณ 2554 ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆเสนอต่อกกต. ในแผนงานและโครงการต่างๆ มีดังต่อไปนี้


พรรคประชาธิปัตย์ ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 60ล้านบาท ใน 12 โครงการ โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ เป็น "ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งตามมาตรา 52" จำนวนเงินกว่า 40ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคการเมืองและสาขาพรรคการเมืองกว่า 10.1ล้านบาท ค่าตอบแทนบุคลากรของพรรคการเมือง และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบุคลากรทางการเมืองกว่า 7.1ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมืองกว่า 2.1ล้านบาท


พรรคเพื่อไทย ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 800,000บาท โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ใน "แผนค่าใช้จ่ายในการจัดอบรม สัมมนาของพรรคการเมือง"กว่า 272,280 บาท แผนค่าจ้างบุคลากรของสำนักงานใหญ่พรรคการเมืองกว่า 207,120บาท แผนค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมใหญ่พรรคการเมืองกว่า 100,000บาท


พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 3.7ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ไปกับ "ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามมาตรา 52 กว่า 1.2ล้านบาท ค่าตอบแทนบุคลากรของพรรคการเมือง และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบุคลากรทางการเมือง 824,600บาท ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรคการเมือง 783,900บาท

พรรคกสิกรไทย ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 694,280 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ไปกับการเลือกตั้ง จำนวน 209,280 บาท แผนค่าจ้างบุคลากรของสำนักงานใหญ่พรรคการเมือง 197,400บาท แผนค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมใหญ่พรรคการเมือง 100,000 บาท


พรรครวมชาติพัฒนา ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 13ล้านบาท โดยมีข้อสังเกตว่า พรรคดังกล่าว ไม่มี "ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามมาตรา 52" เลย และสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่มากที่สุดคือ "ค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้ และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมือง" จำนวนเงินกว่า 4.7ล้านบาท รองลงมาคือ "ค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคการเมือง และสาขาพรรคการเมือง"กว่า 3.9ล้านบาท และ "ค่าตอบแทนบุคลากรของพรรคการเมือง และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบุคลากรทางการเมือง"กว่า 2.8ล้านบาท


พรรคเพื่อแผ่นดิน ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 27ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายสูงสุด คือค่าใช้จ่ายในโครงการเอกสารสิ่งพิมพ์ ซึ่งอยู่ใน"ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง มาตรา 52" จำนวนกว่า 11ล้านบาท รองลงมาคือค่าใช้จ่ายใน"โครงการเพื่อแผ่นดินสัญจรพบประชาชน"กว่า 6ล้านบาทและค่าใช้จ่ายใน "โครงการจัดจ้างบุคลากรประจำสำนักงานใหญ่"กว่า 2ล้านบาท



พรรคประชาราช ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 8ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายสูงสุดใน "โครงการจัดจ้างบุคลากรสนง.ใหญ่พรรคและสาขาพรรค"กว่า 2ล้านบาท ค่าใช้จ่ายใน "โครงการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์การเลือกตั้ง" จำนวนเงินกว่า 1.5ล้านบาท ค่าใช้จ่ายใน "โครงการการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสมาชิกพรรคปี 2554" จำนวน 600,000 บาท


พรรคความหวังใหม่ ขอรับการจัดสรรเงินสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 2ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายสูงสุดใน "โครงการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง" 521,500 บาทรองมาคือค่าใช้จ่ายใน "โครงการจ้างบุคลากร" 507,120 บาท และค่าใช้จ่ายใน "โครงการการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค" 302,350 บาท

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายในแผนโครงการต่างๆทั้ง 9 โครงการของ "พรรคภูมิใจไทย" กับ "พรรคเพื่อไทย" แทบจะก็อบปี้กันมาเพราะจำนวนเงินเท่ากันและเหมือนกันแทบทุกรายการ

เช่นเดียวกับ"พรรคดำรงไทย" มีตัวเลขค่าใช้จ่ายในแผนโครงการต่างๆคล้ายกันกับ "พรรคเพื่อไทย" และ "พรรคภูมิใจไทย" หากว่าต่างกันที่ "แผนค่าเช่าสำนักงานสาขาพรรคการเมือง" ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 24,000บาท

ก่อนหน้านี้ เคยมีการตั้งข้อสังเกตว่า บางพรรคตั้งขึ้นมาเพื่อขอรับเงินสนับสนุนจาก กกต. เท่านั้น โดยหาห้องแถวเช่าไว้ เป็นสำนักงานใหญ่พรรคการเมือง แต่ไม่มีกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น.


ที่มา : มติชนออนไลน์
update: วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 21:30:00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น