จาก อัลบั้มภาพ Matichon Online |
"จารุวรรณ"กั๊ก ยังไม่ลุกจากเก้าอี้ผู้ว่า สตง. อ้างรอตีความ 65 ปีพ้นหรือไม่ นัดถกสรรหาใหม่20ก.ค.
นางสุวิมล ภูมิสิงหราช เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ถึงกรณีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 65 ปี ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มาตรา 34 (2) ในวันที่ 5 กรกฎาคม ทำให้ต้องมีการสรรหาผู้ว่าการ สตง.คนใหม่ภายใน 30 วัน นับแต่ผู้ว่าการ สตง.พ้นจากตำแหน่งว่า คุณหญิงจารุวรรณ ได้ทำหนังสือถึงนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อแจ้งว่า วันที่ 5 กรกฎาคม จะพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีอายุครบ 65 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด คงต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด แม้จะทราบว่า มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่ไม่สามารถสรรหา คตง.และผู้ว่าการ สตง.คนใหม่ได้
นางสุวิมลกล่าวว่า ล่าสุด ประธานวุฒิสภาได้แจ้งไปยังคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ สตง.แล้ว คณะกรรมการสรรหาที่มีนายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ที่อาคารรัฐสภา 2
อย่างไรก็ตาม คุณหญิงจารุวรณณ ทำบันทึกเวียนเรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินถึงรองผู้ว่าตรวจเงินแผ่นดินและ หน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มีเนื้อหาดังนี้
เนื่องจากยังมีปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการพ้นจากตำแหน่งของผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 29 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ประกอบกับขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ....อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป ระหว่างที่ยังไม่ได้ข้อยุติในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการพ้นจากตำแหน่งของผู้ ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และเพื่อให้การบริหารราชการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นไปโดยต่อ เนื่องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ในการบริหารราชการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดิน จึงให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ 75/2552 เรื่อง แต่งตั้งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินให้รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงิน แผ่นดิน ลงวันที่ 9 เมษายน 2552 ไปจนกว่าจะมีคำวินัยฉัยเป็นที่ยุติเรื่องการพ้นจากตำแหน่งของผู้ว่าการตรวจ เงินแผ่นดิน
จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติต่อไป
มติชนออนไลน์
วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:16:34 น.
----------------------------------------------------
รอกม.ฉบับใหม่ ก่อนเริ่มสรรหาผู้ว่าฯสตง.แทน"จารุวรรณ"
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แทนคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการ สตง. ที่พ้นจากตำแหน่งหลังมีอายุครบ 65 ปี มีนายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อหารือถึงการสรรหาผู้ว่าการ สตง.โดยที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นปัญหาข้อกฎหมายว่า จะดำเนินการสรรหาได้เลยหรือไม่ เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ... ยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากวุฒิสภาลงคะแนนให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามของบุคคลที่จะ เข้ารับการสรรหาเป็นผู้ว่าการ สตง.
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เมื่อยังไม่มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาบังคับใช้ ทำให้คณะกรรมการสรรหาฯไม่สามารถเริ่มต้นกระบวนการสรรหาได้ ทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร หนึ่งในกรรมการสรรหาฯรับปากกับที่ประชุมว่า จะนำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์แรกทันที ที่มีการเปิดสมัยประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
มติชนออนไลน์
วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:01:02 น.
---------------------------------------------------
สตง.มึน! "จารุวรรณ"ยังมาทำงานทั้งที่เกษียณแล้ว เจ้าตัวอ้างเกรงถูกข้อหาละเว้น เร่งส่งหนังสือถามกฤษฎีกาตีความ
ผู้สื่อข่าว "มติชน" รายงานเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า มีความสับสนในการทำงานของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่ายังดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ สตง. อยู่หรือไม่ เนื่องจากคุณหญิงจารุวรรณ อายุครบ 65 ปีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือว่าพ้นตำแหน่งแล้วตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 แต่ปรากฎว่าจนถึงปัจจุบัน คุณหญิงจารุวรรณยังเดินทางมาทำงานและใช้ห้องทำงานที่ สตง. เหมือนเดิมแม้จะไม่ได้ลงนามในหนังสือราชการก็ตาม
"คุณหญิงจารุวรรณอ้างว่า ที่ต้องเข้ามาเพราะกลัวถูกข้อหาละเว้นปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจากประกาศคปค. ฉบับที่ 29 กำหนดให้คุณหญิงจารุวรรณอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการสรรหาผู้ว่า สตง. และคตง. (คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน) ชุดใหม่ แต่การทำแบบนี้ สร้างความสับสนและส่งผลทำให้งานหนังสือราชการหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้ ว่าการ สตง. หยุดชะงักไป เพราะเจ้าหน้าที่ ไม่ทราบว่า จะให้ใครเป็นผู้ลงนามดีระหว่าง คุณหญิงจารุวรรณ หรือรองผู้ว่า สตง. ที่รักษาการอยู่"
แหล่งข่าว กล่าวว่า ก่อนที่คุณหญิงจารุวรรณจะ ออกมายืนยันว่า คุณหญิงพร้อมที่จะปฎิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง โดยในช่วงก่อนหน้าที่ คุณหญิงจะมีอายุครบ 65 ปี ได้มีการทำหนังสือไปถึงนายกฯ ให้ส่งเรื่องการดำรงตำแหน่งของตนเอง ไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ขณะที่ สตง.ก็ได้ทำหนังสืออีกหนึ่งฉบับแจ้งไปยังกฤษฎีกาให้ตีความเรื่องนี้อีกทาง หนึ่งด้วย
"ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผลการตีความจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา กฤษฎีกา ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปชี้แจงข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณา แต่กฤษฎีกาก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม สตง.เพิ่งจะมาให้ความสำคัญกับการตีความข้อกฎหมายเรื่องนี้ " แหล่งข่าวระบุ
มติชนออนไลน์
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 10:20:11 น.
---------------------------------------------------------
พลิกกฎหมาย ฟันธง!"จารุวรรณ"พ้นเก้าอี้ผู้ว่า สตง.แล้ว ประกาศ คปค.เป็นแค่ข้ออ้างอยากอยู่ในตำแหน่งต่อ?
"คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินแล้วหรือยัง?"
เป็นคำถามที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตั้งคำถามด้วยความสับสน
ทั้งๆที่คุณหญิงจารุวรรณ อายุครบ 65 ปี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2553 ต้องพ้นจากตำแหน่งแล้วซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มาตรา 34(2) กำหนดไว้ว่า ผู้ว่าการฯพ้นตำแหน่งเมื่อ "มีอายุครบ หกสิบห้าปีบริบูรณ์"
แต่เมื่อไม่อยากลุกจากเก้าอี้(ด้วยเหตุใดก็ตาม) คุณหญิงจารุวรรณก็หาข้ออ้างว่า ยังมีปัญหาข้อกฎหมายอยู่ดูจากบันทึกเวียนของคุณหญิงจารุวรรณที่ทำถึงเจ้า หน้าที่ สตง.เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 มีใจความว่า
"เนื่องจากยังมีปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการ พ้นจากตำแหน่งของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายตามประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข(คปค.) ฉบับที่ 29 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ประกอบกับขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ....อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป ระหว่างที่ยังไม่ได้ข้อยุติในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการพ้นจากตำแหน่งของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และ เพื่อให้การบริหารราชการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นไปโดยต่อเนื่อง ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ในการบริหารราชการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดิน จึงให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ 75/2552 เรื่อง แต่งตั้งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินให้รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงิน แผ่นดิน ลงวันที่ 9 เมษายน 2552 ไปจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นที่ยุติเรื่องการพ้นจากตำแหน่งของผู้ว่าการตรวจ เงินแผ่นดิน"
แต่ปรากฏว่า ในระหว่างนี้ มีกระแสข่าวว่า คุณหญิงจารุวรรณ ยังคงเข้าไปทำงานที่ สตง.ทุกวัน นั่งที่ห้องทำงานเดิม และใช้รถประจำตำแหน่งคันเดิม แม้จะมีรองผู้ว่าการ สตง.รักษาการอยู่
ทำให้เงาร่างของคุณหญิงจารุวรรณ ก็ทอดทะมึนเหนือสำนักงานแห่งนี้
มาดูกันว่า ประกาศ คปค.ฉบับที่ 29 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 เขียนว่าอย่างไร คุณหญิงจารุวรรณ จึงหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการไม่ยอมลงจากตำแหน่ง
"ในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่น ดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่พ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง(ผู้ว่าฯที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 18 กันยายน 2549 คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550)ยังคงปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไปพลางก่อน"
จากข้อความในประกาศ คปค.ฉบับดังกล่าว ที่ระบุว่า "ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่พ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่งยังคงปฏิบัติ หน้าที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่การตรวจเงินแผ่นดินไปพลางก่อน"
น่าจะหมายความว่า "ผู้ที่"ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้องมีคุณสมบัติหรือไม่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินด้วย เช่น มีสัญชาติไทยโดยการเกิด ห้ามเป็น ส.ส. ส.ว.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น ห้ามถูกคุมขังโดยหมายของศาล อยู่ในระหว่างการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นบุคคลล้มละลาย วิกลจริตฟั่นเฟือน ตาย ลาออก อายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ฯลฯ(ดูมาตรา 34 ประกอบมาตรา 28, มาตรา 29,มาตรา 32 และมาตรา 7)
มิได้หมายความสามารถทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ แม้บุคคลผู้นั้นจะขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างไรก็ได้ เช่น ถ้าคุณหญิงจารุวรรณเกิดโอนสัญชาติไปเป็นต่างด้าว ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถูกศาลสั่งจำคุกและไม่ได้รับการประกันตัวหรือถูกคดีถึงที่สุด แม้กระทั่งตายหรือลาออก ก็ต้องพ้นจากการทำหน้าที่อยู่ดี
เช่นเดียวกันเมื่อกฎหมายกำหนดให้ผู้ว่าการตำรวจเงินแผ่นดินต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่ออายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ก็เท่ากับการขาดคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่ต่อไปได้ เพราะเป็นขาดคุณสมบัติพื้นฐานหรือมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯเสียแล้ว
ดังนั้นการอ้างประกาศ คปค.ที่ระบุว่า "ให้ผู้ ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่พ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง ยังคงปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ไปพลางก่อน"เพื่อจะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ทำหน้าที่ต่อไปอาจจะมีความผิดฐานการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงเป็นเรื่องน่าหัวร่อที่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่า คนๆหนึ่งมีความสำนึกในการทำหน้าที่ต่อชาติบ้านเมืองถึงขนาดนี้เชียวหรือ
ถ้ากลัวเช่นนั้น ก็มีวิธีแก้ง่ายนิดเดียวคือ ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งก็หมดเรื่องแล้ว เพราะคงไม่มีใครมาบังคับให้คนที่ขอลาออกจากตำแหน่งทำหน้าที่ต่อไปได้เหมือนกับการหนีทหารในยามสงคราม
แต่ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นก็สะท้อนให้เห็นวิธีคิอของคนบางคน ที่ไม่ยอมจบ ไม่ยอมเลิกโดยไม่ได้พินิจดูอายุขัยของตัวเองว่า ร่างกาย สัญญา ย่อมเสื่อมไปตามสภาพที่เป็นจริง
หรืออาจเสื่อมจนสติฟั่นเพื่อนคิดว่าตัวเองจะอยู่ค้ำฟ้า
มติชนออนไลน์
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 21:30:36 น.
----------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น