วันพุธ, มิถุนายน 09, 2553

สัมภาษณ์พิเศษ: คำให้การคนเสื้อแดงอีสานกับความปรองดองแห่งชาติ...พูดตรงมาก กล่าวถึง เสธ.แดงด้วย

สัมภาษณ์พิเศษ: คำให้การคนเสื้อแดงอีสานกับความปรองดองแห่งชาติ
Wed, 2010-06-09 22:53 ประชาไทออนไลน์
ลาวเทียน สัมภาษณ์
สำนักข่าวประชาธรรม เรียบเรียง

แม้กระแสข่าวการเสียชีวิต 88 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 1,885 ราย จากการสลายการชุมนุมเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาจะสร่างซาลงไปบ้างในระยะนี้ แต่การที่ จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงในความรุนแรงที่เกิดขึ้น ได้ ในทางตรงกันข้ามกลับมีการออกหมายจับ หมายเรียก การจับกุม กักขัง หน่วงเหนี่ยวคนเสื้อแดงออกมาเป็นระยะ กรณีเหล่านี้ดูขัดแย้งกับวาทกรรม “ปรองดอง” ที่รัฐบาลชุดนี้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อในระยะ 2-3 เดือนนี้มาโดยตลอด

ภายหลังฝุ่นควันแห่งความรุนแรงในการ สลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงจางลง หลายชีวิตหอบหิ้วความเจ็บปวดกลับภูมิลำเนา หนึ่งในนั้นคือ “เลื่อน ศรีสุโพธิ์” เกษตรกร อ.พังโคน จ.สกลนคร

เลื่อน ศรีสุโพธิ์ ปัจจุบันในวัย 46 ปี ตัดสินใจทิ้งลูกเมียไว้เบื้องหลัง ขายวัว 2 ตัว เป็นทุนรอนในเข้าร่วมการเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุผลที่ไม่ซับซ้อนเกินที่สามัญชนคนธรรมดาพึงเข้าใจได้ นั่นคือความไม่เป็นธรรม ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตย และ ....

หลังการสลายการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ไม่นานนัก เลื่อน ศรีสุโพธิ์ ถูก สภ.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร ออกหมายเรียก เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2553 ด้วยข้อกล่าวหา ชุมนุมหรือมั่วสุมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร้ายแรง โดยปิดกั้นทางหลวง และกีดขวางทางจราจร

เบื้องหน้า-เบื้องหลังแนวคิดของเลื่อน ในการเข้าร่วมกระบวนการเคลื่อนไหวกับคนเสื้อแดงคืออะไร? ความไม่เป็นธรรมในความหมายของเลื่อนที่ว่าคืออะไร ? ไพร่-อำมาตย์ ,ประชาธิปไตยในทัศนะของเขาคืออะไร? สองมาตรฐานหมายถึงอะไร ? อนาคตของคนเสื้อแดงจะเป็นอย่างไร ?

อ่านความคิดของเขาได้ต่อไปนี้ ....

เข้ากระบวนการต่อสู้ร่วมกับคนเสื้อ แดง
เนื่องจากตลอดชีวิตได้เห็นความไม่เป็น ธรรมในสังคม โดยเฉพาะสังคมไทยในปัจจุบันไม่มีความเป็นประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน และมีส.ส.มากที่สุดในสภาไม่ได้จัดตั้งคณะรัฐบาลบริหารประเทศ

ปัจจุบันคำว่า 2 มาตรฐานทางกฎหมายปรากฏชัดเจนในสังคมไทย ในฐานะที่ผมเป็นสมาชิกสมัชชาชาวนาชาวไร่เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ ได้ทำอะไรเพื่อชาวบ้านทุกอย่างที่รัฐบาลทำล้วนเป็นการทำเพื่อพรรคพวก โดนเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เห็นชัดเจนมาก ในสมัยที่ผมร่วมต่อสู้กับพี่น้องชาวบ้านเรื่องที่ดินปี 2540 รัฐบาลสมัยนั้นได้มีมติครม.ให้ประชาชนกับรัฐบาลใช้แนวทางการแก้ไขปัญหา ที่ดินอย่างมีส่วนร่วม กระบวนการพิสูจน์สิทธิในที่ดินให้ใช้พยานบุคคล พยานแวดล้อม และเอกสารประกอบการพิจารณา

ต่อมาปี 2541 พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหาร แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งหมดถูกยกเลิก และให้เปลี่ยนมาใช้กฎหมายและเอกสารราชการเป็นหลัก โดยไม่สนในการมีส่วนร่วมของระบบการถือครองที่ดินของชาวบ้าน ในที่สุดประชาธิปัตย์ก็แจ้งเพราะการแก้ไขปัญหาที่ดิน

หลายปีแล้วที่ผมไม่เคยลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง ทักษิณ ผมก็ไม่เคยเลือก เพราะต้องยอมรับว่ามีหลายอย่างที่ผมไม่พอใจเขา การฆ่าตัดตอนผู้ขายและผู้เสพยาเสพติดผมก็ไม่ชอบใจ แต่การที่ทหารมาทำปฏิวัติปี 2549 ฉีกรับธรรมนูญทิ้ง แล้วเขียนของตัวเองขึ้นมาใหม่ ปลดนายกสมัคร ยุบพรรคพลังประชาชน แต่งตั้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาบริหารประเทศ สิ่งนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย ผมรับไม่ได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆผมเข้าร่วมกับขบวนการเสื้อแดง แต่ผมสั่งสมความไม่พอใจต่อความไม่เป็นธรรมของสังคมไทยมานาน ปี 2549 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำประชาชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

รูปแบบการเข้าร่วมต่อสู้กับ นปช.
เข้าร่วมชุมนุมกับพี่น้องนปช.ที่ กรุงเทพฯ 3 ครั้ง แต่ไม่เคยอยู่ตอนที่รัฐบาลกระชับพื้นที่ ( หัวเราะ ) อภิสิทธิ์เป็นคนพูดจาดี กระชับพื้นที่คือสลายการชุมนุมนั้นแหละ ผมไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ 3 ครั้ง แต่ละครั้งจะอยู่ 10 วัน โดยจะเดินทางโดยรถกระบะ ไปร่วมกับพี่น้องในหมู่บ้าน

ค่าใช้จ่ายการร่วมชุมนุม
โดยส่วนตัวตั้งแต่ร่วมต่อสู้กับพี่น้องนปช.อย่างเข้มข้นมาตั้งแต่เดือน มีนาคม ผมขายวัวไป 2 ตัวแล้ว ส่วนเงินทุนอื่นพี่น้องนปช.มีการสนับสนุนกันหลายรูปแบบ เช่น พี่น้องนปช.ที่ขับรถกระบะบรรทุกคนเข้าร่วมชุมนุมที่ไปลงทะเบียนที่ศูนย์ อำนวยการนปช.วังน้อย จะได้รับเงินสนับสนุนเป็นค่าน้ำมัน 5,000 บาท เป็นเงินของสายการเมือง แต่ในความเป็นจริงเงินแค่ 5,000 บาทไม่คุ้มค่าหรอกสำหรับคนที่เอารถตัวเองไปร่วมชุมนุม แต่ทุกคนเขาไปกันด้วยใจ สำหรับผมและพี่น้องทางสกลนคร ไม่ได้ไปลงทะเบียนที่วังน้อย

พวกเราที่เป็นเครือข่ายกันในภาคอีสานจะระดมเงินทุนบริจาคในหมู่บ้าน พวกเราจัดทำผ้าป่าประชาธิปไตยในพื้นที่มุกดาหาร สกลนคร ขอนแก่น ชุมแพ ใช้รถกระจายเสียงประกาศขอรับจากพี่น้อง ใครมีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย 5 บาท 10 บาทเราไม่ว่ากัน บางคนก็บริจาคเป็นข้าวสาร ใครมีอะไรก็ให้มา เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นหลักการธรรมดาของนปช.ใครมีอะไรก็ให้ช่วยเหลือกัน

กิจกรรมอื่นๆนอกจากร่วมชุมนุมใน กทม.
ก่อนมีประกาศ พรก.กลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องที่ดิน จะมีประชุมกันทุกเดือน เป็นการประชุมร่วมกับภาครัฐ พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองไทยเป็นประจำ กลุ่มพวกผมที่ทำเรื่องที่ดินในสกลนครมี 400-500 คน ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมายังไม่มีการจัดเวทีประชุมเรื่องที่ดิน ผมเองก็ไม่ได้มีเวลาว่างสำหรับปัญหาที่ดิน เพราะผมต้องเข้าร่วมกับขบวนใหญ่ของคนเสื้อแดง

ช่องทางการติดตามข้อมูลข่าวสาร นปช.กลาง
จ.สกลนคร มีบ้านของนักข่าวประชาไท เขาจะแจกเอกสารข่าวและแผ่นซีดีภาพเหตุการณ์ นอกจากนั้นก็มีวิทยุ หนังสือพิมพ์ ชมการถ่ายทอดสดในช่วงที่ไม่ถูกตัดสัญญาณ และโทรประสานกับพรรคพวกที่อยู่เวทีกลางตลอดเวลา มีกลุ่ม “สร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน” เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ผมเป็นสมาชิก เป็นกลุ่มที่ก่อตั้งกันมานาน วัตถุประสงค์เพื่อรวมกลุ่มกันต่อสู้ปัญหาชาวบ้าน และทำงานการเมืองด้วย ผมพึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มนี้ได้ 3 ปี ทุก 3-4 เดือน ช่วงนี้จะมีการประชุมแลกเปลี่ยนสถานการณ์การเมืองเป็นหลัก

ความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง ปัจจุบัน
ผมเพิ่งได้รับรู้ความจริงก็วันนี้แหละ วันที่นปช.ร่วมกันต่อสู้จริงจัง ทุกปัญหามันเกี่ยวข้องกันทั้งหมด แยกออกจากกันไม่ได้เลย เพราะต้นตอของปัญหามันเกิดจากอันเดียวกัน ที่ผ่านมาผลไปเรียกร้องปัญหาที่ดินที่ทางปลายเหตุปัญหาก็เลยแก้ไขไม่ได้ ผมต่อสู้เรื่องที่ดินมานานแต่ไม่เคยรู้อะไร มาวันนี้ผมอ้อออออ ! ได้รู้ว่าฟ้ามีที่ดินเยอะมาก และมีที่ดินหลวง ที่ดินว่างเปล่าที่เขาใช้ประโยชน์กันเยอะมาก ปัญหาที่ดินของผมเลยไม่ได้รับการแก้ไข ความไม่เท่าเทียมในสังคมมีเยอะมาก

ถ้าพูดกันถึงนโยบายก็คือว่าพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กับ นปช.เป็นที่น้องที่ได้รับนโยบายที่ไม่เท่าเทียมอย่างทั่วถึง เช่น อาสาสมัครของราชการ อสม.ได้ค่าตอบแทน แต่ อพปร.ก็เป็นอาสาสมัครเหมือนกันแต่ไม่ได้ค่าตอบแทน ฯลฯ เบี้ยสำหรับคนมีรายได้ต่ำ รัฐบาลประชาธิปัตย์จ่ายให้สำหรับคนทำงานในระบบและมีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท แต่ชาวบ้านที่เงินไม่ถึง 1,500 บาท รัฐบาลไม่เคยให้อะไร ฯลฯ คราวนี้คนจนคงต้องหมดไปจริงๆแล้ว แรงงานอกระบบ แรงงานภาคเกษตรที่ทำการผลิตป้อนให้ระบบอุตสาหกรรมไม่เคยได้รับการเหลียวแล ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีการประกันรายได้ ไม่มีเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ความจริงเป็นทุกรัฐบาล แต่รัฐบาลนี้ไม่สนใจเหลียวแลเลย

หลังจากเข้าร่วมกับนปช. ทำให้ผมเห็นว่าประเทศไม่ได้มีปัญหาแค่เรื่องที่ดิน น้ำท่วม ภัยแล้ง มีปัญหาอีกหลายอย่างในสังคมไทย เราต้องร่วมกันต่อสู้กับโครงสร้างทางสังคม ต้องต่อสู้กับตัวพ่อ ไม่เช่นนั้นทุกปัญหาจะยังเป็นปัญหาต่อไป

คิดอย่างไรหลังรัฐบาลใช้อาวุธสลาย การชุมนุมของคนเสื้อแดง
พวกเราไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ผมเองไม่อยากเชื่อว่ารัฐบาลจะทำ จะกล้าทำ กล้าฆ่าคน ในเมื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศเขาชนะการเลือกตั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราไม่สนใจเสียงส่วนน้อยของประเทศ แต่เสียงส่วนน้อยของประเทศมีโอกาสมากกว่าพวกเราอยู่แล้ว การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

มันคือความจริงที่ประชาชนต่อสู้เพื่อ ทักษิณ แต่ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อตัวบุคคล เรื่องสังคมต้องทำความเข้าใจ ครั้งหนึ่งชาวบ้านเลือกทักษิณเพราะมีนโยบายถูกใจ ครั้งนี้คนเสื้อแดงสู้กับระบบ ไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ คนเสื้อแดงรู้จักประชาธิปไตย สู้เพื่อประประชาธิปไตย คนที่อ้างว่าคนเสื้อแดงสู้เพื่อทักษิณนั้นแหละ คือคนที่ไม่รู้จักประชาธิปไตย ไม่ได้พูดถึงระบบ พวกเขากลัวทักษิณ พวกเขากลัวประชาธิปไตย คนเสื้อแดงเพียงแต่ไปต่อสู้เพื่อให้รัฐบาลยุบสภา ผมว่าข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงชัดเจนมากๆ มากกว่าการสู้ของภาคประชาชนที่ผ่านมา คนเสื้อแดงในตอนนี้ต้องการแค่เลือกตั้ง ไม่ต้องการให้อำมาตย์และทหารมาแทรกแซงการเมือง คนเสื้อแดงได้แสดงออกชัดเจนว่าพวกเขายืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยไม่เคยร้องขออำนาจเหนือมาสนับสนุนการเคลื่อนไหว

ความสัมพันธ์ของคนเสื้อแดงกับคุณ ทักษิณ
โดยส่วนตัวผมเข้าร่วมกับกระบวน การเสื้อแดงเพราะเห็นความไม่เป็นธรรมของสังคม การเลือกตั้งที่ผ่านมาผมไม่เคยเลือกพรรคการเมืองไทยเลย ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าคนเสื้อแดงคือทักษิณ แต่อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าทำไมประชาชนถึงทำเพื่อทักษิณ แต่ปรากฏการณ์ในปัจจุบันคือ ทักษิณไม่ได้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเสื้อแดงอีกต่อไป ไม่ได้เข้มข้นเหมือนที่เคย บนเวทีนปช.กลางช่วงหลังไม่ได้พูดถึงทักษิณ

หลักการเจรจาระหว่างรัฐบาลและตัวแทนนปช. ไม่ได้มีทักษิณเป็นเงื่อนไขต่อรอง ข้อเสนอของนปช.ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับทักษิณ เพราะข้อเสนอเดียวคือยุบสภา แต่รัฐบาลเบี่ยงประเด็นมาตลอด สิ่งที่คนเสื้อแดงชัดเจนในเวลานี้ คืนอำนาจให้ประชาชนทุกคน เสื้อเหลือง เสื้อหลากสีก็จะได้อำนาจคืนเช่นกัน จากนั้นทุกคนร่วมกันตัดสินใจใหม่อีกครั้ง บนพื้นฐานกติกาปกติ ผมว่าคนเสื้อแดงชัดเจนในการต่อสู้ไม่มีทักษิณมวลชนก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกคนในสังคมเห็นแต่ไม่ยอมรับ

เป้าหมายของคนเสื้อแดงคือ ยุบสภา เป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตย จากนั้นค่อยประสานให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันแก้ไขกฎกติกาที่ใช้ไม่ได้ ไม่ใช่ยังไม่ยุบสภาเชิญผู้เชี่ยวชาญมาแก้กฎกติกา ทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับคนเสื้อแดง และไม่มีความเป็นได้ตามหลักการประชาธิปไตย ชาวบ้านไม่ยอมรับแน่นอน การอนุมัติงบประมาณของรับอภิสิทธิ์ที่ให้กระทรวงเกษตร 70,000 ล้าน แต่ให้ กลาโหม 170,000 ล้านบาทก็สร้างความไม่พอใจให้แก่เกษตรมากพอแล้ว

สำหรับประเด็นทักษิณ กับคนเสื้อแดง ผมคิดว่าต้องมองกันตั้งแต่ตอนที่ตั้งพรรคการเมือง ทักษิณได้ไปรวมเอาคนที่เคยต่อสู้และทำงานกับประชาชนมานาน เช่น กลุ่มคุณจาตุรงค์ ฉายแสง เข้าเป็นพรรคพวก จากนั้นได้จัดเวทีระดมความต้องการเขา ประชาชนในระดับจังหวัด ภาคอีสานมีโคราช ขอนแก่น สกลนคร อุบลราชธานี อุดรธานี

จากนั้นนำข้อมูลที่ได้ที่ได้จากเวทีไปประมวลและสังเคราะห์ออกมาเป็นนโยบาย เลยกลายเป็นนโยบายที่ถูกใจประชาชน ซึ่งชัดเจนว่าประชาชนเลือกนโยบาย เมื่อเลือกตั้งเข้ามาแล้วทักษิณทำตามนโยบายที่ใช้หาเสียง หลายคนเรียกว่าประชานิยม แต่สำหรับประชารากหญ้าคือนโยบายที่จับต้องได้ ส่งผลให้เลือกตั้งกี่ครั้งทักษิณและพรรคพวกก็ได้รับการยอมรับจากประชาชน

สำหรับผมในฐานะเอ็นจีโอชาวบ้าน ผมไม่พอใจทักษิณเรื่องการฆ่าตัดตอน มีการตั้งเวทีวิภากษ์วิจารณ์ แต่ผมพอใจการบริหารของทักษิณมากว่ารัฐบาลอื่นๆ ที่ดินในเขตป่ามีกระบวนการเจรจาให้ทำมาหากินร่วมกันได้ เผด็จการรัฐสภาไม่ค่อยเห็นแก่ตัวเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเผด็จการซ่อนรูป

ผมว่าประชาชนรากหญ้ารักทักษิณไม่ผิด หรอก เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่รัฐบาลไหนที่จะสนใจชนบทขนาดนี้

ไพร่ในความเข้าใจ
คนทำงานหนัก ใช้แรงงาน ลงแรงเยอะ ลงทุนมาก แต่กินไม่อิ่ม

แล้วอำมาตย์ล่ะ
กลุ่มคนที่ไม่ต้องทำงานหนัก แต่กินอิ่ม สุขสบาย

คำว่าสองมาตรฐานในความเข้าใจ
พันธมิตรบุกยึดสนามบินผ่านไป 1 ปีคดียังไม่มีความคืบหน้า แต่ปนช. ติดคุกทันที กรุงเทพฯประกาศ พรก.ฉุกเฉิน คนเสื้อแดงชุมนุมถือว่าผิดกฎหมาย แต่คนหลากสีสามารถชุมนุมได้ จัดเตรียมสถานที่สำหรับให้คนหลากสีได้ให้กำลังใจรัฐบาล แล้วมากล่าวอ้างว่านปช. ไม่ได้ชุมนุมทางการเมือง คนบางคนเสื้อเหลืองตายไปงานศพแต่คนเสื้อแดงตายไม่เห็นหัว

มุมมองต่อการทำหน้าที่ของทหาร
ทหารเป็นเครื่องมือฝ่ายการเมือง ระบบทหารต้องเปลี่ยนแปลงทันที ตำรวจก็เช่นกัน ไม่ได้ทำหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ ทุกที่ที่มีทหารกับตำรวจ ที่แห่งนั้นคือสถานที่ไม่ปลอดภัยสำหรับคนเสื้อแดง สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรยกเลิกไปเลย ไม่ดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านจนชาวบ้านถูกยิงตาย ไม่แสดงความรับผิดชอบตรงกันข้ามกลับตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นโจรล้มเจ้า

บทบาท การทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชน
สื่อไม่มีความเป็นกลาง เอียงข้างไปรับใช้สถาบันทางการเมือง ประชาชนถูกยัดเยียดให้รับข้อมูลด้านเดียว เช่น นำเสนอความรุนแรงของคนเสื้อแดงฝ่ายเดียว ซึ่งย่อมส่งผลโดยตรงต่อความคิดความเชื่อของประชาชนที่ไม่ได้เข้าร่วมกับ กระบวนการคนเสื้อแดง ทำให้เกิดอคติและความเกลียดชัง แต่สำหรับผู้ที่เข้าร่วมกับกระบวนการไม่มีปัญหา ทุกอย่างเห็นชัดแจ้งแดงแจ๋ด้วยตาตัวเอง

การทำงานของพรรคการเมือง
พรรคการเมืองไทยในปัจจุบันไม่ สามารถคาดหวังให้มาแก้ไขปัญหาประชาชน เป็นเรื่องยากที่จะคาดหวังอะไรจากพรรคการเมืองไทย ทางออกคือประชาชนต้องเข้มแข็ง มีการรวมกลุ่มเพื่อคานอำนาจ สร้างนโยบายเสนอฝ่ายการเมือง ประชาชนต้องกำกับดูแลการทำงานของพรรคการเมืองอย่างใกล้ชิด ทำงานควบคู่กันระหว่างประชาชนและพรรคการเมือง

การทำหน้าที่ของตุลาการ
ตุลาการภิวัตน์ ไม่มีความเป็นธรรม ไม่มีความเป็นกลาง เอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่มีอำนาจเหนือ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมของประชาชน

ความคิดเห็นต่อการทำหน้าที่ องคมนตรี
ไม่มีความเป็นธรรม ไม่มีความเป็นกลาง เอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่มีอำนาจเหนือ เข้าร่วมกับฝ่ายการเมือง โดยใช้ทหารเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ

บทบาท NGOs ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ผมเคยทำงานกับเอ็นจีโอ ผมเองก็เป็นเสมือนเอ็นจีโอชาวบ้าน ผมมองว่าการทำงานแบบเอ็นจีโอคือการทำงานแบบแยกประเด็น ทำแต่เรื่องของตัวเอง ไม่พูดถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำหน้าที่บริหารโครงการเป็นหลักไม่ได้คิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงเชิงโครง สร้าง เอ็นจีโอถือว่าเป็นองค์กรที่ล้าหลัง สโลแกนยังคงเป็นคำตอบอยู่ที่หมู่บ้านเหมือนเดิม ยังคงนอนอยู่บ้านทั้งที่ชาวบ้านไปนอนห้องถนน ไม่อยากไปพูดถึงเลย ทำตัวเหมือนส.ส.นั่นแหละถ้าต้องการอะไรถึงลงไปหาชาวบ้าน

การทำหน้าที่ของกลุ่มปฏิรูปประเทศ ไทย
ปฏิรูปไม่ต้องพูดถึงแล้ว สังคมไทยในเวลานี้ต้องปฏิวัติ ปัจจุบันคนที่พูดถึงการปฏิรูปทุกวันนี้คือคนที่สนับสนุนรัฐบาลทั้งนั้น ตัวผมเองเสียใจมากนะเพราะหลายคนผมรู้จัก พวกเราเคยทำงานร่วมกัน

บทบาทของคณะกรรมการสิทธิฯ
ทุกองค์ไม่มีความเป็นคนอีกแล้ว ไม่มีความเป็นธรรมและความเป็นกลางในสังคมไทย เสื้อเหลืองถูกกระทำกรรมการสิทธิฯจริงจังกับการทำงาน เสื้อแดงถูกกระทำไม่มีคณะกรรมการคนไหนอ้าปากพูดซักคำเดียว สรุปคือเอียงตามอำนาจเหมือนกันทั้งหมด

ความคิดเห็นต่อการทำหน้าที่ของนัก วิชาการ
เป็นที่รู้กันดีมาอย่างเนิ่นนาน ว่านักวิชาการส่วนใหญ่อยู่ห่างความเป็นจริง มีนักวิชาการส่วนน้อยมากที่เห็นความจริงและอยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน แต่กลับเป็นนักวิชาการที่ไม่มีเสียง พูดอะไรสังคมไม่ได้ยิน นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวอย่างพิภพ ธงชัย สุริยะใส กะตะศิลา เมื่อก่อนอยู่กับสมัชชาคนจน ผมเห็นพวกเขา พวกเราเคยนั่งกินเหล้าด้วยกัน พวกเขากินกับชาวบ้าน แต่วันนี้ก็อย่างที่เห็น ผมว่าชาวบ้านโดยเฉพาะกลุ่มคนที่เคยต่อสู้กับปัญหามาก่อนเห็นภาพสังคมไทย ชัดเจนมากในเวลานี้

แล้วอย่างการทำหน้าที่ขององค์กรทาง ศาสนา
เท่าที่เห็นในปัจจุบันยังไม่ชัดเจน ถึงแม้จะมีพระเข้าร่วมกับกระบวนการเสื้อแดงบ้าง องค์กรศาสนาก็มีกลุ่มก้อนไม่ต่างจากสถาบันทางการเมือง มียศถาบรรดาศักดิ์ อันนี้ไม่แน่ใจ

ต้องยอมรับว่าทุกสถาบันในสังคมไทยเวลา นี้มีแต่ความแตกแยก เด็กในหมู่บ้านผมพ่อแม่เป็นเสื้อแดง ลูกอยู่บ้านรับรู้เรื่องราวคนเสื้อแดง พอไปถึงโรงเรียนครูเป็นเหลืองก็พูดจาแบบเสื้อเหลือง เด็กสับสน แม้แต่ในโรงเรียนบรรยากาศยังไม่เหมาะกับการเรียนรู้

ทัศนะต่อการสลายการชุมนุม
โดยส่วนตัวรู้ว่ารัฐบาลไม่ยอมง่ายๆ ต้องมีการสลายแต่ไม่คิดว่าจะฆ่าคนตายแบบนี้ เพราะกลุ่มคนที่แต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ยอมแน่นนอน ไม่ยอมลงจากอำนาจ แต่คาดไม่ถึงว่าจะเสียหายขนาดนี้ ผู้ชุมนุมโดยรวมเสียขวัญกำลังใจ ช่วงนี้คนเสื้อแดงต้องให้กำลังใจกัน ไปร่วมงานศพ ใช้วัฒนธรรมนำการเมือง ทำบายศรีสู่ขวัญให้กับคนตายคนเจ็บ

คิดอย่างไรกับการเผาห้างและสถานที่ ราชการ
สิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริงของสังคม ไทย ผมไม่ตั้งคำถามว่าใครเผา ที่ผ่านมาไทยหลอกตัวเองและชาวโลกมาตลอดว่าเป็นสยามเมืองยิ้ม ที่ผ่านมีแรงกดดันในสังคมไทยเยอะมากที่ถูกส่งต่อไปให้รัฐบาลและได้ถ่ายทอด ความกดดันมาสู่ผู้ชุมนุม ซึ่งทั้งล้วนปรากฏชัดเจนว่าสังคมไทยต้องการความรุนแรง ปรากฏชัดเจน ผมไม่มีคำถามว่าใครทำ ทำไมถึงทำ มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่คนไม่มีทางเลือกสามารถแสดงออกได้

รัฐบาลจะได้รู้ว่าตัวเองแก้ไขปัญหาผู้ชุมนุมผิดพลาด ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ แล้วรัฐบาลจะเอาปรากฏการณ์ 19 พ.ค. มาเป็นตัวตัดสินปัญหาทั้งหมดไม่ได้ ชาวบ้านถูกรัฐบาลสั่งสมความรุนแรงมาตั้งแต่ 19 กันยา 2549 ความรุนแรงเกิดขึ้นที่รัฐบาล เมื่อรัฐบาลส่งทหารไปยิงประชาชน วันที่ 28 เมษายน คนเสื้อแดงปทุมจะไปเยี่ยมคนเสื้อแดงที่ถูกจับตัวก็ถูกดักทำร้ายระหว่างทาง ความรุนแรงเกิดจากทหารใช้กระสุนจริง ทหารไม่ได้ถูกฝึกมาให้ดูแลการชุมนุม ทหารคือสัญลักษณ์ของการปราบปรามอริราชศัตรู เพราะฉะนั้นทั้งหมดของความรุนแรงรัฐบาลเป็นผู้สร้างขึ้น ทำให้เกิดขึ้น

การชุมนุมในอดีตถ้ารัฐบาลประกาศสลาย การชุมนุมคนจะน้อยลง คนจะกลัว แต่ในครั้งนี้ผู้ชุมนุมไม่กลัว คนที่อยู่กรุงเทพฯ สู้เต็มที่ คนที่ไม่สามารถไปร่วมที่กรุงเทพฯได้ก็ออกมาที่ศาลากลาง ไม่มีการประสานงาน ไม่มีคนจัดตั้ง แต่เป็นคำสัญญาใจร่วมกันถ้ารัฐบาลสลายการชุมนุมทุกคนจะออกมารวมกันที่ศาลา กลางจังหวัดเพื่อกดดันให้รัฐบาลเลิกใช้กำลังทหาร การเผาศาลากลางหลายจังหวัดในประเทศไทย ผมว่าประชาชนแสดงออกชัดว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ข้าราชการภายใต้การนำของนายก อภิสิทธิ์ปกครองอีกต่อไป สำหรับผมถึงแม้รัฐบาลจะไม่ยุบสภาแต่การตื่นตัวทางการเมือง การเข้ามาร่วมกิจกรรมทางการของพี่น้องรากหญ้าคือชัยชนะระหว่างที่ยิ่งใหญ่ กว่ารัฐบาลยุบสภา

การจับตัวแกนนำ นปช.
รัฐบาลทำเกินไป รัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าประชาชนมีสิทธิชุมนุมทางการเมืองได้โดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ดังนั้นถ้าต้องการจับแกนนำปนช.ต้องจับโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายปกติ เช่น กีดขวางทางจราจร ไม่ใช่ตามกฎหมายพิเศษ โดยตั้งผู้ข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ล้มล้างสถาบัน เป็นข้อกล่าวหาที่เกินไป เป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้กำลังทหาร เป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลใช้ทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองเสมอ ไม่ต่างอะไรจากตุลาฯ ประเด็นนี้พี่น้องนปช.ต้องนำมาสรุปบทเรียนเพื่อวางแผนต่อสู้กับการใส่ร้าย ป้ายสี ปิดสื่อ ล้อมปราบ

สถานการณ์ในพื้นที่ช่วงสลายการ ชุมนุม
วันที่ 8 เมษายน ผมออกจากพื้นที่ชุมนุมกทม.เพื่อไปร่วมประชุมที่มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) จากนั้นวันที่ 9 เมษายน ผมกลับมาที่ขอนแก่น วันที่ 10 ประชุมที่ขอนแก่น เพื่อนที่กรุงเทพฯโทรศัพท์มาบอกว่าเริ่มปราบปรามแล้ว และมีคนโดนยิงตายตั้งแต่เวลา 15.00 น. ความรู้สึกของผมตอนนี้มันว่างเปล่า ผมกำลังคิดถึงรัฐบาลปราบปรามประชาชนที่ประกาศชุมนุมด้วยมือเปล่า

ตอนนี้ยังไม่มีเงื่อนไขที่จะนำไปสู้การปราบปรามด้วยอาวุธเลย ผมเสียใจมากที่ไม่ได้อยู่ร่วมต่อสู้กับคนอื่นๆ เพราะตามแผนเดินผมวางไว้คือเช้าของวันที่ 10 ผมจะเข้ากรุงเทพฯ แต่นักเคลื่อนไหวที่ผมรู้จักโทรมาบอกว่าไม่ต้องเข้า ผมจึงเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ศาลากลางสกลนคร และพอกรุงเทพฯถูกสลายชาวบ้านอยู่ต่างจังหวัดก็ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางโดยไม่ ได้การนัดหมาย


ภายหลังวันที่ 10 เม.ย. เงื่อนไขทางสังคมเริ่มเพิ่มขึ้น มีกลุ่มเสื้อหลากสีที่บอกว่าตัวเองเป็นพลังเงียบในสังคมต้องการความสงบ แต่ในความเป็นจริงคือสนับสนุนรัฐบาล บวกกับชาวบ้านถูกสกัดกั้นไม่สามารถเข้าร่วมการชุมนุมที่กทม.ได้ จึงได้ไปชุมนุมที่ศาลากลางเพื่อแสดงพลังสนับสนุนคนเสื้อแดง หลัง 25 เม.ย. ในพื้นที่มีการเคลื่อนไหวกันตลอด ผมไม่ได้ไปกรุงเทพฯ อีกเลย เพราะภารกิจในพื้นที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน

ช่วงนี้สัญญาณสื่อสารถูกปิดกั้น ผมทำจึงทำหน้าที่สื่อสารในพื้นที่กับชาวบ้านผ่านแผ่นซีดีที่พรรคพวกอยู่ กรุงเทพฯนำมาให้ ผมและพรรคพวกจัดเวทีเวียนไปเรื่อยๆ ในเขตอ.เขาวง อ.ภูพาน ศาลากลาง หลังเสธ.แดงถูกยิง การชุมนุมเข้มข้นขึ้น มีข่าวปล่อยว่ารัฐจะสลายตลอดเวลา ในพื้นที่สกลนครก่อนวันที่เสธ.แดงตายมีข่าวปล่อยว่าเปรมตาย ชาวบ้านทุกคนดีใจมากๆ

แต่พอวันต่อมาชาวบ้านได้รับรู้ว่าเสธ.แดงตายก็เสียใจมาก ต้องยอมรับผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยหลังเสธ.แดงตาย เพราะตอนเสธ.แดงอยู่พวกเราเชื่อว่าทหารไม่กล้าใช้กำลัง

แสดงว่าในพื้นที่ชุมนุมมีกองกำลัง คุ้มครองจริง
การชุมนุมของ นปช.ครั้งนี้ประกาศชัดเจนว่า นปช.แดงทั้งแผ่นดินจะยึดแนวทางสันติ ส่วนแดงสยาม หรือเสธ.แดงถ้าอยากใช้ความรุนแรงให้แยกตัวออกจากขบวน ประเด็นกองกำลังชุดดำซึ่งภายหลังยกระดับเป็นผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่องที่ รัฐบาลสร้างขึ้น ผมอยู่ในที่ชุมนุม 30 วัน เห็นคนใส่ชุดดำซึ่งเป็นการ์ดเดินไปมาตลอดเวลา บางคนมีวิทยุสื่อสาร บางคนมือเปล่า แต่ผมไม่เคยเห็นใครถือปืน

หลังรัฐบาลใช้กำลัง 10 เมษายนพวกเราเริ่มเชื่อแล้วว่ารัฐบาลปราบแน่ๆ แต่ผู้ชุมนุมไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

สิ่งที่ปรากฏชัดเจนในวันที่ 19 พ.ค. คือ ผู้ชุมนุมไม่กลัวถึงแม้รัฐบาลจะประกาศสลายการชุมนุมก็ตาม และถึงแม้แกนนำจะประกาศยุติการชุมนุม ผู้ชุมนุมก็ยังไม่ยินดีออกจากพื้นที่ การปราบปรามที่รุนแรงไม่ได้ทำให้ผู้ชุมนุมกลัว การสู้ต่อของคนเสื้อแดงข้ามเส้นความตาย แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะฆ่าทิ้งได้ฟรีๆ คนเสื้อแดงชนะทางการเมือง แต่แพ้ทางการทหาร เพราะไม่คาดคิดว่ารัฐบาลจะใช้อาวุธ การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น ผู้ชุมนุมเชื่อว่าเลือกตั้งใหม่อีกกี่รอบพวกเราก็จะชนะการเลือกตั้ง

ผมเชื่อว่าเหตุการณ์เผาวันที่ 19 พ.ค. สืบเนื่องมาถึง 20 พ.ค. ชัดเจนมากนะ ว่าผู้ที่ร่วมกันเผาไม่ได้โกรธแค้นแกนนำที่ยอมแพ้ เพราะพวกเขารู้ว่าไม่ได้แพ้ แต่เขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่ให้มึงปกครอง แต่มึงยังด้านปกครอง อย่างที่ผมบอกมันคือสัญญาใจ เมื่อกรุงเทพฯสลาย ทุกคนจะไปศาลากลาง สาเหตุที่ 19 พ.ค.รุนแรง ไม่ใช่เรื่องของผู้ก่อการร้าย หรือแพ้แล้วพาล แต่มันคือความเจ็บแค้น คับข้องหมองใจ ความไม่เป็นธรรม ที่กดทับใจจิตใจของประชาชนมานาน

หลังเหตุการณ์ 19 พ.ค. ชาวบ้านที่ตลาดมุกดาหารบางส่วนเริ่มโต้ตอบรัฐบาลด้วยวิธีการสันติ เช่น ไม่ค้าขายกับทหาร จะไม่เสียรายภาษีได้ส่วนบุคคล ฯลฯ

แต่ก็มีทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศ
ทหารแตงโมกับตำรวจมะเขือเทศคาดหวังได้ เพียงแค่เรื่องข่าววงใน ไม่คิดว่าพวกเขาจะขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา พวกเขาเป็นกลไกหลักของรัฐที่ได้รับคำสั่งให้มาจัดการคนเสื้อแดงอยู่แล้ว ทหารเมื่อนายสั่งยิงต้องยิงถ้าไม่ยิงเขาต้องโดนยิง นปช.ต้องทำงานกับทหารที่เป็นลูกหลานตัวเอง เวลานี้มีข้อมูลจากข้างบนลงมาเยอะ

ความเคลื่อนไหวในพื้นที่
การจัดวงคุย การตั้งเวทีระดับจังหวัด และอำเภอมีเรื่อยๆ เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเวทีใหญ่ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่มีความรุนแรงอะไร

ต้นเดือน พ.ค.ผมกลับมาจากกทม. อยู่บ้านมีคนบอกว่าเสธ.แดงถูกยิงแล้ว ผมจึงเดินทางไปที่ อ.เขาวง เห็นเขาเอารูปเสธ.แดงมาโชว์ ในใจคิดแล้วแหละว่าคราวนี้แย่กันแน่ๆ รัฐบาลเอาจริงแน่นอน

วันที่ 15-16 พ.ค. ผมจัดเวทีอยู่ที่ภูพานแต่ชาวบ้านมาร่วมน้อย ตำรวจจึงสามารถยึดเวทีตามกฎหมาย พรก. จากนั้นวันที่ 17 พ.ค. ผมไปต่อกับพรรคพวกที่ อ.พังโคน ในที่สุดการจัดเวทีที่สกลนครก็สิ้นสุดลงในวันที่ 17 พ.ค. เพราะแกนนำหลายคนถูกจับ ส่งผลให้ไม่มีเวทีปราศรัยในพื้นที่ จากนั้นอีก 2 วันรัฐบาลก็สลายในกรุงเทพฯ พอวันที่ 22 พ.ค. ผมโดนหมายเรียกเพราะผมขึ้นเวทีพูดคุยกับพี่น้อง แต่ผมไม่มอบตัวเพราะผมไม่ยอมรับกฎหมาย พรก. ผลส่งจดหมายขอเลื่อนเข้าพบพนักงานโดยแจ้งไปว่าจะเข้าในวันที่ 7 พ.ค.แต่ไม่ได้เข้าพบและทำจดหมายเลื่อนไปอีกรอบโดยไม่ระบุวันเข้าพบและให้ ตำรวจกำหนดวันและออกหมายเรียกมาใหม่อีกรอบ

อีกเหตุผลที่ผมไม่อยากเข้ารายงานตัวคือ ผมกลัวเคลื่อนไหวทำงานในพื้นที่ไม่ได้ ไม่กลัวถูกจับขังคุกเพราะอยู่ขอนแก่นมีคนมอบตัวแต่ไม่ถูกขัง ปรับแค่ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ถ้าทำอะไรไม่ได้ ผมเป็นห่วงเครือข่ายของผมในสกลนครชื่อกลุ่ม ไทยบ้านผู้ไร้สิทธิสกลนคร มีสมาชิก 7 อำเภอ คือ อ.กุดบาก อ.ภูพาน อ.เต่างอย อ.นิตมน้ำอูน อ.วาริชภูมิ อ.เจริญศิลป์ และอ.เมือง มีสมาชิกหลายพันคนและทุกคนมีบทบาทสำคัญในกระบวนการคนเสื้อแดงในพื้นที่ กลุ่มนี้จะไม่มีใครเป็นแกนนำ มีเพียงแกนกลางทำหน้าที่ประสานสมาชิก กลุ่มนี้ยังคงเข้มแข็งพร้อมทำงานกันอีกครั้ง

นอกจากนั้นผมยังมีเครือข่ายสภาองค์กร ชุมชน สภาพัฒนาการเมือง มีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ให้งบ แต่ตอนนี้งบหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าขอใหม่เขาจะให้หรือไม่ให้ เพราะที่ผ่านไม่ได้ทำงานมวลชนให้ภาครัฐ แต่ทำงานเพื่อสร้างให้มวลชนเป็นแนวร่วมของคนเสื้อแดง โดยพยายามทำให้เขาเข้าใจ พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน ไม่ได้เกิดขึ้นโดยง่ายเพราะรัฐอยากให้อำนาจแก่ประชาชนอย่างแท้จริง แต่เกิดจาการต่อสู้ของพวกเราเพื่อสร้างช่องทางต่อสู้กับกลไกรัฐ

แนวทางการต่อสู้ในอนาคต
ผมคิดว่าคนเสื้อแดงจะปล่อยให้ถูกกระทำ อยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ พวกเราเริ่มคุยกันเรื่องติดอาวุธทางปัญหาเพื่อสร้างสภาพจิตใจให้เข้มแข็ง มีใจต่อสู้อย่างมุ่งมั่น เพราะปัจจุบันรัฐบาลส่งคนมาติดตามปราบปรามในพื้นที่ คนที่ถูกหมายเรียกไม่ไปมอบตัว ไม่ยอมรับกระบวนการเยียวยาแบบรัฐบาลมีโอกาสถูกฆ่าทิ้ง

ชีวิตหลังมีหมายเรียก
ไม่เหมือนชีวิตปรกติแน่นอน แต่ผมสามารถอยู่ได้สบายดี ถึงแม่จะอยู่บ้านตัวเองไม่ได้ก็ตาม ผมอาศัยอยู่ตามบ้านเพื่อนที่เคยเคลื่อนไหวเรื่องที่ดีด้วยกัน ผมดีใจที่เพื่อนผมช่วยเหลือเราในยามตกยาก กลุ่มที่ดิน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ช่วยเหลือผมเรื่องค่าใช้จ่าย 7,000 บาท ตอนนี้ที่ จ.สกลนครมีคนได้รับหมายเรียก 3 คน เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 1 คน พราหมณ์ทำพิธีเทเลือด 1 คน และก็ผม จะต้องปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะต้องสู้ด้วยกัน ไปคนเดียวเสร็จรัฐบาลแน่ๆ


Posted by: Gooseh Hardcore นจป., สังกัด นรก.สทร.
June 10, 2010 01:37 AM

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น