วันจันทร์, พฤษภาคม 31, 2553

เตรียมสัมมนาเสื้อแดงที่นิวเซาท์เวลส์-ด้านพลเมืองออสเตรเลียโวยถูกซ้อมในเรือนจำหลังร่วมเสื้อแดง



(แฟ้มภาพจาก เอบีซี: นายคอร์เนอร์ เพอร์เซลล์จากสถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลีย ที่ร่วมปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดง)

ทังนี้นายเพอร์เซลล์ ถูกจับในข้อหาละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยุยงให้เกิดความรุนแรง มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี โดยนายเพอร์เซลล์ ปฏิเสธไม่ใส่ชุดนักโทษและไม่ยอมรับการปฏิบัติแบบนักโทษ เนื่องจากเขาเป็นนักโทษการเมือง แต่ข้อเรียกร้องของเขาได้รับการปฏิเสธ ล่าสุดสถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลียรายงานเมื่อ 28 พ.ค. ว่านายเพอร์เซลล์อ้างว่าถูกซ้อมระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำ

โดยการถูกจับของนายเพอร์เซลล์จะเป็นหัวข้อหนึ่งของการสัมมนาในวันที่ 1 มิ.ย. ด้วย

Mon, 2010-05-31 16:02
กลุ่มพธม.สังคมนิยมออสเตรเลียและ นสพ.กรีนเลฟวีคลีย์เตรียมจัดสัมมนา "ประเทศไทย: การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย" เชิญคนเสื้อแดงออสเตรเลียเสวนา พร้อมฉายคลิป "คอร์เนอร์ เพอร์เซลล์" ชาวออสเตรเลียที่ร่วมเวทีเสื้อแดงซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัว โดยเจ้าตัวโวยผ่านช่อง 'เอบีซี' ถูกซ้อมในเรือนจำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้ ที่ Resistance Centre เลขที่ 23 ถนนอเบอครอมบี รัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย กลุ่มพันธมิตรสังคมนิยม และหนังสือพิมพ์ Green Left Weekly จะจัดสัมมนาหัวข้อ ประเทศไทย: การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย (THAILAND: A struggle for democracy)

โดยผู้จัดงานจะเชิญผู้แทนคนเสื้อแดงออสเตรเลีย (THAI RED AUSTRALIA) เป็นวิทยากร และจะมีการฉายคลิปการชุมนุมรวมทั้งจะมีการคลิปของนายคอร์เนอร์ เดวิด เพอร์เซลล์ (Connor David Purcell) หรือคอร์เนอร์ เพอร์เซลล์ พลเมืองออสเตรเลีย จากเมืองเพิร์ธ ที่ร่วมปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงและถูกจับเมื่อ 23 พ.ค.

Seh Daeng@Prince Palace BKK Thailand 2010


2010 - 01 - 17 : Seh Daeng@Prince Palace Bangkok Thailand: to meeting Khattiyadrama Party: Bangkok Branch .

Photo by: Prapatsorn Vudhipanee

ทหารกับ M16 ติดปลอกลดเสียง



ไอ้เทือก บอกชัดๆ อีกทีสิว่า M16 ติดปลอกลดเสียง ไม่ใช่ปฏิบัติการทางทหาร ???? แล้วไอ้ตัวที่ยืนให้ช่างภาพต่างประเทศถ่ายรูปอยู่นี่ เป็นตัวอะไร ??? แล้วไอ้คนนี้ก็คือคนเดียวกับกับที่ยกปืนขึ้นเล็งนั่นแหละ

จากอัลบั้ม Wall Photos โดย รังสีลิขิต ประชาไท RedBerry

More comment from face book:
-แน่ใจว่า ทหารไม่ได้ใช้ ????
-ทำไมมันคุมหน้าอ่ะ
-มันเป็นคนเดียวกันกับที่ไอ้เทือกเอารูปมาโชว์นั่นแหละ
-ทหารเหรอ
-นักข่าวต่างประเทศถ่ายแถวดินแดง
-ติดปลอกลดเสียง+ติดขาทราย

wat pratum 19 may 2010.wmv: ทหารยืนบนรางรถไฟฟ้า บีทีเอส พร้อมเล็งปืนเข้าไปยังวัดปทุมวนาราม



khaosodnewspaper — May 31, 2010 — ข่าวสด : คลิปวิดีโอบางช่วงจากเหตุการณ์ทหารยืนบนรางรถไฟฟ้า บีทีเอส พร้อมเล็งปืนเข้าไปยังวัดปทุมวนาราม โดยช่วงหนึ่งของคลิปมองเห็นเหตุเพลิงไหม้และกลุ่มควันพวยพุ่งจากฝั่ง ขวามือของห้างสยามพารากอน เป็นหลักฐานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเย็นวัน ที่ 19 พ.ค. 2553 หลังทหารเข้าสลายผู้ชุมนุมเวทีราชประสงค์จริง


"จตุพร"จวกรัฐเห็นค่าของซากตึกมากกว่าชีวิตประชาชน
“พวกตนนำอาวุธมาไว้ที่วัดปทุมวนารามเพื่อให้พวกท่านมายิงพวกตนตายอย่างนั้นหรือ??!!

1 มิย. 2553 01:41 น.
เวลา 23.20 น.(31พ.ค.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน ได้ลุกขึ้นอภิปราย โดยนำแผ่นภาพประกอบหลายภาพว่า ตนมาที่นี่โดยใช้มาตรฐานเดียวกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่โดนข้อหาก่อการร้ายแล้วขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ รัฐบาลพยายามปลุกระดม สร้างกระแสในสังคมว่าคนที่ตายนั้น สมควรตายเพราะไปเผาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เซ็นเตอร์วัน อาคารมาลีนนท์และธนาคารกรุงเทพ ซึ่งศูนย์เอราวัณนั้นได้บันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า คนที่ตายทั้งหมดนั้นตายก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ และทำไมรัฐบาลไม่สามารถจับคนวางเพลิงได้เลย และรัฐบาลก็ยังไม่พยายามที่จะหาข้อเท็จจริง รัฐบาลเห็นคุณค่าของซากตึกมากกว่าซากชีวิตของประชาชน ปลุกกระแสว่าพวกตนพาคนไปตาย ซึ่งหากพวกตนพาคนมาจริงแล้วใครที่มาฆ่าพวกเขาให้ตาย กรณีของชายชุดดำนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามเป็นหน้าที่ของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพที่ต้องไปจับกุมรวมทั้งคนที่ลั่นกระสุนปืนใส่ประชาชนด้วย พวกตนไม่ได้มีหน้าที่บอกว่าใครที่เป็นพวกบ้าง แต่ถ้ารัฐบาลหยุดอ้างการขอพื้นที่คืนหลังดวงอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้ว พวกชายชุดดำจะโผล่ออกมาได้อย่างไร

นายจตุพร กล่าวอีกว่า การยื่นแผนปรองดองของนายกรัฐมนตรีโดยเสนอวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.นั้น หากเรายุติการชุมนุมในวันนั้นเพราะได้วันเลือกตั้งมา อย่าว่าแต่การกลับไปอธิบายกับประชาชนเลย เพราะแค่บอกกับตัวเองก็ยังไม่ได้เลยว่า เอาชีวิตประชาชนที่ตายไปแลกกับวันเลือกตั้ง แบบนั้นตนไม่เอา ถ้าเอาชีวิตคนที่ตายไปคืนมาได้วันนี้ท่านจะอยู่ครบ 4 ปีไปเลยก็ได้ นอกจากนี้ วันนี้ผู้ที่ฆ่าประชาชนกลับเป็นฝ่ายดำเนินคดีกับฝ่ายที่ถูกฆ่าแล้วก็มาบอกว่าให้ปรองดองกันเถอะ ถ้าพวกท่านมาอยู่จุดเดียวกับพวกตนบ้างพวกท่านจะยอมหรือไม่ ดังนั้นวันนี้หากกล่าวหาว่าพวกตนเป็นผู้ก่อการร้าย พวกท่านก็เป็นฆาตกร

“พวกตนนำอาวุธมาไว้ที่วัดปทุมวนารามเพื่อให้พวกท่านมายิงพวกตนตายอย่างนั้นหรือ ภาพจากวัดนั้นที่นายสุเทพบอกว่าเป็นวันที่20พ.ค.เเต่มีพยานในวัดกว่าสามพันคนและพระในวัดอีดหลายรูป ท่าทีของนายกฯในเรื่องนี้ไม่เป็นมิตรเลย นายกฯบอกกับครม.ว่า กาชาดนำอาหารเข้าไป แต่เราไม่ต้องนำอาหารเข้าพื้นที่ชุมนุมและทำให้ผู้ชุมนุมออกมาแล้วต้องนำกลับบ้านได้”นายจตุพรกล่าว

ส่วนการเผาศาลากลางจังหวัดนั้นมีสี่แห่ง แล้วทำไมห้างสรรพสินค้าในกทม.ธนาคารกรุงเทพและกสิกรไทย อาคารมาลีนนท์ จับแมวที่ไหนได้ไหม รัฐประโคนข่าวว่าเสื้อแดงมีก่อการร้ายด้วย การเผาเซ็นทรัลเวิลด์ผ่านมาสิบกว่าวันแล้วทำไมจับคนร้ายไม่ได้ สงสัยว่าเผากันเองแล้วยัดเยียดข้อหาเหมือนในวัดปทุมวนาราม นายกฯมีอำนาจเต็มไปหมด พวกตนโดนจับดำเนินคดีข้อหาก่อการร้าย เพราะบอกให้ผู้ชุมนุมไปศาลากลางจังหวัด แต่ไม่เข้าข่ายจึงยัดอาวุธ หากมีอาวุธทำไมพวกตนตาย78คน

นายจตุพรกล่าวว่า ขอถามนายกฯและนายสุเทพว่า ทุกศพที่เสียชีวิตทำไมไม่เข้าสู่การชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายอาญา ความตายของทหารและประชาชนนั้น ทำไมไม่ชันสูตรว่าเสียชีวิตเพราะอะไร เพราะพวกท่านต้องการหลบข้อหาฆาตกรใช่หรือไม่ จึงมาใช้ข้อหาก่อการร้ายและล้มล้างสถาบันกับพวกตน ทหารแตงโมบอกตนว่ารถหุ้มเกราะที่นำมาใช้นั้นนำมาเก็บศพด้วย ส่วนกรณีพระที่มาชุมนุมนั้น มาขอบิณฑบาตชีวิตแต่กลับมาจับสึกและคุมขังเลยด้วยตำรวจและทหาร ส่วนส.ว.ที่มาคุยนั้นยังไม่ทันไร นายกฯก็สั่งการแล้ว

ปฏิบัติการนั้นเวลาฆ่าประชาชนก็มีข่าวว่ารองนายกฯโดนยิงบ้าง ทำแบบนี้เพื่อเบนความสนใจ ถามว่าคนที่เสียชีวิตนั้นหากเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วกระทรวงพัฒนาสังคมฯจ่ายเงินให้ทำไม และไปสอบถามสำนักพระราชวังแล้วหรือไม่ แต่พระองค์ท่านทรงมอบให้เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน แต่รัฐบาลพูดหลังความตายว่า ผู้ก่อการร้ายฆ่านักข่าวต่างประเทศ ประชาชนบริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ปอเต็กตึ๊ง

แผนปรองดองนั้น นายกฯควรเริ่มที่ตัวเองก่อนและจะเชื่อได้อย่างไรว่าคนที่นายกฯแต่งตั้งจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และจะไม่เหมือนกรณีสปก.4-01 ช่องหอยม่วงเช่นกัน ต้องการให้เมืองไทยมีทีวีแห่งความตายหรือ เพราะการปิดกั้นสื่อระวังจะเป็นเหมือนรวันดาและเหมือนเหตุการณ์6ต.ค.2519 ภูมิใจกับคำว่าพวกตนพาคนมาตายโดยพวกท่านฆ่าใช่หรือไม่ ข้อหาก่อการร้ายคือข้อหาภัยสังคมในสมัยก่อน บ้านเมืองจะอยู่แบบนี้หรือ ขอบอกไปยังนายกฯและนายสุเทพด้วยเพราะตนอภิปรายด้วยหัวใจและความรู้สึก เสรีภาพของตนจะมีไม่กี่วันก็ไม่เป็นไร แต่รัฐบาลจะไล่ล่าและกดหัวประชาชนนั้นจะทำได้นานเท่าใด ตนไม่หวังว่าการอภิปรายจะเกิดการเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่นายจตุพรอภิปรายนั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคน ประท้วงนายจตุพรเป็นระยะในเรื่องผิดข้อบังคับการประชุม ข้อ 61 ทำให้การอภิปรายของนายจตุพรสะดุดเป็นช่วง ๆ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=450865&lang=T&cat=

Thailand in Crisis - vodcast (ep 1): Nicholas Farrelly, Andrew Walker



ANUchannel — May 28, 2010 — Andrew Walker and Nicholas Farrelly analyse the latest news from Thailand including the red shirt protests and Thaksin Shinawatra being charged with terrorism, as well as the inequality in Thai society, in the first Thailand in Crisis vodcast from The Australian National University.

Over the next six weeks, the ANU College of Asia and the Pacific will bring you Thailand in Crisis -- a series of six vod and podcasts released each Friday and beginning on 28 May. The vodcast will be available for viewing on ANUchannel at YouTube, while the podcast will be available for download from iTunesU.

The show is presented by Nicholas Farrelly, a researcher in the Australian Research Council Centre of Excellence in Policing and Security at ANU, and a co-editor of New Mandala -- the popular blog on south Asia politics and culture. Over the six weeks, Farrelly will be joined by a number of other commentators who will provide their thoughts on the evolving situation in Thailand.

ของฝากจากพลทหารมะโหนก8

http://www.youtube.com/watch?v=iAV8gVZsOSU

Statement: War Crimes Expert Joins Investigation of Bangkok Deaths - Robert Amsterdam

Statement: War Crimes Expert Joins Investigation of Bangkok Deaths - Robert Amsterdam


หนาว!! ผู้เชี่ยวชาญอาชญากรสงครามตกลงร่วมทีม เอาผิดอภิสิทธิ์สังหารประชาชน...
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
31 พฤษภาคม 2553

รายงานจากเว็บไซต์โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม สำนักงานทนายความระดับโลก ซึ่งพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้ร้องขอให้มาช่วยงานประชาธิปไตยในไทย ได้เปิดเผยเมื่อวันนี้ว่า (31 พ.ค.) ผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายอาชญากรสงครามระหว่างประเทศ ได้ตอบตกลงเข้ามาร่วมทีมสืบสวนเหตุการณ์การเข่นฆ่าประชาชนที่มาประท้วงเรียก ร้องประชาธิปไตยในไทย

ผู้เชี่ยวชาญระดับชาติเกี่ยวกับการดคีความ อาชญากรสงคราม ศาสตราจารย์ จีเจ อเล็กซานเดอร์ นู๊ป ได้ตกลงเข้าร่วมทีมกฏหมายของสำนักงานทนายความโรเบิร์ด อัมสเตอร์ดัม แล้ว เพื่อที่จะดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์ที่รัฐบาลไทยได้ทำการสังหารผู้เรียกร้อง ประชาธิปไตยกว่า 80 ศพ ระหว่างเดือนเมษา และเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ศาสตร์จารย์ Knoops จากบริษัท Knoops & Partners คือเจ้าหน้าที่ระดับโลกในกรณีคดีอาชญากรสงคราม คดีอาญาที่รัฐกระทำต่อประชาชน และคดีการเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธู์ เขาได้ทำงานในคดีต่างๆก่อนหน้านี้ ได้แก่คดีอาชญากรรมสงครามในยูโกสลาเวีย กรณีอาชญากรรมในประเทศรวันด้า รวมไปถึงศาลพิเศษใน Sierra-Leone ซึ่งก่อตั้งโดยสหประชาชาติเพื่อพิจารณาคดีความในกรณีความผิดอันร้ายแรงต่อ มนุษยชาติอันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 1996

Former Bosnian Serb Leader-Radovan Karadzic is assisted with his brief case as he appears in court at the international criminal tribunal for the former Yugoslavia (ICTY) in the hague.

รายงานระบุว่า ทั้งอัมสเตอร์ดัมและนู๊ปได้ทำงานร่วมกันมานานแล้ว นายอัมสเตอร์ดัมยังได้ระบุว่า รัฐบาลทหารของไทยยังไม่หยุดยั้งการกดขี่ปราบปรามต่อประชาชนของตน มีประชาชนอย่างน้อย 140 คนถูกจับกุม ส่วนมากถูกควบคุมตัวมากกว่าหนึ่งสัปดาห์โดยปราศจากการตั้งข้อหาใดๆ และถูกปฏิเสธไม่ให้มีทนาย ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานมนุษยชนและกฏหมายระหว่างประเทศ รัฐบาลทหารนายอภิสิทธิ์ยังได้ละเมิดกฏบัตรสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและข้อ ตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนานาชาติและสิทธิ์ของประชาชนของประเทศตน

ภาย ในแถลงการณ์ดังกล่าวได้ระบุว่าผู้จับกุมทั้งหมดซึ่งประกอบไปด้วยแกนนำคน เสื้อแดง คณาจารย์ (หมายถึงอ.สุธาชัย) การ์ด และคนเสื้อแดงอื่นๆ ซึ่งถูกจับกุมและคุมตัวไว้ในที่ต่างๆ

"การที่กองทัพไทยใช้อาวุธ เป็นการละเมิดหลักพื้นฐานของสหประชาชาติในการใช้อาวุธโดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ กฏหมายปี 1990 มติดังกล่าวได้ผ่านการลงมติในการประชุมครั้งที่แปดของสหประชาชาติในกรณีการ ป้องกันการก่ออาชญากรรมและหลักการปฏิบัติของฝ่ายโจมตี ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1990" นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมกล่าว.


• RT@Haptz: เวลา 7.12 pm. ทางCNN จะเอาข้อมูลลับการสังหารปชช.ในวัดปทุมมาเปิดเผย และเป็นข้อมูลที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน รอดูกันครับ
• about 1 hour ago via TweetDeck • chaturon จาตุรนต์ ฉายแสง Twitter

สมาคมโลกวิชาชีพผู้ก่อการร้ายโลก ประท้วงรัฐบาลไทย

สมาคมวิชาชีพผู้ก่อการร้ายโลก ประท้วงรัฐบาลไทย
Yesterday at 10:56 pm

KANDAHAR (VNN News) - World Terrorists Association (WTA) protests Thai Govt. for defaming terrorist profession.

Mahmud Bin Laden, spokesman of World Terrorists Profession (WTP) officially condemned Thailand’s self-proclaim that the Red Shirt Protestors, who occupied the business center of Bangkok, are terrorists. In his press conference, he said “It’s hilarious for Thai Government to make its own claim that these unsophisticated laymen are terrorists. And what’s with rocks and slingshots? Maybe Thai Government is out of touch, they may not be aware that the world has developed more powerful weapons than rocks and slingshots?”

The spokesman further points out that this self claim by Thai Government has downgraded the good name of the terrorist profession. Finally he suggested Thai Government to spare some budget to send these Thai amateurs for further training at WTP campus in Kandahar bordering Afghanistan, so Thailand can in the future claim its own professional terrorists.

_________________
ท้องทะเลและมหาสมุทร ไม่เคยปราศจากคลื่นฉันใด
มนุษย์อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน โดยความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ย่อมสร้างผลกระทบต่อสังคมได้ฉันนั้น

จำนวนข้อความ: 2305
Registration date: 28/06/2008

Re: สมาคมวิชาชีพผู้ก่อการร้ายโลก ประท้วงรัฐบาลไทย
Yesterday at 10:57 pm

กันดาหาร (สำนักข่าววีเอ็นเอ็น) – สมาคมวิชาชีพผู้ก่อการร้ายโลก ประท้วงรัฐบาลไทย ที่แอบอ้างว่า เสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย ทำให้วิชาชีพผู้ก่อการร้ายเสื่อมเสีย

นายมาหมุด บิน ลาเดน โฆษกสมาคมวิชาชีพผู้ก่อการร้ายโลก ได้กล่าวประนามรัฐบาลไทย ที่ได้แอบอ้างว่า กลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดง ที่ยึดศูนย์ธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ เป็นผู้ก่อการร้าย ในการแถลงข่าว นายลาเดนได้กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องน่าขันที่รัฐบาลไทยแอบอ้างเองว่า ชาวบ้านธรรมดาเหล่านี้เป็นผู้ก่อการร้าย เขาเหล่านั้นจะเป็นผู้ก่อการร้ายได้อย่างไร ด้วยก้อนหินและที่ยิงหนังสติ๊กนี่หรือ หรือว่า รัฐบาลไทยขาดการติดต่อกับโลกภายนอก จนไม่รู้ว่า ได้มีการพัฒนาอาวุธอื่นที่มีอานุภาพมากกว่าก้อนหินและที่ยิงหนังสติ๊ก

โฆษกคนเดียวกันได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า การแอบอ้างของรัฐบาลไทยถือเป็นการดูถูกชื่อเสียงอันดีงามของวิชาชีพผู้ก่อการร้าย ท้ายสุด เขายังได้แนะนำต่อรัฐบาลไทยให้จัดงบประมาณส่วนหนี่งเพื่อส่งผู้ก่อการร้ายมือสมัครเล่นเหล่านี้ ให้ไปรับการฝึกอย่างจริงจัง ที่มหาวิทยาลัยของสมาคมฯที่เมืองกันดาหาร ชายแดนติดกับประเทศอัฟกานิสถาน เพื่อประเทศไทยจะได้มีผู้ก่อการร้ายมืออาชีพของตัวเองในอนาคต

_________________

วันอาทิตย์, พฤษภาคม 30, 2553

รายงาน การเยี่ยมแกนนำนปช.ที่ค่ายนเรศวรวันนี้

วันจันทร์, พฤษภาคม 31, 2010
thaienews.blogspot.com
ข่าวสาร เกี่ยวกับประเทศไทยที่คุณไม่ อาจหาอ่านได้จากสื่อ 'บากบั่นอดทน เราผองชนต้องบรรลุชัย สู้ พ่ายแพ้ สู้ใหม่ พ่ายแพ้ สู้ใหม่ จนชัยได้มา'-'วีรชนปฏิวัติ' จิตร ภูมิศักดิ์

รายงาน การเยี่ยมแกนนำนปช.ที่ค่ายนเรศวรวันนี้
โดย lady007
30 พฤษภาคม 2553

วันนี้ใส่เสื้อแดงไปตามนโยบายอาทิตย์สีแดง กรุ๊ปเราไปกัน 8 คน วัยสาวน้อยและหนุ่มน้อยทั้งนั้น ไปถึงก็เอาบัตรประจำตัวไปลงทะเบียน จากนั้นก็รอเวลาเยี่ยม บรรดาสาวน้อยด้วยความตื่นเต้นก็เข้าห้องน้ำไปคนละหลายรอบ ตำรวจน่ารักดีนะคะ มีแซวด้วยว่านี่ตำรวจไม่ใช่ทหาร พอถึงคิวเยี่ยมเค้าจะให้ขึ้นรถขนาดรถสองแถวใหญ่คันหนึ่งประมาณเกือบ 50 คน (มีคันเดียว พอไปส่งเที่ยวแรกก็กลับมารับรอบสองไปส่งพร้อมกับรับรอบแรกกลับ)

เจอพี่ชายคุณเต้นด้วยชื่อคุณต้น และอีกคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอก็คือ ส.ศิวลักษณ์ ไปเยี่ยมรอบเดียวกัน เค้าไปเยี่ยมหมอเหวง เลยทำให้ไม่มีใครเข้าไปเยี่ยมเต้นท์หมอเหวง

น้อง นปกก็ไปเยี่ยมพ่อเต้นด้วยนะ คุณเต้นมีสาวๆกอดเยอะ อะอะอย่าอิจฉาเลย เพราะถ้าคุณไปเยี่ยมก็ได้ไหล่กระทบไหล่เหมือนกัน

การเยี่ยมแบ่งเป็น รอบละ 10 นาที แบ่งเป็นสองช่วงคือช่วงเช้าและช่วงบ่าย ของเราเป็นช่วงเช้าคือสิบโมงเช้าถึงเที่ยง เป็นรอบที่สามของช่วงเช้า ตอนที่รถรับเรากลับมา ก็เอารอบสี่ไปส่งต่อ พอกลับมาถึงด้านหน้าก็มีรอบห้ารออยู่ สรุปตอนเรากลับมีทั้งหมดห้ารอบ (รับแขกกันไม่หวาดไม่ไหว55) ตอนลงทะเบียนเยี่ยมกรุ๊ปเราก็แยกกันลงทะเบียนตามชื่อแกนนำให้ครบทั้งแปดคน เค้าจะได้ออกมานั่งรอพร้อมกันตามเต๊นท์ก็จะมีชื่อแกนนำเขียนกำกับไว้ พร้อมตัวแกนนำเป็นๆนั่งอยู่ พอเดินเข้าไปก็เดินเยี่ยมแกนนำได้ทุกคนตามใจชอบ ดูจากหน้าตาทุกคนสบายดีค่ะ

เหล่าชาวเสื้อแดงคุยกันโขมงโฉงเฉง มีความสุขเมื่อได้อยู่ในกลุ่มพวกเรา เพราะพวกเราพูดภาษาเดียวกัน นั่งด่าสมมาร์ค ด่ารัฐบวมส์กันตลอดทางที่ร่วมรถขนส่งของทหารอย่างมีความสุข
พี่ ผู้หญิงที่นั่งมาคันเดียวกันดูอารมณ์ดีมากมาย มีบอกว่าพวกเราพกอาวุธมาด้วย เก็บมาตั้งนาน ตั้งแต่ยังเป็นไข่เน่าจนเป็นไข่เน๊าเน่า พอถึงที่หมาย(จุดที่ส่งพวกเราไปเยี่ยมแกนนำ)พี่แกก็ร้องว่า เอ้าถึงราชประสงค์แล้วลงได้

ญาติได้เยี่ยมนานกว่าคนอื่นนะคะ เพราะตอนเราออกมาพี่คุณเต้น ลูกคุณเต้น ภรรยาคุณวีระ และญาติคนอื่นๆก็ยังอยู่ต่อนะคะ

เรื่องอาหารมีคนหอบหิ้วกันไปเยอะ บางคนก็เอาบะหมี่ เห็นเป็นห่อๆไปให้แกนนำด้วย

ตอนนี้มีการ์ดอยู่สาม คน สองคนโดนส่งฟ้อง ตอนนี้อยู่เรือนจำคลองเปรมแล้ว ถามตำรวจแล้วเค้าบอกว่าเอาของไปฝากได้ ให้แจ้งตำรวจที่ดูแลตรงนั้นเค้าจะเอาไปให้ เยี่ยมได้ด้วย แต่ไม่รู้ชื่อ การ์ดตัวอวบๆหน่อยไม่รู้ชื่อ เค้าสบายดี ไว้คราวหน้าไปจะเอาของไปเยี่ยม ถ้าใครไปก่อนเราก็เอาไปเยี่ยมเค้าแล้วกัน

การ์ดนปช. ที่เจอ เค้าบอกว่าสบายดีคะ แต่ออกจะเหงาหน่อยเพราะไม่ค่อยมีคนไปเยี่ยม ส่วนสิ่งของต้องห้ามไปเยี่ยมคือ 1. ขวดภาชนะที่ทำด้วยแก้ว และโลหะทุกชนิดเช่น แบรนด์รังนก เอ็ม150 กระป๋องนม แต่เป็นกล่องกระดาษได้ 2. กล้องถ่ายรูป 3. โทรศัพท์มือถือ

คุณขวัญชัย ยังเหมือนเดิม แต่กำลังใจดีมาก วันพระไม่ได้มีหนเดียว

Always on my mind: ภาพแห่งความทรงจำวันสุดท้ายอาเสธ.แดง 13May2010


You're always on my mind: Elvis Presley

ภาพแห่งความทรงจำวันสุดท้ายอาเสธ.แดง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ที่วัดปทุมวนาราม ถ่ายภาพโดย พลทหารมะโหนก พรรคขัตติยะธรรม

2010.05.19 Someone is there? Shoot them up; said soldiers: ทหารสั่งการ "มีคนยิงเลย"



prachatai — May 28, 2010 — Vedeo footage from FoxTV on May 19, 2010. Show that soldiers open fire on red-shirt protesters at their tires barricade near Saladaeng junction and Rama IV rd. In this clip soldier said "Someone is there? Shoot them up".

Comments on You Tube
• guwn010 1 day ago
ขึ้นฟ้า... ฟ้าระดับหว่างคิ้ว -.-*

• thitachotikarn 1 day ago
อาวุธของทหารที่เอามาเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ดูที่ นาทีที่ 1.15 ทหารไทยใจถึงสุดยอดเลว

• hazzzd 1 day ago
when soldiers say "get out of here" , has anyone listen ?

• 2010bellbell 1 day ago
ทหารสั่งการ "มีคนยิงเลย"
ทหารคนทีพูด เลวสุดๆๆๆ บ้า!!!!!!!!!!!!!!!

คั่นรายการ: "ฟอร์บส" จัดอันดับบริษัทที่มีชื่อเสียงมากสุดในโลก (World′s Most Reputable Companies) ประจำปี 2553

วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16:03:29 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"ฟอร์บส" เปิดโผสุดยอดบริษัทชื่อดังระดับโลก

"ฟอร์บส" จัดอันดับบริษัทที่มีชื่อเสียงมากสุดในโลก (World′s Most Reputable Companies) ประจำปี 2553 โดยมีรายชื่อบริษัท 28 รายที่ทำคะแนนดีที่สุด จากการสำรวจ 600 บริษัทขนาดใหญ่สุดในแต่ละประเทศ โดยวัดจากรายได้ ซึ่งผู้บริโภคใน 24 ประเทศ ตั้งแต่บราซิล สหรัฐ สเปน จนถึงเกาหลีใต้ จะโหวตให้คะแนนในด้านต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์และบริการ นวัตกรรม สถานที่ทำงาน บรรษัทภิบาล การเป็นพลเมือง ผลประกอบการ และความเป็นผู้นำ

ผลการจัดอันดับ พบว่า "กูเกิล" ยักษ์ไอทีจากอเมริกันครองแชมป์ด้วยคะแนนสูงสุด 78.62 ตามมาด้วย "โซนี่" บิ๊กอิเล็กทรอนิกส์จากญี่ปุ่นที่ได้คะแนน 78.47 ส่วนอันดับ 3 คือ "วอลต์ ดิสนีย์" ตามด้วยบริษัทจากเยอรมันในอันดับ 4 และ 5 "บีเอ็มดับเบิลยู" และ "เดมเลอร์"

สำหรับที่เหลือในท็อป 10 ได้แก่ แอปเปิล (อันดับ 6) โนเกีย (7) ไอเกีย (8) โฟล์คสวาเกน (9) อินเทล (10)

ฟอร์บส ระบุว่า บริษัทที่ติดอันดับท็อปในทำเนียบนี้ทำคะแนนได้ดีเหมือนๆ กันในเรื่องหนึ่ง นั่นคือนวัตกรรม "แคสเปอร์ นีลเส็น" จาก Reputation Institute ซึ่งร่วมจัดอันดับครั้งนี้ ระบุว่า นวัตกรรมเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเข้าถึงผู้บริโภค

โดยกูเกิลและโซนี่สร้างชื่อจากการที่ผู้บริโภคยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งเข้าถึงชีวิตของผู้คน และทั้ง 2 บริษัทต่างก็คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่คิดไปข้างหน้าที่ทำให้ประทับใจทั้งในแง่ อารมณ์และเหตุผล

ด้านแอปเปิล ไอเกีย และอินเทล ก็ชนะใจผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย โดยแอปเปิลสามารถขายไอแพดได้ 1 ล้านเครื่อง หลังจากเปิดตัวในร้านค้าปลีกเพียง 28 วัน ขณะทีไอเกียก็ปฏิวัติธุรกิจตกแต่งบ้าน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยและราคาเอื้อมถึง ส่วนอินเทลก็ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพื่อช่วยให้คอมพิวเตอร์และรถยนต์ทำงานได้ อย่างมีพลัง.

เผยชีวิตเหยื่อสลายม็อบ-สดุดีลั่นงานศพ: นาทีตาย โดนส่อง หัว-ท้อง

วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7122 ข่าวสดรายวัน

เผยชีวิตเหยื่อสลายม็อบ-สดุดีลั่นงานศพ
นาทีตาย โดนส่อง หัว-ท้อง
จาก เผยชีวิตเหยื่อสลายม็อบ-สดุดีลั่นงานศพ(19พค53)
ภาพร่วม อาลัย - ญาติและเพื่อนๆ ร่วมพิธีเผาศพนายพรสวรรค์ นาคะไชย อายุ 23 ปี ที่วัดป่าอัมไพร วัล จ.ร้อยเอ็ด ผู้ชุมนุมที่ถูกยิงตายระหว่างการสลายม็อบบริ เวณบ่อนไก่ กทม. มีผู้ว่าฯ ส.ส. และกลุ่มนปช.ไปร่วมงานจำนวน มาก

สลด อีก 4 ชีวิตเหยื่อกระชับพื้นที่ รายแรกเป็นหนุ่มหนองคายทำงานเป็นหัวหน้ารปภ. ช่วงออกพื้นที่ตรวจลูกน้องถูกลูกหลงตายคาแยกมักกะสัน หนุ่มเมืองสองแควที่เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณราช ประสงค์ถูกยิง สำหรับพนักงานโรงแรมย่านสุขุมวิทถูกยิงเจาะท้องถูกตับฉีกขาดบริเวณบ่อนไก่ ส่วนหนุ่มเมืองช้างอาชีพขับแท็กซี่ถูกยิงเจาะหัวที่แยกศาลาแดง เป็นวันเดียวกับที่เสธ.แดงถูกยิง ญาติรับศพกลับบ้านเกิดระหว่างรดน้ำศพ เสื้อแดงเมืองช้างยกย่อง "วีรชนสุรินทร์" สละชีวิตเพื่อประชาธิปไตย

เมื่อ วันที่ 29 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 133 ม.10 บ้านร่องายง ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของนายสุพจน์ ยะธิมา อายุ 37 ปี หนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมชุม นุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณราชประสงค์ และถูกยิงเสียชีวิต ต่อมาได้มีพิธีเผาศพที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายในบ้านพบนางหลั่น สุขคำภา อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายเฝ้าบ้านเพียงลำพัง

นางหลั่นกล่าวว่า นายสุพจน์เป็นลูกเขย แต่เดิมเป็นคนจ.ลำพูนได้มาแต่งงานอยู่กินกับนางสุมิตรา ยะธิมา อายุ 33 ปี ลูกสาวมานาน โดยมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนหลังนี้ตั้งแต่แรก ปกติเวลาอยู่บ้านคนตายจะมีอาชีพทำไร่ทำนาและรับจ้างทั่วไป ก่อนหน้าที่ลูกเขยจะเสียชีวิตได้พาลูกชายตนไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านเกิด จ.ลำพูน และกลับมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.

"ต่อมาวันที่ 30 เม.ย. ลูกเขยได้เดินทางไปหาน้าสาวที่กรุงเทพฯ โดยดิฉันไม่ทราบว่าไปทำ งานอะไรแต่มีญาติโทร.คุยกันทราบว่าไปเป็นยามเพิ่งไปอยู่ได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น กระทั่งมาเสียชีวิต ส่วนตัวไม่รู้มาก่อนว่าลูกเขยได้เข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยทางบ้านไม่มีใครทราบเลย

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนาง สุมิตรา ยะธิมา อายุ 33 ปี ภรรยานายสุพจน์ ซึ่งทำงานอยู่ในร้านขายส่งขนมกิจทวี ภายในตลาด สดนครไทย ที่ยังสวมเสื้อสีดำไว้ทุกข์ให้กับสามี กล่าวว่า ตนทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่ร้านนี้มานานแล้ว ก่อนที่จะแต่งงานกับนายสุพจน์ หลังแต่งงาน อยู่กินด้วยกันจนมีลูกชาย 1 คนชื่อ ด.ช.ภูวดล ยะธิมา เรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านป่าซ่าน ต.บ้านพร้าว ส่วนสามีเดินทางไปๆ มาๆ กรุง เทพฯได้ประมาณ 1 ปี ครั้งล่าสุดมาทำงานเป็นยาม และได้ส่งเงินมาให้ทางบ้านทุกเดือน เพราะเงินที่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และนำไปใช้หนี้ที่กู้ธ.ก.ส.มา 100,000 บาท นางสุมิตรากล่าวต่อว่า ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าสามีไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง กระทั่งมาทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาบอกที่บ้านในช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าสามีถูกยิง หลังรับทราบ ช่วงเย็นจึงรีบเดินทางเข้ากรุงเทพฯพร้อมกับญาติทันที ส่วนศพสามีถูกยิงเข้าที่ศีรษะ หลังจากจัดพิธีเผาเสร็จ เบื้องต้นได้รับเงินช่วยเหลือจากสำนักพระราชวังจำนวน 50,000 บาท ได้แบ่งเงิน 2 ส่วน ให้พ่อแม่สามี และตนกับลูก โดยแบ่งกันฝ่ายละ 25,000 บาท

"ส่วนจากนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การดูแลและช่วยเหลืออีกเลย ซึ่งที่ผ่านมาได้ยื่นหลักฐานให้กับทางเจ้าหน้าที่บ้านราชวิถีเอาไว้เท่านั้น ก่อนเดินทางกลับบ้านเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ได้มาทำงานที่ร้านขายส่งขนมที่เคยอยู่มานานนับ 10 ปี ได้ค่าจ้างวันละ 150 บาท ตอนนี้รอว่าจะมีหน่วยงานใดมาให้การช่วยอีกหรือไม่" ภรรเหยื่อปืน กล่าว

วันเดียวกัน นางสำลอง รูปคม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 บ้านนางาม ต.ศรีสำราญ อ.พรเจริญ จ.หนองคาย มีศักดิ์เป็นพี่ภรรยาของนายมนูญ ท่าลาด อายุ 44 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างมีการชุมนุมของคนเสื้อแดง กล่าวว่า นายมนูญบ้านเดิมอยู่ที่อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ได้เดินทางไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และได้พบกับนางผ่องใสน้องสาวตนซึ่งไปทำงานโรงงานเย็บผ้าที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้แต่งงานอยู่กินจนมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นชายอายุ 21 ปี ส่วนคนเล็กเป็นหญิงกำลังเรียนชั้นม.1 อยู่ที่อ.พรเจริญ ทั้งสองได้ฝากลูกไว้ให้ตนเลี้ยงดู ส่วนทั้งสองคนทำงานที่กรุงเทพฯ สำหรับนายมนูญเป็นหัวหน้ารปภ.ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ส่วนน้องสาวทำงาน อยู่โรงงานเย็บผ้า พอช่วงเทศกาลสำคัญจะพากันกลับมาเยี่ยมลูก

นางสำลองกล่าวต่อว่า ได้เคยสอบถามน้องสาวเคยไปชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ น้องสาวบอกว่าไม่เคยไป ส่วนนายมนูญไปหรือไม่นั้นไม่ทราบ เพราะทำงานกันคนละเวลา คนหนึ่งทำงานเช้าอีกคนทำงานกลางคืน จึงไม่ค่อยได้เจอกันต่างคนต่างทำงาน วันเกิดเหตุเป็นช่วงที่นายมนูญไปทำงานตามปกติ ได้ออกตรวจพื้นที่ดูลูกน้องบริเวณแยกมักกะสัน พอถูกยิงคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ร้องตะโกนว่าตำรวจถูกยิง เพราะนึกว่านายมนูญซึ่งแต่งเครื่องแบบรปภ.เป็นตำรวจ อีกทั้งเป็นวันเดียวกับที่เสธ.แดงถูกยิงด้วย

นางสำลองกล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อเช้าตรู่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา นางผ่องใสได้โทรศัพท์มาบอกตนว่านายมนูญถูกยิงเสียชีวิต หลังรู้ข่าวแทบช็อก จึงได้พาญาติอีกจำนวนหนึ่งเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่าศพนายมนูญถูกยิงเข้าที่ขมับซ้าย 1 นัด ขณะที่ยังสวมเครื่องแบบรปภ. จากนั้นเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ได้นำศพไปฌาปนกิจที่วัดจอมทอง เขตบางขุนเทียน ท่าม กลางความเสียใจของญาติพี่น้อง

"ในวันงานได้มีนายไตรรงค์ ติธรรม และนายยุทธพงศ์ แสงศรี ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย นำเงินมาช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ทางบริษัทที่นายมนูญทำงานได้มอบเงินมาช่วยอีก 20,000 บาท โรงงานเย็บผ้าของนางผ่องใสช่วยอีก 10,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับเงินช่วยเหลือจากสำนักพระราชวัง และจากตัวแทนของพ.ต.ท.ทักษิณ อีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ภรรยาผู้ตายอยู่ระหว่างเดินเรื่องขอรับเงินจากรัฐบาล และสำนักงานประกันสังคม โดยประมาณเดือนมิ.ย.จะนำกระ ดูกของนายมนูญมาทำบุญและเก็บไว้วัดที่บ้านนางามแห่งนี้ ส่วนน้องสาวหลังเสร็จงานจะกลับมาทำนาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านเช่นเดิม"

จาก เผยชีวิตเหยื่อสลายม็อบ-สดุดีลั่นงานศพ(19พค53)
ภาพเหยื่อ ปืน- นางพลอน ขบวนงาม และนางสุดารัตน์ จันทพันธ์ แม่และเมียนายชาติชาย ชาเหลา อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้ชุมนุมนปช.ที่ถูกยิงตายบริเวณแยกศาลา แดง กรุงเทพฯ นั่งเศร้าหน้าศพที่นำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จ.สุรินทร์

วัน เดียวกัน เวลา 13.30 น. ที่วัดป่าเจ้าคุณเพลินธรรมราม บ้านเจ้าคุณ หมู่ 3 ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้มีชาวบ้านและกลุ่มนปช.คนเสื้อแดง ประจำท้องถิ่น 500 คน เดินทางมาร่วมรับศพนายชาติชาย หรือยศ ชาเหลา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 บ้านเจ้าคุณ ซึ่งเคลื่อนย้ายศพจากกรุงเทพฯกลับมาภูมิลำเนาบ้านเกิด เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.นี้ โดยนายชาติชายเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเสียชีวิต บริเวณศาลาแดง เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในพิธีได้มีนางพลอน ขบวนงาม อายุ 52 ปี มารดา และนางสุดารัตน์ จันทพันธ์ ภรรยาให้การต้อนรับแขกที่เดินทางมาร่วมงาน ก่อนจะนำศพนายชาติชาย ชาเหลา ขึ้นศาลาการเปรียญ พร้อมประกอบพิธีรดน้ำศพ โดยศพของนายชาติชายอยู่ในสภาพสวมเสื้อยืดนปช.สีแดง นุ่งกางเกงยีนสีน้ำเงิน มีผ้าพันรอบศีรษะ และพันที่ขาซ้าย ห่มด้วยผ้าแพรสีแดง โดยใช้ธงชาติคลุมร่าง สร้างความโศกเศร้าของหมู่ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ นอกจากนี้ทุกคนได้ส่งเสียงตะโกนว่า "วีรชนสุรินทร์ สละชีวิตเพื่อประชาธิปไตย"

นางพลอนกล่าวว่า ได้แต่งงานใช้ชีวิตคู่กับนายชัยยา ชาเหลา มีลูกด้วยกัน 3 คน นายชาติชายคนตายเป็นลูกคนโต ในระหว่างที่ลูกอายุได้ 2 เดือน สามีได้มาหย่าร้างแยกทางกัน โดยนายชาติชายเป็นลูกที่เลี้ยงง่าย อุปนิสัยโอบอ้อมอารี ชอบทำกับข้าวให้แม่และน้องทานบ่อยๆ ความฝันของลูกยศ คืออยากมีบ้าน และรถยนต์

ต่อมาลูกชายได้ทำงานรับจ้างขับรถแท็กซี่ ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2549 และได้แต่งงานอยู่กินกับนางสุดารัตน์ จันทพันธ์ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยฝ่ายภรรยาสาวทำ งานรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าที่กรุงเทพฯ

ด้านนางสุดารัตน์ กล่าวว่า หลังใช้ชีวิตคู่สมรส สามีได้เช่าซื้อรถแท็กซี่มา 1 คัน ราคา 900,000 บาท เมื่อช่วงปี 2551 สามีได้เข้าร่วมอุดมการณ์กับกลุ่มนปช.คนเสื้อแดง ร่วมชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าฯ และที่ราชประสงค์ นอกจากนี้ ตนยามว่างเว้นจะไปร่วมชุมนุมกับสามีเป็นครั้งเป็นคราว และเมื่อรัฐบาลประกาศขอคืนพื้นที่ จึงได้เตือนสามีให้ระวังตัว กระทั่งวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเสธ.แดงถูกยิงที่ศาลาแดง แต่เวลาคนละช่วงในเวลา 21.00 น.สามีถูกยิงด้วยอาวุธปืนความเร็วสูงเจาะที่ขมับขวา 1 นัด และถูกยิงซ้ำเข้าที่ขาซ้าย 2 นัด สิ้นใจตายในที่เกิดเหตุ

"สำหรับ การช่วยเหลือครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเงินช่วยเหลือจำนวน 50,000 บาท และจากพรรคเพื่อไทย 100,000 บาท พร้อมค่าขอย้ายศพ 20,000 บาท จากนปช. 15,000 บาท" ภรรยาเหยื่อปืนกล่าว

นาง สุดารัตน์กล่าวต่อว่า จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือครอบครัว เนื่องจากสถานะความเป็นอยู่ยากจน สามีเป็นเสาหลักหาเงินมาเลี้ยงดูแม่ ตา ยาย วัย 85 ปี ซึ่งร่างกายพิการ อีกทั้งตอนนี้ตั้งท้องได้ 2 เดือนแล้ว ไม่รู้จะคิดถึงอนาคต แต่ต้องเข้มแข็งสู้ชีวิตเพื่อเลี้ยงลูกให้เติบโต

ทาง ด้านนางกาญจนา เพ็ชรวิเศษ ปลัดอาวุโสอำเภอปราสาท กล่าวว่า เป็นตัวแทนนายอำเภอปราสาท พร้อมปกครองอำเภอนำพวงหรีดร่วมงานบำเพ็ญกุศล จากการสอบถามครอบครัวทราบว่าทางครอบครัวได้ทำเรื่องขอความช่วยเหลือจากกรม พัฒนาสังคมแล้ว หากยังไม่ทำเรื่องทางอำเภอจะประสานให้

วันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 18 บ้านหนอง โน ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของนายพรสวรรค์ นาคะไชย อายุ 23 ปี ที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมบริเวณบ่อนไก่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา มีนายหนึ่งฤดี นาคะไชย อายุ 25 ปีพี่ชาย ได้กล่าวว่า นายพรสวรรค์น้องชาย หลังจากจบชั้นม.3 จากโรง เรียนบ้านหนองโน ได้เดินทางไปหางานทำที่กรุงเทพฯในตำแหน่งพนักงานโรงแรมไฟวิ่งกรุง เทพโฮเต็ล ย่านสุขุมวิท โดยน้องชายชื่นชอบกลุ่มคนเสื้อแดงมากได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน และวันหยุดจะไปร่วมชุมนุมตลอดเวลากับเพื่อนๆ และนายเอกชัย นาคะไชย อายุ 28 ปี พี่ชายคน ที่สองซึ่งไปรับจ้างทั่วไปที่ตลาดบางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยวันเกิดเหตุน้องชายได้ไปคนเดียวและถูกยิงเข้าที่ช่องท้องจนตับฉีกขาด และหน้า อกซ้าย ถูกนำตัวส่งร.พ.เลิดสินและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นาย หนึ่งฤดีกล่าวต่อว่า ญาติๆ ได้นำศพไปฌาปนกิจที่วัดป่าอัมไพรวัลย์ บ้านเกิด เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก อาทิ นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายอำเภอหนองพอก กลุ่มนปช.แดงร้อยเอ็ด และแดงภาคอีสานกว่า 1 พันคน ทั้งนี้มีตัวแทนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นำเงินมาทำบุญด้วย 1 แสนบาท จากผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด 2 หมื่นบาท และกลุ่มนปช.แดงอีก 1 หมื่นบาท

"รู้สึก เสียใจมาก ไม่คิดว่าจะสูญเสียน้องชายไปเร็ว เห็นกันอยู่หลัดๆ เหมือนฝันไป ช่วงสงกรานต์กลับบ้านมาเล่นด้วยกัน และยังไปส่งที่กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 10 เม.ย. และเดินทางกลับบ้านในวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังรู้ข่าวแม่ถึงกับช็อกเป็นลมล้มพับ หลังโรงพยาบาลเลิดสินโทร.มาเมื่อเวลา 17.00 น. ว่าน้องถูกยิงอาการ 50-50 และครั้งที่สองเวลา 19.00 น.ได้เสียชีวิตแล้ว น้องชายเป็นคนดีรักครอบครัว ทำงานได้เงินมาจะแบ่งส่งมาให้ช่วยสร้างบ้านจนแล้วเสร็จและยังส่งค่าใช้จ่าย ให้ทุกเดือน เดือนละ 2 พันบาท" พี่ชายเหยื่อปืน กล่าว

ด้านนางสะ กัน นาคะไชย มารดา กล่าวว่า ได้รับเงินช่วยเหลือจากสำนักพระราชวัง 5 หมื่นบาท รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หาที่สุดมิได้ สำหรับลูกชายคนนี้ตนเสียใจมากที่ต้องสูญเสียเขาไปเนื่องจากเป็นคนดี รักแม่ รักครอบครัว

หน้า 1

คลิบนี้เหนือคำบรรยาย ตอน1: Troops Advance on Red Center in Day of Violence, Bangkok, May 19, 2010 P...



tbmpvideo — May 22, 2010 — Leaders of the anti-government protests that have paralysed the heart of Bangkok for weeks have surrendered, after troops stormed their barricades.

At least five people have been killed in the gun battles in the Thai capital, and the demonstration leaders said they did not want anyone else to die.

But some of the so-called red-shirt protesters vowed to fight on.

Fires were started across the city, including at the stock exchange, banks, a huge shopping mall and a TV station.

The Thai government imposed a night-time curfew and ordered television channels to broadcast only official-sanctioned programmes.

Videographer's Note: These are currently being annotated - so come back again to see more information on screen. If you would like to help with translation from Thai to English, are genuinely fluent, you can do so by providing me with the start and stop time of the comments you are viewing and a word by word, sentence by sentence translation.

These events are chronological and this is a roughly edited sequence of events, as they unfolded. If you have any contribution to make or corrections concerning location and events, please use the comments and I'll respond to you. Note also, despite the heat of events on the ground, I have made an effort to be impartial. If some of the opposing sides are not represented, it was simply because I had no access to them.

You are free to comment, but note that personal attacks, obscenities, simple negative or positive comments will not be posted. Please make a well reasoned argument and not a partisan attack, you'll get posted. Otherwise not. I apologize in advance, remarks concerning the role of the monarchy in Thailand are not possible to post here, as the current law in Thailand prohibits the free discussion of the subject.

คลิบนี้เหนือคำบรรยาย ตอน2: Troops Advance on Red Center in Day of Violence, Bangkok, May 19, 2010 P...



tbmpvideo — May 23, 2010 — Leaders of the anti-government protests that have paralysed the heart of Bangkok for weeks have surrendered, after troops stormed their barricades.

At least five people have been killed in the gun battles in the Thai capital, and the demonstration leaders said they did not want anyone else to die.

But some of the so-called red-shirt protesters vowed to fight on.

Fires were started across the city, including at the stock exchange, banks, a huge shopping mall and a TV station.

The Thai government imposed a night-time curfew and ordered television channels to broadcast only official-sanctioned programmes.

Videographer's Note: These are currently being annotated - so come back again to see more information on screen. If you would like to help with translation from Thai to English, are genuinely fluent, you can do so by providing me with the start and stop time of the comments you are viewing and a word by word, sentence by sentence translation.

These events are chronological and this is a roughly edited sequence of events, as they unfolded. If you have any contribution to make or corrections concerning location and events, please use the comments and I'll respond to you. Note also, despite the heat of events on the ground, I have made an effort to be impartial. If some of the opposing sides are not represented, it was simply because I had no access to them.

You are free to comment, but note that personal attacks, obscenities, simple negative or positive comments will not be posted. Please make a well reasoned argument and not a partisan attack, you'll get posted. Otherwise not. I apologize in advance, remarks concerning the role of the monarchy in Thailand are not possible to post here, as the current law in Thailand prohibits the free discussion of the subject.

คลิบนี้เหนือคำบรรยาย ตอน3: Troops Advance on Red Center in Day of Violence, Bangkok, May 19, 2010 P...



tbmpvideo — May 23, 2010 — Leaders of the anti-government protests that have paralysed the heart of Bangkok for weeks have surrendered, after troops stormed their barricades.

At least five people have been killed in the gun battles in the Thai capital, and the demonstration leaders said they did not want anyone else to die.

But some of the so-called red-shirt protesters vowed to fight on.

Fires were started across the city, including at the stock exchange, banks, a huge shopping mall and a TV station.

The Thai government imposed a night-time curfew and ordered television channels to broadcast only official-sanctioned programmes.

Videographer's Note: These are currently being annotated - so come back again to see more information on screen. If you would like to help with translation from Thai to English, are genuinely fluent, you can do so by providing me with the start and stop time of the comments you are viewing and a word by word, sentence by sentence translation.

These events are chronological and this is a roughly edited sequence of events, as they unfolded. If you have any contribution to make or corrections concerning location and events, please use the comments and I'll respond to you. Note also, despite the heat of events on the ground, I have made an effort to be impartial. If some of the opposing sides are not represented, it was simply because I had no access to them.

You are free to comment, but note that personal attacks, obscenities, simple negative or positive comments will not be posted. Please make a well reasoned argument and not a partisan attack, you'll get posted. Otherwise not. I apologize in advance, remarks concerning the role of the monarchy in Thailand are not possible to post here, as the current law in Thailand prohibits the free discussion of the subject.

วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:49:48 น. มติชนออนไลน์

เพื่อไทยเปิด 5 พยาน ยิงวัดปทุมฯ ขู่งัดภาพ-คลิป โยงไอ้โม่งเป็นทหาร แฉกลางสภา อ้างมีเหยื่อสูญหาย 39 คน

โฆษกเพื่อไทย แฉไอ้โม่งเป็นทหาร

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีการสลายการชุมนุมและภาพประชาชนที่ถูกยิงในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนำพยาน 5 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์มาร่วมแถลง ข่าวประกอบด้วย นายณรงค์ศักดิ์ สิงห์แม พยานที่ถูกยิงที่ต้นขาซ้าย นางสายัณ สิงห์แม นายศักดิ์นรินทร์ สิงห์แม ชาวจังหวัดขอนแก่น นายสุริยา สวัสดี ชาวจ.ชลบุรีและนางสุภาพร มนตรี ชาวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมทั้งนำคลิปวีดีโอ รวมทั้งภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวัดปทุมช่วงเย็นภายหลังที่รัฐบาลสลาย การชุมนุม กลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณสี่แยกราชประสงค์ มาประกอบการแถลงข่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดทำเนียบรัฐบาลชี้แจงกับคณะทูตานุทูตและสื่อต่างประเทศว่ารัฐบาลมีความ ชอบธรรมในการปราบปรามสลายการชุมนุม โดยอ้างว่ามีกลุ่มติดอาวุธหรือไอ้โม่งแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ตนอยากถามว่าทำไมรัฐบาลไม่เคยจับตัวไอ้โม่งได้เลยและเอาแต่ตั้งธงว่าไอ้โม่ง เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง เหมารวมว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งข้อกล่าวหานั้นตนมีข้อมูลทั้งรูปถ่ายและคลิปวีดีโอยืนยันว่าไอ้โม่งเป็น ทหาร โดยมีภาพไอ้โม่งถือปืนเอ็ม 16 ยืนคู่กับทหาร ซึ่งภาพเหล่านี้พร้อมจะนำไปโชว์ในสภาด้วย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีภาพทหารอยู่เต็มพื้นที่บนดาดฟ้าตึกชาญอิสระพร้อมอาวุธครบมือ เป็นปืนไรเฟิลเป็นสไนเปอร์ที่มีใช้เฉพาะทหารหน่วยกองพันจู่โจม สังกัดรบพิเศษที่ขึ้นตรงกับผบ.ทบ. โดยหน่วยนี้นอกจาก ผบ.ทบ.แล้วจะไม่มีใครสามารถเรียกใช้งานได้เพราะต้องใช้ลายเซ็นผบ.ทบ.เท่า นั้น ซึ่งเป็นภาพก่อนการเสียชีวิตของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก นอกจากนี้ยังมีภาพเหตุการณ์ที่ทหารจับกุมคนเสื้อแดงทั้งชายและหญิงมามัดมือ มัดเท้าและปิดตา รวมทั้งคลิปที่ทหารจับชายคนหนึ่งมัดมือ มัดเท้าและให้นอนราบลงบริเวณข้างวัดปทุมฯ รวมทั้งภาพที่ทหารจับกุมตัวพระสงฆ์ไปคุมขังในเรือนจำแดนต่างๆ

“รัฐบาลชุดนี้ยังเป็นชาวพุทธอยู่หรือไม่ รัฐบาลใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คุกคามละเมิดสิทธิ์ประชาชน บ้านเมืองถูกปกครองโดยรัฐบาลอภิทธิ์ชน ผมดูภาพดูคลิปแล้วต้องหลั่งน้ำตาที่คนไทยด้วยกันทำกันถึงขนาดนี้ ขอฝากกลอนไว้บทหนึ่งว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ชน ทำดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ คนเจ็บถูกใส่ร้าย คนตายถูกกล่าวหา คนสั่งฆ่ายังลอยหน้า คนฆ่าประชาชนยังลอยนวล” นายพร้อมพงศ์กล่าว

เรียกร้อง องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องว่านายอภิสิทธิ์ ควรจะให้องค์กรระหว่างประเทศที่มีความเป็นอิสระเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะถ้ารัฐบาลตั้งหน่วยงาน คณะกรรมการอิสระหรือว่าองค์ใดๆเข้ามาตรวจสอบจะทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะ ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากองค์กรที่เข้ามาอาจจะไม่มีความเป็นกลางหรือเป็นคู่ขัดแย้งกับ ประชาชน วันนี้ต้องยอมรับว่าคนกลางไม่มีแล้วในประเทศไทย เพราะว่าคนกลางกลายเป็นคนกลัว คนกลางกลายเป็นคนเลือกข้าง ดังนั้นจึงน่าจะให้องค์กรระหว่าสงประเทศเข้ามาตรวจสอบ ดังนั้นรัฐบาลควรจะพิสูจน์ว่ามีความจริงใจอย่างที่พูดจริงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายพร้อมพงศ์ได้นำภาพพระสงฆ์ที่ถูกจับกุมและคลิปวิดีโอเหตุการณ์ภาย ในวัดปทุมฯช่วงเย็นวันที่ 19 พฤษภาคมโดยมีนายณรงค์ศักดิ์ พยานที่ถูกยิงที่ต้นขาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยนายณรงค์ศักดิ์ได้อธิบายเหตุการณ์ในคลิปวีดีโอไปด้วยว่า ช่วงเย็นของวันที่ 19 พฤษภาคมตนและประชาชนจำนวนมากได้เข้าไปหลบในวัดปทุมฯโดยคิดว่าน่าจะมีความ ปลอดภัยเนื่องจากเป็นเขตอภัยทานแต่ปรากฏว่าทหารยิงเข้าใส่ประชาชน ตนเองถูกยิงที่ต้นขาและยังมีคนเสียชีวิตภายในวัดอีกหลายคน

นายพร้อมพงศ์กล่าวเสริมว่า กรณีที่มีการเสนอข่าวคนตายภายในวัด 6 ศพความจริงมีมากกว่านั้น โดยนายศักดิ์นรินทร์ บุตรชายนายณรงค์ศักดิ์เห็นเหตุการณ์ว่ายังมีอีก 3 ศพที่ทหารแย่งเอาศพไป ซึ่งนายศักดิ์นรินทร์ กล่าวยอมรับว่าเหตุการณ์กล่าวเป็นความจริงตามที่นายพร้อมพงศ์กล่าว

เหยื่อสูญหาย 39 ราย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ประชาชนที่ถูกมัดมือมัดเท้าและถูกทหารจับตัวไป และยังตามตัวไม่พบ จนมีการร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่างๆ ซึ่งทราบว่าขณะนี้มีจำนวนถึง 39 คนนั้น อยากถามว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน เสียชีวิตแล้วหรือยัง ขอให้รัฐบาลออกมาแถลงให้ชัดเจน เนื่องจากญาติพี่น้องของเขาเหล่านั้นมาร้องเรียนถามหาที่พรรคเพื่อไทยอย่าง ต่อเนื่อง แม้จะมีการไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ดูเหมือนจะถูกปิดข่าว พร้อมทั้งบอกปัดให้ไปแจ้งที่ดีเอสไอแทน

ด้านนางสุภาพร มนตรี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช พยานในเหตุการณ์ยิงประชาชนในวัดปทุมฯ เปิดเผยว่า ภาพที่พรรคเพื่อไทยนำมาแถลง ที่มีชายแต่งชุดทหารเล็งปืนใส่ประชาชนในวัดปทุมฯเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ภาพตัดต่อ เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์เห็นกับตาว่าประชาชนที่หลบกระสุนปืนเข้าไปอยู่ในวัด นั้น เป็นประชาชนมือเปล่า ไม่มีอาวุธ ไม่มีปืนเอ็ม 79 นอกจากทหารเท่านั้นที่ถือปืน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกสะเทือนใจ โดยเฉพาะที่รัฐบาลกล่าวหาประชาชนว่ามีอาวุธนั้น ถือว่าโกหก


ชัยลั่น เปิดคลิปได้หรือไม่ขึ้นกับคณะกรรมการฯ

ขณะที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยังไม่ได้ยื่นคลิปและเอกสารหลักฐานที่จะใช้ประกอบ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อคณะกรรมการตรวจสอบคลิปวิดีโอว่า เป็นสิทธิของส.ส.ที่จะเสนอคลิปมายังคณะกรรมการทั้ง 9 คนเมื่อใดก็ได้ ซึ่งอาจจะเสนอในวันอภิปรายก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ ในส่วนของระยะเวลาในการตรวจสอบคลิปคงต้องแล้วแต่คณะกรรมการจะพิจารณา ถ้ามีความเห็นอย่างไร ถ้าเสียงข้างมากให้ใช้ได้ ก็จะเสนอมายังตน และตนก็จะอนุญาตให้เปิดในห้องประชุมได้ ถ้าคณะกรรมการฯไม่อนุญาตให้เปิดตนก็ไม่สามารถอนุญาตให้เปิดได้เช่นเดียวกัน ยืนยันว่าก่อนการเปิดคลิปทุกครั้งต้องผ่านคณะกรรมการก่อน จะมาลักไก่ขอเปิดระหว่างการประชุมไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากมีการยื่นคลิปดังกล่าวในเวลากระชั้นชิดจะอนุญาต เปิดได้หรือไม่ นายชัยกล่าวว่า คงแล้วแต่คณะกรรมการฯว่าอนุญาตให้เปิดหรือไม่ หรือถ้าคณะกรรมการฯไม่มีความเห็น แต่ให้ประธานสภาฯชี้ขาดประธานสภาฯก็ไม่สามารถอนุญาตได้ หรือถ้ามีการยื่นระหว่างที่มีการอภิปรายก็ต้องรอให้คณะกรรมการฯตรวจสอบก่อน โดยอาจจะมีการพักการประชุมหนึ่งชั่วโมง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไร ยืนยันว่าประธานในที่ประชุมต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่เอนซ้าย เอนขวา จะทำอะไรต้องคำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่ เพื่อให้การอภิปรายอยู่ในกรอบ ระเบียบ รวมทั้งให้คนไทยทั้งชาติให้มาดูและร่วมรับฟัง ไม่ใช่ให้มาดูคนทะเลาะกัน

จตุพร มีสิทธิอภิปรายเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบการอภิปรายทั้งสองวันจะใช้เวลาเท่าไหร่ นายชัย กล่าวว่า คงใช้เวลาประมาณ 26 ชั่วโมง ยืนยันว่าการอภิปรายใช้เวลาเพียงวันเดียวก็จบ เพราะไม่เห็นมีอะไรมากมาย ถามว่าทุจริตมันทุจริตอะไร ก็พูดกันไป มีเอกสารอ้างอิงหรือไม่ แต่ถ้าพูดใส่ไคร้ไม่มีหลักฐาน เขาก็สามารถดำเนินคดีฐานทำให้เขาเสียหาย อย่างไรก็ตามคนที่จะโกงเขาก็กลัวคุกหมือนกัน “โธ่..เอ้ย เรื่องเหล่านี้ เรื่องที่ใส่ไคร้กัน คนขนาดเป็นรัฐมนตรีถ้าโกงให้เขารู้และจับได้ก็โง่เต็มทนแล้ว” เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามีการโกงเกิดขึ้นจริง นายชัย กล่าวทีเล่นทีจริงว่า ก็เหมือนกับตัวเรา ถ้าโกงแล้วให้เขาจับได้ก็เหมือนกัน

ส่วนกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เขามีสิทธิ์ในการอภิปรายเต็มที่ ซึ่งการพูดในสภาและนอกสภาคนละเรื่องกัน เพราะการพูดนอกสภาเป็นกฎเกณฑ์ของเขาเอง แต่ในสภาจะมีข้อบังคับ และประธานสภามีหน้าที่ควบคุม ซึ่งใครพูดวกวนพูดใส่ไคร้คนอื่นก็มีข้อบังคับ ไม่ให้พูดได้ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยถูกเพ่งเล็งในการ อภิปรายครั้งนี้ นายชัย กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไรทั้งสิ้น เพราะตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรีเป็นแค่ประธานสภา ถ้าสภายุบเราก็ไป กรณีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยก็พูดเก่ง พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยเรียกไปติวนั้น นายชัย กล่าวว่า ไม่จริง เพราะนายเนวินไม่เกี่ยวข้องในสภา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1275202366&grpid=00&catid=

Wanna Buy an AK-47? Vanguard : ซื้อปืน AKที่ทำใน Mogadishu, Somalia ง่ายจริงๆ



Current — May 25, 2010 — Kaj Larsen and Chritsof Putzel venture to a gun market in Mogadishu, Somalia, and discover how easy it is to buy an AK-47 machine gun. "Vanguard," airing weekly on Current TV Wednesdays at 10/9c, is a no-limits documentary series whose award-winning correspondents put themselves in extraordinary situations to immerse viewers in global issues that have a large social significance.

Watch new episodes of VANGUARD
Wednesdays at 10/9c on Current TV

http://current.com/shows/vanguard/

Thailandia - L'arresto di una Camicia Rossa a Bangkok



pupiaTv — May 19, 2010 — http://www.pupia.tv - Thailandia - L'arresto di una Camicia Rossa a Bangkok (19.05.10)

ได้ยินคำสุดท้ายของผู้กระทำว่า "อยู่ดีๆไม่ชอบ ไอ้สัตว์"!

ขอพูดแทนคนที่ถูกกระทำว่า "กูก็อยู่ของกูดีๆ มึงมาทำร้ายกูทำไม ไอ้เหี้ย"!!

Red-Shirt Leaders Surrender As Government Troops Storm Barricades: สาวแกร่งเสื้อแดงคนสุดท้าย ที่นั่งรอทหารหน้าเวทีราชประสงค์

สาวแกร่งเสื้อแดงคนสุดท้ายที่นั่งรอทหารหน้าเวทีราชประสงค์

สาวแกร่ง น.ส พสดี นามขำ สาวเสื้อแดงหายลึกลับ
Sun, 05/30/2010 - 08:52 | by Bor-Gor
สาวแกร่งเสื้อแดงคนสุดท้ายที่นั่งรอทหารหน้า เวทีราชประสงค์
ขณะนี้ญาติยังตามตัวไม่พบและไม่ทราบชะตากรรม
เธอเป็นหนึ่งในผู้หายสาปสูญจำนวนมากในเหตุการณ์สลายการชุมนุม
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53

Title: Red-Shirt Leaders Surrender As Government Troops Storm Barricades

Caption: BANGKOK, THAILAND - MAY 19: A red shirt anti-government protester sits down on a chair at the main rally site inside the red shirt anti-government protesters' camp after Thai military forces dispersed protesters on May 19, 2010 in Bangkok, Thailand. At least 5 people are reported to have died as government forces sought to overrun barricades raised in and around the city centre by anti-government protestors. Red-shirt leaders have now surrendered, ending their blockade in the aftermath of a sixth day of violence, leaving the army in control and a night time curfew to be imposed. (Photo by Paula Bronstein /Getty Images)

Date created: 19 May 2010 Editorial image #: 99988270 Photographer: Paula Bronstein/Staff Collection: Getty Images News
Credit: Getty Images

Comment #437171 by Bor-Gor | Sun, 05/30/2010 - 08:55
อีกข่าว อ่านแล้วสลดหดหู่ใจยิ่ง
"รุมกรี๊ดอภิสิทธิ์ สาวแห่เชียร์ปราบแดง"
กลุ่มเฟซบุ๊คแห่กรี๊ด อภิสิทธิ์ ลั่นทำเนียบมอบดอกไม้ให้กำลังใจ....
จากไทยรัฐวันนี้ครับ
สาวเฟซบุ๊คนี่เป็นพวกเดียวกับพธม เสื้อเหลืองใช่มั้ยครับ?
ตอนโบว์กับจ๊าบตายแค่ 2 คน บาดเจ็บไม่เท่าไหร่ โห ดราม่ากันทั้งเมือง
ถุยส์ นี่หรือที่รณรงค์คิดบวกน่ะ ให้กำลังใจที่นายกฯ ปราบคนเสื้อแดง

Comment #437173 by Chaiworamon | Sun, 05/30/2010 - 09:11
ดูท่าทาง หน้าตา รูปแบบการนั่งของเธอนั่ง...ดุจ "รูปปั้นอนุเสาวรีย์"
ขอยกย่องในความกล้าหาญของนักรบแดง ทุกๆคน
ขอเปลี่ยนชื่อของสี่แยกนี้ จาก "สี่แยกราชประสงค์"
เป็น "สี่แยกพสดี นามขำ" เพราะเป็นสี่แยกของเธอจริงๆ ที่กล้าหาญ
นั่งรอความตาย จากสิ่งที่ชั่วร้าย อย่างไม่สะพรึงกลัว
(กรณีนี้ "สูญหาย" มีความหมายเป็นไปอย่างอื่นไม่ได้)

Comment #437178 by Bor-Gor | Sun, 05/30/2010 - 09:07
เราต้องกดดันทุกวิถีทาง โดยเฉพาะผ่านองค์กรสิทธิมนุษยชนหรือ
นิรโทษกรรมสากลในต่างประเทศ ให้รัฐบาลเปิดเผยว่า
บุคคลที่สูญหายนั้น รัฐบาลจับกุมคุมขังไปไว้ที่ไหน หรือเสียชีวิตไปแล้ว
ถ้าเช่นนั้น ศพไปอยู่ที่ไหน ใครเป็นคนกระทำ อย่าบอกอีกนะว่า
กลุ่มชายชุดดำติดอาวุธสังหาร แล้วนำศพไปทำลายทิ้ง
หรือจับไปเป็นตัวประกัน ทางการไม่รู้ไม่ชี้...
โกหกกับอีพวกสาวเฟซบุ๊คหน้าโง่ อยากมีผัวทหาร...
ย้ำว่าต้องทหารใจสัตว์...เพราะอีพวกนั้นชอบเอากะสัตว์...
ไม่ชอบ เอากะคน...แต่โกหกต่างประเทศไม่ได้

Comment #437233 by mario | Sun, 05/30/2010 - 10:41
ใช่ครับ เราต้องช่วยกันกดดันให้ นานาชาติเข้ามาพิสูจน์ความจริงร่วมกัน
และพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ไม่ใช่ปล่อยรัฐออกข่าว
ยัดเยียดอาวุธให้แดงฝ่ายเดียว เพื่อรัฐจะได้เบี่ยงเบนปัดความรับผิดชอบ
อยากให้ทุกๆคนช่วยกันส่งรูปและข้อความขอความช่วยเหลือไปทาง
องค์กรสิทธิ มนุษยชนโลก ไม่ใช่ในไทย
เพราะองค์กรของไทยนั้นล้วนเป็นขี้ข้า ซึ่งอำมาตย์จัดตั้งไว้สิ้น
ส่งไปให้ นสพต่างชาติทุกชาติเท่าที่ส่งได้ พร้อมรูปต่างๆด้วย
*** รูปข้างบน เธอนั่งสง่าดุจแม่ทัพที่ไม่เกรงกลัวศัตรูเลย ***
ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเธอด้วย

Comment #437180 by sri123 | Sun, 05/30/2010 - 09:09
รู้สึกเศร้าใจกับภาพข่าวมากมาย ทั้งปิดตาฆ่า
ทั้งฆ่าในเขตอภัยทาน หรือ ศพเกลื่อนกลาดที่ราชปรารภ
ภาพนี้ก็เป็นอีกภาพ ที่คิดถึงแล้วทำให้น้ำตาซึมค่ะ

Comment #437188 by crackedheel | Sun, 05/30/2010 - 09:15
ถ้าเธอหายไป รัดทะบานต้องรับผิดชอบ
เพราะภาพปรากฏชัดเจน ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
จนกระทั่งทหารเข้ามาถึงเวทีราชประสงค์แล้ว
และถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ รัดทะบานต้องด้วยว่า
เธออยู่ที่ไหน โดนละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
ที่ไม่สามารถแม้จะติดต่อญาติให้ได้รับรู้

Comment #437192 by Bor-Gor | Sun, 05/30/2010 - 09:20
มีภาพใน getty image อยู่ภาพนึง ผมเห็นภาพคุณพสดี
นั่งในท่านั้น มีทหารสวมผ้าพันคอหลายนายเดินเข้ามา
ถึงจุดที่เธอนั่งอยู่ เมื่อคืนนี้ดูอยู่เลย คิดว่าอาจจะเซฟไว้ในเน็ตบุ๊ค
แต่พอมาวันนี้เข้าไปดูจะเอามาเป็นหลักฐานว่าเธอไม่ได้
นั่งคนเดียว มีทหารเข้ามาถึงตัวแล้ว
ภาพนั้นก็หายไปซะเฉยๆ ใครพอจะผ่านหูผ่านตาบ้างครับ

Comment #437196 by Bor-Gor | Sun, 05/30/2010 - 09:26
ในภาพถ่ายนี่ไฟยังไม่ไหม้ CTW ใช่มั้ยครับ ผมกลัวจริงๆ
กลัวว่าเธอจะถูกจับกุมตัวมัดมือไปรวมกันที่ลานจอดรถ
เออ..คิดแง่บวกดีกว่า คิดว่าเธอคงถูกนำตัวไปกักขังไว้
ที่ค่ายทหารที่ใดที่หนึ่ง องค์กรนิรโทษกรรมสากลเข้ามาเร็วๆ
หน่อย ก่อนที่หลักฐานเบาะแสต่างๆ จะหายไปตลอดกาล

รู้สึกจะมีผู้ชายอีกคนนอนอยู่ข้างๆ ด้วยนะ แต่รูปนี้เท่สุดๆ
http://www.gettyimages.com/detail/99988270/Getty-Images-News

Comment #437207 by Ha Ha Ha | Sun, 05/30/2010 - 09:51
ผมเคยได้ดูคลิป คงเป็นเวลาเดียวกันกับในรูปนั่นแหละ
เห็นตอนที่เธอพูดกับคนที่อยู่ในคลิป เธอถามว่า
"มีคนในเซ็นทรัลฯออกมาหมดหรือยัง
เธอทราบว่ามีแม่บ้านอยู่ในนั้น ตอนที่ไฟกำลังใหม้
ขนาดชีวิตของเธอเองยังไม่ห่วงเลย
นับถือน้ำใจเธอจริงๆ ขอให้เธอปลอดภัยครับ

Comment #437214 by RoppongiHills | Sun, 05/30/2010 - 09:59
แต่อีกหลายๆภาพถัดมา ผู้ชายที่นอนอยูข้างๆเธอนั้นไม่อยู่แล้ว
เหลือเธอยังคงนั่งอยู่คนเดียว ตอนนั้นทหารคงเข้ามาใกล้เต็มทีแล้วแน่ๆ

Comment #437217 by terbut | Sun, 05/30/2010 - 10:09

ตอนนี้ ไม่มีใครทำอะไรได้ถนัด มีแต่พรรคเพื่อไทย และบ้านเลขที่ 111
ที่พอจะเคลื่อนไหว ให้การช่วยเหลือพวกเราได้
ช่วยตามหาคนเหล่านี้ให้ด้วยครับ
ได้โปรดช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้พวกเขา
ให้ทราบแน่ชัด ว่าเขายังอยู่ หรือถูกฆ่าตายไปแล้ว

Comment #437231 by เกลอแก้ว | Sun, 05/30/2010 - 10:39
อยากทราบข่าวความคืบหน้าในการติืดตามเธอผู้นี้
ฝากนักการเมืองพรรคเพื่อไทยด้วยให้ช่วยติดตามเธอผู้นี้มาให้ได้
ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ ต้องตามมาให้ได้

Comment #437240 by easyboy | Sun, 05/30/2010 - 10:49
ขอภาวนาให้เธอ รอด และกำลังหนีอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ
แล้วไอ้ศูนย์รับแจ้งคนหายนี่ มันมีไม๊เนี่ย พรรคเพื่อไทย มีไม๊

Comment #437272 by NNANN | Sun, 05/30/2010 - 11:14
เธอหายไปไหน เห็นบอกว่ามีการบันทึกไว้โดย สำนักข่าว
ต่างประเทศหลายสำนักตรงกัน ว่าเธอเป็นเสื้อแดงคนสุดท้าย ๆ
หน้าเวที แต่จนบัดนี้ ญาติยังไม่ได้รับการติดต่อจากเธอ
อยากให้เป็น _butterfly effect_ เริ่มจากคนๆ นี้เลยก็ดีเหมือนกัน

Comment #437274 by kortoey | Sun, 05/30/2010 - 11:16
น่านับถือหัวจิตหัวใจในการต่อสู้ของเธออย่างมากๆเลยค่ะ
ขอภาวนาให้เธอรอดปลอดภัย และก็หวังว่า ทางพรรค เพื่อไทย
คงจะเร่งประสานหน่วยงาน เพื่อช่วยเหลือ และติดตามหาตัวเธอ
ให้พบเร็วๆนะคะ

Comment #437334 by ป้าหนูดา | Sun, 05/30/2010 - 12:05
ทหารนอนกันในเตนท์ แต่มีข่าวคนเสื้อแดงขโมยของในห้าง
มีการเผาCTW พนักงานดับเพลิงที่เรารู้จักคนนึงเข้าไปดับไฟ
โดนยิงที่หมวก โดนสอบสวนสามวัน แล้วโดนย้ายไปอยู่บางชัน
ตอแหลแลนด์

ยังคาใจที่ CTW Sat, 05/29/2010 - 18:48 | by crystral
ห้างระดับนี้ มีระบบป้องกันไฟอย่างดี
แต่.... ไหม้รวดเร็วเหลือเกิน
เกิดอะไรขึ้นกับระบบดับเพลิง ... สปริงเกอร์
ใครสามารถเข้าไปในห้างได้ ใครสามารถปิดระบบดับเพลิงได้
ใครสามารถสร้างสถานการณ์ภายในห้างได้
ฉุกคิดกันบ้าง เผาจากข้างนอก ทำไม ไหม้ได้เร็วเหลือเกิน
แล้ว ทำไม เกษร โดนแค่หน้าประตู ทั้งๆที่ใกล้กว่า CTW

Comment #436197 by skypink | Sat, 05/29/2010 - 18:51
รัฐบาลมันสั่งตัดน้ำ...ตัดไฟ เพื่อให้ใครบางคน
กระทำการนี้โดยเฉพาะหรือเปล่า น่าสนใจ

Comment #436207 by yellowisbuffalo | Sat, 05/29/2010 - 18:56
งานนี้อาจอดได้ประกันคิดเอาเองละกันใครเผา

Comment #436329 by สรยู๊๊ด | Sat, 05/29/2010 - 19:49
น้ำเปล่าใช้ดับไฟจากน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้ ตัวสปริงเกิ้ลเขาเอาไว้
ดับไฟที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ใต้ถุนแม่งมีแต่น้ำมันเบนซิน
กับยางรถยนต์ ต่อให้รถดับเพลิงเข้าไปได้ยังดับไม่ทันเลย

Comment #436403 by skypink | Sat, 05/29/2010 - 20:12
อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ คือคนสุดท้าย...ของการสลายพื้นที่ของทหาร
ใช่ไหมคะ ใจเธอแกร่งจริงๆ ค่ะ

Comment #436864 by crackedheel
Sat, 05/29/2010 - 23:39 |
ผู้ชุมนุมคนสุดท้าย ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง

Comment #436931 by Bor-Gor | Sun, 05/30/2010 - 00:06
คงไม่เสียชีวิต อาจโดนจับหรือโดนส่งตัวกลับภูมิลำเนา
เพราะสื่อถ่ายภาพมาได้แบบนั้น เรื่องเพลิงเผาผลาญตึกใหญ่อย่าง ctw
ผมก็สงสัยนะ ตึกนี้ไม่ได้สร้างก่อนพรบ อัคคีภัย
จึงมีโครงสร้างแข็งแรง และติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย
การเผาธรรมดา ต่อให้ใช้ยางรถยนต์
ก็ไม่น่าสร้างความเสียหายจนอาคารถล่มพังลงมา
มันทำให้คิดว่า อาจมีการขนวัสดุไวไฟ น้ำัมันเชื้อเพลิง ฯลฯ
เข้าไปไว้ในแต่ละชั้น (ซึ่งใครน่าจะเป็นคนทำ
และต้องเตรียมการเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เข้าไปทางด้าน
รับส่งสินค้าหลังห้าง การเผาแบบนี้หวังผลให้เกิดความเสียหาย
กับโครงสร้างของ อาคารมากที่สุด มันมีเงื่อนงำอยู่
หวังว่าจะมีการตรวจสอบหาเบาะแสเชื่อมโยงกับการวางเพลิง
การวางเพลิงจากการจราจลมักจะไม่มีการเตรียมการเอาไว้
เป็นแบบเฉพาะหน้า ส่วนใหญ่ก็ไม่สร้างความเสียหายมากเท่าไหร่
แต่ถ้าเผาเพื่อทำลายหลักฐาน การเผาจะต้องมีปัจจัยหลายอย่าง
เข้ามาร่วมด้วย

Comment #437356 by Vahn Citis | Sun, 05/30/2010 - 12:35
ผมเขียนความเห็น "ทฤษฎีเผาเมืองแล้วโยนบาปให้แดง"
ตั้งแต่วันรุ่งขึ้น คือ ๒๐ พฤษภาคม ตามกระทู้นี้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น
ในฐานะวิศวกร ได้ไปดูความเสียหาย CTW มา พบว่า
ส่วนเสียหายหนัก คืออาคารเก่าที่ Zen อยู่ เพราะใช้พื้นอัดแรง
Post-tensioned Slabs ที่เป็น Unbonded
แบบเดิม เหล็กหมดสภาพ พื้นจึงยุบ แสดงว่า มีการเตรียมเผาแน่นอน
เพราะลำพังการเผายางอย่างเดียวไม่เพียงพอ
โดยเฉพาะถ้าสปริงเกอร์ทำงาน แสดงว่าอาจเป็นจริง
ที่มีการเผารอบสอง หลังจากสปริงเกอร์ไม่ทำงานแล้ว
ผมไปหาข้อมูลเรื่องประกันภัยจากสมาคมประกันวินาศภัย
ปกติ การประกันภัยสำหรับอาคารสาธารณะ จะมีสองระดับ
ประกันอัคคีภัย และประกันที่เรียกว่า IAR (Industrial All Risks)
ทั้งคู่นี้ไม่รวม ภัยธรรมชาติ ภัยจราจล ภัยก่อการร้าย

ส่วนใหญ่สรรพสินค้าประกันสองอย่างแรก หลัง 9/11 ที่เมกา
บริษัทประกันภัยถูกบังคับให้ยอมรับภัยก่อการร้าย จราจล
หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติเฉพาะอย่าง ใครจะทำก็ต้องทำเพิ่มเป็นพิเศษ
เครือเซ็นทรัลทั้งหมด เพิ่งทำคุ้มครองภัยก่อการร้ายและจราจล
เมื่อเดือนมกราคม ปีนี้เอง ถือว่าโชคดี เขาประกันคุ้มครองไว้ ๓๐๐ ล้าน
USD ทั้งหมด กับบริษัทไทยเศรษฐกิจประกันภัย
โดยส่วนใหญ่ (>95%) ส่งต่อ Re-insurance ต่างประเทศ
เป็นส่วนคุ้มครองเฉพาะ CTW ๑๐๐ ล้าน USD ส่วนที่เสียหาย
เป็นอาคารเดิมที่เป็นร้าน Zen อาคารที่สร้างใหม่และตึกสูง
รวมทั้งเซ็นทารา ไม่มีปัญหา ค่าเสียหายคุ้มครองอยู่ โดยปัญหาคือ
บ.Reinsurance ต่างประเทศ เขาต้องส่ง Surveyor มาตรวจสอบ
เพื่อทำ Loss Adjust ดังนั้น การที่ CTW ถูกไฟไหม้ครั้งนี้
ดูเหมือนเขาจะทำใจได้ง่ายกว่าเจ้าอื่นๆ แต่ให้ระวังเถิด
Reinsure ต่างประเทศเขาไม่ได้หมูอย่างที่คิด

==================
สร้างสถานการณ์เผาโยนบาปเสื้อแดง
==================
20 พฤษภาคม 2553

หลังแกนนำยอมแพ้ ช่วงประมาณครึ่งชั่วโมงนั้น ผมเองรู้สึกมีอะไรแปร่งๆ
เพราะฝ่ายรัฐบาลต้องรู้อยู่แล้วว่า ผู้ชุมนุมอาจคลุ้มคลั่งจนเผาทำลาย
อาคารต่างๆ ดังที่ฝ่ายแกนนำขู่ไว้ (จะบอกว่า ศอฉ.ไม่รู้ไม่ได้
เพราะยังเตรียมอัดคลิปขู่ของแกนนำ มาออกรายการในภายหลัง)
ถามว่า เมื่อรู้อยู่แล้ว และโดยที่รัฐบาลเองมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง
ทำไมไม่มีการเตรียมแผนป้องกัน การเผาอาคาร ขนานไปกับแผนการ
สลายมวลชนในช่วงนั้น ที่แน่ๆ คือ ดูเหมือนฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
จะแกล้งวางเฉย เหมือนจงใจปล่อยให้เผา ที่ผมเริ่มสงสัย เพราะทวีต
ของฝ่ายทหาร ออกมาคุยอวดว่า มีไส้ศึกทหารมากมายในกลุ่มผู้ชุมนุม
ผมเชื่อว่า เป็นการง่ายมากที่ไส้ศึกเหล่านี้ จะเป็นคนจุดชนวนและชักชวน
กลุ่มแดงที่กำลังเจ็บแค้นให้มาร่วมด้วย

ถามว่า การเผาบ้านเผาเมือง ใครได้ใครเสีย ตอบง่ายมากว่ารัฐบาลได้ไปเต็มๆ
เพื่อให้สมคำอ้างว่า พวกชุมสุมนี้เป็นผู้ก่อการร้าย มีการเตรียมพร้อมวางแผน
ล่วงหน้าเพื่อก่อให้เกิดการจราจล จึงสมควรแล้ว ที่ทหารจะใช้อาวุธสงคราม
แปลว่า แกนนำใช้เรื่อง "การเผาบ้านเผาเมือง" เป็นคำขู่ แต่ ศอฉ. กลับสรวมรอย
ตามน้ำไปเลย เพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้อาวุธสงครามในการปราบ
ประชาชน

ถึงตอนนี้ทุกคนอาจร้อง อ๋อ ว่าทำไมสื่อทุกช่องมาเล่นเรื่องความเสียหาย
จากการเผาตึก แทนที่จะพูดถึงผู้เสียชีวิตที่ตายอย่างโหด...ม
ด้วยอาวุธสงครามของทหาร แล้วท่านสงสัยมั้ยว่า ถ้าการเผาเกิดจากแดงแค้นจริง
ทำไมไม่เลือก เกษร พารากอน คิงพาวเวอร์ เอราวัณ แต่กลับไปเลือกเผา CTW
ที่เอื้ออารีให้ใช้ห้องน้ำ และชั้นใต้ดินเพื่อพักผ่อน แม้อาคารอื่นที่ถูกเผา
ส่วนใหญ่เป็นอาคารเก่า เช่น โรงหนังสยามที่กำลังจะหมดสัญญา
เซนเตอร์วัน แม้กระทั่ง จวนผู้ว่า แทนที่ฝ่ายบ้านเมืองจะพยายามปกป้อง
กลับปล่อยให้เผาโดยค่อนข้างอิสระ บางแห่งขอให้เผา"จวนหลังเก่า" ที่จะต้อง
รื้ออยู่แล้ว

จากเหตุผลเบื้องต้น "ทฤษฏีสร้างสถานการณ์เพื่อโยนบาปให้เสื้อแดง"
น่าจะมีมูล ขณะนี้บริษัทประกันภัยต่อ (Re-insurance) ต่างประเทศ
ที่รับประกันต่อจากบริษัทประกันภ้ยในไทย เริ่มสงสัยประเด็นนี้แล้ว
ว่าเป็นภ้ยจากการจราจล หรือ ภัยการก่อการร้ายจริงหรือไม่ หรือเป็นการ
สร้างสถานการณ์กันแน่

ที่มา:-
http://rajdumnern.ownforum.or
http://rajdumnern.ownforum.org/viewtopic.php?f=9&t=1706&start=0
http://www.gettyimages.com/detail/99988270/Getty-Images-News
http://www.prachataiboard.info
http://www.prachataiboard.info/board/id/47298
http://www.prachataiboard.info/board/id/47362
http://www.youtube.com/watch?v=9JImvU0ZXhE
http://www.youtube.com/watch?v=29yTzrj_bdA
http://www.youtube.com/watch?v=uXyeOk8G3EY
http://www.youtube.com/watch?v=Nzrl7Wb63hE
http://www.youtube.com/watch?v=NuCLcjRIbJc

วันเสาร์, พฤษภาคม 29, 2553

เส้นทางชีวิตเสธฯแดง content by VoiceTV



content by VoiceTV
14 พฤษภาคม 2553 เวลา 17:52 น

เส้นทางชีวิตของ เสธฯแดง พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล นายทหารที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมาโดยตลอด และถูกจับตามองจากสาธารณะชน

พลตรี ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เสธ.แดง เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเมื่อมีคดีความการรื้อบาร์เบียร์ย่านซอย สุขุมวิท 10 ซึ่งถูก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เสธแดง ที่ออกมาระบุ พล.ต.อ.สันต์ มีพฤติกรรมในการใช้อำนาจโดยมิชอบ

ทั้งนี้พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล เป็นชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2494 จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 11, และจบปริญญาเอก สาขาบริหารรัฐกิจ ของมหาวิทยาลัย NORTHERN PHILIPPINES และเข้ารับราชการเติบโตมาในสายทหารม้า เคยเป็นนายทหารติดตามของ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และเคยเป็นนายทหารคนสนิทของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก

ซึ่งบทบาททางการเมืองของพลตรีขัตติยะ แจ่มชัดขึ้น ในปี 2548 โดยได้วิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลายต่อหลายครั้งเรื่องปัญหาการฆ่าตัดตอนในสงครามกวาดล้างยาเสพติด แต่เมื่อมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พล.ต.ขัตติยะ ได้แสดงท่าทีและวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มพันธมิตรฯ นอกจากนี้ยังได้วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ในประเด็นเรื่องเขาพระวิหาร และการปล่อยให้พันธมิตรยึดสนามบินสุวรรณภูมิ จนกระทั่งถูกคำสั่งพักราชการในเดือนมกราคม 2553 ในข้อหาวิพากษ์วิจารณ์ผู้บังคับบัญชา

หลังจากนั้นพล.ต.ขัตติยะก็ได้ประกาศตัวว่าเป็น แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ และประกาศตัวด้วยว่าถ้าสามเกลอพลาดจะขึ้นเป็นแกนนำแทนด้วย นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ ได้มีแนวคิดจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ในชื่อ พรรคเสธ.แดง แต่ไม่ได้รับการรับรองให้จดทะเบียนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพราะชื่อบุคคลไม่สามารถนำมาตั้งชื่อพรรคได้ ซึ่งในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชื่อของพลตรีขัตติยะได้อยู่ในรายชื่อของผู้ก่อการร้าย และบุคคลที่ศอฉ.ต้องการตัวมากที่สุด ซึ่งสุดท้ายชีวิตของพล.ต.ขัตติยะอยู่ระหว่างเป็นตายเท่ากัน จากการถูกลอบยิงระหว่างการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศในสวนลุมพินี บริเวณแยกศาลาแดง เมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้

Adcharawan
Voice TV Reporter

Keyword : เสธฯแดง , พลตรีขัตติยะ , นายทหาร , การเมือง , การชุมนุม , ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก , พ.ต.ท.ทักษิณ

แด่ อาเสธ.แดง ด้วยความเคารพ...เหมือนคนละฟากฟ้า : ธงไชย แมคอินไตร์



แด่อาเสธ.แดง ด้วยความเคารพรักอย่างยิ่ง ขอให้อาไปสู่สรวงสวรรค์และหลับให้สบายตลอดไป

จาก...prapatsorn เกียกกาย 5873
http://board.sae-dang.com/

Seh Daeng@Thaikom 08April2010


ภาพถ่ายอาเสธ.แดง ที่ไทยคม ลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553

วันศุกร์, พฤษภาคม 28, 2553

Eric Clapton/Tears in heaven



aspirinsmoke — November 27, 2007 — 1999 live at Madison Square Garden, NewYork city

กุ้ง กิตติคุณ เชียรสงค์ - Tears in Heaven



แด่ น้องเดียร์ ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาวอาเสธ.แดง

น้องต้องพูดแทนคุณพ่อแล้วนะ

แด่...พี่น้องเสื้อแดงทุกท่าน...กาลเวลา : ธงไชย แมคอินไตร์



mahjungvdo — August 15, 2008 — กาลเวลา : ธงไชย แมคอินไตย์

แด่...พี่น้องเสื้อแดงทุกท่าน...จาก Seh Dang Hardcore

แด่ พี่น้องsehdaeng hardcore..



nongking720 — December 15, 2009 — http://www.thailovesong.com

แด่ พี่น้องsehdaeng hardcore.. รอวันฉันรักเธอ (คีรีบูน).wmv

มีดวงใจหนึ่งดวง จะมอบให้เธอไว้ครอง เมื่อยามสองเราต้องจากไกล
พาดวงใจ เลื่อนลอย ฝากบทเพลงบรรเลงให้ไว้ เธอโปรดเก็บใจเอาไว้เพื่อรอ
ฝากคำว่า คิดถึงให้เธออยู่เสมอ แม้ไม่ได้เจอฉันก็สุขใจ
หากชีวิตไม่สิ้น ฉันจะกลับเอารักมาให้ เธอโปรดจำไว้ วันที่ฉันรอ

แม้อยู่ห่างไกล ส่งใจถึงกันบ้าง อย่าให้อ้างว้างอยู่เดียวดาย...

แด่อาเสธ.แดง ..หากรัก(คีรีบูน)



nongking720 — December 16, 2009 — http://www.thailovesong.com

หากรัก เป็นเหมือนเมฆลอยไปในฟากฟ้า
กว้างไกลตา ไม่หวนมา ลมยังพาเมฆน้อยเลื่อนลอยไป

ดั่งฉัน มั่นหมายและปองเธอ ละเมอ เผลอรักหมดใจ
รักเธอเท่าไหร่ รักมากแค่ไหน โปรดอ่านใจของฉันดู....

หวังไว้ คงสักวัน อาจได้เจอ...

Red Shirt2010@Central World 2010 04 10


Red Shirt2010@Central World 2010 04 10 Slideโดย: Seh Daeng Hardcore* ภาพโดย: prapatsorn

Red Shirt2010@Silom&CW 2010 04 06 โดย: yoddoy ภาพจาก: พลทหารมะโหนก


Red Shirt2010@Silom&CW 2010 04 06 Slideโดย: yoddoy ถ่ายภาพ:พลทหารมะโหนก ดารานำ: Red Shirt & Friends

คำแปล_คำให้การของนักข่าว Tom Fuller พยานผู้เห็นเสธแดงถูกยิง WMV V9



comment on You Tube :
#phumipol 2 days ago ...สั่งยิงทิ้ง เพราะไปยิงถล่มทหารเสือ...

ภาพแห่งความทรงจำ Seh Daeng & Ochine 'real hardcore


แด่อาเสธ.แดง...

"มันผู้ใดทำร้ายอาเสธ.แดง มันผู้นั้นคืออมนุษย์ คนดีๆอย่างอาเสธ หาไม่ได้่อีกแล้วในเมืองไทย ทำเขาคือยอดมนุษย์ เหนือมนุษย์ เขาคือผู้กล้าหาญ เขาคือนักรบผู้ยิ่งใหญ่ หากตายแทนได้จะขอตายแทนคนดีๆอย่างอาเสธ. ขอพวกมันจงพินาศ เวรกรรมมีจริง ขอจงตามสนองพวกมันโดยเร็ววัน...โอชิน"

ทักษิณให้สัมภาษณ์รายการวิเคราะห์ข่าวของ ABC ปฏิเสธข้อกล่าวหาก่อการร้าย

Thu, 2010-05-27 15:26

26 พ.ค. 2553 - รายการ Lateline ซึ่งเป็นรายการวิเคราะห์ข่าวของ ABC ออสเตรเลีย ได้รับเชิญให้อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ร่วมรายการด้วยการสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ และมีการนำเสนอถอดเทปสัมภาษณ์ฉบับตัวอักษรทางเว็บไซต์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

โทนี่ โจนส์ ผู้ดำเนินรายการ
ทักษิณ ชินวัตร ผู้ร่วมรายการ

โทนี่ โจนส์ : นี่คือการสัมภาษณ์อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ทักษิณ ชินวัตร ครั้งแรกสุดของโลกหลังเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพ
คุณทักษิณ ถูกกองทัพรัฐประหารล้มอำนาจไปเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา และกำลังอพยพหนีทางการไทยไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งทางการไทยได้ออกหมายจับเขาในข้อหาการก่อการร้ายเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ ประท้วงเสื้อแดงซึ่งสนับสนุนเขา
ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยได้เรียกร้องให้ตำรวจสากลจับกุมตัวและส่งมอบ ตัวเขาไปยังประเทศไทย
ในคืนนี้ทักษิณเป็นผู้ร่วมรายการที่จะมาพูดคุยกับเราเป็นเวลาสั้นทาง โทรศัพท์
ขอบคุณคุณทักษิณ ชินวัตรที่มาร่วมพูดคุยกับเราครับ

ทักษิณ : ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ชวนมาร่วมรายการ

โทนี่ : คุณเตรียมตัวพร้อมหรือยังที่จะกลับไปยังประเทศไทยเพื่อเผชิญหน้ากับข้อหาก่อ การร้าย ซึ่งพวกเขายกระดับข้อหาให้กับคุณ

ทักษิณ : ก่อนอื่น ขอผมแสดงความเห็นใจต่อการจับกุมตัวชาวออสเตรเลียที่เคยขึ้นเวทีเสื้อแดงก่อน จากการใช้ พรก. ฉุกเฉิน ที่ไม่โปร่งใสของพวกเรา ทำให้ผมเห็นใจเขามาก
แต่อย่างไรก็ตามการจะกลับไปหรือไม่นั้นยังไม่ใช่เหตุที่ต้องพิจารณาโดย เร่งด่วน
สิ่งที่เร่งด่วนในตอนนี้คือเราจะเห็นประเทศไทยกลับมาปรองดอง ซึ่งหมายถึงการปรองดองกันจริง ๆ ได้อย่างไร ถ้าหากผม หากว่าอะไรก็ตาม หากการเผชิญหน้ายังคงดำเนินต่อไป มันไม่เป็นเรื่องดีเลยสำหรับประเทศนี้ พวกเราต้องการเห็นความปรองดองกันเพราะว่ารัฐบาลมักจะพูดเรื่องการปรองดอง อยู่เสมอ แต่พวกเขากลับใช้มาตรการเบ็ดเสร็จ (ironfist -- แปลตรงตัวว่ากำปั้นเหล็ก) พวกเขาไม่ได้ใช้วิธีการละมุนละม่อม (velvet glove -- แปลตรงตัวว่าถุงมืออ่อน ๆ ) ซึ่งหมายความว่าพวกเขาใช้วิธีการเผชิญหน้ามากกว่าการปรองดอง

โทนี่ : แต่คุณทักษิณ มันมีข้อกล่าวหารุนแรง เรื่องการก่อการร้าย พวกเขาอาจใช้วิธีการประหารชีวิต คุณเป็นห่วงเรื่องตำรวจสากลจะ...

ทักษิณ : ครับ...

โทนี่ : ...จะ ตามตัวคุณ และจับตัวคุณไหม

ทักษิณ : ไม่ ผม...ผม...

โทนี่ : แล้วก็ส่งตัวคุณกลับไปไทยเพื่อดำเนินคดีในศาล?

ทักษิณ : ผมมั่นใจว่านี่ต้องเป็นคดีและข้อกล่าวหาที่มีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างแน่ นอน มันไม่มีพื้นอะไรเลย ในใจของผมสละให้กับการชุมนุมอย่างสงบ เท่านั้น ผมสนับสนุนประชาชนของผม ที่พวกเรา ประเทศไทย ต้องการปรองดอง ผมบอกเสมอมาว่าผมต้องการเช่นนี้ คือมีความปรารถนาที่จะให้เกิดการปรองดอง
ผมไม่เคย ไม่เคยที่จะสนับสนุนความรุนแรง และทุกคนที่รู้จักผม และประเทศต่าง ๆ พวกเขาก็รู้ดีว่าไม่มีใคร ที่ไหนเลย ที่อดีตนายกฯ ผู้นี้จะกลายเป็นผู้ก่อการร้ายและทำร้ายประเทศของตนเอง ไม่มีทาง

โทนี่ : ข้อหล่าวหาที่มีอยู่จำเพาะเจาะจงมากว่า คุณเป็นคนจัดตั้งให้เกิดความวุ่นวายนี้ และคุณก็ให้เงินสนับสนุนเป็นไปได้ว่าจะมีการกำกับปฏิบัติการหรือมีลูกน้อง ที่คอยเป็นตัวแทนทำงานให้

ทักษิณ : หากกระบวนการนี้เป็นไปตามหลักนิติธรรม ข้อกล่าวหานี้ก็ไม่เป็นจริงเลย เพราะว่าไม่มีหลักฐานใด ๆ เลยในเรื่องนี้ มันเป็นแค่ข้อกล่าวหาจากฝ่ายเดียว และในวันนี้ทางศาลก็ยอมรับข้อเสนอจากทนายของผมให้มีการระงับหมายจับเพื่อ ทบทวนในเรื่องนี้อีกครั้ง

โทนี่ : คุณเป็นห่วงเรื่องตำรวจสากลไหม หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศของไทยเรียกร้องให้จับตัวคุณ พวกขาจะทำตามไหม

ทักษิณ : พวกเขาจะปฏิบัติตามอย่างแน่นอน แต่ตำรวจสากลมีบรรทัดฐานการตัดสินใจของตนเอง นั่นคือจะไม่ปฏิบัติตามอะไรที่มาจากแรงจูงใจทางการเมือง เรื่องนี้มีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างชัดเจน และเป็นการอ้างที่ไม่มีอะไรรองรับ คุณรู้ไหมว่าบางครั้งรัฐบาลไทยก็เรียกร้องให้ตำรวจสากลออกหมายจับผม และตำรวจสากลก็พบทุกครั้งว่าข้อมูลของรัฐบาลไทยนั้นไว้ใจไม่ได้ และมีแรงจูงใจทางการเมือง

โทนี่ : อย่างน้อยก็มีนายพลคนหนึ่ง ที่อยู่ในหมูเสื้อแดงคอยสนับสนุนตุณอยู่ แล้วเขาถูกยิงเสียชีวิตในช่วงที่เกิดความวุ่นวาย คุณยังคงมีคนที่สนับสนุนคุณอยู่ในหมู่ทหารอยู่ไหม

ทักษิณ : คุณรู้ไหมว่ากองทัพนั้นอยู่ภายใต้ระเบียบเคร่งครัด พวกเขาจึงแค่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย อย่างไรก็ตามหลายคนก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่กองทัพสังหารประชาชนของตนเอง
สิ่งที่คุณควรเป็นห่วงคือชีวิตของผู้บริสุทธิ์ 88 รายที่เสียชีวิตไป และอีกร้อยแปด อีกพันแปดคนที่ได้รับบาดเจ็บ คุณควรตรวจสอบในเรื่องนี้และการตรวจสอบจะต้องเป็นไปอย่างยุติธรรมด้วย แล้วตอนนี้ผู้ประท้วงที่บริสุทธิ์กว่า 300 รายก็ถูกจับกุมตัวภายใต้ พรก. ฉุกเฉิน ดังนั้น...ดังนั้น...

โทนี่ : คุณปฏิเสธเรื่องนี้หรือไม่ เรื่องที่ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นกระทำไปในนามของคุณด้วย
ทักษิณ : ไม่มีทาง พวกเรา....

โทนี่ : ความรุนแรงกระทำโดยทหาร

ทักษิณ : พวกเราไม่เคย ไม่เคยเลยที่จะก่อความรุนแรง หากคุณมองในวิธีการที่ทหารกดดัน พวกเขาใช้รถถัง ใช้สไนเปอร์ พวกเขายิงทหารนายพลด้วยสไนเปอร์ พวกเขายิงประชาชนจำนวนมากด้วยสไนเปอร์ แม้กระทั่งที่วัดในวันสุดท้ายก่อนพวกเขาจะกลับบ้าน มีการสังหารหมู่ในวัด นี่คือสิ่งที่นานาชาติควรให้ความสำคัญ

โทนี่ : ในหมู๋ผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่สันติ มีพวกหน่วยติดอาวุธฮาร์ดคอร์รวมอยู่ด้วย เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่โจมตีสิ่งก่อสร้างหลาย ๆ จุดในกรุงเทพฯ ...

ทักษิณ : ไม่...ผมคิดว่า...

โทนี่ : ...และที่อื่น ๆ หลังจากที่ทหารเข้าสลายการชุมนุม คนพวกนี้เป็นใคร คุณจะบอกว่าคนพวกนี้เป็นใคร

ทักษิณ : ถ้าคุณลองดูคุณจะรู้ว่าทำไมเสื้อแดงถึงเผาเซ็นทรัล ทำไมไม่เผาที่อื่น ต้องเป็นที่เซ็นทรัล ถ้าคุณดูการวิเคราะห์ในไทยคุณจะเข้าใจว่าเสื้อแดงนั้น พวกเขาไม่ได้มีความสามารถมากพอจะเผาสิ่งก่อสร้างทั้งหมดลงได้
พวกเขาอาจจุดไฟขึ้นมาด้วยความโกรธตามที่ต่าง ๆ แต่ก็เป็นแค่ไฟกองเล็ก ๆ ไม่ใช่ไฟกองใหญ่ ๆ การจุดไฟกองใหญ่ขนาดนั้นได้ต้องเป็นผลงานของคนที่เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งมันไม่ใช่ฝีมือเสื้อแดงแน่และมันต้องมีการวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า ผมบอกคุณได้เลยว่าในฐานะที่เคยบวชมาก่อน (ในต้นฉบับใช้คำว่า as an ex-priest) ผมบอกเลยว่ามันวางแผนมาก่อนแล้วและกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ผมบอกได้เลยว่ามันเป็นการสร้างสถานการณ์
แม้แต่อาวุธที่พวกเขาเอามาแสดงให้ดู ก็เป็นอาวุธใหม่เอี่ยมที่ไม่ให้ใครแตะต้อง ความจริงคือไม่มีใครใช้อาวุธพวกนี้เลย หากเสื้อแดงมีอาวุธจริงทำไมไม่มีใครในฝ่ายทหารที่ได้รับบาดเจ็บเลยล่ะ (หัวเราะ)

โทนี่ : ดังนั้นคุณก็เข้าใจแล้วว่าข้อกล่าวหาคือบอกว่าคุณเป็นคนให้งบจำนวนมากให้พวก เขาซื้ออาวุธเพื่อจัดตั้งกลุ่มเสื้อแดง นี่จะกลายเป็นข้อกล่าวหาของคุณ

ทักษิณ : ไม่มีทาง พวกเราจะซื้ออาวุธพวกนี้มาจากไหนล่ะ พวกเราไม่ใช่กองทัพ แล้วเราจะซื้อได้อย่างไร แล้วก็ หากพวกเขามีอาวุธจริง ๆ ทำไมพวกเขาถึงยอมแพ้อย่างง่ายดาย ทำไมพวกเขาถึงไม่ยิงตอบทหาร ทำไมไม่มีการเสียชีวิตจากฝ่ายทหารเลย ดังนั้นคุณจะต้องมีเหตุผลมาก ๆ ในการเข้าใจสถานการณ์

โทนี่ : การประท้วงของกลุ่มเสื้อแดงจบลงแล้ว มันถือว่าเสร็จสิ้นไปหรือยัง มันจะเกิดขึ้นอีกไหม

ทักษิณ : ผมไม่ทราบ ไม่ทราบ พวกเขาถูกกลบไปแล้วตอนนี้ พวกเขาถูกตามล่าไปทั่วประเทศไทย พวกเขากำลังลำบาก พวกเขาถูกล่า นี่คือวิธีการที่รัฐบาลเรียกว่าปรองดอง โอเค ขอบคุณมาก ขอบคุณ

โทนี่ : ทักษิณ ชินวัตร ผมคิดว่าการคุยกันของเราจะจบลงตรงนี้ เอ่อยังไงก็ดูเหมือนคุณไปก่อนแล้ว ขอบคุณมากที่ร่วมรายการ

ที่มา
Thaksin Shinawatra speaks to Lateline, ABC
โดย Prachatai

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 27, 2553

AK-47 vs AR-15 Part 1, by Nutnfancy



nutnfancy — February 24, 2009 — PART 1 of 5:
Nutnfancy tackling the often controversial issue of the AK-47 versus AR-15 rifle systems. The bottom line is, a quality example of either gun can serve your law enforcement, military, and "civilian sheepdog" requirements admirably. However many factors and considerations should come into play when selecting your choice. When properly maintained and lubricated, the AR-15 is very reliable contrary to many internet, forum, and magazine myths. However it does not rise to the absolute, carefree ruggedness and reliability of the AK design. Whether packed in mud, neglected for cleaning, or just plain thrashed upon, the AK shrugs it all off and continues to shuck rounds with pleasing and life-saving regularity. It is better than the AR-15 system in that regard. It also features a lightning quick and easy fieldstrip. However the AK design has many flaws which include: poorer ergonomics (like its munchkin length of pull), shorter sight radius and inferior sights, heavier magazines and ammunition, difficulty in mounting optics (less variety in application too), slower operational controls, and more recoil. But many accept these shortcomings to gain the increase in stopping power of the larger .30 caliber round. As shown in the video, this 7.62x39mm round pretty much dies after 300 yards but within its range, it hits hard and defeats obstacles much better than the smaller 5.56x45mm offering. However the AR-15 can easily be had in either a 6.5 SPC or Grendel chambering which nullifies this advantage (and the AK can be had in the 5.45x39mm load which has similar ballistics to the 5.56). Both systems enjoy adequate firepower, multitudes of accessory options, good service record (AK has better reliability record however), and similar value (subject to change). I respect the reliability, simplicity, ruggedness, and shooting fun of the AK design. For a "mud gun," it still reigns supreme. However in terms of ergonomics, its amazing versatility, the lighter weight of mags and ammo, superior accuracy, and the longer range capabilities (especially with 77 gr loads), the AR-15 is a more capable weapons system.

AK-47 vs AR-15 Part 2, by Nutnfancy



nutnfancy — February 23, 2009 — PART 2 of 5:
Nutnfancy tackling the often controversial issue of the AK-47 versus AR-15 rifle systems. The bottom line is, a quality example of either gun can serve your law enforcement, military, and "civilian sheepdog" requirements admirably. However many factors and considerations should come into play when selecting your choice. When properly maintained and lubricated, the AR-15 is very reliable contrary to many internet, forum, and magazine myths. However it does not rise to the absolute, carefree ruggedness and reliability of the AK design. Whether packed in mud, neglected for cleaning, or just plain thrashed upon, the AK shrugs it all off and continues to shuck rounds with pleasing and life-saving regularity. It is better than the AR-15 system in that regard. It also features a lightning quick and easy fieldstrip. However the AK design has many flaws which include: poorer ergonomics (like its munchkin length of pull), shorter sight radius and inferior sights, heavier magazines and ammunition, difficulty in mounting optics (less variety in application too), slower operational controls, and more recoil. But many accept these shortcomings to gain the increase in stopping power of the larger .30 caliber round. As shown in the video, this 7.62x39mm round pretty much dies after 300 yards but within its range, it hits hard and defeats obstacles much better than the smaller 5.56x45mm offering. However the AR-15 can easily be had in either a 6.5 SPC or Grendel chambering which nullifies this advantage (and the AK can be had in the 5.45x39mm load which has similar ballistics to the 5.56). Both systems enjoy adequate firepower, multitudes of accessory options, good service record (AK has better reliability record however), and similar value (subject to change). I respect the reliability, simplicity, ruggedness, and shooting fun of the AK design. For a "mud gun," it still reigns supreme. However in terms of ergonomics, its amazing versatility, the lighter weight of mags and ammo, superior accuracy, and the longer range capabilities (especially with 77 gr loads), the AR-15 is a more capable weapons system

AK-47 vs AR-15 Part 3, by Nutnfancy



nutnfancy — February 24, 2009 — PART 3 of 4:
Nutnfancy tackling the often controversial issue of the AK-47 versus AR-15 rifle systems. The bottom line is, a quality example of either gun can serve your law enforcement, military, and civilian sheepdog requirements admirably. However many factors and considerations should come into play when selecting your choice. When properly maintained and lubricated, the AR-15 is very reliable contrary to many internet, forum, and magazine myths. However it does not rise to the absolute, carefree ruggedness and reliability of the AK design. Whether packed in mud, neglected for cleaning, or just plain thrashed upon, the AK shrugs it all off and continues to shuck rounds with pleasing and life-saving regularity. It is better than the AR-15 system in that regard. However the AK design has many flaws which include: poorer ergonomics (like its munchkin length of pull), shorter sight radius and inferior sights, heavier magazines and ammunition, difficulty in mounting optics (less variety in application too), slower operational controls, and more recoil. But many accept these shortcomings to gain the increase in stopping power of the larger .30 caliber round. As shown in the video, this 7.62x39mm round pretty much dies after 300 yards but within its range, it hits hard and defeats obstacles much better than the smaller 5.56x45mm offering. However the AR-15 can easily be had in either a 6.5 SPC or Grendel chambering which nullifies this advantage (and the AK can be had in the 5.45x39mm load which has similar ballistics to the 5.56). Both systems enjoy adequate firepower, multitudes of accessory options, good service record (AK has better reliability record however), and similar value (subject to change). I respect the reliability, simplicity, ruggedness, and shooting fun of the AK design. For a mud gun, it still reigns supreme. However in terms of ergonomics, its amazing versatility, the lighter weight mags and its ammo, superior accuracy, and the longer range capabilities (especially with 77 gr loads), the AR-15 is a more capable weapons system.

AK-47 vs AR-15 Part 4, by Nutnfancy



nutnfancy — February 24, 2009 — PART 4 of 5:
Nutnfancy tackling the often controversial issue of the AK-47 versus AR-15 rifle systems. The bottom line is, a quality example of either gun can serve your law enforcement, military, and "civilian sheepdog" requirements admirably. However many factors and considerations should come into play when selecting your choice. When properly maintained and lubricated, the AR-15 is very reliable contrary to many internet, forum, and magazine myths. However it does not rise to the absolute, carefree ruggedness and reliability of the AK design. Whether packed in mud, neglected for cleaning, or just plain thrashed upon, the AK shrugs it all off and continues to shuck rounds with pleasing and life-saving regularity. It is better than the AR-15 system in that regard. It also features a lightning quick and easy fieldstrip. However the AK design has many flaws which include: poorer ergonomics (like its munchkin length of pull), shorter sight radius and inferior sights, heavier magazines and ammunition, difficulty in mounting optics (less variety in application too), slower operational controls, and more recoil. But many accept these shortcomings to gain the increase in stopping power of the larger .30 caliber round. As shown in the video, this 7.62x39mm round pretty much dies after 300 yards but within its range, it hits hard and defeats obstacles much better than the smaller 5.56x45mm offering. However the AR-15 can easily be had in either a 6.5 SPC or Grendel chambering which nullifies this advantage (and the AK can be had in the 5.45x39mm load which has similar ballistics to the 5.56). Both systems enjoy adequate firepower, multitudes of accessory options, good service record (AK has better reliability record however), and similar value (subject to change). I respect the reliability, simplicity, ruggedness, and shooting fun of the AK design. For a "mud gun," it still reigns supreme. However in terms of ergonomics, its amazing versatility, the lighter weight of mags and ammo, superior accuracy, and the longer range capabilities (especially with 77 gr loads), the AR-15 is a more capable weapons system.

AK-47 vs AR-15 Part 5, by Nutnfancy



nutnfancy — February 24, 2009 — PART 5 of 5: Nutnfancy tackling the often controversial issue of the AK-47 versus AR-15 rifle systems. The bottom line is, a quality example of either gun can serve your law enforcement, military, and "civilian sheepdog" requirements admirably. However many factors and considerations should come into play when selecting your choice. When properly maintained and lubricated, the AR-15 is very reliable contrary to many internet, forum, and magazine myths. However it does not rise to the absolute, carefree ruggedness and reliability of the AK design. Whether packed in mud, neglected for cleaning, or just plain thrashed upon, the AK shrugs it all off and continues to shuck rounds with pleasing and life-saving regularity. It is better than the AR-15 system in that regard. It also features a lightning quick and easy fieldstrip. However the AK design has many flaws which include: poorer ergonomics (like its munchkin length of pull), shorter sight radius and inferior sights, heavier magazines and ammunition, difficulty in mounting optics (less variety in application too), slower operational controls, and more recoil. But many accept these shortcomings to gain the increase in stopping power of the larger .30 caliber round. As shown in the video, this 7.62x39mm round pretty much dies after 300 yards but within its range, it hits hard and defeats obstacles much better than the smaller 5.56x45mm offering. However the AR-15 can easily be had in either a 6.5 SPC or Grendel chambering which nullifies this advantage (and the AK can be had in the 5.45x39mm load which has similar ballistics to the 5.56). Both systems enjoy adequate firepower, multitudes of accessory options, good service record (AK has better reliability record however), and similar value (subject to change). I respect the reliability, simplicity, ruggedness, and shooting fun of the AK design. For a "mud gun," it still reigns supreme. However in terms of ergonomics, its amazing versatility, the lighter weight of mags and ammo, superior accuracy, and the longer range capabilities (especially with 77 gr loads), the AR-15 is a more capable weapons system.

Top Ten Combat Rifles- AK 47



MilitaryChannel — September 17, 2008 — Many may have tried but this rifle remains a 20th-century iconic symbol of freedom and oppression.

Top Ten Combat Rifles- AK 47



MilitaryChannel — September 17, 2008 — Many may have tried but this rifle remains a 20th-century iconic symbol of freedom and oppression.

AK-47 The best fire power!!



fodasevoce — June 24, 2006 — The Sound of the Ak-47. 7,62 full power! Rate the video!!